Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 156 ความขัดแย้ง
มีเพียงผู้เล่นเอลฟ์สองคนเท่านั้นที่รอเซียวเฟิงและคิทเท่นกลับมาอยู่ที่ปากทางเข้าดันเจี้ยน ส่วนที่เหลือต่างพากันออกจากปาร์ตี้ไปด้วยความโศกเศร้าหมดแล้ว ทั้งสองคนนี้คือหัวหน้าปาร์ตี้ที่เป็นนักธนูเอลฟ์กับนักรบโล่ปากมากคนนั้น
“อ่า…นายท่าน…พวกเรา…”
ทั้งสองมองเซียวเฟิงด้วยความอึดอัด อย่างไรก็ตามชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้สนใจพวกเขาและเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่หันกลับมามอง
“เอ่อ…คุณผู้เล่นระดับสูง นายคงไม่อยากได้ไอเทมระดับต่ำใช่ไหมล่ะ? ถ้ายังไง พวกเรามาแบ่งกันก็ได้นะ…”
คำพูดจากปากของผู้เล่นทั้งสองคนนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง และมันกระตุกความหงุดหงิดให้เซียวเฟิงไม่น้อยเลย เขาไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าผู้เล่นพวกนี้จะกล้ามาขอแบ่งของจากเขาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการฆ่าบอสแม้แต่นิดเดียว
ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ว่าจะมีคนที่ไม่รู้สึกละอายใจระดับนี้อยู่ด้วย เซียวเฟิงหยุดเดินแล้วหันกลับมามองทั้งสองด้วยสายตาเหยียดหยาม
“หัดละอายต่อการกระทำของตัวเองบ้าง”
ในตอนแรกเขาคิดว่าทั้งสองคนนี้คงจะมารอเพื่อกล่าวขอโทษ ไม่คิดเลยว่าพวกนี้จะมารอเพื่อทำตัวน่ารังเกียจเช่นนี้
แต่ชายหนุ่มไม่มีเวลามาสนใจคนเหล่านี้มากนัก นั่นเพราะเขาเริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติที่ด้านนอกดันเจี้ยนนี้ ผู้คนมากมายนับร้อยที่เคยอยู่ต่างอันตรธานหายไปหมด และแทนที่ด้วยเหล่าผู้เล่นเอลฟ์อีกนับพันที่ยืนรวมกันอยู่บริเวณนั้น พวกเขาทั้งหมดสวมใส่อุปกรณ์ชั้นดีและเล็งอาวุธมายังปากทางเข้าดันเจี้ยนสร้างบรรยากาศให้เต็มไปด้วยความตึงเครียด
สายตาของพวกเขาหันกลับมาจดจ้องที่เซียวเฟิงทันทีที่เห็นว่าเซียวเฟิงออกมาจากดันเจี้ยนแล้ว ชัดเจนเลยว่าผู้เล่นเอลฟ์เหล่านี้กำลังรอเขาอยู่
นี่มัน…การลอบโจมตี!
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ยินดีจริง ๆ ที่ได้พบกันอีกครั้ง”
ขณะที่เซียวเฟิงกำลังสงสัยและประหลาดใจว่าทำไมเอลฟ์พวกนี้ถึงมาลอบโจมตีเขา จู่ ๆ ก็มีเอลฟ์หนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเดินออกมา เขาคนนั้นมองเซียวเฟิงด้วยความสนใจ
เอลฟ์หนุ่มที่ว่านั่นคือ บราเธอร์ไนน์ออฟกลอรี่!
เพียงแค่ได้เห็นไนน์มาอยู่ที่นี่ เซียวเฟิงก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมพวกเอลฟ์ทั้งหลายถึงมาลอบโจมตีเขาเช่นนี้ พวกผู้เล่นระดับสูงพวกนี้เป็นสมาชิกของกิลด์กลอรี่ทั้งหมด!
“ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้! นี่มารอเจอฉันเลยเหรอเนี่ย?”
