Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 187 แค่ฟังคำสั่งของฉันก็พอ
[คำเตือน! กิลด์มิดซัมเมอร์โปรดทราบ! มอนสเตอร์ได้บุกเข้าโจมตีภายในแคมป์แล้ว! มอนสเตอร์ที่เข้าโจมตีภายในแคมป์จะไม่หายไปเมื่อถึงเวลาสิ้นสุดเวฟ เริ่มทำการกำจัด ณ บัดนี้!]
นี่เป็นมอนสเตอร์เวฟที่ 35 สองเวฟสุดท้ายมาถึงแล้ว มอนสเตอร์ในเวฟนี้ล้วนแต่เป็นเลเวล 30 กันทั้งหมด พวกมันกระจายกันมาจากทั่วทุกทิศก่อนจะรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นฝูงมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน
หลังจากที่ผ่านการต่อสู้ที่โหดร้ายมากว่าชั่วโมง ผู้เล่นของมิดซัมเมอร์ก็ทำพลาดขึ้นมาจนได้ กำแพงมนุษย์ทางทิศเหนือถูกเวฟมอนสเตอร์ทำลายจนแตกพ่าย กลายเป็นรูโหว่ให้สัตว์ประหลาดมากมายสามารถบุกเข้ามาสู่ภายในแคมป์ได้
“ไป ๆๆ! ทีมผู้เล่นชั้นสูง! ไปกันทิศเหนือไว้! กลุ่มนักบวชตามไปสมทบ!”
“กลุ่มนักฆ่า ถอยกลับมาที่แคมป์! กำจัดมอนสเตอร์ที่หลุดเข้ามาอย่างสุดความสามารถ!”
หลิวเฉียงเหว่ยขมวดคิ้ว น้ำเสียงที่ตามปกติจะนิ่งสงบนั้น ตอนนี้กำลังเปี่ยมไปด้วยความกังวล เธอมองสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับสั่งการด้วยคำสั่งมากมายผ่านช่องแชทกิลด์ตลอดเวลา
โชคยังดีที่เธอคาดการณ์ปัญหานี้ไว้แล้ว และได้เตรียมวิธีรับมือไว้ล่วงหน้า ดังนั้นวินาทีที่เวฟที่ 35 บุกเข้ามาได้ เหล่าผู้เล่นระดับอิลีตจึงสามารถกลับมาป้องกับแคมป์ได้ทันที
แม้ว่าทิศเหนือจะถูกเติมเต็มได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไงศัตรูก็คือเวฟมอนสเตอร์ที่มีจำนวนกว่า 10,000 ตัว ไหนพวกมันจะเลเวล 30 กันทั้งหมดอีกด้วย พวกเขาไม่มีทางยืนต้านไว้ได้นานแน่ ๆ
การแจ้งเตือนครั้งสุดท้ายนั้นสร้างบรรยากาศให้ตึงเครียดมากขึ้นไปอีก ซือเยี่ยจิ๋งนำกลุ่มของนักฆ่าเข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่บุกเข้ามาภายในเพื่อกันไม่ให้พวกมันโจมตีศูนย์บัญชาการได้ หากมีสักตัวหลุดเข้าไปล่ะก็ ความพยายามที่ทุ่มเทให้กับสงครามป้องกับฐานที่มั่นก็จะสูญเปล่า
“กลุ่มนักบวชให้ไปช่วยสนับสนุนกลุ่มนักฆ่า! จัดการมอนสเตอร์พวกนั้นให้หมด ตอนนี้เลย!”
เหล่ามอนสเตอร์ที่บุกเข้ามาถึงชั้นในกำแพงได้นั้นเหมือนกับไฟที่ลุกไหม้อยู่ในสวนหลังแคมป์ พวกมันร้ายแรงและรุกเร็ว ผู้เล่นทั้งหลายที่อยู่รักษาแนวหน้าต่างก็กังวลกันหมด ศึกด้านหน้าว่าหนักแล้ว ศึกด้านในยิ่งหนักกว่าและต้องพลิกเกมให้เร็วที่สุด
[ยินดีด้วยมิดซัมเมอร์! เวฟที่ 35 จบลงแล้ว! เวฟต่อไปจะเริ่มใน 10 นาที! กรุณาเตรียมตัวให้พร้อม! คุณจะชนะก็ต่อเมื่อรับมือการโจมตีได้ทั้งหมด แต่จะแพ้ก็ต่อเมื่อมอนสเตอร์บุกเข้าไปทำลายแคมป์ได้!]
