แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 711 ไอ้น้องชาย พวกเราช่างมีวาสนาต่อกัน!
“หมายความว่า นายอยากเป็นอย่างนี้เองงั้นหรอ?” หลิงม่อถามหยั่งเชิง
เสียงพูดของเขากลบเสียง “แกร๊ก” ไว้ได้พอดี มือจับประตูหยุดหมุนแล้ว ในขณะเดียวกันบานประตูก็แง้มเปิดเป็นช่องเล็กๆ ไม่สะดุดตาอย่างเงียบเชียบ
แต่หลิงม่อกลับไม่ได้รีบหนีไปทันที เจ้าซอมบี้ตัวนี้มองเขาเป็นหนูที่จะฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้ มันไม่ลงมือทันทีแน่ ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสนี้ ล้วงข้อมูลจากปากของมันซักหน่อย
เจ้าหัวโตกลับตอบว่า “หึหึ ยังต้องถามอีกหรอ? หรือแกเคยเห็นซอมบี้ตัวไหนรูปร่างเหมือนกันรึไง? แต่จากความทรงจำของฉัน มนุษย์อย่างพวกแกต่างก็อยากจะกลายเป็นเหมือนฉันใช่ไหมล่ะ เป็นไง เมื่อกี้แกก็คงตะลึงกับความงดงามของฉันไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่ ตะลึงแทบตาย…” มุมปากของหลิงม่อกระตุกยิกๆ เขาไม่ได้โกหก แต่พูดจากใจจริงเลยว่าตกใจมากจริงๆ
แต่ว่า…มนุษย์คนไหนที่อยากกลายเป็นอย่างนี้กัน!
“ฮ่าๆๆๆ…” เจ้าหัวโตหัวเราะอย่างได้ใจ สายตาที่มันมองหลิงม่อเหมือนกำลังมองมดตัวหนึ่ง แต่เจ้ามดตัวนี้กลับน่าสนใจมาก ทำให้มันไม่คิดจะเหยียบหลิงม่อให้ตายในทันที
“ถ้าอย่างนั้นซอมบี้ทุกตัวเป็นเหมือนกับนายหรือเปล่า?” หลิงม่อถามขึ้นอีกครั้ง
สายตาอย่างนั้นย่อมทำให้หลิงม่อรู้สึกไม่ดีอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ถึงขั้นต้องโมโหกับเรื่องแค่นี้
เจ้าหัวโตยิ่งรู้สึกว่าหลิงม่อน่าสนใจมากกว่าเดิม ไม่คิดเลยว่าเจ้ามนุษย์คนนี้จะกล้าถามคำถามกับมันด้วย!
ความจริง เจ้าหัวโตเคยบังเอิญเจอมนุษย์ผู้รอดชีวิตมาแล้ว แต่มนุษย์พวกนั้นพอเห็นมัน ก็พากันกลัวหัวหดทันที ยิ่งพอได้ยินมันเปิดปากพูด พวกนั้นก็จะทำสายตาที่ทั้งหวาดผวาปนเกลียดชัง แล้วตะโกนด่าด้วยคำว่า “ตัวประหลาด” อะไรทำนองนั้น
ทว่าเจ้ามนุษย์ที่อยู่ตรงหน้านี้ นอกจากสีหน้าตะลึงตอนที่เพิ่งเห็นรูปร่างมันแล้ว ก็แทบไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาเป็นพิเศษเลย
สติปัญญาของเจ้าหัวโตสูงมาก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งบ่งบอกว่ามันอันตรายกว่าซอมบี้ทั่วไป แต่ขณะเดียวกันมันก็จะมีความขี้สงสัยและความต้องการแสดงออกมากกว่าด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ซอมบี้นกจะเป็นคู่ครองของมัน…แต่เกี่ยวกับเรื่องนี้หลิงม่อรู้สึกว่าเจ้าซอมบี้ตัวนี้มีเพศสภาพที่ไม่แน่ชัด…แต่เจ้าซอมบี้นกมีสติปัญญาไม่มากพอ จึงไม่สามารถพูดคุยกับหลิงม่อจริงๆ อย่างนี้ได้…
“หึหึ มนุษย์ แกนี่คำถามเยอะเหมือนกันนะ แต่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เจ้าโง่คู่ครองของฉันมันไม่เคยคุยกับฉันเลย แล้วก็ไม่สนใจเรื่องของมนุษย์ด้วย รู้จักแต่กิน…เฮ้อ” มันแสร้งทำเป็นส่ายหัวและถอนหายใจในตอนท้าย
หลิงม่อเบิกตากว้าง ในใจพลางก่นด่า มาทำเป็นเหมือนกำลังบ่นเรื่องชีวิตคู่ที่ล้มเหลว! แกเป็นคนฆ่าเขานะโว้ย…แถมยังกินเขาอีกต่างหาก! แล้วยังกล้าพูดว่าเขารู้จักแต่กินอีก…ถ้าเจ้าซอมบี้นกได้ยินเข้าคงฟื้นขึ้นมาด้วยความโกรธแน่ๆ!