เซียวเฟิงเอ่ยถาม เขาได้ยินมาว่ากิลด์กลอรี่จัดเป็นกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในฟากใต้ รวมถึงเป็นกิลด์ที่ดีที่สุดของพวกเผ่าพันธุ์เอลฟ์ด้วย สมาชิกกิลด์นี้ถูกส่งกระจายไปทั่วทุกสารทิศเพื่อทำภารกิจในพื้นที่ต่าง ๆ มันเลยทำให้ชื่อเสียงของกิลด์แผ่ขยายไปวงกว้าง นำพามาซึ่งอำนาจและตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่อย่างตอนที่เป็นอยู่นี้
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ นายได้เป็นอันดับหนึ่งในลิสต์คนดังนี่ ไม่อยากจะพูดอะไรหน่อยเหรอ?”
บนใบหน้าของไนน์นั้นประดับไว้ด้วยรอยยิ้มที่มั่นอกมั่นใจในตัวเองมาก ๆ ขณะเดียวกันพวกสมาชิกกิลด์กลอรี่เองก็ไม่ได้บีบบังคับให้เซียวเฟิงต้องระวังตัวเองแต่อย่างใดด้วย บางทีคนพวกนี้คงตั้งใจจะบีบให้เขาเลือกว่าจะกลับไปยังเมืองหลักหรือจะกลับเข้าไปในดันเจี้ยนด้านหลังแทน
อันที่จริง ไนน์ก็ไม่ได้อยากจะเปิดฉากต่อสู้เร็วขนาดนั้น แม้ว่าท้ายสุดแล้วเจ้าตัวจะคิดว่ายังไงก็ไม่พ้นการต่อสู้ก็ตาม
สิ่งที่ไนน์คิดนั้นไม่ได้โอเวอร์เกินจริงเสียเท่าไหร่ นั่นเพราะเซียวเฟิงก็ไม่ได้ทั้งอยากกลับเมืองหลักหรือกลับเข้าไปในดันเจี้ยนอยู่แล้ว ยิ่งเห็นไนน์มากดดันเช่นนี้ เซียวเฟิงก็ยิ่งรู้สึกว่าตนจะเสียหน้าไม่ได้มากขึ้นไปอีก
“ที่นายมาที่นี่เนี่ย เพราะเรื่องที่ฉันทำเอาไว้ที่ฐานของกิลด์มิดซัมเมอร์เมื่อวันก่อนหรือเปล่านะ?”
ชายหนุ่มถามกลับไปแทนที่จะตอบคำถามก่อนหน้า เขาหยิบเอาอุปกรณ์ระดับสูงหลายชิ้นรวมไปถึงกระโหลกมังกรออกมาและสวมใส่ให้ตนเอง แต่ในสายตาพวกเอลฟ์เหล่านี้ พวกเขากลับเห็นเป็นเพียงหมวกกระโหลกเหล็กที่มีไฟสีเขียวลุกท่วมจากดวงตาเท่านั้น
คิทเท่นและผู้เล่นเอลฟ์อีก 2 คนก่อนหน้าต่างก็พากันเดินออกมา ทั้งหมดตื่นตกใจกันเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเหตุการณ์ด้านนอก แววตาทั้ง 3 คู่หันไปมองเซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจ และหลังจากที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างเซียวเฟิงและไนน์แล้ว พวกเขาถึงได้รู้ว่าข้างนอกนี้กำลังจะเกิดสงครามแน่ ๆ
ทั้ง 3 คนนี้มั่นใจแล้วว่าเซียวเฟิงคือผู้เล่นระดับสูงแน่นอน แต่พวกเขาก็ยังแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองอยู่ดีว่าเซียวเฟิงจะเป็น ‘เจ้าแห่งฮีลเลอร์’ ที่เป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับเลเวลคนนั้น!
