แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 1201 “รวมร่าง”?
“ไม่ มันไม่ใช่แค่ถูกล้อม…” จู่ๆ หลี่ย่าหลินก็เอ่ยขึ้น เธอเงยหน้ามองไปด้านบน ขยับใบหูเล็กน้อย ราวกับกำลังจับพิรุธอะไรบางอย่าง
“ไม่ใช่แค่ถูกล้อมงั้นเหรอ?” ทุกสายตาหันมาให้ความสนใจทันที…ในสถานการณ์ที่เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังรบกวนขนาดนี้ หรือว่าเธอจะค้นพบอะไรอื่นอีก?
จางซินเฉิงหันไปมองเจ้าลิงผอมทันที…ฝ่ายถูกมองส่ายหัวถี่รัว สื่อว่าตนเองไม่ค้นพบสิ่งใด และหลังจากเห็นปฏิกิริยาตอบรับของเจ้าลิงผอม สายตาที่แฝงแววสงสัยของจางซินเฉิงก็เบนไปที่หลี่ย่าหลิน
“เธอได้ยินอะไร? หรือว่า…สัมผัสรู้ได้ถึงอะไร?”
หลี่ย่าหลินสูดลมหายใจเฮือกใหญ่…วินาทีต่อมา สายตาเธอพลันเพ่งไปที่จุดๆ หนึ่งบนเพดาน “ตรงนั้นมีความเคลื่อนไหว!”
โครม!
บานประตูสั่นสะเทือนอีกครั้ง และพลังที่ปล่อยมาครั้งนี้ กลับเป็นพลังที่แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อน
แต่ครั้งนี้กลับสังเกตเห็นกันทุกคน ขณะเดียวกับที่เสียงบานประตูดัง บริเวณเพดานผืนกลับมีฝุ่นสีขาวตกคลุ้งลงมามากมาย…
“มีอะไรอยู่ข้างบน!” อวี่เหวินซวนลุกพรวดทันที
ทุกคนต่างก็รู้สึกหนังศีรษะตึงชา…ที่แท้จุดประสงค์จริงๆ ของสัตว์ประหลาดฝูงนี้ไม่ใช่พุ่งชนประตู แต่เป็นตรงนั้น…
“ถึงว่าประตูบานนี้ชนแล้วไม่ปลิวสักที…” ซย่าน่ากำลังยันบานประตู จู่ๆ ก็หัวเราะเย็นชา และเอ่ยขึ้นเมื่อเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดตรงหน้า
โครม!
เสียงดังสะเทือนอีกครั้ง…เพดานมีฝุ่นละอองขนาดใหญ่ตกกระจายลงมา…
ชั่วพริบตา ทุกสายตาจับจ้องไปที่บริเวณนั้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
“พวกมัน…จะเข้ามาแล้ว…” มู่เฉินพลันพูดพึมพำ
……
สวบสาบๆๆ!
ส่วนลึกบริเวณทางเดินในโกดังหลังหนึ่ง ร่างเงาทั้งสามแวบไปแวบมาด้วยความเร็วสูง สถานที่นี้เต็มไปด้วยเลือดสดและเศษเนื้อ แต่นอกเหนือจากหยาดเลือดที่กระเซ็นเมื่อถูกย่ำเหยียบ ยังมีเลือดจำนวนไม่น้อยที่หยดกระทบพื้นจากร่างทั้งสอง
“ฮ่าๆๆ…ยังไม่ถึงขีดจำกัดของแกอีกหรือ?” เสียงหัวเราะของซอมบี้สาวยังดังไม่หยุด
“ยังอีกนาน!” หลิงม่อตอบรับ
ปัง!