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง จากประกาศล่าสุดที่บอกไว้ว่าเวฟปัจจุบันได้จบลงแล้ว มันทำให้มอนสเตอร์ที่กำลังห้อมล้อมแคมป์อยู่นั้นถอยกลับออกไปด้วย อย่างน้อย ๆ มิดซัมเมอร์ก็พอจะได้พักผ่อนกันบ้าง รวมถึงได้มีเวลาจัดเตรียมทัพใหม่โดยเฉพาะกระบวนทัพ 4 ทิศ
“ไปเร็ว! ไปจัดการมอนสเตอร์ที่เหลือให้หมด! เวฟต่อไปกำลังมา! พวกเราแทบจะไม่มีเวลาแล้ว!”
เหล่าผู้เล่นชั้นสูงเข้าร่วมภารกิจกวาดล้าง จากนั้นทั่วทั้งแคมป์ขนาดใหญ่เท่าเมืองก็เต็มไปด้วยเหล่าผู้เล่นที่กำลังวิ่งไล่ล่ามอนสเตอร์ที่ออกจากแคมป์ไปไม่ทัน
มอนสเตอร์บางส่วนถูกระบบเรียกกลับไปหลังจากหมดเวลาแล้ว จะเหลือก็แต่กลุ่มมอนสเตอร์ที่บุกเข้ามาได้แล้ว พวกมันจะยังคงอยู่ต่อไปจนกว่าจะตาย
ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถกำจัดมอนสเตอร์เหล่านี้ได้หมดก่อนที่เวฟถัดไปจะเริ่ม มิดซัมเมอร์ก็ไม่มีทางที่จะชนะสงครามป้องกันฐานที่มีศัตรูทั้งภายในและภายนอกได้
ผู้เล่นจำนวนกว่าหมื่นคนเริ่มทำการกำจัดเหล่ามอนสเตอร์ที่แทรกแซงเข้ามาภายในกำแพง ซึ่งกว่าจะจัดการได้มันก็เริ่มทำลายบ้านเมืองภายในไปบางส่วนแล้ว โชคยังดีที่ส่วนสำคัญอย่างศูนย์บัญชาการและจุดวาร์ปได้รับการป้องกันจากเหล่าผู้เล่นชั้นสูงได้ทัน
เซียวเฟิงไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยในสถานการณ์แบบนี้ ยังไงซะเขาก็เป็นนักบวช ซึ่งไม่มีสกิลในการกำจัดมอนสเตอร์ที่กระจัดกระจายไปทั่วแบบนี้ มอนสเตอร์เหล่านี้ล้วนแต่เป็นธาตุชีวิต ที่ซึ่งพลังแห่งเทพใช้ไม่ได้ผล ยิ่งไปกว่านั้นชายหนุ่มไม่สามารถเรียกเสี่ยวไป๋มาที่นี่ได้ด้วย
สิ่งเดียวที่ทำได้คือคอยจ่ายบัฟให้เหล่าผู้เล่นที่ตั้งหน้าตั้งตาป้องกันฐานทัพอยู่ ช่วยเพิ่มพลังให้พวกเขาอยู่ด้านหลัง
โชคดีครั้งที่สองเมื่อพวกเขาสามารถควบคุมปริมาณมอนสเตอร์ไว้ได้ในขณะที่ยังอยู่ในช่วงเวลาพัก กระนั้นมันก็ยังน่ากลัวอยู่ อันที่จริงฝั่งผู้เล่นเองก็น่ากลัวขึ้นเหมือนกัน เพราะพวกเขาจะจับกลุ่มกัน 4-5 คน สำหรับการจัดการมอนสเตอร์ 1 ตัว แม้ว่าพวกมันจะเลเวลสูงถึง 30 แต่ด้วยบัฟของเหล่านักบวช การกำจัดมันก็ไม่ใช่เรื่องยากซักเท่าไหร่
[โปรดทราบ! มิดซัมเมอร์ มอนสเตอร์เวฟสุดท้ายของสงครามป้องกันฐานที่ตั้งกำลังใกล้เข้ามาแล้ว! เวฟนี้เป็นเวฟบอส! คุณจะชนะก็ต่อเมื่อป้องกันการโจมตีจากบอสได้ และจะแพ้ก็ต่อเมื่อแคมป์ของคุณถูกบุก!]
เวฟที่ 36 เริ่มแล้วในจังหวะที่มอนสเตอร์ของเวฟก่อนหน้าเพิ่งจะถูกกำจัดหมดไป นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เวฟมอนสเตอร์ระดับบอส! หนึ่งในความท้าทายอีกอย่างหนึ่งที่บ้าบิ่นเอาการเลย!
