My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม - ตอนที่ 649
วิญญาณสีเลือดเต็มขั้น (1+2)
ในขวดมีเส้นเลือดไม่มากนัก บางทีอาจจะแค่หนึ่งในห้าของที่เจ้าแมวขาวเคยกินลงไปที่ในหมู่บ้านโลงศพ หลังจากกลืน ‘ยา’ ลงไป มือกรรไกรก็ถูกความเจ็บปวดโจมตี เขากุมหัวเอาไว้และล้มไปกับพื้น ใบหน้าโหยหวนของผีมากมายดูเหมือนจะปรากฏขึ้นในสายตาของเขา และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปตามใบหน้าของผีที่ปรากฏในสายตาของเขา
เพื่อรับมือกับความเจ็บปวด มือกรรไกรฉีกเปิดแผลสดบนร่างของตัวเองหลายแผล และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือภายใต้แผลสดใหม่เหล่านั้นนั้นเป็นหลอดเลือดเล็กบางมากมายคืบคลานไปรอบ ๆ ราวกับปลา
ความเจ็บปวดนั้นคงอยู่นานราวสิบนาที ทั้งร่างของมือกรรไกรชุ่มไปด้วยเหงื่อ หลังจากคลื่นความเจ็บปวดลูกสุดท้ายจางหายไป เขาก็ผละขึ้นจากพื้นกัดฟันแน่น แผลบนใบหน้าของเขามีเลือดซึมออกมาเรื่อย ๆ และเลือดก็ไหลเป็นทางไปตามใบหน้าของเขาย้อมคอเสื้อของเขา มันเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับรูปลักษณ์ของมือกรรไกร
“ฉันยังมีชีวิตอยู่!” ตอนที่เขาค่อย ๆ กลับมาควบคุมร่างกายตัวเองได้ มือกรรไกรก็ตะกายลุกขึ้นจากพื้น นี่เป็นสัญญาณว่าขวดแก้วที่มีหลอดเลือดอยู่นั้นเป็นยาต้านพิษของจริง เขากำหมัดแน่นก่อนที่จะคลายออก ในที่สุด เขาก็เดินไปยืนตรงหน้าเฉินเกอ “ขอบคุณ”
“ผมไม่ได้ทำอะไร ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของคุณ” หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว เฉินเกอก็หันไปมองผู้โดยสารอีกสองคน หมอส่ายหน้าและวางขวดที่มีตะกอนสีเทาลงไป เขามีสีหน้าเสียใจ
ชายขี้เมาลังเลว่าเขาควรจะกินของในขวดลงไปหรือไม่เพราะว่าเขากลัวความเจ็บปวดสุดแสนเช่นนั้น สุดท้ายแล้ว ภายใต้การสนับสนุนของมือกรรไกร ชายขี้เมาก็ยกขวดเลือดเทลงคอ
“ดูเขาเอาไว้ ผมจะไปคุยกับเจ้าของที่นี่สักหน่อย” เฉินเกอหยิบขวดที่มีตะกอนสีเทาอยู่เดินไปยืนตรงหน้าเจ้าของร่างอ้วน เขาหมุนเปิดฝา “ข้างในนี่เป็นยาพิษใช่ไหม?”