เสียงอึกทึกครึกโครมดังมา ไม่นานก็มีเสียงที่ราวกับจุดประทัดเป็นสายดังขึ้นสมทบ
หลังจากเสียงมรสุมพายุโหมกระหน่ำ ภายในโกดังก็ตกสู่ความเงียบชั่วคราว
“ฮั่ก…ฮั่ก…” หลิงม่อดึงแขนเย่เลี่ยน ยืนนิ่งชิดขอบกำแพง ดวงตาแดงก่ำขณะหอบหายใจถี่
ส่วนซอมบี้สาว…ค่อยๆ ไถลลงมาจากกำแพงฝั่งตรงข้าม บริเวณที่เธอไถลลงมามีรอยเลือดหนึ่งสาย เลือดยังคงไหลหยดออกมาจากนิ้วมือไม่หยุด
เธอเหลือบมองหลุมเลือดบนไหล่ สลับกับหันมองหลิงม่อ ไม่มีร่องรอยของรอยยิ้มหลงเหลือบนใบหน้าอีก “ดูแกตอนนี้ เหมือนเป็นพวกเดียวกับฉันเลยล่ะ…”
“งั้นหรือ?” หลิงม่อเหลือบมองแขนตัวเองเช่นกัน…เสื้อผ้าบริเวณนั้นฉีกขาดไปแล้ว…เขาขยับแขนไปด้านหลังเงียบๆ เย่เลี่ยนที่หลบหลังเขากำลังสูดจมูกฟึดฟัดด้วยความสงสัย…
“ใช่แล้วล่ะ” ซอมบี้สาวกะพริบตาถี่มองเขา
ทว่าไม่นาน แววตาของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งอีกครั้ง “แต่แกตายแน่!”
เธอพุ่งเข้ามาอีกครั้ง…
แต่ครั้งนี้ หลิงม่อกลับไม่รีบร้อนประจันหน้า กลับก้าวถอยหลังไป
“ฉันขอจัดการแกก่อนล่ะนะ!” ซอมบี้สาวพุ่งเข้ามา พลางวาดกรงเล็บที่มีขุมพลังรุนแรง
หลิงม่อถลาถอยรวดเร็วกว่าเดิม “โครม” เขาชนเข้ากับบานประตูทันที
“ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก!” ซอมบี้สาวกำลังเข้าใกล้บานประตูที่หลิงม่ออยู่
ทว่าตอนนี้เอง…เมื่อเสียงกึกก้องดังแว่วมา จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นออกมาจากข้างลำคอหลิงม่อ และคว้าเข้าที่ข้อมือของซอมบี้สาวด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าฟาด
หลิงม่อที่เดิมทีซอมบี้สาวคาดว่าคงทำได้เพียงรอความตาย สายตากลับดุดันขึ้นทันที
พลั่ก!
หน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลงรุนแรง ไม่นานรอบบริเวณรอบที่พวกเขาอยู่ ก็พลันปรากฏคลื่นพลังงานอันน่าเกรงขาม
“คิดจะลอบโจมตีฉันงั้นหรือ? น่าเสียดาย…ไม่มีทางซะหรอก!” ซอมบี้สาวดึงมือกลับทันที เธอใช้พละกำลังรุนแรง แทบจะในเสี้ยววินาทีที่หลุดพ้นจากการควบคุม ได้ยินเสียงกระดูกข้อมือหักดังออกมา
“น้ำหน้าอย่างแก ไม่มีทางจับฉันได้หรอก…” ซอมบี้สาวยิ้มเยาะ เตรียมพร้อมถอยไป
ทว่าตอนนี้ เธอกลับได้ยินหลิงม่อพูดว่า “ปั้นเยวี่ย…เธอเป็นยังไงบ้าง?”
