Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 188 ชนะสงครามป้องกันฐาน
มันเป็นการโดนโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่กิลด์มิดซัมเมอร์เคยโดนมา…
สมาชิกกิลด์มากมายต้องเสียสละชีวิตของตนเพื่อล่อบอสออกจากแคมป์จนกว่าจะครบ 10 นาที
จำนวนคนที่ตายในทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศใต้เพิ่มขึ้นแทบจะทุกวินาที จนตอนนี้ยอดแตะหลักแสนเข้าไปแล้วเพราะสกิลโจมตีพื้นที่ของบอสระดับสูงที่รุนแรงเกินไปนั่นเอง
‘ผู้พิทักษ์ยักษ์น้ำแข็ง’ บอสขนาดยักษ์ที่วอร์สปิริตเคยปะทะด้วยที่ทะเลสาปน้ำแข็งด้านนอกเมืองเซิงสุ่ย มันเป็นเพียงบอสธรรมดาเลเวล 30 ที่ดันมีสกิลโจมตีพื้นที่รุนแรงเกินตัวอย่างคลื่นน้ำแข็ง เพียงการโจมตีครั้งเดียวก็ส่งผลให้ผู้เล่นที่เป็นกลุ่มก้อนแตกพ่ายกันไปได้ง่าย ๆ แล้วยิ่งจังหวะที่บัฟจากนักบวชหมดไปแล้วด้วยก็ยิ่งสู้ยากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม บอสที่เข้าโจมตีตอนนี้มันแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าผู้พิทักษ์ยักษ์น้ำแข็งตนนั้นเสียอีก เป็นภัยคุกคามระดับใหญ่หลวงให้กิลด์ได้เลย
มิดซัมเมอร์กำลังสูญเสียหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เว้นแม้แต่นักเวทและนักบวชที่อยู่แนวหลัง เพราะพวกเขาจำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าปกป้องแคมป์เอาไว้หลังจากที่แนวหน้าเริ่มล้มตายกันจนจะหมดแล้ว สมาชิกเหล่านี้ต่างล้มตายกันไปคนละ 3 ครั้งขั้นต่ำ ทุก ๆ คนวนเวียนอยู่กับสถานการณ์เวียนว่ายตายเกิดเพื่อกลับไปล่อบอสซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่แบบนี้ พวกเขาเสียอุปกรณ์ที่ใส่ไปจนหมด ปัจจุบันความเสียหายที่ทำได้นั้นไม่ต่างอะไรกับผู้เล่นใหม่ที่มาตีบอสแม้แต่นิด
ที่หน้าทางเข้าแคมป์นั้น มีผู้เล่นหลายคนเลือกที่จะไม่เกิดใหม่เพื่อที่จะให้กองซากศพของพวกเขาสูงเป็นกำแพงและขวางทางเดินของบอสเอาไว้ได้สำเร็จจนถึงวินาทีสุดท้าย
[สงครามป้องกันฐานที่ตั้งจบลงแล้ว! ยินดีด้วย กิลด์มิดซัมเมอร์ชนะสงครามและด้วยเหตุนี้จะถือว่ากิลด์มิดซัมเมอร์ถูกก่อตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว พื้นที่บริเวณ 16 กิโลเมตรรอบหอบัญชาการ จะถูกถือเป็นฐานที่ตั้งของกิลด์มิดซัมเมอร์และจะไม่มีมอนสเตอร์ป่าเกิดขึ้นในบริเวณนี้]
ไม่ว่าจะต้องเสียสละและสูญเสียไปมากเท่าไหร่ แต่เมื่อวินาทีที่ทุกคนได้ยินประกาศเช่นนั้น สมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์ต่างก็พากันตื่นเต้นกันหมด
ในที่สุด ถัดจากไดนัสตี้ พวกเขาก็สามารถเอาชนะสงครามป้องกันฐานที่ตั้งและจดทะเบียนขึ้นเป็นกิลด์อย่างเป็นทางได้แล้วเป็นอันดับที่ 2
ถึงแม้ว่าในเขตฮัวเซียนั้นจะมีกิลด์มากกว่า 10 กิลด์ถูกก่อตั้งขึ้น แต่ในบรรดากิลด์เหล่านั้นเกือบทั้งหมดยังไม่ถูกถือว่าก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเพราะพวกเขายังไม่เคยชนะสงครามป้องกันฐานที่ตั้งกัน
“ฮ่า ๆ! พวกเราทำได้แล้ว!”