“บอสเลเวล 30 งั้นเหรอ!? อย่างน้อยก็มีแค่ไม่กี่ตัวแหละน่า!”
ผู้เล่นฮันเตอร์ที่มีทักษะการตรวจสอบขั้นสูงรีบแจ้งข่าวไปยังแนวหน้าทุกคนว่า ทุกทิศจะมีบอสตัวใหญ่นำทัพเหล่ามอนสเตอร์ระดับอิลีตเข้าโจมตี ทางทิศใต้มีจำนวนมากที่สุด เป็นบอสระดับสูง 8 ตัว! ทิศตะวันออกมีมากเป็นอันดับ 2 คือมีบอสระดับหายาก 4 ตัว และทางทิศตะวันตกมีบอสระดับเงิน 2 ตัว
ทางฝั่งทิศเหนือนั้น…แม้จะมีบอสแค่ตัวเดียว แต่ทรงพลังที่สุด บอสระดับอิลีต!
เทียบกับเวฟปกติแล้ว มอนสเตอร์ในเฟสบอสนั้นจะมีจำนวนน้อยกว่าปกติ แต่ก็แลกมาด้วยความแข็งแกร่งของพวกมันที่สูงกว่าปกติอยู่อีกมาก ถ้าไม่จัดกระบวนตั้งรับดี ๆ มันก็ไม่ต่างอะไรกับผจญอยู่กับภัยพิบัติที่มีชีวิตเลยนะ
นับประสาอะไรกับพวกบอสเลเวล 30 พวกมันเก่งเกินกว่าผู้เล่นมาตั้งแต่เกิดแล้ว
ต่อให้เป็นบอสระดับทั่ว ๆ ไปก็จริง แต่การจะฆ่ามันก็ต้องใช้ชีวิตผู้เล่นเข้าแลกไม่ใช่น้อย ๆ เลย สกิลของบอสแต่ละสกิลสามารถฆ่าผู้เล่นได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ถึงผู้เล่นที่โดนจะไม่ตาย แต่ยังไงก็ต้องเจ็บหนักแน่ ๆ บางคนอาจจะคิดว่า สกิลของบอสนั้นจะปลดปล่อยความรุนแรงก็ต่อเมื่อระดับเลือดถึงจุดนั้นแล้ว แต่จริง ๆ แล้วมันยังมีสิ่งอื่นที่เป็นเงื่อนไขอีก
นอกจากเลือดแล้ว เวลาในการต่อสู้ ค่าความเกลียดชัง หรือค่าความโกรธ ทุกอย่างล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้บอสปลดปล่อยสกิลออกมาด้วยกันทั้งสิ้น
ตามปกติแล้ว บอสจะมีขนาดร่างกายใหญ่โต มันสามารถโจมตีได้แทบจะทุกระยะ แล้วยิ่งถ้ามีผู้เล่นมากมายไปรุมล้อมมันเอาไว้ บางทีแค่บอสก้าวเดินมันก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงได้
หากจะบอกว่าบอสเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งได้นอกจากความตายมันก็เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริง เพราะทุกก้าวเดินของบอส มันเหมือนเครื่องจักรไอน้ำที่กำลังเคลื่อนที่ไปโดยที่ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลง ใครก็ตามที่ขวางทางมัน สิ่งสุดท้ายที่จะเหลือก็มีเพียงซากศพที่ถูกเหยียบย่ำเท่านั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรต้องรู้ ความแตกต่างระหว่างการเผชิญหน้ากับบอสในป่ากับบอสในเวฟมอนสเตอร์นั้นก็คือ บอสในเวฟมอนสเตอร์จะมีความเกลียดชังกับแคมป์สูงเป็นพิเศษ หากไม่มีใครล่อมันออกไปแล้วล่ะก็ ตัวบอสเองจะมุ่งตรงมายังศูนย์บัญชาการในแคมป์โดยตรง และถ้าเมื่อไหร่มันอยู่ในระยะที่ใกล้ศูนย์บัญชาการมากแล้ว ก็จะไม่มีใครหยุดยั้งมันได้อีก
ในกรณีนี้ วิธีเดียวที่จะรับมือได้ก็คือเสียสละผู้เล่นจำนวนมากเพื่อไปล่อบอสให้ออกห่างจากศูนย์บัญชาการให้ได้มากที่สุด บางทีอาจจะต้องใช้ถึงหมื่นคน หรือว่าอาจจะต้องมากถึงแสนคน และถ้าเลวร้ายที่สุด…ก็อาจจะต้องใช้มากกว่านั้นอีก
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมกิลด์ที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่อย่าง ไดนัสตี้ วอร์สปิริต และเดอะวูล์ฟ จึงสามารถขยายสาขาย่อยในเซิร์ฟเวอร์ใหม่ได้ กิลด์เล็ก ๆ น่ะทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
“มีบอส 15 ตัว! พวกเราเหลือกันกี่คน?” หลิวเฉียงเหว่ยเอ่ยถามด้วยความกังวลในช่องแชทกิลด์
“หัวหน้าหน่วยทุกหน่วย รายงานจำนวนสมาชิกที่เหลือในหน่วยมายังศูนย์บัญชาการ! ฉันต้องการรู้ว่าเราเหลือคนเท่าไหร่บ้าง!”
