Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 139 คุยโว
“ไม่มีหรอกครับ!”
บิชอปเรนัลด์ปฏิเสธในทันทีพร้อมกับส่ายหน้าและถอยออกห่างจากเซียวเฟิง จากนั้นเขาถึงอธิบาย “ท่านจะสามารถเรียนสกิลระดับสูงกว่านี้ได้ก็ต่อเมื่อเลเวลของท่านถึงที่กำหนดแล้วเท่านั้น”
“ขี้เหนียว”
เซียวเฟิงเบ้ปากก่อนจะหันมองเวลา เขารีบหันกลับไปปัดเป่าเส้นทางต่ออย่างไม่รอช้า
ตอนนี้เป็นเวลา 10 โมงเข้าไปแล้ว ใกล้เวลาที่กิลด์มิดซัมเมอร์จะเริ่มสงครามป้องกันแคมป์เข้ามาทุกที ดังนั้นเขาต้องรีบก่อนที่จะถึงเวลา
อย่างไรก็ตาม เซียวเฟิงก็ยังคิดว่านี่จะต้องเป็นเรื่องยากสำหรับโรสแน่ ๆ ที่ต้องรีบจัดตั้งแคมป์กิลด์มิดซัมเมอร์เช่นนี้ นั่นเพราะหลาย ๆ กิลด์ขนาดใหญ่เองก็อยากจะตั้งกิลด์ขึ้นเป็นกิลด์แรกในเขตฮัวเซียกันหมด
เพราะมิดซัมเมอร์โฉบเอาโทเค่นกิลด์ชิ้นแรกไปได้ก่อนกิลด์อื่นไม่ว่าจะเป็นไดนาสตี้หรือกลอรี่ก็ตาม ดังนั้นเธอต้องแบกรับความกดดันไว้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ในตอนนั้น พื้นที่โล่งด้านนอกเมืองเทียนหลงก็เต็มไปด้วยเสียงคุยกันจอแจของผู้เล่นแล้ว
ที่แห่งนี้มีเมืองขนาดเล็ก ๆ ถูกสร้างขึ้น อาคารเกือบทุกหลังมีสภาพเป็นบังกะโลถูกห้อมล้อมด้วยรั้วขนาดใหญ่ราวกับภายในนั้นยังมีเมืองขนาดเล็กซ่อนอยู่อีก เห็นได้ชัดว่าโรสนั้นมีความทะเยอทะยานไม่น้อยเลยทีเดียว
ระบบได้ทำการเพิ่มเลเวลกิลด์ของมิดซัมเมอร์ให้เพื่อเป็นรางวัล ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงเป็นกิลด์เลเวล 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันที่จริงหากยังเป็นกิลด์เลเวล 1 อยู่ล่ะก็…พวกเขาจะสามารถสร้างได้แค่รั้วไม้ล้อมรอบแคมป์ได้เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้กิลด์เลเวล 2 ยังสามารถเพิ่มสมาชิกกิลด์ได้มากถึง 2 ล้านคน ในขณะที่กิลด์เลเวล 1 นั้นมีสมาชิกได้เพียง 1 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งในตอนนี้มิดซัมเมอร์ก็เลิกรับสมัครสมาชิกกิลด์ใหม่ไปแล้ว
ภายในแคมป์เมืองขนาดเล็กที่ถูกสร้างใหม่นี้หนาแน่นไปด้วยผู้เล่นจำนวนมาก เซียวเฟิงเชื่อว่าภายในนั้นต้องมีผู้เล่นอยู่กว่า 2 ล้านคนแน่ๆ !