“ใช่ ตามที่นายว่ามานั่นแหละ พวกเรากิลด์กลอรี่ไม่ได้อยากจะเป็นศัตรูกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์หรอกนะ แต่เพราะฉันน่ะต้องมาทนทุกข์อยู่กับความรู้สึกปวดร้าวกับความพ่ายแพ้ รวมไปถึงนี่เป็นการพ่ายแพ้ของฉันจากผู้ประกาศิตเล่นคนอื่นครั้งแรกตั้งแต่เข้าเกมมาอีก… ฉันจึงไม่สบายใจ ดังนั้นฉันจะเสนอทางเลือกให้ ฉันจะยอมยุติความขัดแย้งของพวกเราในครั้งนี้และกลับไปเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันหากนายยอมขอโทษฉัน”
ไนน์เหลือบไปมองผู้เล่นอีก 3 คนที่อยู่ด้านหลังเซียวเฟิงขณะพูด
ที่คนคนนี้ยังไม่ยอมเปิดฉากการต่อสู้ก่อนก็เพราะกังวลในพลังที่แท้จริงของเซียวเฟิง เขาไม่รู้ว่าเซียวเฟิงสามารถเรียกพาลาดินพวกนั้นได้อีกหรือไม่ ในสงครามตั้งรับในฐานที่ตั้งนั้น ภาคีพาลาดินพวกนั้นถือเป็นภัยคุกคามชั้นยอดที่ฝ่ายบุกทุกคนต่างต้องหวาดกลัวกันทั้งนั้น
“นายรู้จักมักจี่กับกิลด์มิดซัมเมอร์เป็นการส่วนตัวหรือเปล่า?” เซียวเฟิงเอ่ยถามขึ้นทันใด
“ไม่ ก็แค่ชื่นชมหัวหน้ากิลด์ของพวกเขา” ไนน์ตอบคำถามออกไปแม้จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซียวเฟิงคิดอะไรอยู่ถึงได้ถามเช่นนั้น เขาตอบมันออกไปด้วยความตรงไปตรงมาไร้ซึ่งความลังเล ใครก็ตามที่ได้คลุกคลีอยู่กับเขาบ่อย ๆ ก็คงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าไนน์น่ะชื่นชอบผู้หญิงสวยมาก ๆ
“ดี งั้นก็มาเริ่มกันเลย ฉันเองก็กำลังอารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน” เซียวเฟิงพยักหน้าขณะพูด อารมณ์ของเขาไม่ดีดังที่เขาพูดไว้จริง ๆ ตอนแรกก็ทุกข์ใจกับการได้เพื่อนร่วมปาร์ตี้กากมาแล้ว จากนั้นก็ต้องมารู้อีกว่าตนไม่ใช่คนแรกที่พิชิตดันเจี้ยนหุบเขาพงไพรแห่งนี้ได้ มีปาร์ตี้พิชิตมันได้ก่อนเขาไปแล้ว การที่เขาไม่ได้อุปกรณ์ระดับทองกลับมาจากการลงดันเจี้ยนนั้นนับว่าเสียเวลาชีวิตมากพอ ๆ กับการที่ต้องมาดูการต่อสู้กาก ๆ ระหว่างผู้เล่นกาก ๆ กับบอสทั่วไปนั่นแหละ
“ดูท่าเราจะหนีสงครามกันไม่พ้นสินะ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของไนน์หายไปในทันที มันแทนที่ด้วยความตรึงเครียดราวกับเมฆฝนที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนฟากฟ้า
“อ๊ะ! พวกเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยนะครับ! เชิญโจมตีเขาได้เลยครับ! พวกเราไม่แม้แต่จะรู้จักเขาด้วยซ้ำ!”
นักธนูเอลฟ์กับนักรบโล่ที่อยู่ด้านหลังต่างร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวหลังจากตระหนักได้ว่าเมื่อครู่นี้ทั้งเซียวเฟิงและไนน์เพิ่งจะประกาศสงครามกันไปหมาด ๆ ทั้งสองหันหน้าออกแล้วเตรียมจะวิ่งออกไปจากจุดนี้
ได้ยินแบบนั้นเซียวเฟิงก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก เขาจ้องมองไปยังผู้เล่นไร้ยางอายทั้งสองคนนี้ด้วยแววตาเยือกเย็น ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ไปให้ไวเลย! แล้วก็อย่าลืมหาคนมาช่วยด้วยล่ะ!”