“อะไรนะ?” ซอมบี้สาวชะงักหยุดทันที
ขณะเดียวกับที่ร่างเงาหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังเธอ
ตอนที่หนวดสัมผัสจำนวนมากพันธนาการเธอไว้ ร่างเงานี้กางแขนออก และคว้าเธอเข้ากอดสู่อ้อมแขนทันที
“อ๊า…” ซอมบี้สาวดวงตาเบิกโต…ท่ามกลางอ้อมแขนอันอบอุ่น สีหน้าของเธอเปลี่ยนในชั่วพริบตา
เริ่มแรกตกตะลึง ตามมาด้วยดุร้าย…
“ปะ…ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
หลิงม่อยกมือขึ้น ดวงตาแดงก่ำจับจ้องซอมบี้สาวไม่ลดละ ท่ามกลางการสบตากันของดวงตาสองคู่ เขายกฝ่ามือกดที่หน้าผากเธอ
“เป็นไปไม่ได้”
หลิงม่อพูดเสียงเบาส่งไปยังโสตประสาทของซอมบี้สาว…ไม่นานเธอก็เงยหน้าขึ้น พลางส่งเสียงกรีดร้องออกมา…
แต่หนึ่งวินาทีให้หลัง เธอทรุดลงไปพร้อมกับฝ่ามือหลิงม่อ…
หลังจากที่เสี่ยวเฮยรับเธอไว้ หนวดสัมผัสบนร่างเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นจุดแสง
หลิงม่อวางแขนลง อดไม่ได้ที่จะสะบัดสองสามที
“โอเคไหม?” เส้นไหมสีเงินหลายเส้นดึงยื้อหลิงม่อไว้ และเย่เลี่ยนเองก็รีบเข้ามาประคองเขา
“ฉันไม่เป็นไร…” หลิงม่อยังคงมองซอมบี้สาว บานประตูที่มีรูโบ๋อยู่หนึ่งรู ก็ถูกรูใหญ่เจาะทะลุในชั่วพริบตา ตามด้วยเฮยซือที่โผล่ออกมาจากในนั้น
“เธอรู้ใช่ไหมว่าประตูนี้เปิดออกได้?” หลิงม่อถาม
“เจ้านายจะใส่ใจในรายละเอียดพวกนี้ไปทำไม…” เฮยซือตบฝ่ามือสองสามที จากนั้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าซอมบี้สาวอย่างสงสัย “เธอเป็นอะไรไป?”
“เป็นลม” หลิงม่อตอบรับ
“เอ๊ะ…” เฮยซือพยักหน้าครุ่นคิด แล้วยื่นมือจับซี้ซั้ว
หลิงม่อลองถาม “เธอไม่รู้จักเหรอ?”
“หา?” เฮยซือรีบหันหน้ามาทันที “รู้จักสิ ต้องรู้จักอยู่แล้ว พวกเราเคยรวมร่างกันชั่วคราว…เจ้านายคิดว่าฉันจะไร้ความรับผิดชอบเหมือนเจ้านายหรือไง?”
“…เรื่องรวมร่างช่างมันก่อน…อะไรที่บอกว่าเหมือนฉันน่ะหา?” หลิงม่อพูดเคืองๆ
“เฮอะ…” เฮยซือกลับทำแค่แค่นจมูก
“จะว่าไปแล้ว เธอมาช้ามากเลยนะ…” หลิงม่อใจเย็นลง เขาถามอย่างสงสัย
เฮยซือหันมองเขา กำลังจะอ้าปากพูดบางอย่าง ทันใดนั้นมีเสียงสนั่นดังขึ้นมา
โครม!
ไม่นาน เสียงคำรามเดือดดาลดังแว่วมาจากภายนอก
“มนุษย์ที่อยู่ข้างใน! โผล่หน้าออกมาเดี๋ยวนี้! ย้ากๆๆ…ถ้าพวกแกแตะต้องเธอ ฉันจะถล่มโกดังหลังนี้ทิ้งทันที ให้พวกแกถูกกระแทกตายอยู่ข้างในทั้งเป็น! ไม่เชื่อก็ลองได้เลย!”
เฮยซือและหลิงม่ออึ้งตะลึงในเวลาเดียวกัน…
หลังจากที่ทั้งสองหันมาสบตากัน เฮยซือพลันเอ่ยขึ้นอย่างปลงตก “ดูท่าเจ้านี่จะอารมณ์ร้อนไม่เบาเลย…”
……………………………………….