นี่เป็นแผนการของโรส ที่ให้เหล่าผู้เล่นใหม่เข้าร่วมกิลด์ในขณะที่สมาชิกหลักซึ่งประกอบไปด้วย พนักงานภายในกรุ๊ป ค่อยมาเข้ากิลด์ทีหลังเมื่อกิลด์ถึงเลเวล 3 เพราะตอนนั้นกิลด์จะสามารถรับสมาชิกได้ถึง 4 ล้านคนเลยทีเดียว
ด้วยวิธีนี้ทำให้พวกเขามีสมาชิกใหม่ 2 ล้านคน และสมาชิกหลักอีกร่วมแสนคน โดยที่แสนกว่าคนนี้ถือเป็นกำลังหลักให้กับการจัดการเรื่องภายในกิลด์ต่าง ๆ นา ๆ
ผู้เล่นที่รับหน้าที่ป้องกันส่วนใจกลางเมืองจะเป็นผู้ที่มีชื่อกิลด์มิดซัมเมอร์อยู่ที่หัวทุกคน ดังนั้นหากมีผู้เล่นที่ไม่ใช่มิดซัมเมอร์ปะปนเข้ามา จะสามารถสังเกตได้อย่างง่ายดาย…
ถึงแม้ว่าที่ราบบริเวณนี้จะเคยถูกใช้เป็นสถานที่เก็บเลเวลชั้นยอดมาก่อนก็ตาม แต่ปัจจุบันนี้มันถูกแปรเปลี่ยนเป็นจุดเทเลพอร์ตแล้วตั้งแต่ที่เมืองถูกสร้างขึ้นที่นี่ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้นับได้ว่าตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดีมีแหล่งทรัพยากรล้อมรอบ
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียมันก็ยังมีอยู่ตรงที่ว่า ที่นี่ไม่มีแนวป้องกันโดยธรรมชาติ นั่นหมายถึงพวกมอนสเตอร์จะสามารถมาจากทิศทางไหนก็ได้เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้นแล้ว มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาในการที่จะป้องกันไม่ให้มอนสเตอร์บุกเข้ามาได้เช่นนี้
นับว่าโรสนั้นใจกล้ามาก กิลด์ส่วนใหญ่จะเลือกตั้งแคมป์กันข้าง ๆ ภูเขา 1 ถึง 2 ลูก หรือไม่ก็ที่ผาเลยเพราะมันจะทำให้พวกเขาสามารถป้องกันแคมป์ได้ดีกว่า กลับกันกับโรสที่เลือกจะตั้งบนพื้นที่โล่งปราศจากแนวป้องกันตามธรรมชาติเช่นนี้
มีผู้เล่นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกแคมป์กิลด์ พวกเขาทั้งหมดต่างกำลังเดินชมไปทั่วบริเวณอาคารที่เพิ่งสร้างใหม่เหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ากิลด์ของพวกเขาก่อตั้งตนขึ้นมาในขั้นต้นได้แล้ว
ภายในเมืองมีอาคารอยู่ไม่ละลานตานักเพราะโรสมัวแต่ยุ่งอยู่กับการวางแผนรับมือกับสงครามป้องกันแคมป์อยู่ ดังนั้นจึงมีแค่ที่ทำการบางอย่างถูกจัดตั้งขึ้นเท่านั้น อย่างเช่น โถงกลาง ร้านขายยากับคลังเก็บอาวุธอีกนิดหน่อย
โรสกำลังยืนอยู่บนแท่นเวทีที่อยู่บริเวณทางเข้าแคมป์และสาดส่องมองลงไปยังพื้นที่ราบกว้างตรงหน้า เธอเพ่งมองไปยังเหล่าผู้เล่นที่อยู่ไกล ๆ แล้วขมวดคิ้ว