“จากหน่วยนักรบโล่ I มีเหลือ 23,000 คนครับ!”
“จากหน่วยนักรบโล่ II เรายังมีคนเหลือ 18,000 คน!”
…
การเช็กจำนวนคนไม่ได้ใช้เวลามาก แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกเบาใจได้ซักเท่าไหร่ มิดซัมเมอร์เหลือคนแค่ 300,000 คนเท่านั้น นี่มันนับว่าแย่มากเลยทีเดียว
“300,000 คนเหรอ…”
หลิวเฉียงเหว่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ ความหนักใจและวิตกกังวลมันปรากฏให้เห็นบนใบหน้าสวยอย่างชัดเจน เหลือคน 300,000 คนกับทิศ 4 ทิศที่ต้องป้องกัน นี่มันเป็นสถานการณ์ที่แย่สุด ๆ ไปเลย หากผิดพลาดแม้แต่จุดเดียวทุกอย่างก็จะพังทลาย
โดยเฉพาะบอสระดับทองที่ทิศเหนือซึ่งเป็นปัญหายากที่จะหยุดที่สุด!
สงครามป้องกันฐานที่ตั้งครั้งนี้เริ่มมาหลายชั่วโมงแล้ว ดังนั้นสมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์จึงล้มตายกันโดยเฉลี่ยนคนละ 4 ครั้ง แล้วยิ่งการตายโดยไม่ได้ค่าประสบการณ์ชดเชยจากมอนสเตอร์ มันก็ยิ่งทำให้พวกเขาอ่อนลงไปทุกครั้งที่เกิดใหม่ด้วย
อาวุธและอุปกรณ์ที่สูญเสียไปเองก็มากมายจนนับไม่ถ้วน จะมีก็แต่ผู้เล่นคลาสที่สามารถฮีลได้อย่างนักบวชหรือไม่ก็นักเวทเท่านั้นที่ไม่สูญเสียอะไรมาก นั่นเพราะพวกเขาจะอยู่แนวหลังตลอดจึงค่อนข้างปลอดภัยที่สุด ส่วนทางด้านแนวหน้านั้น แทบจะไม่เหลือผู้เล่นที่สวมใส่อุปกรณ์และถืออาวุธที่สมบูรณ์แล้ว เพราะว่าพวกเขาต้องรับศึกหนักตลอดเวลา
เวฟสุดท้ายนี้เปรียบเสมือนคลื่นลูกใหญ่ที่มาพร้อมกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ด้วย สมาชิก 300,000 คนสุดท้ายที่ยืนหยัดจนมาถึงจุดนี้ได้นั้นเป็นเหล่าสมาชิกหัวใจหลักของมิดซัมเมอร์เลยก็ว่าได้ พวกเขาส่วนมากติดตามมิดซัมเมอร์มาจากเกมออนไลน์เกมอื่น ถือเป็นแก่นแท้ของกิลด์ เป็นประวัติศาสตร์และเป็นขุมกำลังที่สำคัญของมิดซัมเมอร์ เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดว่ามิดซัมเมอร์มีอิทธิพลมากขนาดไหน
สมาชิกของกิลด์เลเวล 1 นั้นต้องมีถึง 500,000 คน และมิดซัมเมอร์ต้องมีสมาชิกให้ได้ถึงจำนวนนี้เพื่อที่จะสามารถร่วมสงครามป้องกันฐานที่ตั้งได้ และท่ามกลางผู้เล่นทั้ง 500,000 คน ก็ยังมีผู้เล่นทั้ง 300,000 คนพวกนี้ที่ยังคงพยายามสู้เพื่อทุกคน เพื่อชัยชนะของกิลด์อย่างไม่หวาดหวั่น
แน่นอนว่าการที่กิดล์มิดซัมเมอร์ต้องมาตกระกำลำบากนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะเซียวเฟิง ในการทำสงครามปกป้องฐานที่ตั้งครั้งแรก ตอนนั้นกิลด์นี้ได้รับโบนัสการก่อตั้งกิลด์ทำให้กลายเป็นกิลด์เลเวล 2 มีสมาชิกถึง 1 ล้านคน! ถ้าด้วยจำนวนคนระดับนั้น การจัดการเวฟสุดท้ายในตอนนี้จะต้องเป็นเรื่องง่ายแน่ ๆ
น่าเสียดายที่เพราะการพ่ายแพ้ให้กับสงครามป้องกันฐานที่ตั้งครั้งที่ 1 นั้นทำให้กิลด์มิดซัมเมอร์ต้องสูญเสียสมาชิกไปมากมาย แถมยังถูกลดระดับจนเหลือเพียงเลเวล 1 ด้วย การที่จะผ่านเวฟสุดท้ายนี้ไปได้ มันจึงกลายเป็นเรื่องยากไปแล้ว
“นาย…มีความคิดอะไรไหม?”