“มันคือยาแก้พิษเหมือนกัน ฉันไม่ได้โกหกแก!” เจ้าของยังปฏิเสธที่จะยอมรับการหลอกลวงของตัวเอง เฉินเกอไม่ต้องการเสียเวลาเถียงกับผู้ชายคนนี้ เขาง้างปากชายร่างอ้วนเปิดออกและกำลังจะเทตะกอนสีเทาในขวดลงคอเขาไป
“เดี๋ยวก่อน! พวกแกสามคนถูกพิษ และมียาแก้พิษแค่สองขวด ฉันจะบอกแกว่ายาแก้พิษขวดที่สามอยู่ที่ไหน!” เจ้าของร่างอ้วนดิ้นอย่างแรงทั้งที่นอนอยู่บนพื้น
“ขวดที่สาม?” เฉินเกอสนใจ หลอดเลือดดูเหมือนจะมีผลทางบวกกับเจ้าแมวขาว ดังนั้นหากมีอีกขวดหนึ่ง เขาก็สามารถนำมันกลับไปยังบ้านผีสิงเพื่อศึกษามันช้า ๆ
“ใช่ คราวนี้ฉันจะไม่โกหกแกแล้ว!” หน้าผากของเขามีเหงื่อเย็น ๆ ผุดพราย ดวงตายิบหยีมองไปยังเฉินเกอ
“ได้ ฉันจะเชื่อแกอีกครั้ง ยาแก้พิษขวดที่สามอยู่ที่ไหน?” เฉินเกอดึงเจ้าของร่างอ้วนขึ้นจากพื้นและทิ้งเขาลงบนเก้าอี้ ขณะที่ความเจ็บปวดถาโถมใส่เขา เจ้าของร่างอ้วนหน้าตาบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวด “อันที่จริงแล้ว ฉันเก็บยาแก้พิษขวดสุดท้ายเอาไว้ในตู้เย็นในครัว มันอยู่ในชั้นด้านบน ช่องฟรีซน่ะ”
“ตู้เย็นในห้องครัว?” หากไม่เพราะว่าเขาเคยเล่นเกมของเสี่ยวปู้มาก่อน เฉินเกอก็อาจจะเชื่อคำพูดของเจ้าของร่างอ้วน แต่เขารู้เป็นอย่างดีเลยว่าในห้องครัวไม่มียาแก้พิษ แต่มีวิญญาณสีเลือด
“ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณพาผมไปด้วยก็ได้” ดวงตาของชายร่างอ้วนเริ่มกลอกหลบ และมันก็มักจะชำเลืองมาทางกระเป๋าเฉินเกอที่ใส่ฟันพวกนั้นเอาไว้ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว
“แกไม่เรียนรู้บทเรียนของแกเลย” เฉินเกอง้างปากเจ้าของร่างอ้วนเปิดและเริ่มเทพิษในขวดลงไปในปากเขา แขนทั้งสองข้างของเขาใช้การไม่ได้ เจ้าของร่างอ้วนที่สามารถใช้ขาได้เพียงข้างเดียวพยายามดิ้นรนสุดชีวิต เขายังไม่รู้เลยว่าแผนการของเขานั้นเฉินเกอมองออกหมดแล้ว
“ฉันไม่ได้โกหกแก! ฉันเก็บยาแก้พิษเอาไว้ในตู้เย็นจริง ๆ ถ้าแกไม่เชื่อฉัน แกไปดูเองก็ได้!”
“กระทั่งตอนนี้แกก็ยังต้องการทำร้ายฉัน หัวใจของแกมันดำมืดสิ้นดี ไม่มีการไถ่บาปสำหรับคนอย่างแกหรอกนะ” เฉินเกอยกค้อนขึ้นและทำลายขาข้างที่ยังดีอยู่ของเจ้าของร่างอ้วนไป จากนั้น เขาก็หาผ้าผืนหนึ่งมายัดปากเจ้าของร่างอ้วน เสียงเคาะจากทางเข้าโรงแรมยังดังอยู่ เป็นสัญญาณว่าเฉินเกอเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
“พวกคุณสองคนดีขึ้นหรือยัง?” เฉินเกอมองมือกรรไกรและชายขี้เมาที่ดูเหมือนเพิ่งดึงร่างขึ้นจากน้ำมา ร่างกายของพวกเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ และพวกเขาก็ดูโทรมมาก
“ผมไม่เคยรู้สึกดีกว่านี้เลย ทั้งร่างของผมเต็มไปด้วยพลัง มันเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสักสิบปี” ชายขี้เมาลุกขึ้นจากพื้น เหวี่ยงหมัดตัดอากาศ
“ถ้าคุณรู้สึกดีขึ้นแล้วก็มาช่วยผม ไปหาเชือกจากในโรงแรมมามัดพวกเขาสองคนกับเก้าอี้ ถ้าไม่มีเชือก ก็ฉีกผ้าปูเตียงมาทำเชือกไปก่อน” หลังจากเฉินเกอมอบหมายงานให้สองคนแล้วเขาก็หันไปทางหมอ “ไม่ต้องห่วง ผมจะไปดูทุกซอกทุกมุมในโรงแรม มันต้องมียาแก้พิษอยู่อีกตรงไหนสักที่”
“ได้” หมอฟุบอยู่กับโต๊ะอย่างอ่อนแรง “คุณแน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปดูในห้องครัว? ผมสงสัย คุณรู้ได้ยังไงว่าเจ้าของโกหกคุณ? เห็นจากสีหน้าหรือว่าแค่จิตวิทยา?”
