My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม - ตอนที่ 607
ไร้หนทางกลับ
ตั้งแต่เห็นเงานั่นปรากฏขึ้นที่ในอุโมงค์ถ้ำมังกรขาว เรื่องแปลก ๆ ในแถบนี้ก็น่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก เด็กสาว เด็กชาย และยังชายแก่ที่คนขับรถพูดถึง– ขนาดยังไม่ได้เข้าไปในอุโมงค์ เฉินเกอก็เจอถึงสาม ‘คน’ แล้ว
“ที่นี่ดูพลุกพล่านนะ” เฉินเกอไม่ได้ถามรายละเอียดเกี่ยวกับชายชราเพิ่มและนั่งเงียบ ๆ อยู่ที่เบาะหลัง รถแท็กซี่แล่นไปตามถนนสู่อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวช้า ๆ ยิ่งพวกเขาเข้าไปใกล้ปลายทางเท่าไหร่ คนขับรถก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก ถึงตอนนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้นอกจากไปข้างหน้าต่อ
ต้นไม้ที่ริมถนนแกว่งไกวเหมือนเหล่าวิญญาณกำลังคลานขึ้นมาจากนรก แสงไฟสลัวเพราะไฟถนนส่วนใหญ่บนทางสู่อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวนั้นใช้การไม่ได้ และหน่วยงานท้องถิ่นก็ไม่สนใจพอที่จะซ่อมถนนที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้ง ๆ และโคลนตม
แต่ว่า น่าแปลกทีเดียว ท่ามกลางเศษสิ่งต่าง ๆ นี้ กลับมีรอยเท้าเป็นทางชัดเจนให้เห็น– บางรอยใหญ่บางรอยเล็ก บ้างก็เท้าเปล่าและบ้างก็ใส่รองเท้า ไม่ว่าอย่างไร มันก็ชัดเจนว่าพวกเขามีกันมากกว่าหนึ่งคน
“ตอนที่ฉันมาที่นี่ครั้งสุดท้ายไม่ได้มีรอยเท้าเยอะขนาดนี้” เฉินเกอเพ่งมอง เขาพบว่ารอยเท้าทั้งหมดนั้นชี้ไปทางอุโมงค์ถ้ำมังกรขาว “พวกเขาล้วนมุ่งหน้าไปที่อุโมงค์? มีอะไรในอุโมงค์ดึงดูดพวกเขากันนะ?”
เฉินเกอนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ในอุโมงค์ แต่เขารู้ว่าหลังจากที่เงานั่นปรากฏตัวขึ้นที่นี่ อุโมงค์ก็จะต่างไปจากก่อนหน้า ล้อรถบดไปบนใบไม้และกิ่งไม้ที่ร่วงหล่น เกิดเสียงน่ากลัว ไฟหน้ารถส่องสว่าง ปรากฏกรอบเงาใหญ่โต แสงทั้งหมดหายวับไปเมื่อกระทบกับกรอบเงานั่น
“ถ้ำมังกรขาว!” สถานที่ต้องห้ามในตำนานท้องถิ่นทั้งหมดปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และเปลือกตาของคนขับรถก็กระตุกไม่หยุด ขาของเขาสั่น และร่างกายของเขาก็ส่งข้อความบอกเขาว่าถึงเวลาหันหลังกลับวิ่งหนีแล้ว
“พวกเรามาถึงแล้ว” แท็กซี่หยุดตรงหน้าอุโมงค์ แต่ผู้โดยสารที่ด้านในรถไม่มีที่ท่าจะลงจากรถ “พวกเรามาถึงอุโมงค์ถ้ำมังกรขาวแล้ว ดังนั้นผมคิดว่าจะส่งพวกคุณที่นี่”
คนขับรถรู้สึกอยากถอยกลับแล้ว เขาผ่านเรื่องประหลาด ๆ มามากพอแล้วสำหรับหนึ่งคืน
“ผมน่ะไม่เป็นไร แต่ที่สำคัญก็พวกเขาสองคนแล้ว” เฉินเกอเอนตัวพิงเบาะและถ่ายน้ำหนักให้อยู่ในท่าที่สบายมากขึ้น มันยังพอมีเวลาก่อนจะถึงกำหนดเวลาภารกิจที่โทรศัพท์เครื่องดำมอบให้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รีบร้อน เฉินเกอนั้นเป็นเพียงคนเดียวที่ยินดีเจรจา– แต่กับผู้โดยสารอีกสองคนนั้นคงพูดไม่ได้เช่นนี้
เด็กสาวเหลือบตามองขึ้นช้า ๆ และที่ระหว่างปอยผมยุ่งเหยิงก็มีดวงตาคู่หนึ่งที่ส่องประกายสีแดง เธอเลื่อนนิ้วของเธอไปตามหน้าต่างเกิดเสียงแหลมบาดหู มันเหมือนมีบางอย่างในอุโมงค์ที่ทำให้เธอคลั่งขึ้นมา