“พูดอะไรน่ะ?”
ทั้งสองเอลฟ์หันกลับไปมองเซียวเฟิงด้วยความสงสัยโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า พวกกองทัพเอลฟ์คนอื่น ๆ นั้นกำลังหันเป้าหมายอาวุธมาเป็นพวกเขาแทนเสียแล้ว และทันทีที่รู้ตัว สีหน้าของพวกเขาก็ซีดเผือดไปพร้อม ๆ กัน
“จัดการเลย!”
ไนน์กวาดมองช้า ๆ และตัดสินใจออกคำสั่งโดยไม่ลังเล แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเอลฟ์ทั้งสองเป็นศัตรู! ซึ่งในฐานะหัวหน้ากิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในฟากใต้ การฆ่าผู้เล่นซักคนสองคนน่ะ ไม่ใช่ปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ฟิ้ว!
ทันทีทันใด ห่าฝนลูกธนูก็พุ่งออกจากคันศรและโค้งเป็นวิถีเข้าโจมตีใส่เอลฟ์ไร้ยางอายทั้งสองอย่างแม่นยำ เพียงพริบตาเดียวร่างของทั้งสองก็ถูกศรนับพันโถมเข้าทิ่มแทงจนตายโดยที่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองตายเพราะอะไร
“รีบกลับไปในดันเจี้ยนเร็ว!”
ขณะเดียวกันนั้น เซียวเฟิงก็หันกลับไปผลักให้คิทเท่นถอยหลังกลับไปในดันเจี้ยนโดยที่ตัวเขาเป็นฝ่ายพุ่งเข้าใส่ฝูงเอลฟ์ของกิลด์กลอรี่ราวกับศรที่มีชีวิตแทน
ระหว่างที่ร่างของเขากำลังพุ่งเข้าใส่ศัตรูนั้น แสงสว่างจากบัฟทั้ง 3 ประเภทอันประกอบด้วย สกิลอวยพรอาวุธ อวยพรชีวิต และอวยพรความกล้าก็ส่องสว่างขึ้นเหนือหัวของเซียวเฟิงไล่ ๆ กันมา
[คุณได้รับผลจาก ‘สกิลอวยพรอาวุธ’ ของผู้เล่น แด๊ด ค่าพลังโจมตีของคุณเพิ่มขึ้น 318 หน่วย เป็นเวลา 60 วินาที!]
[คุณได้รับผลจาก ‘สกิลอวยพรความกล้า’ ของผู้เล่น แด๊ด ค่าพลังโจมตีของคุณเพิ่มขึ้น 282 หน่วย เป็นเวลา 60 วินาที!]
[คุณได้รับผลจาก ‘สกิลอวยพรชีวิต’ ของผู้เล่น แด๊ด ค่าพลังเวทของคุณเพิ่มขึ้น 260 หน่วย เป็นเวลา 60 วินาที!]
เพียงอึดใจเดียว ค่าพลังโจมตีของเซียวเฟิงก็พุ่งขึ้นสูงถึง 450 หน่วย ในขณะที่ค่าพลังเวทก็สูงถึง 400 หน่วยด้วยเช่นกัน ส่วนค่าพลังชีวิตของเขาก็มากกว่า 700 หน่วยไปแล้วด้วยตอนนี้!
จังหวะที่ร่างของเซียวเฟิงเข้าปะทะกับกลุ่มคน ค้อนยักษ์สีทองก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาก่อนจะฟาดลงไปท่ามกลางเอลฟ์ตรงหน้าเต็มแรง!
-801!
-789!
-823!
-811!
-1,604! คริติคอล!
-795!
….
