My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม - ตอนที่ 679
“เสี่ยวปู้ เธอเปิดประตูตอนนี้ได้ไหม?” นอกจากสองแขนของเธอแล้ว เสี่ยวปู้เจอชิ้นส่วนร่างกายส่วนใหญ่แล้ว เธอยืนอยู่หน้าประตู และความทรงจำเลวร้ายมากมายก็ผุดขึ้นในใจเธอ หมอกเลือดรอบเมืองหลี่ว่านขยับ และมันก็พุ่งเข้าไปที่ชั้นใต้ดิน วัตถุที่คล้ายอวัยวะภายในคลานออกมาจากพื้นสีแดงเลือดและแหย่ตัวเองเข้าไปในประตูที่เปิดอยู่ครึ่ง ๆ สิบวินาทีให้หลัง ประตูที่เก่าและพังก็ดูเหมือนจะฟื้นฟูขึ้นมาด้วยตัวมันเอง และมีเพียงแค่มุมสองด้านที่ยังว่างเปล่า
“เตรียมพร้อมนะ พวกเรามีเวลาแค่นาทีเดียว ถ้าพวกเราหนีออกไปไม่ได้ อย่างนั้นพวกเราก็ต้องรออีกวันแล้ว” หมอกหนาหายไปเมื่อมันสัมผัสกับประตู แต่มุมที่หายไปทั้งสองก็ถูกซ่อมแซมด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หมอกเลือดเปลี่ยนไปเป็นหลอดเลือด และเหมือนกับเข็มและด้าย มันเข้าไปซ่อมเสริมแทนส่วนที่หายไป
เมื่อมุมทั้งสองที่หายไปได้รับการซ่อมแซม ประตูทั้งบานก็เปลี่ยนเป็นสีแดง และมันก็เปิดออกช้า ๆ เห็นได้ชัดเจนว่าประตูที่หลุดออกจากการควบคุมนั้นเป็นภาระหนักแก่เสี่ยวปู้จริง ๆ ดังนั้นเฉินเกอและคนที่เหลือจึงตั้งใจตั้งสมาธิให้มากขึ้น
ประตูสีเลือดนั้นเชื่อมอยู่กับพื้น และหลอดเลือดที่บนประตูก็ดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา เสียงประหลาดดังมาจากตึกรอบ ๆ พวกเขา และด้วยสภาพนี้ ประตูก็เปิดออกเต็มที่
“เร็ว!” ชายขี้เมาเป็นคนแรกที่ออกไป แบกหลี่เจิ้งเอาไว้บนหลัง จากนั้นก็เป็นหมอ ฟ่านฉง และมือกรรไกร เฉินเกอที่แบกกระเป๋าสองใบนั้นรั้งท้าย ตอนที่เขาจะออกไป เขาก็หันมามองเสี่ยวปู้ “ถ้าเธอเจออะไรที่จัดการเองไม่ได้ จำไว้ว่าไปหาผมนะ ผมอยู่ที่สวนสนุกนิวเซนจูรี่ จิ่วเจียงตะวันตก”
ก้าวเท้าออกจากประตูไปนั้นราวกับตกลงไปในทะเลลึก มีความรู้สึกบิดเบี้ยวจากการไร้แรงโน้มถ่วงชั่วคราว และดวงตาก็ต้องการเวลาหลายนาทีในการปรับรับภาพใหม่ ตอนที่เฉินเกอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ‘ประตู’ ที่ด้านหลังเขาก็ปิดไปแล้ว และทั้งกลุ่มก็เบียดกันอยู่ในชั้นใต้ดินร้าง
“เฮ้! ตื่น!” หนีออกมาจากโลกแห่งฝันร้ายแล้วทั้งกลุ่มก็รู้สึกเหมือนได้รับชีวิตใหม่ สำหรับคนทั่วไป นี่ช่างเป็นค่ำคืนอัน ‘ตื่นเต้น’
“พวกคุณจะไม่บอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้เห็นที่อีกด้านของประตู และพวกคุณทุกคนก็จำได้ว่าต้องตอบคำถามตำรวจยังไงใช่ไหม?”