“ถ้าคุณอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในตู้เย็น ผมสามารถพาคุณไปดูที่นั่นด้วยตัวเอง” เฉินเกอมัดเจ้าของร่างอ้วนและพ่อครัวเอาไว้กับเก้าอี้ จากนั้นเขาก็ลากทั้งสองคนไปทิ้งเอาไว้ที่ทางเข้าโรงแรม เมื่อผีไร้หัวพุ่งเข้ามาในตึก พวกเขาก็จะได้ต้อนรับเธอก่อนใคร เมื่อผีผู้หญิงลงมือกับพวกเขาสองคน เฉินเกอก็จะเริ่มก้าวต่อไปของแผนการของเขา– ปลดปล่อยผีที่กำลังกระหายในตู้เย็นออกมาและให้วิญญาณสีเลือดทั้งสองสู้กัน เขาจะรอเก็บเกี่ยวรางวัลในตอนจบ
“ยาแก้พิษไม่อยู่ในตู้เย็นแน่ ๆ พวกเราทางที่ดีใช้เวลาที่พวกเราเหลืออยู่ค้นที่อื่นที่ในโรงแรมนี้” เฉินเกอหาเจ้าแมวขาวและแกว่งขวดเปล่าที่เคยใส่หลอดเลือดเอาไว้ก่อนหน้านี้ไปตรงหน้าจมูกของมัน จากนั้นเขาก็โยนขวดเปล่านั่นทิ้งและชี้ไปตามทางเดินในโรงแรม “จำกลิ่นนี้ไว้ แล้วก็ ไป!”
ดวงตาต่างสีมองเฉินเกออย่างงุนงง และทั้หงมดที่เจ้าแมวขาวทำก็คือนั่งลงและเริ่มหมอบ
“พี่ชาย ทำไมคุณถึงทำเหมือนแมวคุณเป็นหมา?” ชายขี้เมาช่วยแบกหมอขึ้นจากโต๊ะ เห็นการกระทำของเฉินเกอแล้วเขาก็ยากจะคิดว่านี่เป็นคนเดียวกับชายบ้าคลั่งที่ลากค้อนไปมาก่อนหน้านี้
“ผมแค่พยายามปลดล็อกศักยภาพเต็มที่ของมัน” เห็นเจ้าแมวขาวคลานอยู่ใต้โต๊ะหลังจากเฉินเกอพยายามเกลี้ยกล่อมมันอยู่นาน ฝ่ายหลังนั้นรู้สึกปวดหัวหนึบขึ้นมาเลย เจ้าแมวนั้นตื่นตกใจง่ายขึ้นมากเทียบกับตอนที่เขาได้มันมาในตอนแรก หลังจากจัดการเอาพวกขยะขวางทางออกไปแล้ว ทั้งกลุ่มก็ขึ้นไปที่ชั้นสอง
มีป้ายห้ามเข้าอยู่ที่กลางทางเดิน และยังมีคราบเลือดที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดอยู่บนพื้น ตามรอยเลือดไปแล้วเฉินเกอก็ผลักเปิดประตูห้องหนึ่งเข้าไป ภาพข้างในนั้นสยดสยองเกินบรรยาย มันดูเหมือนมีการดิ้นรนต่อสู้อย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่นี่ ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยเลือด
“จากความหนืดของเลือดแล้ว เวลาการตายของเหยื่อน่าจะอยู่ภายในสามชั่วโมงที่ผ่านมา หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง ก่อนที่พวกเราจะมาถึงโรงแรมนี้ ก็เกิดการฆาตกรรมขึ้นที่นี่แล้ว” เฉินเกอนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น เขาชินกับภาพเช่นนี้แล้ว
ชายขี้เมาพยักหน้าอย่างชื่นชม และจากนั้นเขาก็กระทบไหล่หมอที่อยู่ด้านหลังเขาเบา ๆ “คุณแน่ใจนะว่าเขาเป็นพนักงานที่สวนสนุกน่ะ? เขาอาจจะเป็นสายลับจากหน่วยรักษาความปลอดภัยที่วางเอาไว้ในสวนสนุกหรือเปล่า?”