ค่าความเสียหายจำนวนมากเกิดขึ้นท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น พร้อมกับพรากเอาชีวิตของเหล่าเอลฟ์ในแนวหน้าที่รับการโจมตีให้ตายลงไปเพียงแค่การโจมตีด้วยค้อนทองคำครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ว่าคนเหล่านี้จะเป็นผู้เล่นชั้นโปรเพลเยอร์กันขนาดไหน หรือจะเป็นนักรบโล่ที่เก่งกล้าผ่านมาหลายดันเจี้ยน ค่าพลังชีวิตของพวกเขาก็มีไม่เกิน 300 กันหรอก ดังนั้นแล้วจึงไม่มีใครสามารถรอดออกไปได้หลังจากที่โดน ‘ค้อนแห่งการพิพากษา เลเวล 2’ ที่ทำความเสียหายทีละเกือบ 900 หน่วยทุบเข้าใส่เต็ม ๆ
การที่กิลด์กลอรี่เกณฑ์คนมาเป็นจำนวนมากเพื่อการนี้นั้น มันเลยกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้เหล่าเอลฟ์ที่กรูกันเข้ามาไม่มีพื้นที่พอให้หนี มีเอลฟ์อย่างน้อย 10 ชีวิตถูกฆ่าตายจากการโจมตีเมื่อครู่นี้!
“อะไรกัน!?”
ไนน์ถึงกับผงะขณะที่สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับค่าความเสียหายที่ไม่น่าเชื่อนั่น ตัวเลขมันขึ้นได้ถึง 4 หลัก! หากเกมเปิดมานานแล้วก็ยังพอเข้าใจได้ แต่นี่เพิ่งเปิดได้ไม่นานก็มีคนทำความเสียหายได้ในระดับนี้เลยงั้นเหรอ!?
“รีบจัดทัพใหม่! โจมตีสวนกลับไปเลย! นักธนู ระดมยิงศรทั้งหมดที่มีแล้วก็ใช้ศรแบบติดตามตัวโจมตีเข้าไปด้วย! ยังไงซะเจ้านั่นก็ยังเป็นนักบวช ไม่มีทางที่นักบวชจะมีสกิลสร้างความเสียหายเยอะนักหรอก!!”
หัวหน้ากิลด์ผู้ช่ำชองสั่งการเสียงดังหลังจากได้สติกลับมา ดวงตาของเขาเปิดกว้างขณะที่กำลังพูดสั่งด้วยน้ำเสียงที่แอบสั่นเทา ภาพค่าความเสียหายระดับนั้นมันยังติดตาเขาอยู่!
เขารู้ดีว่าการมีเรื่องกับผู้เล่นระดับสูงน่ะไม่ใช่เรื่องที่ควรทำนักหรอก แต่ที่เขากล้ามาสู้กับเซียวเฟิงก็เพราะว่าผู้เล่นระดับสูงคนนี้เป็นแค่นักบวช ซึ่งตามหลักแล้วนักบวชจะเป็นอาชีพที่สู้คนอื่นได้ยากที่สุดด้วยเหตุผลเรื่องสกิลการโจมตีที่มีจำกัด ทว่าครั้งนี้มันทำให้ไนน์รู้สึกว่าตนเองกำลังเดินหมากผิดอย่างมหันต์หลังจากที่เห็นนักบวชตรงหน้านี้สามารถสร้างความเสียหายได้ในระดับเลข 4 หลักนั่นแหละ
“ยิงศรติดตามออกไป! แล้วก็โจมตีด้วยไฟไปด้วย!”
สมาชิกกิลด์กลอรี่ทุกคน ณ ที่นี้ถือเป็นผู้เล่นระดับสูงกันทั้งหมด ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะตื่นตกใจกับค่าความเสียหายเมื่อครู่ พวกเขาก็ยังสามารถทำตัวให้ใจเย็นลงแล้วควบคุมการโจมตีตามคำสั่งได้อย่างเคร่งครัด ซึ่งมันทำให้ในทันทีที่สิ้นเสียงสั่งการ ศรปลายแหลมนับไม่ถ้วนก็พลันพุ่งเข้าโจมตีเซียวเฟิงอย่างแม่นยำ
ทางด้านผู้เล่นนักเวทแนวหลังที่ร่ายเวทเสร็จแล้ว พวกเขาก็ยิงเวทมนตร์ไฟเข้าใส่เซียวเฟิงจากด้านบนด้วยเช่นกัน!