“ใช่ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น”
พวกเขาคลานออกจากห้องใต้ดินของเจี่ยงหลงและไปที่ห้องน้ำ กระจกที่เฉินเกอทำแตกเมื่อครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่นั้นยังไม่ได้ซ่อม ฝ่ายจัดการของเขตที่พักอาศัยนั้นแค่ติดแผ่นไม้เอาไว้บนผนังเท่านั้น
“ผมจะไปที่สถานีตำรวจแล้ว พวกคุณควรกลับบ้าน ถ้าทุกอย่างสำเร็จด้วยดี พวกเราค่อยพบกันพรุ่งนี้ตอนบ่ายที่ทางเข้าบ้านผีสิงที่สวนสนุกนิวเซนจูรี่” เฉินเกอรับหลี่เจิ้งมาจากชายขี้เมา เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้นี้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และตอนนี้เขาก็กำลังลำบาก– เฉินเกอจะไม่ทิ้งเขาเอาไว้ข้างหลัง
“รอเดี๋ยวก่อน” ฟ่านฉงพูดอย่างเกรงใจ “บอสเฉิน ผมไปกับคุณด้วยได้ไหม? หนึ่ง ผมเป็นห่วงพี่ชายผม และสอง ผมไม่กล้ากลับบ้านจริง ๆ ตอนนี้ ถ้าฆาตกรนั่นยังรอผมอยู่ที่บ้านหรือมีอะไรคลานออกมาจากใต้เตียงอีกล่ะ?”
เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้นั้นทิ้งรอยแผลเป็นลึกเอาไว้กับฟ่านฉง เขาน่าจะคิดซ้ำสองก่อนที่จะเล่นเกมอะไรแล้วตอนนี้
“ได้ อย่างนั้นคุณก็ตามผมไปก่อนแล้วกัน ถ้าคุณยังหางานไม่ได้ งั้นก็มาช่วยผมที่บ้านผีสิง” เขาเคยทำงานกับฟ่านฉงมาก่อน เจ้าอ้วนคนนี้นั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ว่าเขามีจิตใจที่ดี หลังจากค่ำคืนยาวนาน ฝนที่ตกหนักก็หยุดแล้ว แต่ว่าเมฆดำยังคงลอยอยู่บนฟ้า และสายฟ้าก็ยังวาบผ่านลงมาอยู่บ้าง
“พวกเราสามารถใช้โทรศัพท์ได้แล้วตอนนี้ ตอนนี้เป็นเวลาตีห้าครึ่ง และพวกเราก็ต้องไปเจอกันตอนเที่ยง ทางที่ดีให้หาเวลาพักผ่อนเสียตอนนี้” เฉินเกอพูดและเดินลึกเข้าไปในเมืองหลี่ว่านพร้อมหลี่เจิ้งบนหลัง
“บอสเฉิน ทำไมคุณถึงจะกลับเข้าไปในเมือง? มีอะไรให้พวกเราช่วยไหม?” มือกรรไกรนั้นดูกระตือรือร้น เขาเหมือนจะเห็นร่องรอยของพี่ใหญ่ของเขาในตัวเฉินเกอ และนั่นก็คือความจริงใจที่หาได้ยากในทุกวันนี้
“ผมต้องไปตรวจดูเสียหน่อยว่ารถเมล์ยังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า มันยากที่จะหาแท็กซี่ที่ในเมืองหลี่ว่าน ผมรู้สึกว่ามันจะดีที่สุดสำหรับพวกเราที่จะขับรถเมล์ออกไป” เฉินเกอพูดง่าย ๆ เหมือนนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน
“คุณต้องการขับรถเมล์ผีสิงไปด้วยงั้นเหรอ?” นี่ก็มีเหตุผลในระดับหนึ่ง แต่มีบางอย่างดูไม่ถูกต้อง
“ไม่ใช้มันก็นับว่าเสียเปล่า เงานั่นใช้มันล่อลวงพวกเรา แต่ตอนนี้ที่เงานั่นตายแล้ว พวกเราก็ควรจะได้สืบทอดสิ่งของของมัน” เฉินเกอพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “สิ่งของน่ะไม่มีผิดถูกหรอก มันขึ้นกับใครเป็นคนใช้มัน ตราบใดที่คนใช้มีจิตใจที่ดี ทุกอย่างย่อมไม่เป็นไร”
“แต่… พวกเราจะไม่ถูกตำรวจเรียกตัวไว้เหรอถ้าเราขับรถเมล์ไปตามถนน?” หมอถามคำถามที่ดูมีเหตุผล
“นั่นทำให้พวกเราต้องรีบลงมือก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น” ตอนที่พวกเขาพูด เฉินเกอก็ไปถึงที่ตรงที่รถขนศพเคยจอดเมื่อครั้งสุดท้าย แต่เขาก็ต้องประหลาดใจ รถขนศพหายไปแล้ว
นี่เป็นเพราะว่าฉันขับมันเข้าไปในโลกที่ด้านหลังประตู? รถขนศพถูกทิ้งเอาไว้ที่ด้านหลังประตู? เฉินเกอไม่เข้าใจ ในใจเขา อิทธิพลของประตูสีเลือดนั้นมีผลกับแค่มนุษย์และผี มันไม่ควรมีผลกับสิ่งที่ไม่มีชีวิต
เกิดอะไรขึ้นกับรถขนศพหรือเปล่า? หรือว่าความเข้าใจโลกที่ด้านหลังประตูของฉันนั้นยังไม่เพียงพอ? เฉินเกอตัดสินใจมาเอารถขนศพกลับตอนที่ประตูเปิดครั้งถัดไป
เห็นรถขนศพหายไป ทั้งชายขี้เมาและหมอก็ดูโล่งใจ อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็ไม่อยากต้องขึ้นรถผีสิงกลับบ้าน
พวกเขาเดินไปตามถนนอยู่นานมากก่อนที่จะเจอแท็กซี่ หลังจากคนขับหยุดรถ ในที่สุดเขาก็พบว่าคนกลุ่มนี้แบกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หมดสติมาด้วย และวิญญาณของเขาก็แทบจะหลุดออกจากร่างเพราะความกลัว
“คุณครับ พวกเรามีกันหลายคน ถ้าพวกเราเบียดกันไปที่ด้านหลังคุณจะรังเกียจไหม?”