“แล้วตกลงใช่หรือเปล่าล่ะ?” หลิงม่อจ่อถาม
เขาไม่มีเวลามานั่งคุยเรื่องปัญหาในครอบครัวกับมันหรอกนะ!
ไม่เห็นน่าประทับใจตรงไหน ตรงกันข้ามกลับฟังดูน่าสยองซะมากกว่า…
“ช่างเป็นมนุษย์ที่ใจร้อน…” เจ้าหัวโตเหลือบมองหลิงม่อด้วยหางตาอย่างเอือมระอา พอมันหรี่ตาเล็กๆ คู่นั้น พร้อมทิ่มแทงหลิงม่อด้วยสายตาไม่พอใจ หลิงม่อก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวจนเกือบคิดจะวิ่งหนีไปแล้ว…
“ความจริงก็น่าจะใช่ล่ะนะ…ถ้าพูดเหมือนมนุษย์อย่างพวกแก ก็เรียกว่าผลกระทบจากจิตใต้สำนึกล่ะมั้ง” เจ้าหัวโตวางมาดขึ้นมาอีกครั้ง มันหรี่ตาแล้วรอดูปฏิกิริยาตอบสนองของหลิงม่ออย่างคาดหวัง
มนุษย์คนหนึ่งมาขอคำชี้แนะจากมัน ถึงมันจะดูถูกมนุษย์ แต่เจ้าหัวโตก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย
หลิงม่อใจเต้นตึกตัก ที่แท้ก็จิตใต้สำนึก…
ถ้าอย่างนั้น ความคิดของซอมบี้แต่ละตัวก็รวมตัวอยู่กับเชื้อไวรัสเหมือนกันน่ะสิ
เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดถึงจุดนี้เลย…
“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง…” หลิงม่อพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
“หึหึ ถ้าพูดเหมือนมนุษย์อย่างพวกแกก็ต้องบอกว่า ไอ้น้องชาย ความจริงเรามีวาสนาต่อกันนะ” จู่ๆ เจ้าหัวโตก็พูดโพล่งขึ้นมา
หลิงม่อเกือบล้มหน้าทิ่ม จากคำพูดของเจ้าหัวโตหลิงม่อก็พอจะเข้าใจแล้วว่า เจ้าซอมบี้ตัวนี้ตั้งใจตามพวกเขามา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาเพื่อแก้แค้นให้เจ้าซอมบี้นก แต่มันมาเพราะจุดประสงค์เดียวกันกับเจ้านั่น แล้วมันก็โลภกว่าเจ้าซอมบี้นกด้วย เพราะมันไม่เพียงคิดจะกินพวกหลิงม่อ แต่ยังหมายตาเจ้า “วิกผม” อีกด้วย
นี่มันไม่ใช่วาสนา แต่เรียกว่าสตอล์คเกอร์! ถ้ำมอง! ลอบทำร้ายต่างหากเล่า!
“แกไม่เชื่อหรอ? มนุษย์ ดูเหมือนแกจะอยากรู้เรื่องของพวกฉันมาก ฉันเองก็สงสัยเรื่องมนุษย์มากเหมือนกัน อย่างนี้เขาเรียกว่าอุดมการณ์เดียวกันหรือเปล่า? ฮ่าๆๆๆ…” เจ้าหัวโตตบมือหัวเราะชอบใจ แต่จู่ๆ สายตาของเจ้าหัวโตก็เย็นเยียบไปทันที “เรื่องที่ทำให้ฉันสงสัยเกี่ยวกับตัวแกมากที่สุดก็คือ…ทำไมแกถึงอยู่กับพวกเดียวกันของฉันได้? มีพวกเดียวกันแล้วยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ด้วย…”
ยิ่งพูด สีดวงตาของเจ้าหัวโตก็ยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ “ถ้ามีแกอยู่ ฉันก็คงมีอาหารชั้นสูงเข้ามาให้กินอยู่เรื่อยๆ เหมือนเจ้าไม้กวาดสินะ?”