เธอรู้ดีว่าการที่เธอคิดและกระทำการใหญ่อันรวดเร็วเช่นนี้มันจะต้องสร้างความเป็นอริให้กับกิลด์ใหญ่อื่น ๆ อย่างแน่นอน โทเค่นกิลด์ชิ้นแรกสุดของเกมที่อยู่ในมือเธอนี้ จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้เล่นมากมายเข้ามาหาเธอและสร้างปัญหา
สงครามป้องกันแคมป์จะยิงยาวไปถึง 6 ชั่วโมง และทุก ๆ 10 นาทีจะมีมอนสเตอร์ถูกปล่อยออกมาเรื่อย ๆ นั่นหมายถึงมันมีมอนสเตอร์ทั้งหมด 36 เวฟ เป็นโอกาสทองของเหล่าผู้เล่นนอกกิลด์ที่อยากจะทำลายพวกเธอให้สิ้นซาก หากพวกเขาคิดจะแฝงเร้นการโจมตีเข้ามาพร้อมกับเวฟของมอนสเตอร์เหล่านี้
“ท่านหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์ อย่าได้กังวลไปเลย พวกมันนั้นโง่และอ่อนแอเกินกว่าจะทำร้ายเธอได้ด้วยซ้ำ”
ชายผู้ยืนอยู่บนเวทีเดียวกับโรสเอ่ยขึ้น เขาเป็นชายเพียงคนเดียวภายในแคมป์นี้ที่ไม่ใช่คนของกิลด์มิดซัมเมอร์ อย่างไรก็ตาม ตัวตนของเขาก็มีสิทธิ์เพียงพอที่จะยืนข้าง ๆ โรสเช่นนี้ได้
เขาคือบราเธอร์ไนน์ออฟกลอรี่ ชายผู้ที่ร่ำรวยที่สุดไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์ไหน ๆ รวมถึงเป็นหัวหน้ากิลด์ของกลอรี่ที่ถือเป็นกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในฟากใต้อีกด้วย
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”
โรสบ่นพึมพำ เธอเชื่อว่ากิลด์อื่น ๆ จะไม่กล้าเข้าโจมตีเธอในช่วงนี้แน่หากแสดงให้เห็นว่ามีพันธมิตร โดยเฉพาะพันธมิตรที่เป็นกิลด์ใหญ่ด้วยกัน จากนั้นก็ค่อยคุยกันเรื่องผลประโยชน์ในภายหลัง ยังไงเสียเรื่องพวกนี้เผชิญหน้ากันก็มีแต่จะเสียกับเสียอยู่แล้ว
แต่โชคดูเหมือนจะไม่เข้าข้าง เพราะดูยังไง ๆ คนที่คิดจะโจมตีเธอกลับไม่ได้คิดเหมือนที่เธอคิด โดยเฉพาะการที่คนเหล่านี้รวมตัวกันขึ้นมาจากหลาย ๆ กิลด์ซึ่งยากที่จะตามตัวในภายหลังเช่นนี้
เธอไม่มั่นใจว่าคนเหล่านั้นตั้งใจจะสร้างปัญหาหรือเปิดฉากการโจมตีใส่เข้ามา แต่ไม่ว่าจะแบบไหน ท้ายสุดแล้วฝ่ายที่เสียหายที่สุดก็น่าจะเป็นเธอเนี่ยแหละ
“ไม่ต้องกังวล ถ้าเมื่อไหร่พวกนั้นเปิดฉากก่อน ผมจะเข้าไปรับหน้าเอง ผมเชื่อว่าพวกนั้นจะต้องยอมหยุดเพราะเห็นแก่ผมแน่ ๆ ”
ไนน์เป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาและมั่นใจในตนเองสูง แน่นอนว่าเขาทั้งรวยและมีอิทธิพลมากอีกด้วย ไม่มีกิลด์ไหนในฟากใต้ที่กล้าหาเรื่องกับกลอรี่ เพราะงั้นแล้วแม้แต่กิลด์ขนาดใหญ่เองก็ไม่อยากจะมีเรื่องกับเขาไปด้วย
“แน่นอนว่าเธอเองก็ต้องเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของผมนะ” ไนน์พูดเสริมพร้อมกับยิ้มกว้าง
ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของโรสที่กำลังจ้องมองไปยังพื้นที่โล่งด้านหน้าอยู่ สิ่งที่เขาขอไว้นั้นค่อนข้างจะมากเกินไปและไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ไนน์ยื่นข้อแลกเปลี่ยนกับโรสไว้ว่าหากเขาลงมือช่วยเธอในครั้งนี้ เธอจะต้องตกลงเป็นแฟนกับเขา และแน่นอนว่าเธอไม่อยากจะยอมรับมันหรอกนะ…
เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบ ไนน์เองก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มอยู่เช่นนั้น อันที่จริงเขาไม่มีอะไรต้องพูดต่อแล้วต่างหาก ก่อนหน้านี้เขาได้ยินข้อมูลลับ ๆ มา ซึ่งข้อมูลนั้นบอกไว้ว่า คราวน์พริ้นซ์ผู้เป็นหัวหน้าของกิลด์ไดนาสตี้ ไม่พอใจกับการประมูลโทเค่นกิลด์ที่เพิ่งเกิดเป็นอย่างมาก และเขามั่นใจว่ามิดซัมเมอร์จะไม่สามารถป้องกันแคมป์ในสงครามครั้งนี้ได้อย่างแน่นอนหากไม่มีเขาคอยช่วยเหลือ
ดังนั้นแล้วไนน์ไม่จำเป็นต้องข่มขู่อะไรเธอเลย เพราะท้ายสุดแล้วเดี๋ยวโรสก็ต้องมาขอร้องให้เขาช่วยอยู่ดีหลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง
เขาละสายตาออกจากเรือนร่างอันงดงามของโรสและหันไปมองเมืองที่เพิ่งเกิดใหม่นี้แทน
ช่างเป็นสถานที่ที่น่าอภิรมณ์ใจอะไรเช่นนี้! ไม่เหมือนกับเกมออนไลน์เกมอื่นที่เขาเคยผ่านมาเลย ทุกอย่างมันดูสวยงามและสมจริงราวกับว่านี่ไม่ใช่โลกของเกมไปแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้ กิลด์กลอรี่ของเขาเองก็ต้องก้าวเข้าสู่จุดนี้เช่นกัน เขาจะต้องสร้างเมืองของตนให้งดงามและกลายมาเป็นผู้กุมบังเหียนบนโลกใบนี้ให้ได้ ไนน์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะที่กำลังคิดฟุ้งซ่านเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึงของตน จากนั้นเขาก็แอบส่งข้อความลับ ๆ ไปให้ผู้เล่นคนอื่น
“พี่เซียว พี่อยู่ไหนน่ะ? สงครามป้องกันแคมป์ของมิดซัมเมอร์กำลังจะเริ่มแล้วนะ!”
อีกฟากหนึ่ง เซียวเฟิงที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางหมอกแห่งสงครามภายในดินแดนแห่งความมืดก็ได้รับข้อความจากเฉียนโตวโตวพอดี
เฉียนโตวโตวรู้ว่าเซียวเฟิงจะต้องเข้ามาขัดขวางสงครามป้องกันแคมป์ของมิดซัมเมอร์แน่ ๆ จึงทำให้เธอและสองพี่น้องนิโคลัสต่างก็รีบมุ่งหน้ามายังพื้นที่ราบนี้เพื่อจับจองทำเลรับชมดี ๆ กันก่อนเลย ที่ที่พวกเธอเลือกนั้นเป็นหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง ที่ซึ่งหากมอนสเตอร์เกิดขึ้นมาแล้ว พวกมันจะวิ่งผ่านพวกเธอและตรงไปยังแคมป์ทันทีเนื่องจากมอนสเตอร์พวกนี้ถูกกำหนดให้เข้าโจมตีแคมป์กิลด์เป็นหลัก