เจอคำถามจากชายขี้เมาแล้วหมอก็ทำได้แค่ยิ้มประหลาด มีแต่พระเจ้านั่นแหละที่รู้ว่าเหตุใดชายหนุ่มคนนี้ถึงคุ้นเคยกับกระบวนการที่ต้องทำในสถานที่เกิดเหตุ ทั้งกลุ่มค้นทั่วชั้นสองอย่างละเอียด กลายเป็นว่าชั้นสองนั้นไม่ต่างไปจากโรงงานบรรจุเนื้อมนุษย์เลย หากเจ้าของร่างอ้วนและพ่อครัวเคยมีความเป็นมนุษย์อยู่ ตอนนี้มันก็คงหายไปแล้ว ชีวิตคนนั้นไม่ต่างไปจากของเล่นและอาหารในสายตาพวกเขา
“กลับไปดูที่ชั้นหนึ่งกัน” พวกเขาค้นทั่วตึกแต่ก็ยังไม่เจอยาแก้พิษ หลอดเลือดที่ในขวดดูเหมือนเป็นสิ่งที่หายากอย่างไม่น่าเชื่อกระทั่งในโลกด้านหลังประตู
“ต้องขอโทษด้วยที่กลายเป็นภาระไปแล้ว พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนไหม?” หมอที่เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างยากลำบาก แต่ว่าสมองของเขาก็ยังแจ่มใสและมีสติ “ผีผู้หญิงตามเรามาถึงประตูหน้า ดังนั้น ถ้าพวกเราแอบออกไปทางประตูหลัง เธอก็น่าจะไม่รู้ตัว”
“ผีตนนั้นเล็งพวกเราเอาไว้แล้ว หนทางเดียวที่จะออกไปจากที่นี่ได้โดยไม่ต้องเผชิญกับความเกรี้ยวกราดของเธอก็คือการเบี่ยงเบนความเกลียดชังของเธอไปที่คนอื่น” เฉินเกอนำผู้โดยสารทั้งสามคนกลับไปที่ชั้นล่าง เขามองเจ้าของร่างอ้วนและพ่อครัวที่ถูกมัดเอาไว้ที่ทางเข้า สายตาคมกริบของเขาทำให้เจ้าของและพ่อครัวตัวสั่นเป็นใบไม้ต้องลม “นี่ยังไม่พอที่จะรับรองความปลอดภัย ผมต้องหาวิธีการอื่นให้แน่ใจว่าผู้หญิงไร้หัวจะโจมตีพวกเขา หรือไม่อย่างนั้นแผนการขั้นต่อไปของผมก็จะเริ่มต้นไม่ได้”
ภายใต้การเขม้นมองอย่างสิ้นหวังของ ‘เหยื่อ’ ทั้งสอง เฉินเกอเดินเข้าไปในห้องครัวหาอ่างใบใหญ่ที่ปกติใช้ล้างผักออกมา เขาเติมน้ำประปาลงไปประมาณครึ่งหนึ่งก่อนที่จะเอาออกมาข้างนอก
“คุณกำลังจะทำอะไร?”