ท่าทางของเด็กชายเองก็ประหลาดไปเช่นกัน เขายังถือถุงพลาสติกสีดำเอาไว้ แต่สีหน้าไร้เดียงสาเดิม ๆ ของเขาตอนนี้บิดเบี้ยวจนจำไม่ได้
ยิ่งพวกเขาใกล้อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวมากเท่าใด ก็ยิ่งเห็นว่าพวกเขาดูผิดปกติไปมากเท่านั้น มันเหมือนกันว่าความอาฆาตแค้นในร่างของพวกเขานั้นพลุ่งพล่านขึ้นมาและพวกเขาก็ไม่สามารถกดมันเอาไว้ได้อีกต่อไป ผู้โดยสารทั้งสามคนไม่มีใครมีทีท่าจะลงจากรถ และนี่ก็ทำให้คนขับเริ่มตื่นตระหนก เขาขมวดคิ้วแน่นและดูจนปัญญา
พวกเขาบอกว่าคนดีมักได้ดี แต่ตอนนี้ทำไมกับฉันมันตรงกันข้ามล่ะ? คนขับรถบ่นอยู่ในใจ เขาหยุดรถ อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวนั้นเป็นสถานที่ต้องห้ามของคนขับแท็กซี่ทุกคนในจิ่วเจียง ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะไม่ขับเข้าไปในอุโมงค์
ถึงจะนั่งอยู่ในรถ เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงสายลมเย็นที่พัดมาจากในอุโมงค์ เขาเหลือบตาขึ้นมอง อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวนั้นราวกับปากที่อ้ากว้างของสัตว์ร้ายสักตัวหนึ่ง และทุกคนที่เดินเข้าไปในนั้นก็จะถูกกลืนกินลงไปกระทั่งกระดูกก็หาไม่พบ
“ทำไมถึงหยุดล่ะ? คุณต้องไปข้างหน้าอีกสิ! บ้านของผมอยู่ข้างหน้านี่แล้ว ขับไปต่อสิ!” เด็กชายที่เบาะหลังออกปากเร่ง
“บ้านของเธออยู่ในอุโมงค์เหรอ?” พอได้ยินอย่างนั้น ความอยากอยู่ให้ห่างจากอุโมงค์ของคนขับก็เพิ่มมากขึ้น เด็กชายที่เบาะหลังดูคล้ายกับเหยื่อที่ในข่าว ก่อนหน้านี้ เขายังบอกด้วยว่าตัวเองกำลังหามือข้างหนึ่งอยู่ หากนี่ไม่ใช่เรื่องตลก อย่างนั้นตัวตนที่แท้จริงของเด็กชายนั้นก็ช่างน่าคิด
คนขับรถตระหนักได้ว่าเขากำลังอยู่ในอันตรายแบบไหน และเขาก็ไม่สนใจคำสั่งของเด็กชาย เขาคิดจะขับรถกลับออกไปจนกว่าจะถึงสถานีตำรวจ– ไม่ว่าที่ในรถของเขาจะเป็นคนหรือเป็นผี เขาก็จะส่งตัวทุกคนให้ตำรวจ นั่นเป็นความคิดที่ดี แต่เมื่อเขาติดเครื่องรถ ก็เกิดเรื่องผิดปกติขึ้น
เขาได้ยินเสียงเครื่องยนต์ทำงาน แต่ว่ารถไม่ยอมขยับ เขาพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ในที่สุดแล้ว เขาก็กลับทำให้แผงหน้าปัดรถดับไปเท่านั้น คราวนี้ คนขับรถตื่นตระหนกจริง ๆ แล้ว รถเสียอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเขาไม่รู้เลยว่ามีคนที่เป็นผีกี่คนในรถของเขา
“ไม่ต้องตื่นตกใจไป หน้าปัดรถแค่ดับไปเพราะว่าคุณพยายามติดเครื่องหลายครั้งเกินไป และแบตเตอรี่ก็เลยหมด เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” ในเวลาอันคับขันที่สุดนี้ ถ้อยคำของเฉินเกอมอบความรู้สึกปลอดภัยที่คนขับรถต้องการที่สุดให้ เสียงของเฉินเกอนั้นทรงพลังและยังอบอุ่น และมันก็ช่วยให้คนขับรถสงบลงอย่างช้า ๆ
“ได้ คุณอยู่ในรถนะ ผมจะลงไปดู” คนขับรถวางมือที่มือจับประตูและกำลังจะก้าวออกไปตอนที่ได้ยินเสียงดังทึบเหมือนมีบางอย่างหนัก ๆ กระแทกลงมาที่หลังคารถ คนขับตกใจและเขาก็ดึงมือกลับตามสัญชาตญาณ แต่จากนั้นก็เกิดบางอย่างที่ประหลาดยิ่งกว่าขึ้น
รถเริ่มขยับโดยที่เขาไม่ได้แม้แต่จะแตะพวงมาลัยรถ และทิศทางที่มันมุ่งหน้าไปน่ะเหรอ? ถ้าไม่ใช่อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวแล้วจะเป็นที่ไหนได้?
