แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 953 ก่อนจะทำเรื่องแบบนี้…ช่วยส่งซิกเตือนกันก่อนสิ!
“ชิท!”
หลิงม่อเบิกตากว้าง มือทั้งสองข้างยันพื้น และดีดตัวเองไปข้างหน้าเต็มแรง
ข้างหน้ามีแต่ความมืด มองไม่เห็นแม้แต่เงาร่างของหลี่ย่าหลิน…ตั้งแต่ที่เธอเปล่งเสียงออกมาจนถึงตอนที่หายตัวไป ไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ…
“เกิดเรื่องอะไรกันแน่…” หลิงม่อเร่งความเร็วสุดชีวิต
แต่ในเสี้ยววินาทีที่เขากำลังพุ่งผ่านจุดหนึ่งไป ทันใดนั้นพละกำลังมหาศาลก็พุ่งลงมาจากข้างบน และเกี่ยวคอเสื้อด้านหลังของหุ่นซอมบี้อย่างแม่นยำ เท้าของเขาลอยขึ้นเหนือพื้นทันใด และในวินาทีถัดมาเขาก็มาอยู่ในช่องแคบๆ แห่งหนึ่ง
“ฉันเอง!”
วัตถุแข็งๆ ท่อนหนึ่งปัดฝ่ามือที่พุ่งเข้ามาของเขาออก จากนั้นก็วางบนไหล่เขา เพื่อจะกดร่างเขาไว้กับพื้นอย่างแน่น ขณะเดียวกันก็มีเสียงเด็กสาวอีกเสียงดังตามมาติดๆ ถึงแม้เสียงเบามาก แต่น้ำเสียงซุกซนชอบเล่นอะไรแผลงๆ ของเธอก็ไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิด
เงาร่างของหลี่ย่าหลินปรากฏอยู่อีกด้าน ทว่าเธอดูสงบนิ่งกว่าหลิงม่อมากทีเดียว กระทั่งยังดูแอบตื่นเต้นเล็กๆ ด้วย…
“ฉัน…”
หลิงม่อเพิ่งจะอ้าปาก เด็กสาวก็รีบพูดแทรกขึ้นว่า “ชู่ว! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
เมื่อสิ้นเสียงพูดของเธอ บรรยากาศในนี้ก็เงียบกริบไปทันที ถึงแม้ทั้งสามจะเบียดตัวกันอยู่ในช่องแคบๆ แห่งนี้ แต่กลับไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย กระทั่งแม้แต่เสียงลมหายใจก็เหมือนจะหยุดชะงักไปด้วย
ในระหว่างนี้ หลิงม่อยื่นมือไปลูบ “ผนัง” ด้านหลังโดยอัตโนมัติ แล้วเขาก็ทำหน้าผิดคาดออกมา
ไม่คิดเลยว่าจะเป็นผิวผนังปูนซีเมนต์ที่ทั้งเรียบและเย็นเฉียบ…
เพียงสองวินาทีผ่านไป ด้านล่างก็มีเสียง “สวบ สวบ” ดังมาจากที่ไกลๆ พวกมันมีจำนวนมหาศาล ความเร็วน่าทึ่ง แทบทำให้ผู่พบเห็นหน้าถอดสีได้ทันที…
“ชู่ว…” เด็กสาวยกนิ้วขึ้นวางบนริมฝีปากเบาๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ชะโงกหน้าไปทางปากรูนั้น
“เฮ้ยๆ จะทำอะไรน่ะ!” หลิงม่อจ้องมองเธออย่างตกใจ
ซย่าน่ากระดกมุมปาก หลังจากยิ้มแปลกๆ เธอก็กระชับเคียวดาบเงียบๆ
“สวบ สวบ สวบ…”
เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ขณะเดียวกันหลิงม่อมองปากรูนั้นอย่างลุ้นระทึก
ความจริงหากดูจากระยะห่าง เรียกได้ว่าพวกเขาแทบจะอยู่ชิดติดกับปากรูเลยทีเดียว อย่าว่าแต่มุดเข้ามาเลย แค่เดินผ่านข้างนอก ก็อาจมองเห็นพวกเขาได้แล้ว ถ้าหากถูกสัตว์ประหลาดจำนวนมหาศาลขนาดนั้นขังไว้ในรูซีเมนต์แคบๆ นี้ ไม่ต้องเดาก็คงรู้แล้วว่าจุดจบจะเป็นยังไง…