“ไม้กวาด?”
หลิงม่อเข้าใจทันทีว่ามันพูดถึงเจ้า “วิกผม”
แต่สิ่งที่มันพูดกลับทำให้หลิงม่อขนทุกไปทั้งตัว ไม่น่าล่ะมันถึงได้ไม่ลงมือซักที ที่แท้ก็ตั้งใจไว้แบบนี้นี่เอง!
มันเห็นหลิงม่อเป็นเครื่องผลิตอาหารประสิทธิภาพสูงซะแล้ว!
“ซอมบี้เรียนรู้ที่จะจับมนุษย์ไปเป็นทาสแล้ว…แต่แกคิดผิดมหันต์แล้วล่ะ…”
แววตาของหลิงม่อดูเคร่งเครียดขึ้นทีละนิด
ตอนแรกเขานึกว่าเจ้าซอมบี้ตัวนี้ได้กลิ่นของ “วิกผม” จึงมาหาเขาถึงที่นี่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันวางแผน “จับหัวหน้าโจร” ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว (擒王 จับหัวหน้าโจร มาจากคำว่า擒贼擒王 จับโจรให้จับหัวหน้าโจรก่อน) แถมไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหากตกไปอยู่ในกำมือของมันจะต้องเลวร้ายยิ่งกว่าตายแน่นอน แล้วพวกเย่เลี่ยนก็จะกลายเป็น “อาหารชั้นสูง” กลุ่มแรกของมัน
ซอมบี้ตัวนี้ไม่เพียงเป็นซอมบี้ที่มีสติปัญญาสูงที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา แต่ยังเป็นซอมบี้ที่ความคิดรอบคอบและโหดร้ายที่สุดด้วย!
“เข้ามาหาฉันซะดีๆ เถอะ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะเริ่มกินแกตั้งแต่นิ้วเท้าขึ้นไป หากทำอย่างนั้นมันคงทรมานมากสำหรับมนุษย์ใช่ไหมล่ะ? ฮ่าๆๆ…”
เจ้าหัวโตกระดิกนิ้วเรียกหลิงม่อ พร้อมพูดขู่
เดาว่ามันคงเห็นท่าทางอย่างนี้มาจากในความทรงจำของตัวเองเหมือนกัน แต่เลียนแบบได้เหมือนมากจริงๆ…
“อยากกินฉัน? แกต้องมีปัญญาก่อนถึงจะกินฉันได้…”
หลิงม่อยังพูดไม่ทันจบประโยค ทันใดนั้น บานประตูก็ถูกผลักออก พร้อมกับที่ร่างกายของหลิงม่อลอยออกไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับมีเชือกผูกเอาไว้
เจ้าหัวโตมีการตอบสนองที่รวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด แต่ในเสี้ยววินาทีที่เพิ่งจะขยับตัว มันก็โดนพลังงานกลุ่มหนึ่งโจมตีที่คอของมันทันที
เจ้าหัวโตปล่อยตัวตามสบายขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างที่พูดคุยกับหลิงม่อ พอโดนแรงนี้กระทำจึงส่งผลให้หงายหลังไปทันที
“มนุษย์!” เจ้าหัวโตตวาดลั่นด้วยความเกรี้ยวโกรธ
เสี้ยววินาทีที่หลิงม่อลอยออกจากห้องน้ำ หลิงม่อรู้สึกสมองขาวโพลนไปชั่วขณะ
ทว่าเขายังคงกัดฟันอดทน และถ่ายทอดคำสั่ง 2 คำสั่งผ่านกระแสจิต
“พี่หลิงม่อบอกว่าเคลื่อนไหวได้แล้ว!” ซย่าน่าดวงตาเป็นประกาย พลางพูดขึ้น
เดิมหลังจากที่จัดการซอมบี้พวกนั้นเสร็จ พวกเธอตั้งใจจะไปหาหลิงม่อ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิงม่อจะถ่ายทอดคำสั่ง “รอคำสั่งอยู่ที่เดิม” มาให้ก่อน
ถึงจะไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่พวกเย่เลี่ยนก็ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
และในตอนนี้ พวกเธอก็ได้รับคำสั่งถัดมาของหลิงม่อในที่สุด
เจ้าหัวโตถูกหลิงม่อใช้แผนลวง กว่ามันจะกระโดดขึ้นมาอีกครั้ง หลิงม่อก็ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำแล้ว
แต่ในตอนที่เพิ่งจะกระโจนเข้าไปด้วยสายตาขุ่นแค้น มันกลับได้ยินเสียง “ฉึบ” ดังขึ้น จากนั้นก็เห็นหลิงม่อโยนไฟแช็กเข้ามาหนึ่งอันด้วยสีหน้าเคลือบรอยยิ้มเย็นชา
“หืม?”