ความรู้สึกเลวร้ายขดรอบหัวใจของพ่อครัวและเจ้าของร่างอ้วน เฉินเกอไม่สนใจพวกเขาและดึงเอาขวดสามใบที่มีตะกอนสีเทาออกมาจากกระเป๋าหลัง เขาเปิดฝาและเทของข้างในทั้งหมดลงไปในอ่าง หลังจากคนผสมมันแล้ว เฉินเกอก็พังโต๊ะและใช้ขาโต๊ะเป็นคานเทินอ่างไว้เหนือกรอบประตู เมื่อผีผู้หญิงเปิดประตูเข้ามา อ่างก็จะหล่นลงมาและของข้างในก็จะสาดใส่คนด้านล่าง นี่เป็นการกลั่นแกล้งกันแบบพื้นฐานมาก ๆ แต่เป้าหมายครั้งนี้คือวิญญาณสีเลือด
“ผมแน่ใจว่าของสีเทานั่นไม่ใช่ของดี เมื่อเธอเปียกชุ่มไปด้วยของนั่น ผีผู้หญิงน่าจะคลั่งเลือดและพุ่งเข้าใส่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เธอที่สุด” เฉินเกอหันไปมองพ่อครัวและเจ้าของร่างอ้วน ความสิ้นหวังในใจของพวกเขานั้นปรากกขึ้นที่ดวงตาของพวกเขา หากพวกเขามีโอกาสครั้งที่สอง พวกเขาคงไม่รับกลุ่มของเฉินเกอเข้ามาพักคืนนี้
“ถ้าบนโลกนี้มีปิศาจ ผมแน่ใจเลยว่ามันต้องดูเหมือนแบบนี้” ชายขี้เมาพยุงหมอให้ออกห่างจากฉากนองเลือด เขาแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นกับดักที่เฉินเกอวางไว้ “ขอบคุณที่ตอนนี้พวกเราอยู่ข้างเดียวกัน…”
หลังจากเฉินเกอจัดการกับกลไกเสร็จ เขาก็โบกมือให้มือกรรไกรและคนที่เหลือ “ตามผมมา”
เขาอุ้มเจ้าแมวขาวขึ้นจากพื้นและนำทุกคนไปยังชั้นสอง เขาเลี้ยวเข้าไปในห้องแรกทางซ้ายและใช้ค้อนคุณหมอนักเจาะกะโหลกทำลายแผ่นกระดานไม้ที่ปิดอยู่บนกรอบหน้าต่าง “พวกคุณที่เหลือควรอยู่ในห้องนี้และพยายามทำเชือกจากวัสดุที่ในห้องนี่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น ให้หนีออกไปทางหน้าต่างให้เร็วที่สุดเท่าที่คุณทำได้”
“คุณวางแผนจะทำอะไรอีก?” มือกรรไกรสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงประหลาดของเฉินเกอ เขาอธิบายไม่ได้จริง ๆ แต่มันเหมือนกับเป็นความกังวลผสมตื่นเต้น
“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ พวกคุณช่วยอะไรผมไม่ได้มากนัก ดังนั้นพยายามเอาชีวิตรอดให้ดีที่สุด” เฉินเกอมองออกไปทางหน้าต่าง “เขตที่พักอาศัยที่พวกเราอยู่ตอนแรกตอนนี้น่าจะสะอาดแล้ว พอผมให้สัญญาณพวกคุณวิ่ง ก็กระโดดออกจากหน้าต่างนี่แล้วมุ่งหน้าไปที่นั่น ไปที่นั่นแล้วรอผม”
“ได้ คุณก็ระวังด้วย”
“ไม่ต้องห่วง อ้อ แล้วก็ เอาแมวผมไปกับพวกคุณด้วย” เฉินเกอวางเจ้าแมวขาวไว้ในห้องนอน เขากำลังจะหันออกไปจากห้องตอนที่รู้สึกถึงแรงกดทับหนัก ๆ บนไหล่ เขาหันไปมอง และเจ้าแมวขาวก็กระโดดขึ้นมาอยู่บนไหล่ของเขาแล้วและนั่งอยู่บนนั้น ดวงตาของเจ้าแมวมองเฉินเกออย่างสงสัย เหมือนกับมันกำลังถาม นายกำลังจะทิ้งฉันเรอะ?