“ไม่เคยคิดว่าเราจะเป็นกิลด์ที่ 2 หลังจากที่ไดนัสตี้ทำสำเร็จ! พวกเราชนะสงครามป้องกันฐานแล้ว! พวกเราช่วยกันสร้างชื่อเสียงของพวกเราเองในเขตฮัวเซียได้แล้ว!”
“ใช่แล้ว! ไม่ใช่เท่านั้นนะ พวกเรากำลังนำหน้าทุก ๆ คน 1 ก้าวแล้ว เมื่อไหร่ที่มีการจัดอันดับกิลด์ใหม่พวกเราก็จะมีอันดับสูงขึ้นไปอีก! ยังไงซะเราก็เป็นกิลด์ที่ 2 ถัดจากไดนัสตี้เลยนะ ที่ชนะสงครามป้องกันฐานได้!”
“นั่นสิ พวกที่เป็น 10 กิลด์ระดับท็อปของเขตฮัวเซียเนี่ย ชอบคิดว่าตัวเองแน่จริงแต่พวกนั้นก็ยังไม่กล้าแม้แต่ตั้งแคมป์ซะด้วยซ้ำ ตอนนี้พวกเราก้าวนำคนพวกนั้นมาหมดแล้ว!”
“น่าเสียดายที่เราดันพลาดตอนสงครามครั้งแรก ไม่งั้นละก็ด้วยรางวัลจากระบบขนาดนี้ พวกเราอาจจะกลายเป็นกิลด์ที่ทรงพลังที่สุดในบรรดา 10 กิลด์ระดับท็อปของเขตฮัวเซียแน่ ๆ ”
“ไอ้เวรเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั่น! พวกเราไม่ควรปรองดองกับมันจริง ๆ! เก็บมันไว้ในลิสต์ล่าหัวก็ดีอยู่แล้ว ฉันจะได้ล่ามันจนกว่ามันจะตาย!”
“เอาน่า บางครั้งการประนีประนอมก็เป็นเรื่องที่ควรทำนะ นายไม่เห็นหรือไงว่าพลังของคน ๆ นั้นน่ะสามารถถล่มกิลด์กลอรี่ได้ทั้งกิลด์เลยนะ ขืนพวกเราไม่ประนีประนอม วันที่เราจะได้ตั้งกิลด์อย่างเป็นทางการอาจจะไม่มีเลยก็ได้”
“ฉันเห็นด้วย เจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะแข็งแกร่งและน่ากลัวเกินไป เพื่ออนาคตที่ดีของกิดล์พวกเรา การปรองดองกับเขาถือเป็นทางเลือกที่ฉลาดแล้ว ยังไงซะตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่จะโค่นเขาได้เลย อย่าลืมสิว่าศัตรูเมื่อคืนของเขาเป็นถึงกิลด์กลอรี่เลยนะ”
เหล่าสมาชิกของกิลด์มิดซัมเมอร์กำลังส่งเสียงดีใจด้วยกัน บางคนก็หัวเราะออกมาด้วยความสุขขณะเดินกลับไปยังแคมป์
ที่แห่งนั้น หลิวเฉียงเหว่ยกำลังยืนรอพวกเขาอยู่ ใบหน้าของเธอถูกปกปิดไว้ด้วยผ้าคลุม ด้วยท่าทีที่สง่างามและสูงส่งนั้น มันทำให้เธอเปรียบเสมือนนางฟ้าที่มารอรับเหล่าทหารกล้าผู้กลับมาพร้อมชัยชนะก็มิปาน นางฟ้าที่สงบเสงี่ยมและชวนให้หลงใหลได้ทุกครั้งที่เฝ้ามอง เหล่าผู้บริหารกิลด์มิดซัมเมอร์ก็ทยอยเดินเข้ามาในแคมป์ทีละคน ๆ พวกเขายิ้มให้หลิวเฉียงเหว่ยเมื่อเห็นเธอขณะที่ปากก็พูดเสียงเบา
คนเหล่านี้พยายามทำตัวให้ดีต่อหน้าหลิวเฉียงเหว่ย เพราะเธอคนนี้เป็นทั้งหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์รวมไปถึงเป็นอันดับ 1 ของอันดับเทพธิดาในเขตฮัวเซียด้วย
“ยังไงก็เถอะ เวฟสุดท้ายนั่นมันบีบคั้นมากเลยนะ บอสเกือบจะเข้ามาทางประตูทิศใต้ได้แล้ว โชคยังดีที่พวกเราหยุดเอาไว้ได้” ลีฟผู้เป็นชายวัยกลางคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาเป็นหัวหน้ากิลด์เก่าของกิลด์มิดซัมเมอร์หรือที่รู้จักกันในฐานะเจ้าพนักงานในมิดซัมเมอร์กรุ๊ป หลังจากที่หลิวเฉียงเหว่ยรับหน้าที่ในการดูแลกิลด์ ตัวเขานั้นอยากจะลาออกแต่ท้ายสุดก็ถูกเกลี้ยกล่อมให้มาอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าแทน เห็นได้ชัดว่าเขานั้นเป็นชายที่มีความสำคัญกับกิลด์ไม่น้อย