นอกจากเฉียนโตวโตวกับสองพี่น้องนิโคลัสแล้ว บนหินก้อนนี้ก็ยังมีซางกวน อาโอเชินกับวอร์สปิริตจืออี้ยืนอยู่ด้วย ซึ่งที่จืออี้ขึ้นมาบนหินก้อนนี้ได้ก็เพราะความช่วยเหลือของซางกวน อาโอเชิน หากไร้ซึ่งเขาแล้ว เธอคงต้องไปหาจุดรับชมใหม่แน่ ๆ
อันที่จริงหากพูดถึงสถานที่รับชมล่ะก็ ละแวกนี้ก็มีมากมายเต็มไปหมดเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นยอดเขาที่มีเหล่าสวีและผู้เล่นคนอื่น ๆ ยืนอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะเตรียมสตีมอย่างแน่นอน
ผู้เล่นระดับสูงหลายคนจากกิลด์ใหญ่ ๆ เองก็มารับชมสงครามครั้งนี้ด้วย นี่ถือเป็นครั้งแรกของ ‘มิธ’ เลยที่จะได้เห็นการบุกจู่โจมของมอนสเตอร์เช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาต้องมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันเอาไว้เพื่อที่จะได้รู้ล่วงหน้าก่อนที่จะเจอมันด้วยตนเอง ในฐานะของผู้บัญชาการกลุ่มนักบวชของวอร์สปิริตฮอลล์ จืออี้จึงมาที่นี่ด้วยและมันก็ทำให้เธอได้พบกับเฉียนโตวโตวและซางกวน อาโอเชินอีกทีหนึ่ง
“สหาย ช่วยที ตรงนั้นมีที่ตั้งเยอะ ให้ฉันยืนดูด้วยเถอะนะ ได้หรือเปล่า?”
ถึงแม้ว่าบนหินก้อนใหญ่นี้จะมีพื้นที่อยู่มากมาย แต่ด้วยความที่มีเฉียนโตวโตวอยู่ด้วย มันเลยกลายเป็นว่าหากใครคิดจะขึ้นมายืนหรือนั่งบนนี้ ก็จำเป็นจะต้องขออนุญาตก่อนไปแล้ว เนื่องจากตัวเธอนั้นมีชื่อเสียงและมีอิทธิพลสุด ๆ เป็นผลเนื่องมาจากตำหนักขุมทรัพย์ที่ขยายสาขาอย่างไม่หยุดหย่อนไปกว่า 10 เมืองหลักในฟากใต้ และทุกสาขาก็ได้รับเสียงตอบรับกลับมาเป็นอย่างดีอีก นอกจากนี้ตัวเฉียนโตวโตวนั้นยังเป็น 1 ใน 10 อันดับเทพธิดาประจำเขตอีกด้วย เพราะงั้นแล้วเธอจึงถือว่าเป็นผู้เล่นที่เป็นที่รู้จักและมากด้วยอิทธิพลคนหนึ่งในเขตฮัวเซียเลยก็ว่าได้ ไม่มีใครกล้าข้ามหน้าข้ามตาเธอ ไม่เว้นแม้แต่การจะใช้พื้นที่รับชมสงครามร่วมกันก็ยังต้องขอก่อน
ทว่าทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น พวกเขาทั้งหมดก็หันไปมองยังเจ้าของเสียงผู้ที่มีชื่อเป็นตัวอักษรสีแดงอยู่บนหัว เขาคือหานเฟิงนั่นเอง
“ทำไมนายถึงยังมาที่นี่อีกน่ะ? ไปให้พ้น ๆ เลยไป! ฉันกำลังอารมณ์ดีนะ ถึงไม่อยากจะสู้ด้วยวันนี้น่ะ!”
นิโคลัส เจ๋าซือจ้องไปยังอีกฝ่าย เขาไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้นเพราะการที่เขามาอยู่ที่นี่ก็หวังจะได้ดูสิ่งที่เซียวเฟิงจะทำเฉย ๆ
“อ๊ะ!”
