My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม - ตอนที่ 695
ดวงตาทั้งคู่ของชิโนซากิส่องประกายเหมือนเพิ่งเจอสมบัติล้ำค่า “ผลงานชิ้นนี้นั้นเหนือกว่าขีดจำกัดในวงการตอนนี้ และมันยังมีสไตล์เป็นของตัวเอง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันไขว่คว้าหาอยู่เหรอ?”
เขาศึกษาต้นฉบับที่บนโต๊ะ และแค่พลิกดูก็ทำให้ตัวเขาสั่น ตัวละครเรียบง่าย แต่ราวกับมีชีวิตขึ้นมาในมือของศิลปิน เขาดูเหมือนจะสามารถเขียนความซับซ้อนของใจมนุษย์ออกมาจากปลายปากกาได้ ไม่มีฉากนองเลือดและไม่มีสัตว์ประหลาดน่าคลื่นไส้ เขาก็แค่วาดมนุษย์ในสายตาของตนเอง และมันก็ทำให้รู้สึกตัวชาจากความกลัว
“นี่มันตรงกันข้ามกับสไตล์ปัจจุบันโดยสิ้นเชิง มันเหมือนศิลปินนั้นใช้มุมมองของผีวิเคราะห์สถานการณ์ของมนุษย์” ชิโนซากินั้นอยู่ในวงการมาเกินทศวรรษแล้ว และเขาก็เป็นที่ยอมรับในด้านความอาวุโส ช่วงไม่กี่ปีมานี้ เขาได้พยายามเปลี่ยนสไตล์ของตัวเอง เขาไปหาศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคน แต่ไม่มีใครสร้างผลกระทบต่อเขาได้มากเท่ากับผลงานที่อยู่ตรงหน้าเขานี่
“ฉันต้องการเจอศิลปินคนนี้! ฉันต้องได้พบนักวาดการ์ตูนคนนี้ที่อาศัยอยู่ในบ้านผีสิงนี่!”
ชิโนซากินั้นเป็นมืออาชีพโดยแท้จริง เขาพบคุณค่าของต้นฉบับนี้ในการมองแค่แวบเดียว เขาอยากจะเรียนรู้ และมันก็ไม่ใช่ว่าความคิดที่จะอ้างเอาต้นฉบับนี้มาเป็นของตัวเองจะไม่ผ่านเข้ามาในใจเขา แต่ว่า เขาก็รีบสลัดความคิดชั่วร้ายนั้นทิ้งไป นักวาดการ์ตูนคนนี้ผู้อาศัยอยู่ในบ้านผีสิงนี่อย่างมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างผลงานนั้นควรได้รับความเคารพ นี่เป็นศิลปินที่แท้จริงอีกคนหนึ่ง
ความกลัวและความตื่นเต้นเอ่อเต็มในใจเขา และกระทั่งชิโนซากิก็ไม่รู้ว่าเขากำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขาพลิกดูต้นฉบับทั้งหมดและให้ความเห็นอย่างมืออาชีพ และเขาก็ชื่นชมมันมากทีเดียว
“โชคไม่ดี ที่มีต้นฉบับอยู่เพียงแค่นี้ ฉันอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้” ชิโนซากิกลายเป็นแฟนคลับ เขาพึมพำกับตัวเอง ตอนที่เขาพูดจบ ลิ้นชักชั้นล่างสุดของโต๊ะก็เลื่อนเปิดออกเล็กน้อย สีของลิ้นชักนั้นต่างไปจากโต๊ะที่มันสอดอยู่ อันที่จริง หากมองใกล้ ๆ แล้วชิโนซากิก็พบว่ามันมีรูปร่างต่างไปจากลิ้นชักอื่น มันเหมือนกับว่ามันถูกยัดเยียดให้อยู่ที่นี่
“ลิ้นชักประหลาดจัง” มันเหมือนมีบางอย่างชักนำมือของชิโนซากิให้เอื้อมไปดึงลิ้นชักเปิดออก ด้านในนั้นมีต้นฉบับและการ์ตูนเล่มที่วาดด้วยมืออยู่กองหนึ่ง
“เยอะมาก! เขาทำงานอยู่ในนี้นานเท่าไหร่แล้ว?” ชิโนซากินั่งลงบนพื้น และยิ่งเขาอ่าน เขาก็ยิ่งงุนงง “แต่ละชิ้นล้วนมีคุณภาพสูงที่สุด คนวาดต้องพิจารณาผลงานตัวเองหนักแค่ไหนถึงได้บรรลุมาตรฐานอย่างนี้? แต่ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเรื่องอาจารย์ผู้นี้ในวงการมาก่อนเลย? ศิลปินคนนี้เข้าวงการตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เขาเริ่มความเร็วในการเปิดดูต้นฉบับ เขาปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเอาต้นฉบับทั้งหมดนี้ไปกับตัวเองแล้วค่อย ๆ ศึกษามันช้า ๆ ที่บ้าน
“คุณคะ ตอนนี้ด้านนอกเงียบแล้ว พวกเราจะออกไปดูหน่อยไหมคะ?” เสี่ยวเซี่ยที่ดีขึ้นแล้วพบว่าชิโนซากินั้นไม่สนใจโลกภายนอกเลยแค่ไหนตอนที่เธอฟื้นขึ้นมา
“รอก่อน ไม่ต้องรีบ พอหมดเวลา บอสก็คงมาหาพวกเราเอง สำนวนนั่นว่าอะไรนะ? อ่า ใช่ ซุ่มรอ!”
