My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม - ตอนที่ 614
มากับฉัน
มีเพียงเมื่อคนผู้หนึ่งสิ้นหวังอย่างที่สุด จนปัญญาอย่างที่สุด ที่จะสามารถเปิด ‘ประตู’ ได้ ตอนที่ไฟลามมานั้น เด็กชายถูกกักเอาไว้ในหน้าต่างรถที่ผิดรูปไป และสิ่งที่เขาเห็นก็คือแม่ที่ได้รับบาดเจ็บของเขาและคนอื่น ๆ ที่วิ่งออกห่างพวกเขาไป
ไฟเผาร่างของเขา เนื้อและเลือดของเขาหลอมเข้ากับประตูรถ ในที่สุดเขาก็เปิดประตูที่เขาติดอยู่ในนั้นออกได้ ร่างกายท่อนล่างของเขานั้นถูกทิ้งเอาไว้ในรถ แต่ร่างกายท่อนบนของเขานั้นไหม้ติดอยู่กับประตูรถ
เฉินเกอคิดไม่ออกเลยว่านั้นจะเป็นความเจ็บปวดแบบใดกัน ดังนั้นไม่ว่าเด็กชายจะทำอะไรลงไปบ้าง เฉินเกอก็ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่จะตัดสินเด็กคนนี้ได้ ไม่มีใครเกิดมาเป็นสัตว์ประหลาด ต่อให้พวกมันดูต่างไปจากมนุษย์ทั่วไป แต่หัวใจของมันก็ยังทำมาจากเลือดและเนื้อ
ไต่อยู่ระหว่างป่าร่างมนุษย์ ช่องว่างบนร่างของเด็กชายก็ค่อย ๆ ลดขนาดลง
“เงานั่นต้องการสร้างประตูในเมืองหลี่ว่านเพื่อปล่อยบางอย่างจากด้านหลังประตูออกมา ก่อนที่เขาจะมาพบผม ชายเสียสติคนนั้นเคยทำการทดลองมากมายเพื่อพิสูจน์ธรรมชาติของมนุษย์และผลักดันผู้บริสุทธิ์จนแตกสลาย จากนั้นเขาก็ใช้คนเหล่านั้นเปิดประตู แต่จนกระทั่งพวกเขาตายไป ก็ยังไม่มีใครสามารถเปิดประตูได้ แผนการของเขาล้มเหลว จนกระทั่งในที่สุดเขาก็หันมาเพ่งเล็งผมแทน เขาอยากจะจับตัวผมไปแล้วขังผมเอาไว้ในเมืองหลี่ว่านเพื่อช่วยให้แผนการของเขาสำเร็จ”
เสียงของเด็กชายต่ำลง “แน่นอนว่า ผมไม่เห็นด้วย และผมก็ยังต้องการฆ่าเขาด้วย”
นี่เป็นนิสัยอันเหี้ยมโหด เขาจะฆ่าใครก็ตามที่กล้ามุ่งเป้ามาที่เขา
“แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอก็ล้มเหลว” เฉินเกอทำลายแผนการเด็กชายไปอย่างง่าย เขากำลังบอกเด็กชายว่าสิ่งต่าง ๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว และเงานั่นก็คือศัตรูร่วมของพวกเขา
“คุณพูดถูก เขาฆ่าได้ยากมาก” หลังจากพูดอย่างนั้น เด็กชายก็มองพิจารณาเฉินเกอ “เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่ตราบใดที่ผมอาศัยอยู่ในอุโมงค์นี้ ผมก็สามารถปกป้องตัวเองและแม่ของผมได้”
เลือดซึมออกมาจากลำตัวของเด็กชาย “ผมสามารถลากทุกอย่างที่เข้ามาในอุโมงค์เข้าไปในประตู และที่นั่น ผมก็สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย เป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถทำได้ที่นอกอุโมงค์นั่น”
พลังของผู้ผลักประตูนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่าเมื่ออยู่ในประตู ดังนั้น ความสามารถในการดึงคนเข้าไปในประตูของเขานั้นย่อมมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อหากใช้ให้ถูกวิธี
“งั้น เธอก็คิดจะดึงฉันเข้าไปในประตูของเธอสินะ ก่อนหน้านี้?”