เจ้าหัวโตชะงักไปชั่วขณะ มันเพิ่งจะสังเกตเห็นตอนนี้ว่าบนพื้นเปียกชื้นไปหมด!
กลิ่นของแอลกอฮอร์ถูกกลิ่นเหม็นไหม้ก่อนหน้านี้กลบจนหมด ระหว่างที่หลิงม่อลอยถอยหลังไป เขายังเทแอลกอฮอร์ไปด้วยตลอดทาง!
ไฟดวงเล็กๆ ที่ถูกจุดขึ้นหล่นลงบนพื้นเคลือบแอลกอฮอร์ แล้วเปลวเพลิงก็ลุก “พรึ่บ” ขึ้นมาขวางตรงกลางระหว่างเจ้าหัวโตกับหลิงม่อ
หลิงม่อกลับไม่รอดูไปมากกว่านี้ เขารีบหมุนตัวออกวิ่งเข้าไปในห้างฯ ทันที
เปลวเพลิงเล็กๆ แค่นี้ แถมยังไม่ได้ถูกจุดบนตัวเจ้าหัวโตโดยตรง ยากที่จะทำให้มันได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ
ก่อนหน้านี้พอได้ยินว่าแม้แต่เจ้านกซอมบี้ก็ยังสามารถรอดชีวิตจากทะเลเพลิงไปได้ หลิงม่อก็กระจ่างต่อพลังป้องกันของผิวหนังซอมบี้ราชาในระดับหนึ่งแล้ว
เขาไม่หวังว่าจะสามารถเผาให้เจ้าซอมบี้ตัวนี้ให้มีสภาพครึ่งเป็นครึ่งตายได้ แค่หวังว่าอย่างน้อยจะถ่วงเวลาได้ซักเล็กน้อย…
“โอ๊ยๆๆๆๆๆ!”
เสียงเต้นเร่าๆ ด้วยความโกรธ และเสียงคำรามเดือดดาลของเจ้าหัวโตไล่ตามหลังมา “ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยแม้แต่นิดเดียว! ไอ้มนุษย์เลว! ฉันล่ะปวดใจจริงๆ!!!”
“งั้นก็ขอให้ปวดจนตายไปเลย…” หลิงม่อวิ่งพุ่งไปข้างหน้าด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีโดยไม่หันกลับไปมอง
พอเปลวไฟลูกพรึ่บ เจ้าหัวโตก็สะดุ้งตกใจ แล้วกระโดดเต้นเร่าๆ อย่างทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
สภาพย่ำแย่ของซอมบี้นกยังเด่นชัดอยู่ในความทรงจำของมัน ดังนั้นตอนนี้ความรู้ความเข้าใจของมันที่มีต่อเปลวไฟจึงได้เปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความหวาดกลัว
ทว่าระหว่างแหกปากด่าเสียงดังลั่น ไม่นานมันก็พบว่าไฟไม่ได้ลุกลามใหญ่โตแต่อย่างใดเลย…
เปลวไฟสีฟ้านั่นไหม้ไปตามแนวเส้นบนพื้นเพียงเส้นเดียว แล้วก็ไม่ได้ลุกลามออกนอกเส้นด้วย…
และนอกจากถูกไฟลวกเท้าเล็กน้อยแล้ว เปลวเพลิงก็ไม่ได้ไหม้ลามขึ้นมาบนตัวของมันเลย
เปลวเพลิงเล็กๆ แค่นั้น แม้แต่ผิวของมันก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะทำให้มันบาดเจ็บได้หรือเปล่า
มีเพียงรอยไหม้เป็นวงกว้างตรงขอบกางเกง และความโกรธแค้นจากการถูกหลอก ที่ทำให้เจ้าหัวโตคลุ้มคลั่ง
“มนุษย์!!!”
—————————————————————————–