ชิโนซากินกวาดตามองหลายหน้าอย่างรวดเร็ว เขาต้องการรู้ว่าในต้นฉบับนั้นเขียนเอาไว้กี่เรื่อง “ตอนที่พวกเราออกไปจากที่นี่ ฉันต้องการติดต่อกับบอสนั่น! ถ้าฉันไม่ได้เจอศิลปินคนนี้กับตัว ฉันก็ยินดีจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ตามที่เขาเรียกร้องเพื่อต้นฉบับทั้งหมดนี่!”
โดยไม่รู้ตัวเลย ชิโนซากิเอื้อมมือไปที่ก้นลิ้นชักและเขาก็หยิบหน้าสุดท้ายขึ้นมา กระดาษเป็นสีเหลือง เป็นสัญญาณบอกความเก่าของมัน แต่ว่า ลายเส้นบนนั้นช่างสดใหม่ เหมือนเพิ่งถูกวาดขึ้นมา!
“เขาทำอย่างนี้ได้ยังไงกัน?” ชิโนซากิมองหน้ากระดาษอย่างงุงงง เขาคือตัวละครที่เพิ่งถูกวาดเข้าไปในหน้ากระดาษนี้!
ตัวละครเหมือนจริงที่มีสไตล์การวาดอันประหลาดและมุมมองที่ศิลปินเลือกช่างน่าสงสัย มันเหมือนเขาซ่อนอยู่ในลิ้นชักขณะวาดหน้านี้ ชิโนซากิเหลือบมองเข้าไปในลิ้นชักที่เขาดึงเปิดออกโดยไม่รู้ตัว และตรงนั้นมีใบหน้าซีด ๆ กำลังมองเขาอยู่ด้วยดวงตาเป็นประกายอย่างคาดหวัง
“งั้น… นี่ก็คือ…” ดวงตาของเขากลอกขึ้นด้านบนและชิโนซากิก็หมดสติไปบนพื้น
เสี่ยวเซี่ยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ผละออกจากประตูและรีบร้อนมาที่ชิโนซากิ “คุณคะ ตื่นสิ! เกิดอะไรขึ้นกับคุณน่ะ?”
ตอนที่มีสองคน อย่างน้อยพวกเขาก็มีกันและกัน ตอนนี้เธอถูกทิ้งเอาไว้คนเดียว ความหวาดกลัวในใจเธอพุ่งขึ้นเป็นหลายเท่าอย่างไม่ยอมหดหาย ตอนที่กำลังจะหมดสติไปนั้น เสี่ยวเซี่ยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร เธอดึงโทรศัพท์ออกมาโทรหมายเลขฉุกเฉิน แต่ว่า ตอนที่เธอปลดล็อกหน้าจอ โทรศัพท์ของเธอก็ถูกมืออีกข้างคว้าเอาไว้
เธอหันไปและเห็นประตูห้องถูกเปิดออกครึ่ง ๆ และมีคนสามคนยืนอยู่ข้างหลังเธอ!