“ใช่ ที่นั่นนั้นเป็นฝันร้ายที่ผมถักทอขึ้นมา เวลาหยุดนิ่งอยู่ที่วันนั้น แต่มันก็มีจุดอ่อนของพลังนี้– มันสามารถใช้ได้แค่ในอุโมงค์นี้เท่านั้น เมื่อผมออกจากอุโมงค์ไป ประตูก็เปิดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” ช่องว่างที่ตรงลำตัวของเด็กชายนั้นเหมือนปากปากหนึ่ง และมันก็ดูน่ากลัว “บางครั้ง ผมก็สงสัย ว่าผมเป็นคนเปิดประตูหรือว่าที่ผมเป็นอยู่ก็คือประตู?”
สถานการณ์ของเด็กชายนั้นค่อนข้างพิเศษมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเกอเจอกับอะไรอย่างนี้เช่นกัน
“เธอเคยสู้กับเงานั่นมาก่อน เธอสังเกตเห็นจุดอ่อนของมันบ้างไหม?”
“ถ้าผมรู้เรื่องนั้น คุณคิดว่าผมจะยังมาคุยอยู่กับคุณที่นี่ไหมล่ะ?” รยางค์ของเขาสั่นอย่างกระวนกระวายและเด็กชายก็ดูค่อนข้างบ้าคลั่ง “ชายเสียสติคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่เขามาที่นี่ ผมพยายามหลายวิธี แต่ก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้ จากนั้นผมก็วางแผนจะกักเขาเอาไว้ในโลกที่ด้านหลังประตู แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็พบรูปแบบของอุโมงค์ที่ด้านหลังประตูและเกือบจะหนีออกมาได้เอง…”
เด็กชายกระแอมเพราะเขาเพิ่งรู้ตัวว่าบังเอิญเผยออกไปว่าอุโมงค์ที่ด้านหลังประตูนั้นมีแบบแผน
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” เฉินเกอทำเป็นไม่ได้ยินและกระตุ้นให้เขาพูดต่อ
“เขาล้มเหลว แต่ว่าผมก็ไม่สามารถใช้กลเม็ดเดิมได้อีกครั้งหน้า” เด็กชายเอนตัวไปด้านข้างเผยให้เห็นรอยแผลใหญ่บนร่างแมงมุม “ผมเพิ่งสู้กับเขาเมื่อไม่นานมากนี้ เขาดูสิ้นหวังอย่างประหลาด เหมือนหมาบ้า”
“หลังจากสู้กันแล้วเขาไปที่ไหน?” เฉินเกออยากจะรู้ว่าเงานั่นกลับไปสิงร่างของเจียหมิงไหมหลังจากออกจากอุโมงค์ไป
“ผมจะไปรู้ได้ยังไง?” เด็กชายเริ่มเลี่ยงคำถาม เมื่อเป็นการสอบถามจากเฉินเกอ ในที่สุดเขาก็เผยสามอย่างออกไป ตอนที่เงานั่นมาที่นี่ รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไป เด็กชายสงสัยว่าเงาจะมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาและขนาดตัว มีเงาของเด็กคนหนึ่งซ่อนอยู่ด้านในเงานั่น– ไม่ว่าเขาจะปรากฏตัวขึ้นในรูปแบบไหน เงาของเด็กนั้นไม่เคยเปลี่ยน อย่างสุดท้ายก็คือสิ่งที่เด็กชายเองก็ไม่แน่ใจ เขาสัมผัสได้ถึงตัวตนอันคล้ายคลึงกับเฉินเกอในเงานั่น และนั่นเป็นเหตุผลให้เขาต้องการฆ่าเฉินเกอก่อนหน้านี้
เขาจำทั้งสามจุดเอาไว้ แล้วหลังจากแน่ใจว่าคงไม่ได้ข้อมูลอะไรจากเด็กชายแล้ว เฉินเกอก็หันไปหาคนผู้หญิง
“ทำอะไรน่ะ?” ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร เด็กชายก็ไต่ผ่าน ‘ป่า’ มายืนอยู่ระหว่างเฉินเกอและแม่ของเขา
“หลังจากเธอออกไปจากอุโมงค์ เธอก็ไม่สามารถเปิดประตูในร่างของเธอได้ และพลังของเธอก็จะลดลงมาก ดังนั้นฉันจึงอยากจะขอให้แม่ของเธอไปช่วยฉันสู้กับเงานั่น อย่างไรเสีย ยิ่งมีกันมากคน ก็ยิ่งมีโอกาสชนะมากขึ้น”
เฉินเกอพูดอย่างเป็นธรรมชาติจนเด็กชายรู้สึกอึ้ง “ปล่อยคุณไปและยังบอกคุณตั้งหลายอย่างนี่ก็เป็นขีดจำกัดความใจดีของผมแล้ว แต่คุณก็ยังต้องการพาแม่ของผมไปกับคุณอีก?”
