แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - บทที่ 959 เลือดถังหนึ่ง
“อะไรนะ?!” พอเขาพูดออกไป เจ้าลิงผอมก็ตกใจทันที
จะลงไป? หลุมนี้แค่ดูก็น่ากลัวมากแล้วนะ!
อีกอย่าง…ในเมื่อหลิงม่อไม่ได้อยู่ข้างล่างนั้น แล้วใครเป็นคนส่งเสียงขอความช่วยเหลือกันล่ะ…
คิดดูดีๆ แล้วก็น่ากลัวมาก!
สวี่ซูหานเองก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่กลับไม่ได้มีปฏิกิริยาใหญ่โตเท่าเจ้าลิงผอม
เธอเข้าใจความคิดของหลิงม่ออย่างรวดเร็ว…อวี่เหวินซวนลงไปเพราะต้องการไปตามหาเขา ถึงแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจดูทำให้รู้สึกว่า “หมอนี่มันบ้าจริงๆ” ก็ตาม แต่หากคิดดูดีๆ อวี่เหวินซวนลงไปทั้งที่รู้ดีว่าข้างในนั้นมีอันตราย และสาเหตุที่เขาให้เจ้าลิงผอมขวางหลิงม่อไว้ ก็เพราะไม่อยากให้หลิงม่อมีอันตรายเพราะลงไปตามหาเขา
คิดแวบแรก เรื่องนี้เดิมทีน่าจะมีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้ อย่างเช่นรอฟังข่าวจากสวี่ซูหานก่อน หรือไม่ก็รวมตัวกับสวี่ซูหานก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที…แต่คนที่สามารถเลือกวิธีการที่ดีที่สุดอย่างใจเย็น ในขณะที่รู้อยู่แก่ใจว่ามีคนกำลังขอความช่วยเหลือจากข้างล่าง จะถูกเรียกว่าเฟิ้งจื่อ (คนบ้า) ได้อย่างไร…
“ฉันจะไปกับนายเอง” สวี่ซูหานดึงแขนหลิงม่อ แล้วพูดเสียงเบา
เธอเหลือบมองปากหลุมด้วยหางตา จากนั้นก็กระแอมเบาๆ “ฉันช่วยได้”
“มันอันตรายมากนะ…”
“นายจะตามหาอวี่เหวินซวนยังไง?” สวี่ซูหานเงยหน้าถามเขา
เห็นชัดว่าข้างล่างนี้ไม่ได้มีแค่อวี่เหวินซวนอยู่คนเดียว อาศัยแค่พลังจิตสำรวจ ยากที่จะตามหาตำแหน่งของเขาได้…ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ลงไป ก็ยังไม่รู้เลยว่าพลังจิตสำรวจของหลิงม่อจะใช้งานได้หรือไม่…
คิดถึงตรงนี้ หลิงม่อได้แต่ถอนหายใจ และยื่นมือไปตบไหล่สวี่ซูหานเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นอีกเดี๋ยว เธออยู่ข้างหลังฉันก็แล้วกัน”
“ห๊ะ?” สวี่ซูหานหมายจะพยักหน้า แต่ไม่นานก็ชะงักไป
พอได้สติ เธอก็รีบปัดมือหลิงม่อทิ้งทันที “รู้แล้วน่า”
หลิงม่อเองก็อึ้งไปครู่หนึ่ง “เอิ่ม…นี่ฉันถูกรังเกียจงั้นหรอ?”
ไม่นาน เขาก็หันไปบอกกับเจ้าลิงผอมว่า “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะล่อสัตว์ประหลาดทั้งหมดไปรวมกันอยู่ที่เดียว จากนั้นก็ใช้ตึกใหญ่หลังนี้ขังพวกมันไว้…”
“สัตว์ประหลาดอะไร…” เจ้าลิงผอมหัวใจเต้น “โครมคราม” อดถามติดๆ ขัดๆ ไม่ได้
“เรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจหรอก อีกเดี๋ยวนายออกไปก่อน แล้วปิดประตูใหญ่ซะ…เรื่องที่จะบอกต่อไปนี้สำคัญมาก นายตั้งใจฟังให้ดีล่ะ…”
หลังจากที่หลิงม่อกำชับเสร็จ เจ้าลิงผอมก็ได้แต่ยืนอึ้งสนิท
หลังได้สติ เขาก็ถามอย่างร้อนรนว่า “ถ้าปิดแล้วพวกคุณจะทำยังไงล่ะ?”