ผู้ชายที่ทางซ้ายนั้นมีใบหน้าขาวซีด ผู้ชายทางขวานั้นหน้าอกย้อมเป็นสีแดงและมือข้างหนึ่งของเขาถูกตัดออกไปเสมอข้อมือ เสี่ยวเซี่ยเคยเห็นผู้หญิงที่ตรงกลางมาก่อน– เธอก็คือผีที่หนีออกมาจากห้องน้ำก่อนหน้านี้
“ไม่ต้องกลัว พวกเรา…” ชายวัยกลางคนใบหน้าซีดขาวเริ่มพูด และเสี่ยวเซี่ยก็ฟุบไปกับพื้นที่ข้าง ๆ ชิโนซากิ สำหรับผู้เข้าชมที่เข้ามาที่บ้านผีสิงของเฉินเกอเป็นครั้งแรกนั้น ฉากระดับ 3.5 ดาวนั้นยากเกินไป
“ฉันไม่ได้คิดจะหลอกให้เธอกลัวเลยนะ” เหล่าโจวมองต้วนเยว่และไป๋ชิวหลินอย่างกระอักกระอ่วน ทั้งสองคนเองก็มีสีหน้าค่อนข้างจนปัญญาเหมือนกัน
“อันที่จริง มันก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเรา นี่เป็นความผิดของเอี๋ยนต้าเหนียนที่แสดงตัวออกมา และนั่นก็ทำให้ผู้ชายคนนั้นหมดสติไป” ไป๋ชิวหลินช่วยจัดท่าเสี่ยวเซี่ยกับชิโนซากิให้สบายมากขึ้น และความเฉยเมยที่เขาแสดงออกมาก็เป็นการบอกว่าเขาชินกับการทำเรื่องนี้แล้ว
“ฉันเห็นด้วยกับนาย ความรับผิดชอบหลักตกอยู่ที่ต้าเหนียนแล้ว” ต้วนเยว่พยักหน้า
ได้ยินทั้งสามคนคุยกัน เอี๋ยนต้าเหนียนก็คลานออกมาจากลิ้นชัก เขาต้องการแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอย่างไร ในที่สุดแล้วเขาก็คลานไปที่ตรงมุมพลางพึมพำ “มันยากมากที่จะเจอศิลปินที่เห็นคุณค่างานของฉัน และฉันก็เพิ่งทำให้เขากลัวจนหมดสติไป”
เห็นเอี๋ยนต้าเหนียนทำท่าโทษตัวเองแล้วไป๋ชิวหลิน เหล่าโจว และต้วนเยว่ก็ทำท่าหัวเราะให้กันเงียบ ๆ ทั้งสามคนเดินไปที่ข้าง ๆ เอี๋ยนต้าเหนียนและช่วยพยุงนักวาดการ์ตูนที่กำลังเศร้าขึ้นจากพื้น
“ต้าเหนียน ยินดีด้วยนะ ในที่สุดนายก็ได้คำชื่นชมจากมืออาชีพอย่างที่นายฝันหาแล้ว” เหล่าโจวดึงเอี๋ยนต้าเหนียนมากอดเบาๆ และเขาก็พูดอย่างจริงใจ
“ฉันรู้ว่าหลายปีที่ช่วยนายตรวจต้นฉบับจะไม่เสียเปล่า ฉันรู้ว่านายจะประสบความสำเร็จในที่สุด” ต้วนเยว่เขย่าไหล่เอี๋ยนต้าเหนียน
“แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าลืมพวกเราตอนที่นายร่ำรวยและมีชื่อเสียงขึ้นมา!” ไป๋ชิวหลินที่ปกติแล้วพูดน้อยและวางตัวห่างเหินมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ตอนนี้
พวกเขาทั้งสี่นั้นอยู่ในห้องเดียวกัน และยังผ่านช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตมาด้วยกัน พวกเขาไม่ได้สาปแช่งโลกนี้หรือว่าถูกความเกลียดชังครอบงำหลังตายลง กลับกัน พวกเขาเลือกที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนกันและกัน
เอี๋ยนต้าเหนียนนั้นพูดไม่เก่ง เขาไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกของตัวเองอย่างไร และเขาก็ทำได้แค่พยักหน้ารัว ๆ
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก พวกเราเข้าใจ”
“ต้าเหนียน ทางที่ดีนายกลับเข้าไปในลิ้นชักของนาย ทิ้งสองคนนี้ไว้ให้พวกเราจัดการ
“พวกเราต้องพาพวกเขาไปห้องเก็บศพใต้ดินเดี๋ยวนี้ ถ้าพวกเราช้าเกินไปอาจจะทำให้พวกเขาแย่ได้”
หลังจากเอี๋ยนต้าเหนียนกลับเข้าไปในหนังสือการ์ตูน และทั้งสามคนก็มองหน้ากัน
“ต้าเหนียนไม่จำเป็นต้องให้พวกเราสามคนปกป้องแล้ว”
“ใช่ ฉันอยากรู้ว่าพวกเราสามคนจะหายตัวไปไหมเมื่อความปรารถนาของต้าเหนียนได้รับการเติมเต็ม อย่างไรเสีย พวกเราก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว” เหล่าโจวคุยกับไป๋ชิวหลิน
“จะกังวลเรื่องนั้นอะไรตอนนี้? มาช่วยฉันก่อน!” ต้วนเยว่ลากชิโนซากิออกมาจากห้อง “ฉันแอบได้ยินเด็กสาวคนนี้บอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นนักวาดการ์ตูนเฮ็นไต*ชื่อดัง เขาดูเหมือนจะได้รับความนับถือมากในด้านนี้ พวกนายสองคนรู้ไหมว่าเฮ็นไตคืออะไร?”
TL note: เฮ็นไต* (ญี่ปุ่น 変態 หรือ へんたい โรมาจิ: hentai) เป็นคำที่หมายถึง “การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย” หรือ “ความผิดปกติ” หรืออาจจะแปลว่า “แปลงร่าง” ได้ด้วย แต่ว่า ปกติใช้ในความหมายไม่ค่อยดี หมายถึงสื่อการ์ตูนและเกมที่มีลักษณะลามกอนาจาร มีฉาก xxx ในรูปแบบต่าง ๆ แต่ถ้าในญี่ปุ่นเอง จะเรียกการ์ตูนและเกมแนวนี้ว่า 18Kin (Erotic anime)