“ถ้าพวกเราจัดการกับเงานั่นไม่ได้ ตอนที่เขากลับมาที่อุโมงค์นี่ ทั้งเธอและแม่ของเธอก็จะตาย” เฉินเกอพูดอย่างธรรมดา จิตใจของเด็กชายนั้นเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นและมุ่งร้าย ดังนั้นการโน้มน้าวธรรมดาที่เฉินเกอใช้กับผีอื่น ๆ คงไม่ได้ผล ดังนั้น เฉินเกอจึงเปลี่ยนมุมมองและตัดสินใจที่จะพูดออกไปตามตรงมากกว่า– บอกความจริงแก่เด็กชาย
“ฉันจะไม่บังคับให้เธอต้องเลือก แต่ฉันหวังว่าเธอจะลองคิดอย่างจริงจังถึงสถานการณ์ตอนนี้ของเธอกับแม่ของเธอ” ในน้ำเสียงของเฉินเกอนั้นมีความเจ็บปวด และเขาก็ยังเน้นย้ำถึงความเจ็บปวดของพวกเขาทั้งคู่ “ฉันเชื่อว่าเธอก็ไม่อยากตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างที่สุดเช่นนั้นอีกครั้งใช่ไหม?”
“เป็นไปไม่ได้ เธอจะตายถ้าเธอออกจากอุโมงค์นี้ พวกเราจะตายกันทั้งหมด” รยางค์หนึ่งกรีดปาดศพที่แขวนอยู่บนเพดานไป วิญญาณหลงผิดที่เจ็บปวดร้องโหยหวนแต่ว่าวิญญาณของพวกเขาก็ยังคงถูกรัดพันเอาไว้ในใยแมงมุม– พวกเขาหนีไม่ได้ เด็กชายนั้นน่ากลัวได้หากเขาต้องการ
“แทนที่จะรอความตาย ฉันยังคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะกุมชะตาของตัวเองเอาไว้ในมือ” เฉินเกอเดินผ่านเด็กชายไปหาผู้หญิง “ลูกของคุณต้องการปกป้องคุณ และคุณก็ต้องการปกป้องลูกของคุณ ไม่มีใครในพวกคุณสามารถทนรับความเจ็บปวดจากการสูญเสียได้อีกครั้ง ผมเข้าใจเรื่องนั้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกอะไร ผมก็จะยอมรับมัน”
ศพที่ห้อยอยู่แกว่งไกวไปมาขณะที่พวกเขากรีดร้องอย่างเจ็บปวด มันดำเนินอยู่หลายนาทีจนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้เฉินเกอและเดินไปหาลูกของเธอ
เหมือนแม่ที่รักลูกคนหนึ่ง เธอเอื้อมมือออกไปกอดศีรษะของเด็กชายไว้ ดวงตาของเด็กชายที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังจู่ ๆ ก็อ่อนโยนลงและรยางค์ใหญ่โตของเขาก็หดเข้าหากัน เลือดเริ่มหยุดไหลออกจากรอยแผลน่ากลัวบนร่างแมงมุม
เธอกระซิบบางอย่างเข้าไปในหูของเด็กชายก่อนที่จะปล่อยมือแล้วเดินออกจากอุโมงค์
เฉินเกอไม่ได้อยากรู้เพราะเขาบอกแล้วว่าเขาจะยอมรับการตัดสินใจของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สีหน้าของเฉินเกอในที่สุดก็อ่อนลงหลังจากตามผู้หญิงคนนั้นไปทัน
ฉากระดับสามดาวน่าจะสำเร็จหลังจากนำแม่ของปิศาจที่แข็งแกร่งที่สุดไปกับฉัน แต่อัตราความสำเร็จน่าจะต่ำมาก ฉันอาจจะกลับมาอีกทีถ้ามีโอกาสเพื่อให้แม่และลูกได้พบกันอีกครั้ง สำหรับตอนนี้ ฉันต้องตั้งใจจัดการกับเงานั่นก่อน