หานเฟิงแหงนหมองด้วยความตกใจ เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจอคนเหล่านี้ที่นี่ด้วยอีกครั้งหนึ่ง ทว่าหลังจากที่ได้หันมองรอบ ๆ และพบว่าเซียวเฟิงไม่อยู่ที่นี่ จึงโล่งใจขึ้นมา
“พวกเราต่างก็มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ทำไมไม่ลืมความบาดหมางก่อนหน้าแล้วหันมาดูการต่อสู้ด้วยกันดี ๆ เล่า?”
หานเฟิงเปิดฉากพูดต่อโดยไม่รู้สึกละอายอะไร
อันที่จริง เขาไม่กล้าที่จะไปอยู่กับผู้เล่นระดับสูงคนอื่น ๆ หรือกิลด์ขนาดใหญ่ที่ยอดเขาอันเนื่องมาจากชื่อที่มีสีแดงของเขานั่นแหละ ที่หินก้อนใหญ่นี้มีคนอยู่จำนวนไม่มาก แถมดู ๆ แล้วก็ไม่มีใครที่เขาสามารถมีเรื่องได้อีก ดังนั้นแล้วหานเฟิงจึงเลือกที่จะมารวมอยู่กับคนพวกนี้แทนโดยที่ไม่ต้องระแวงชื่อสีแดงบนหัวตน
“นี่นายยังกล้าโผล่หน้ามาพร้อมกับชื่อแดง ๆ บนหัวนั่นอีกเหรอเนี่ย? ถ้ายังไม่รีบ ๆ ไปให้พ้นตา ฉันจะฆ่านายทิ้งแล้วเก็บไอเทมนายมาให้หมดตัวเลยนะ”
ซางกวน อาโอเชินเองก็พูดขึ้นอย่างร้อนใจด้วย ตอนนี้สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่หานเฟิงก็ยังยืนยันว่าจะไม่ไปไหน
“สหาย ทำไมเจ้าแห่งฮีลเลอร์ถึงไม่อยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?”
เขาใช้วิธีถามเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปแทน
“พี่เซียวกำลังเดินทางมาที่นี่ แล้วก็ เขาจะเข้าไปต่อสู้กับพวกมิดซัมเมอร์ด้วย! ยังไงซะพวกเราก็เป็นศัตรูกันอยู่แล้ว !” ซางกวน อาโอเชินพูดเสริม
“หา? จริงจัง?” หานเฟิงถามกลับ แววตาของเขาเป็นประกายไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แน่นอน พวกมิดซัมเมอร์น่ะ ตั้งใจจะฆ่าพี่เซียวตั้งแต่ในหมู่บ้านเริ่มต้นแล้ว พวกนั้นไปดักรอพวกเราที่หน้าทางเข้าดันเจี้ยน แต่ถึงพวกนั้นจะเอาคนมาดักฆ่ามากมายขนาดไหน แต่ด้วยความร่วมมือของพวกเรา 5 คน พวกมิดซัมเมอร์ทั้ง 300 คนนั่นก็ถูกฆ่าตายอย่างง่ายดายไปเลย! เพราะงั้นตลอดที่ผ่านมานี้พวกนั้นถึงไม่กล้ายุ่งกับพวกเราไงล่ะ!”
นิโคลัส เจ๋าซือที่กำลังตื่นเต้นเริ่มจะพูดโอ้อวด
“จิ๊ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกนายจะสู้เป็นด้วย! แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกนะ ในเมื่อพวกนายเป็นเพื่อนที่ดีของเจ้าแห่งฮีลเลอร์นี่!” หานเฟิงได้โอกาสก็ไม่รอช้าที่จะกล่าวเยินยอทันที
“ของมันแน่อยู่แล้ว ตั้งแต่ที่พี่เซียวยังเป็นมือใหม่ในหมู่บ้านเริ่มต้น พวกเราก็ช่วยเขาเก็บเลเวลมาตลอดนั่นแหละ” นิโคลัส เจ๋าซือเริ่มโม้มากขึ้นในขณะที่นิโคลัส เถียซูก็เริ่มหันมาและจ้องไปยังเพื่อนของเขา