“ไม่เป็นไร ฉันจัดการได้ แต่ไม่ว่ายังไง อย่าปล่อยให้สัตว์ประหลาดพวกนี้ออกไปได้เด็ดขาด” หลิงม่อบอก
สัตว์ประหลาดพวกนั้นเคลื่อนไหวกันเป็นฝูง…หากไปปรากฏตัวพร้อมกันเป็นร้อยตัวอยู่ข้างนอก ก็มีแต่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย อีกอย่างหากซย่าน่าเดาไม่ผิด ใต้พื้นดินของย่านนี้ อาจจะมีมนุษย์ประหลาดซ่อนอยู่อีกหลายพันตัว หรือมากกว่านั้นก็ได้…หากถูกสัตว์ประหลาดพวกนั้นและซอมบี้ล้อมไว้พร้อมกัน พวกเขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
สิ่งที่ไม่รู้คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดตลอดกาล ยิ่งจำนวนไม่แน่ชัด ก็ยิ่งเสี่ยงอันตรายส่งเดชไม่ได้
ในอีกด้าน สัตว์ประหลาดที่สามารถส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้ตัวนั้น ก็ได้ทำให้หลิงม่อเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมารางๆ…มนุษย์ประหลาดที่สามารถสร้างกับดักจับเหยื่อได้ บางทีอาจน่ากลัวยิ่งกว่ามนุษย์ประหลาดหลายร้อยตัวก็ได้…
“ถะ…ถ้าอย่างนั้นผมไปล่ะ…” เจ้าหลิงม่อผอมสูดจมูก
“ชิท นายร้องไห้ทำไม…”
“ไม่ร้องๆ ผมแค่กลัวนิดหน่อย…ผมไปล่ะ” เจ้าลิงผอมเดินจากไปอย่างละล้าละลัง หลังเดินออกไปก็ยังไม่ลืมปิดประตูให้ด้วย
และเมื่อเสียง “แกร๊ก” ดังขึ้นและเงียบไป ห้องนี้ก็มีแต่ความเงียบสงัด
ปากหลุมนั้นเหมือนปากขนาดใหญ่ที่อ้าอยู่บนพื้น รอให้พวกเขาเดินเข้าไปหาอย่างเงียบๆ
สวี่ซูหานหันไปมองหลิงม่อ บอกว่า “นายตั้งใจจะทำยังไง?”
“อีกเดี๋ยวให้เสี่ยวป๋ายถมที่นี่ไว้” หลิงม่อบอกอย่างตรงไปตรงมา “พอออกมาแล้ว จะขุดออกก็ไม่ยาก”
“แต่เชลยนั่นจะพาสัตว์ประหลาดมาที่นี่ไม่ใช่หรอ?” สวี่ซูหานพูดอย่างเป็นกังวล
“ดังนั้นก็เลยต้องสร้างภาพลวงตาไงล่ะ…ไม่แน่ว่ายิ่งเขาก่อความวุ่นวายใหญ่โตอยู่ข้างบนนี้ พวกเราที่อยู่ข้างล่างก็อาจจะปลอดภัยกว่าเดิมก็ได้…เหลือเวลาไม่มากแล้ว รีบเข้าเถอะ” หลิงม่อบอก แล้วรีบจับขอบหลุมและกระโดดลงไป
เห็นเขากระโดดลงไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายอย่างนั้น สวี่ซูหานที่เดิมยังอยากจะพูดอะไรอีกหน่อยก็เอือมระอาไปทันที…
“อย่างน้อยฉันก็เป็นซอมบี้นะ…” เธอพึมพำ แต่ไม่นานก็กระโดดตามลงไป
ตึก—
หลังกระโดดถึงพื้น หลิงม่อก็รีบยืดตัวยืนตรง จากนั้นก็ล้วงไฟฉายออกมาจากกระเป๋า
เมื่อแสงไฟฉายส่องสว่างขึ้น ตรงหน้าเขาก็มีใบหน้าที่สวมหน้ากากปรากฏขึ้นทันที…