“ไม่เลย ไม่เลย พวกคุณจะไปที่ไหน?”
“ไปส่งพวกเขาที่บ้านก่อน แล้วส่งผมที่สถานีตำรวจของเมือง”
“ได้ ได้”
บางทีอาจจะเป็นเพราะความกลัวหรืออย่างอื่น แต่ว่าคนขับขับรถเร็วมาก หลังจากส่งผู้โดยสารคนอื่น ๆ กลับบ้านเรียบร้อยมันก็เช้าแล้ว ฟ่านฉงที่นั่งอยู่ด้านหน้าง่วงงุน หลี่เจิ้งยังหมดสติ และนอกจากคนขับแล้ว เฉินเกอก็เป็นคนเดียวที่ยังตื่นอยู่ เขามองภาพด้านนอกหน้าต่างที่วิ่งผ่านไปรวดเร็วแล้วก็ดึงโทรศัพท์เครื่องดำออกมา เขาแตะเปิดข้อความ
“ขอแสดงความยินดี ผู้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าวิญญาณ ที่ทำภารกิจระดับ 3.5 ดาว– เมืองหลี่ว่าน สำเร็จ!
“อัตราความสำเร็จของภารกิจคือเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์! ได้รับรางวัลพิเศษ– พินัยกรรมของเทศมนตรี
“เมืองหลี่ว่านเป็นเมืองที่อยู่ในกำมือของปิศาจ มีเพียงผู้เดียวที่เหี้ยมโหดยิ่งกว่าฆาตกรเลือดเย็นและน่ากลัวยิ่งกว่าวิญญาณที่สิ้นหวัง– ผู้ที่เลวทรามที่สุด โหดร้ายที่สุด– ที่จะได้รับรางวัลนี้!
“พินัยกรรมของเทศมนตรี: ขอแสดงความยินดีที่ได้กลายมาเป็นเจ้าของคนใหม่ของเมืองนี้ หลังจากบ้านผีสิงผ่านระดับวงกตสยองขวัญ และเข้าถึงระดับใหม่ คุณจะได้รับโอกาสในการเปิดสาขาที่มีเมืองหลี่ว่านเป็นฉาก! รายละเอียดตามจริงจะได้รับหลังจากเปิดให้มีการปลดล็อกอย่างเป็นทางการ!”
เฉินเกออึ้งไปเมื่อเห็นข้อความ ฉันขุดลึกลงไปใต้เมืองหลี่ว่านสามฟุต* แต่อัตราความสำเร็จก็ยังไม่ใช่หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์? แต่ว่า รางวัลนี้ก็น่าสนใจมากทีเดียว
หลังจากการขยายอีกสองครั้ง บ้านผีสิงก็จะถึงระดับใหม่ และก็เป็นตอนนั้นที่เฉินเกอจะสามารถใช้พินัยกรรมของเทศมนตรีเปิดสาขาที่ในต่างเมือง
“นี่เป็นสิ่งที่คล้ายกับตาข่ายนิรภัย มีอะไรมารองรับไว้ย่อมดีกว่า แต่ว่าตอนนี้ฉันควรจะตั้งใจกับบ้านผีสิงที่สวนสนุกนิวเซนจูรี่ หลังจากฉันเจอพ่อกับแม่และทุกอย่างได้รับการจัดการเรียบร้อย แผนการอื่นค่อยพิจารณา”
เฉินเกอเลื่อนหน้าจอลงและแตะเปิดข้อความอื่น
TL note: *ขุดลึกลงไปสามฟุต เป็นสำนวนที่นิยมใช้กัน หมายถึง ตามล่าหาความจริงจนถึงที่สุด