ซย่าน่าหันกลับมามองทันที เหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร…
“เอ่อ ไม่สิ…”
ที่หันกลับมามองน่ะน่าน่า แต่เฮยน่าที่ตัวติดกับเธอยังคงจ้องเขม็งไปที่ปากรู
ความจริงมันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก การที่มองเห็นหัวด้านหลังของเด็กสาวคนหนึ่ง “หัน” กลับ และเผยให้เห็นใบหน้าอีกดวงที่คล้ายกันทุกประการ ต่างกันก็แต่สีผมและสีตา…ทว่าแม้จะมีเรื่องที่แปลกกว่านี้เกิดขึ้นกับตัวซย่าน่า แต่มันกลับให้ความรู้สึกที่เหมือนเข้ากันอย่างเป็นธรรมชาติ
และหลิงม่อที่เห็นบ่อยจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
พอน่าน่าปรากฏตัว เธอก็ส่งยิ้มเชิงขอโทษมาให้ จากนั้นก็ทำท่าเม้มปากใส่เขา “ชู่ว…”
เขาเพิ่งจะเผลอไปแวบเดียว เสียงเคลื่อนไหวมากมายก็ดังมาจากข้างล่างราวกับเสียงน้ำขึ้น
“ชิท!”
หลิงม่อขนลุกซู่เป็นหนังไก่ ช่วยไม่ได้ ก็เสียงนี้มันน่ากลัวเกินไปนี่นา!
ลองนึกภาพที่นอนยักษ์ในร่างคนนับร้อยตัวกำลังคลานมาหาตัวเองด้วยความเร็วสูงสิ ถึงแม้ไม่ใช่ร่างจริงที่ซ่อนตัวอยู่ในนี้ แต่ก็ยังรู้สึกแย่อย่างชัดเจนอยู่ดี…เทียบกับสัตว์ประหลาดพวกนี้ ซอมบี้ยังถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างและรูปแบบพฤติกรรมที่ปรกติกว่ามากทีเดียว
ทว่ารู้สึกแย่ก็ส่วนรู้สึกแย่ พอนึกได้ว่ามีสัตว์ประหลาดมากมายกำลังผ่านตัวเองไป หลิงม่อก็อดอยากเห็นกับตาแวบหนึ่งไม่ได้…ร่างจริงของเขาก็ยังไม่เห็นสัตว์ประหลาดพวกนี้เลย พอคิดดูดีๆ ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่ามันจะเป็นยังไง…
แต่ซย่าน่ากลับยังคงนั่งขวางอยู่ตรงนั้นอย่างแน่วแน่ ทันใดนั้น ในเวลาเพียงศูนย์จุดวินาทีต่อมา ในที่สุดซย่าน่าก็เริ่มเคลื่อนไหว
หลิงม่อมองเห็นเพียงเส้นผมยาวๆ ของเธอสั่นไหวเล็กน้อย วินาทีถัดมาเธอก็คว้าเคียวดาบและง้างมาทางหลิงม่อทันใด
จากนั้นน่าน่าก็กระโจนเข้ามา เคียวดาบพลังจิตสีเลือดพุ่งแทงไปข้างหน้าตรงๆ
“ฉิบหาย!”
หลิงม่อเหลือบเห็นวัตถุก้อนหนึ่งถูกขว้างเข้ามา วินาทีถัดมาเขาก็รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างที่ทั้งเหนียวและลื่นกำลังเกาะอยู่บนแขนของหุ่นซอมบี้
ที่น่ากลัวที่สุดคือ…เจ้าสิ่งนี้มันขยับได้ด้วย!
ทว่าหลังจากที่ถูกน่าน่าแทงอย่างแม่นยำ เจ้าสิ่งนั้นที่เดิมคิดจะขัดขืนอย่างรุนแรงก็เงียบสงบทันที แต่ร่างกายของมันยังคงกระตุกสั่นโดยอัตโนมัติ…
“แม่เอ็ง นี่กำลังล้อเล่นอะไรกันอยู่! ช่วยส่งซิกเตือนกันก่อนได้ไหม!”