“ถ้าแกอยากไป อย่างนั้นก็ไปด้วยกัน แต่ถ้าเจอกับวิญญาณสีเลือดเข้าก็ระวังอย่าวิ่งสะเปะสะปะไป” เฉินเกอแบกกระเป๋าของเขาแล้วกลับลงไปที่ชั้นล่าง เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องครัว มองแวบแรก มันก็เหมือนห้องครัวปกติ– ไม่มีอะไรสะดุดตา
“ถ้าที่นี่เป็นเหมือนที่ในเกมของเสี่ยวปู้ ก็ต้องมีห้องลับอยู่ด้านหลังตู้เย็น หัวของผีหิวโหยตนนั้นอยู่ที่ชั้นบนของตู้เย็น และร่างกายใหญ่โตของเธอก็ติดอยู่ในห้องลับ” เดินไปที่ตู้เย็น เฉินเกอพบว่าตู้เย็นไม่ได้เสียบปลั๊กเอาไว้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง มันเป็นแค่เครื่องตกแต่งเท่านั้นเอง
“มันน่าจะอีกไม่นานแล้วก่อนที่ประตูโรงแรมจะถูกพังลง” เฉินเกอเอื้อมมือไปจับที่จับประตูตู้เย็น และเขาก็ใช้ดวงตาหยินหยางมองไปยังทางเข้าโรงแรม หญิงไร้หัวนั้นระมัดระวัง แต่ความโกรธและการถูกยั่วยุก็ทำให้เธอสูญเสียความมีเหตุมีผลไปอย่างช้า ๆ เธอสัมผัสได้ว่าคนที่เธอตามหานั้นอยู่แค่ในตึกนี่แล้ว หลังจากรออยู่สิบนาทีเต็ม ความอดทนของหญิงไร้หัวในที่สุดก็เหือดแห้ง หลอดเลือดคืบคลานอยู่เหนือประตูทางเข้าเหมือนพืชสักชนิดและในเวลาเดียวกัน เฉินเกอก็รู้สึกได้ว่าตู้เย็นตรงหน้าเขาสั่นเหมือนบางอย่างด้านในกำลังจะตื่นขึ้น
ปัง!
เมื่อหลอดเลือดปกคลุมทั่วพื้น ทางเข้าโรงแรมในที่สุดก็พังทลายลง ผีผู้หญิงอุ้มหัวของเธอไว้ในอ้อมแขนและเข้าโรมแรมมาดวงตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
เมื่อเธอก้าวเท้าก้าวแรก อ่างที่เหนือประตูก็ย่อมหล่นลงมาตามแรมโน้มถ่วง หลอดเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนถักทอเป็นตาข่ายและเหวี่ยงอ่างเหล็กไปข้าง ๆ ผีผู้หญิงประหลาดใจที่มีใครกล้าเล่นเป็นเด็ก ๆ กับเธอ แต่ปฏิกริยาตอบสนองของเธอก็รวดเร็วราวสายฟ้า
อ่างถูกผลักทิ้งไป แต่ว่าของที่ด้านในที่เป็นส่วนผสมของตะกอนสีเทาสาดลงไปบนหลอดเลือด และบางอย่างน่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น ตะกอนสีเทานั้นดูเหมือนเป็นสิ่งที่ควบคุมพลัง สามารถควบคุมเหนือกระทั่งหลอดเลือดของวิญญาณสีเลือด มันละลายผ่านตาข่ายเลือดและหัวที่ในอ้อมแขนของผู้หญิงคนนั้นก็กรีดร้องโหยหวน เธอฉีกกระชากเส้นเลือดสีดำทิ้ง
เมื่อไม่มีอะไรรองรับ อ่างที่เหนือประตูก็หล่นใส่ผีผู้หญิงโดยตรง มันคว่ำใส่ตรงลำคอที่ถูกตัดและยังมีเสียง ‘ปัง’ ดังชัด
“ตะกอนสีเทานั่นมันอะไร? เป็นไปได้ไหมว่ามันเกี่ยวข้องกับเลือดสีดำที่สมาคมเล่าเรื่องผีใส่ไว้ในกล่องไม้นั่น?” หลังจากได้รับการรับรองจากคุณหมอเกา เฉินเกอนั้นก็นับได้ว่ารับหน้าที่ประธานคนใหม่แล้ว โชคร้าย เพื่อที่จะจัดการกับเขานั้น สมาคมใช้เกือบทุกอย่างที่พวกเขามี เฉินเกอนั้นมีข้อมูลมากมาย แต่ว่าข้อได้เปรียบจากการฝึกฝนเป็นศูนย์
การผจญภัยในเมืองหลี่ว่านของเขานั้นต่างออกไป เงานั่นเตรียมการหลายปีฟูมฟักผีทารก ดังนั้นมันต้องมี ‘ผลผลิตอันพิเศษ’ มากมายถูกพบที่ด้านหลังประตู!