“ฉันยังไม่ได้สตาร์ทรถเลยทำไมมันถึงแล่นได้เองล่ะ? พวกเราต้องกระโดดลงแล้วนะ!” คนขับรถต้องการเปิดประตู แต่ตอนที่มือของเขาแตะลงที่มือจับประตู เสียงดังทึบ ๆ นั่นก็ดังมาอีกครั้ง คราวนี้ เสียงนั่งดังมาจากตรงหน้าคนขับ เขามองเห็นอย่างชัดเจน หลังจากเสียงหายไป บนกระจกหน้าตรงหน้าที่นั่งคนขับนั้นมีรอยฝ่ามือสีแดงเลือดรอยหนึ่งประทับอยู่
ดวงตาของเขาเปิดกว้าง จิตใจของคนขับรถว่างเปล่า เขาไม่รู้เลยว่ารอยฝ่ามือสีแดงนี่มาปรากฏบนกระจกอย่างกับใช้มายากลได้อย่างไร ก่อนที่เขาจะทันได้เข้าใจ เสียงนั่นก็ดังมาอีกครั้งแต่ว่าเป็นที่ด้านหลังรถ จากนั้นรถทั้งคันก็สั่น และรอยฝ่ามือเปื้อนเลือดก็ปรากฏขึ้นที่กระจกหลังมากขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” คราวนี้ กระทั่งเฉินเกอเองก็เริ่มหวาดหวั่นมาขึ้นมานิด ๆ ต่างไปจากคนขับ เขาใช้ดวงตาหยินหยาง เขาจึงมองเห็นได้ว่าตอนนี้รถนั้นถูก ‘คน’ ล้อมเอาไว้แล้ว และรอยฝ่ามือแต่ละรอยก็แทนวิญญาณที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
“ทำไมถึงมีวิญญาณมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่ปากอุโมงค์?” เฉินเกอนั่งอยู่ในรถ พลิกหน้าการ์ตูนและเปิดใช้เครื่องเล่นเทป ทำให้กลิ่นเลือดในรถนั้นรุนแรงมากขึ้น
รอยมือเลือดปรากฏขึ้นมากเท่าใด พวกมันก็ดูน่ากลัวขึ้นเท่านั้น มีพวกเขาคอยผลักและดัน รถก็ถูกส่งเข้าลึกไปในอุโมงค์ถ้ำมังกรขาวอย่างช้า ๆ
คนขับรถร้องขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวังก็ไม่สามารถหยุดรถจากการถูกความมืดกลืนกินได้
เหตุการณ์นี้ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันและไม่มีใครคิดว่ามันจะกลายเป็นอย่างนี้ ตอนที่พวกเขารู้สึกตัว รถก็เข้าลึกมาในอุโมงค์แล้ว
ยางล้อรถนั้นเหมือนหมุนทับไปบนบางอย่างเพราะว่ารถนั้นเสียหลักไปเล็กน้อย รอยฝ่ามือปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงเคาะถี่ ๆ ที่ทำให้เสียวสันหลังนั้นก็ก้องอยู่ในหูพวกเขา