ถึงแม้หลิงม่อจะตกใจ แต่เขาก็ยังใช้มือกดร่างสิ่งนั้นไว้โดยสัญชาตญาณทันที…แต่พอกดลงไป เขาก็ต้องนึกเสียใจขึ้นมาทันที…
เหนียวน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ประเด็นคือสัมผัสนี้มัน…
ลื่นจนน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!
พูดง่ายๆ ก็คือ เหมือนยืนมือออกไปจับงูตัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น…
“ไม่สิ…ไม่ใช่แค่ตัวเดียว…”
ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นใสหัวหลิงม่อ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกำลังไต่ขึ้นมาบนหลังมือ และบนตัวเขา…
หลิงม่ออดทนต่อความรู้สึกขนลุกขนพอง และกลั้นหายใจต่อไป…
ตอนนี้ซย่าน่าเองก็แนบตัวชิดผนังซีเมนต์ เธอเบิกตากว้าง และกอดเคียวดาบไว้แน่น
เมื่อเสียง “สวบ สวบ” ห่างออกไป จนกระทั่งเงียบหายไปในที่สุด เธอถึงเพิ่งพ่นลมหายใจออกมา
“ฮู่ว…” หลี่ย่าหลินเองก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
“ลงมาได้แล้ว” ซย่าน่าหันมาบอก จากนั้นก็ชิงกระโดดลงไปก่อน
ตอนนี้น่าน่าได้กลับเข้าร่างเธอไปแล้ว เหมือนเธอกระโดดเข้าไปรวมร่างกับร่างจริง ในเสี้ยววินาทีที่ร่างจริงกระโจนออกจากปากรูไปอย่างไรอย่างนั้น
“แยกร่างรวมร่างได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ แล้วสินะ…”
หลิงม่อเพิ่งจะรู้สึกชื่นใจได้ไม่นาน แต่ก็ต้องรีบสะบัดเจ้าสิ่งนั้นออกไปอย่างรู้สึกขนลุก แต่ที่ทำให้เขาหงุดหงิดคือ เจ้าสิ่งนั้นกลับเกาะเขาไว้แน่น…
“เหมือนหนอนจริงๆ ด้วย…”
ไม่ต้องเดาก็คงรู้แล้ว ว่าเจ้าสิ่งนี้ก็คือสัตว์ประหลาดชนิดนั้นนั่นเอง…
จับสัตว์ประหลาดในรังใหญ่ของสัตว์ประหลาด…เรื่องที่โหดร้ายอย่างนี้ คงจะมีแต่ซย่าน่าที่ทำเรื่องได้โดยที่ยังมีใบหน้ายิ้มระรื่น…
“พี่หลิง รีบลงมาสิ!” ซย่าน่าเร่งเร้า
หลิงม่อกระโดดลงไปพร้อมหน้าบึ้งตึง หลังจากยืนอยู่ในจุดที่กว้างขึ้นหน่อย เขาก็เริ่มสำรวจสัตว์ประหลาดตัวนั้นอย่างละเอียด…
พอมองสำรวจ เขาก็ต้องคลั่งไปทันที…
สัตว์ประหลาดที่เกาะแขนเขาอยู่นี้ยาวประมาณ 1.4 – 1.5 เมตร ปากของมันอ้าค้างอยู่อย่างนั้น อาจเพราะถูกเคียวดาบแทง คอของมันโน้มไปข้างหลัง โดยที่ส่วนใบหน้าหันมาทางหลิงม่อพอดี…ถ้ามองแค่หน้า ถึงแม้เจ้าสิ่งนี้จะน่ากลัวไปหน่อย แต่อย่างน้อยมันก็ยังอยู่ในขอบเขตที่หลิงม่อรับได้
มันมีผิวที่ขาวซีดจนแทบโปร่งใส ลูกตาสีแดงที่แทบจะถลนออกมาจากเบ้า จมูกยุบๆ และแก้มอันซูบตอบ…แต่ในปากของมันกลับมีซี่ฟันแหลมคมเรียงรายกันแน่น และช่องลำคอที่เต็มไปด้วยเลือดก็ยังเกลือกกลิ้งไปมาไม่หยุด…
นอกเหนือจากนี้ เส้นขนบนร่างกายของมันราวกับร่วงออกไปหมดแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ มันกำลังเปลือยอยู่…
—————————————————————————–