หลิวเฉียงเหว่ยละทิ้งท่าทีอันสง่างามและหันไปกระซิบถามเซียวเฟิง “นี่เป็นมอนสเตอร์เวฟสุดท้ายแล้ว…เป็นเวฟที่ยากที่สุดแล้วก็โหดร้ายที่สุดด้วย มันยากที่จะต้านไว้จริง ๆ พอคำนวนจากคนที่เหลือของฉันแล้ว…” เธอหวังว่าเซียวเฟิงน่าจะต้องมีไอเดียอะไรดี ๆ บ้างแน่ ๆ
“ไม่มี แค่สู้เท่านั้น เธอกระจายคนของเธอไปทิศตะวันออก ตะวันตกแล้วก็ใต้ ส่วนฉันจะรับมือทิศเหนือเอง”
เซียวเฟิงส่ายหน้าและคิด “ไม่มีอะไรที่จะช่วยได้แล้ว แค่ไปทำตามที่ฉันพูดซะ ยังไงเสียนี่ก็ศึกสุดท้าย”
ที่ทางทิศเหนือนั้นมีบอสระดับสูงที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดอยู่ แต่มันก็มีแค่ตนเดียว ดังนั้นสิ่งที่เซียวเฟิงทำได้นั่นก็คือการพยายามรั้งบอสเอาไว้ให้ได้ 10 นาทีเพื่อป้องกันไม่ให้มันเดินเข้าไปหาแคมป์ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเวฟบอส บัฟของเซียวเฟิงก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก พลังโจมตีของบอสเลเวล 30 น่ะ มีกับไม่มีบัฟก็ไม่ได้ต่างกันเลย ใครก็ตามที่เผชิญหน้ากับบอส พวกเขาจะถูกฆ่าในวินาที แถมถ้าไม่มีบัฟ ก็แทบจะไม่มีใครสามารถโจมตีทะลุเกราะของบอสได้อีก
“โอเค…ฉันจะจัดการตามนั้น”
หญิงสาวไม่ได้สงสัยอะไรในคำพูดของเซียวเฟิงเลย ไม่แม้แต่จะชั่งใจยกเลิกการป้องกันทางทิศเหนือตามที่เขาว่าด้วย หลิวเฉียงเหว่ยออกคำสั่งลงไปในแชทกิลด์ทันที
“โรส! ทำไมถึงยกเลิกการป้องกันทางทิศเหนือล่ะ!?”
“ทำไมกัน? ทำไมถึงไม่จัดคนไปป้องกันทางเหนือด้วย? นี่เธอกำลังเปิดประตูให้บอสเข้ามานะ!”
“นั่นมันบอสระดับสูงเลยนะ! พวกเราควรจะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันมันไม่ใช่เหรอ!?”
คำพูดของหลิวเฉียงเหว่ยนั้นทำให้ภายในกิลด์เกิดการขัดแย้งกันขึ้นมา แต่ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงหญิงสาว ตำแหน่งของเธอในมิดซัมเมอร์ก็อยู่สูงสุดอยู่ดี
“ทำตามที่ฉันพูด”
เธอเน้นย้ำ และมันก็ทำให้สมาชิกกว่า 1 แสนคนภายในกิลด์ไม่กล้าพูดอะไรต่อและทำตามที่เธอบอกมา
ส่วนทางเซียวเฟิง เขาออกจากแคมป์แห่งนี้และตรงไปยังทิศเหนือที่ร้างคนด้วยตัวคนเดียว