ตู้ม!
ทั้งศรและสกิลมากมายโถมเข้าใส่เซียวเฟิงราวกับปรมาณูที่ถูกทิ้งลงบนพื้น กระนั้นแล้วร่างของเซียวเฟิงก็ยังสามารถเดินออกมาจากการโจมตีที่โกลาหลนั้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลุ่มผู้เล่นเอลฟ์ที่เป็นแนวหน้ารีบเข้ามาห้อมล้อมเขาไว้ทันที แต่สิ่งที่ทำกลับเพียงแค่คอยสังเกตการณ์เท่านั้น ท่ามกลางสายตาของเอลฟ์เหล่านี้ ดูเหมือนข้อความที่ปรากฏขึ้นเหนือหัวเซียวเฟิงจะทำให้พวกเขาถึงกับไปกันไม่เป็นเลย
หลบได้!
หลบได้!
โจมตีไม่เข้า!
โจมตีไม่เข้า!
โจมตีไม่เข้า!
ป้องกันได้!
-23!
หลบได้!
โจมตีไม่เข้า!
…
แม้ว่าศรติดตามจะสามารถเคลื่อนที่เพื่อพุ่งเข้าโจมตีใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ แต่การโค้งของมันก็ไม่ได้รวดเร็วเหมือนขีปณาวุธในโลกความจริง ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเซียวเฟิงที่จะหลบมัน แต่เพราะว่านอกจากศรติดตามแล้ว เขายังต้องเผชิญหน้ากับศรธรรมดาอีกนับไม่ถ้วน มันเลยกลายเป็นว่า จำนวนของการโจมตีนี้ ถือเป็นภัยคุกคามสำหรับเขาเลยก็ว่าได้
โชคยังดีที่เซียวเฟิงสามารถยืนรับการโจมตีจากศรบางส่วนได้เพราะหมวกกระโหลกมังกร ไม่งั้นแล้วการโจมตีชุดใหญ่เมื่อครู่นี่ ไม่ว่าจะเป็นจากศรหรือจากไฟ อาจจะทำให้เขาเหลือค่าพลังชีวิตเพียงครึ่งเดียวก็ได้หลังจากที่มันจบลงแล้ว!
“ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้!!”
“โจมตีต่อไป! โจมตีต่อไปเรื่อย ๆ ! ใช้ศรตัดกำลังมันไปเรื่อย ๆ!”
“นักเวท ใช้เวทโจมตีปูพรมลงไป! แนวหน้า บีบพื้นที่เอาไว้ไม่ให้เจ้านั่นไปไหนได้! มือสังหาร มองหาโอกาสควบคุมพื้นที่ไว้! แล้วทีมควบคุมไปไหน!? รีบไปวางกับดักเร็ว!!”
ยิ่งได้เห็นเซียวเฟิงแทบจะไม่เป็นอะไร ไนน์ก็ยิ่งตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ เขารีบสั่งการทัพเอลฟ์อันเกรียงไกรของตนอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะยังตกใจกลัวอยู่ก็ตาม!
ตอนนั้นเอง เซียวเฟิงก็เป็นฝ่ายเริ่มร่ายเวทมนตร์ไฟบ้าง เขาวิ่งเข้าไปท่ามกลางฝูงชนพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกโชนขึ้นจากใต้ฝ่าเท้า ทุกก้าวที่ย่ำพื้นลงไป มันก็มีไฟถูกจุดให้ลุกขึ้นมาด้วย
-117!
-121!
-109!
-115!
…
สมาชิกของกิลด์กลอรี่ล้มหายตายจากเพราะการถูกเวทมนตร์เพลิงของเซียวเฟิงโถมเข้าใส่ราวกับฝูงมดที่ตกลงไปในกองเพลิง ตัวเลข 3 หลักที่ปรากฏบนหัวของพวกเขาเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่า ทัพใหญ่ของกิลด์กลอรี่นั้นกำลังถึงคราววิกฤตแล้ว!