“นายทำฉันตกใจหมด!” สวี่ซูหานร้องเสียงเบา
“ไม่เป็นไร อวี่เหวินซวนเดินนำอยู่ข้างหน้า พวกเราอยู่ข้างหลังไม่น่าจะเจอสัตว์ประหลาดอะไรหรอก” หลิงม่อพูด พลางส่องไฟฉายมองพิจารณารอบๆ
“เดี๋ยว ทำไมต้องพูดอะไรน่ากลัวด้วยน้ำเสียงใจเย็นอย่างนั้นด้วย…” สวี่ซูหานมองไปรอบๆ อย่างตื่นกลัว เธอยกมือดึงหน้ากากลง เผยให้เห็นใบหน้าซีดขาวแต่ยังคงความงามไว้ รวมถึงดวงตาสีแดงเลือด…
“ก่อนหน้านี้ได้ยินถังฮ่าวบอกว่า พวกเขามีวิธีล่อสัตว์ประหลาดจำนวนมากได้ในครั้งเดียว…ตอนอยู่ในห้องนั้นฉันหาไม่เจอ ถ้ายังไงลองหาในนี้ดูด้วยแล้วกัน” หลิงม่ออธิบาย พร้อมกับเริ่มก้าวเท้าออกไปช้าๆ
“หาเจอแล้ว…”
เขาใช้ไฟฉายส่องไปยังจุดที่อยู่ไม่ไกล ใต้แสงไฟอันสว่างจ้า ถังพลาสติกสีฟ้าที่เต็มไปด้วยคราบฝุ่นปรากฏสู่สายตา
“อะไรน่ะ…” สวี่ซูหานโฉบร่างเข้าไปใกล้ในพริบตา จากนั้นก็ใช้มือเคาะเบาๆ
ก๊อกๆ…
ตัวถังไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เสียงที่ดังออกมากลับฟังดูทุ้มต่ำ
สวี่ซูหานหันหน้ากลับไปส่งสายตาเชิงถามความเห็น พอเห็นหลิงม่อพยักหน้า เธอจึงใช้มือเกี่ยวขอบฝาถังแล้วยกขึ้นเล็กน้อย และดมเร็วๆ ครั้งหนึ่ง แต่ในวินาทีถัดมาเธอก็ปิดฝาถังด้วยสีหน้าตื่นตะลึง พลางเบิกตากว้างก้าวถอยหลัง
“มันคืออะไร?” เห็นเธอมีปฏิกิริยาอย่างนี้ ความจริงหลิงม่อเริ่มคาดเดาไว้ในใจรางๆ แล้ว…
“เลือด…” สวี่ซูหานยกมือปิดปาก หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง สีหน้าแสดงออกถึงความหวาดกลัว สิ่งของที่สามารถกระตุ้นการตอบสนองทางสัญชาตญาณของเธอได้อย่างรุนแรงขนาดนี้ ย่อมต้องนำพาความหวาดกลัวสุดขีดมาให้เธอด้วย…
“เพื่อทำให้สำเร็จ พวกเขาทุ่มเทไปไม่น้อยเลยนะ…” หลิงม่อตบแผ่นหลังเธอเบาๆ สองสามที ปากก็บอกว่า “เลือดถังหนึ่งที่ยังไม่แข็งตัว แสดงว่าพวกเขาน่าจะเพิ่งเตรียมไว้…ถ้าอย่างนั้นหลุมบนหัวนี่ก็เพิ่งถูกขุดออก และเพิ่งถูกถมด้วยเศษดินอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้พรมผืนนั้นปิดไว้สินะ ถ้าหากถูกล่อให้เข้ามาที่นี่โดยไม่รู้อะไรเลย พวกเราก็จะตกเข้ามาในหลุม…”
“แต่พวกนั้นจะแน่ใจได้ยังไง…” ตามคาด หลิงม่อสามารถดึงดูดความสนใจของสวี่ซูหานกลับมาได้ ขณะเดียวกันสีหน้าเธอก็ดีขึ้นเล็กน้อย
“ว่าพวกเราจะทำให้ถังนี้คว่ำแน่นอนหรือเปล่า ใช่ไหม? ความจริงเหตุผลง่ายมาก…ถังนี้ไม่ต้องรอให้พวกเราทำคว่ำ” หลิงม่อพูดไปพลาง เดินเข้าไปหาถังใบนั้นพลาง…
—————————————————————————–