“ฉันประมาทเกินไป โรงแรมสร้างไว้ที่กลายเมืองหลี่ว่านและยังเป็นที่อยู่ของวิญญาณสีเลือดเก่งกาจอย่างผีหิวโหยนั่น ดังนั้น ฉันควรจะรู้ว่าสิ่งที่เจ้าของนั่นสะสมเอาไว้ย่อมต้องมีค่าอย่างมาก” เฉินเกอสรุปบทเรียนในใจ “ถ้าฉันมีโอกาสเข้าไปในตึกหลังอื่น ตราบใดที่มีอะไรที่น่าศึกษา ฉันก็จะเอามันไปด้วย”
ที่ทางเข้า หญิงไร้หัวยืนอยู่กลางประตูมีอ่างใบหนึ่งครอบเอาไว้บนไหล่ หัวในอ้อมแขนเธอบิดเบี้ยวอย่างโกรธแค้น ดวงตาแดงก่ำนั้นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดมากมายไม่จบสิ้น
ไม่ถึงวินาที หลอดเลือดที่มากกว่าก่อนหน้าเป็นสิบเท่าก็พุ่งออกมาจากคอของเธอ พวกมันเจาะผ่านวัตถุทุกชิ้นรอบตัวเธอ ทั้งที่มีชีวิตที่และที่ตายไปแล้ว! มันใช้เวลาเพียงไม่นานหลอดเลือดก็ปกคลุมไปครึ่งหนึ่งของโรงแรม!
มันเร็วเกินไป เพียงแค่กะพริบตา เจ้าของร่างอ้วนและพ่อครัวก็ไร้สัญญาณชีวิตไปแล้ว
ฉันปล่อยให้เธอรู้ว่าฉันแอบอยู่ที่นี่ไม่ได้ ถ้าฉันติดอยู่ในห้องครัวก็จบกันพอดี!
เฉินเกอดึงประตูตู้เย็นเปิดออก ตู้เย็นนั้นเชื่อมอยู่กับผนังด้านหลัง และกรามที่อ้ากว้างอยู่ก็เผยตัวอยู่ตรงหน้าเฉินเกอ
เพราะไม่มีเวลาดูมันใกล้ ๆ เฉินเกอก้าวถอยไปสองก้าวแล้วโยนฟันที่ในกระเป๋าพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปในปากที่เปิดอยู่ หลังจากนั้น เฉินเกอก็ถอยออกมาจากห้องครัว
ความเกรี้ยวกราดของหญิงไร้หัวที่ทางเข้ายังพวยพุ่ง เมื่อสายตาของเธอจับมาที่เฉินเกอ เธอก็กรีดร้องอีกครั้ง ศัตรูของเธอยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เธอทำลายกฎของเมืองหลี่ว่านและก้าวเท้าเข้ามาในโรงแรมเต็มตัว
ถูกวิญญาณสีเลือดตนหนึ่งจับจ้องเป็นเป้าหมายไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี เฉินเกอวิ่งพรวดไปยังห้องที่หนึ่ง เขาเพิ่งออกจากห้องครัวตอนที่เขาได้ยินเสียงลมหายใจหนัก ๆ ดังมาจากด้านหลังเขา หันกลับไปมองก็พบว่ากำแพงห้องครัวนั้นเต้นตุบไปด้วยหลอดเลือดมากมาย ผนังที่ติดอยู่กับตู้เย็นเริ่มถล่มลงไป ปิศาจสีเลือดน่าเกลียดในที่สุดก็ปรากฏตัว