“เข้าใจเลย ที่ฝั่งตะวันตกเองก็เหมือนกัน บอสพยายามจะบุกเข้ามาภายในแคมป์ให้ได้อยู่ตั้งหลายครั้ง มันทำเอาพวกฉันเกือบหยุดหายใจกันตลอดเลย ขืนตอนนั้นเสียผู้เล่นไปซักคนหนึ่งล่ะก็ พวกเราได้แพ้จริง ๆ ด้วย”
“ใช่เลย ต้องชื่นชมความมีไหวพริบของหัวหน้าจริง ๆ ที่รวมคนไว้ที่ 3 ทิศนี้แทน ไม่งั้นแล้วเราชนะไม่ได้แน่”
“ยังไงก็เถอะ โรส ทำไมเธอถึงเลือกที่จะละทิ้งทิศเหนือล่ะ? ถึงแผนของเธอจะออกมาสมบูรณ์ก็จริง แต่พวกเราก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจแบบนั้นในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนี้ได้?” ลีฟถาม
ลีฟเป็นชายที่ฉลาด ดังนั้นเขาจึงสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้หลิวเฉียงเหว่ยสั่งการให้ถอนกำลังคนออกจากทิศเหนือเพื่อไปประจำอีก 3 ทิศที่เหลือแทน หากไม่ใช่ว่านี่เป็นแผนที่ผู้บัญชาการสั่งล่ะก็ เขาเองก็คงจะค้านหัวชนฝาด้วยแน่ ๆ
“เรื่องนี้ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ ท่านประธาน การเอาคนออกจากทิศเหนือจะทำให้การป้องกันมันลดถอยลงไม่ใช่เหรอครับ? ผมไม่ได้ยินเสียงปะทะกันเลยจากทางทิศนั้น ที่นั่น…ไม่มีมอนสเตอร์เกิดเหรอครับ?”
เรื่องนี้ทำให้ผู้จัดการคนอื่นเองก็หันมาสนใจด้วย เพราะพวกเขาส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าหน่วยย่อยหรือทีมขนาดใหญ่ที่นำทัพเข้าสู่กับบอสใน 3 ทิศ เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางทิศเหนือซักเท่าไหร่
ความสงบสุขนั้นบางครั้งก็หมายถึงสันติภาพ ทว่ากับบอสทางทิศเหนือที่คิดว่าน่าจะสู้ด้วยได้ยากที่สุด กลับเป็นสิ่งที่หลิวเฉียงเหว่ยไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับมันบ้าง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในทิศเหนือแม้เธอจะเป็นผู้ดูการต่อสู้โดยรวมอยู่ที่นี่
บอสตัวนั้นน่าจะเป็นตัวที่ทำความเสียหายให้มิดซัมเมอร์กิลด์มากที่สุด ความเสียหายระดับที่ทำให้แพ้สงครามได้เลย แต่มันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เข้าใกล้แคมป์เสียด้วยซ้ำ
เธอนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ภาพของเซียวเฟิงก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิดของเธอทีละนิด ทว่าพอเข้าไปเช็กก็พบว่าเขาออฟไลน์ไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถติดต่อเขาได้ในตอนนี้
หลิวเฉียงเหว่ยปัดความสงสัยของทุกคนด้วยคำอธิบายง่าย ๆ อย่างการตอบไปว่าเธอไปขอให้คนอื่นมาช่วย หญิงสาวไม่ได้บอกพวกเขาไปว่าชายคนนั้นคือเซียวเฟิงเพราะรู้ดีว่ายังมีคนพวกนี้อีกหลายคนที่ยังรู้สึกแค้นชายหนุ่มอยู่ เหนือสิ่งอื่นใดพวกเขายังมีงานต้องทำอีกมากหลังจากนี้
นั่นคือการชดเชยความเสียหายจากการต่อสู้และตั้งแคมป์ใหม่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชนะ แต่ความสูญเสียที่ได้รับมันก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลยเหมือนกัน คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ ๆ กว่ามิดซัมเมอร์จะฟื้นตัวเต็มที่
ไม่นานนักข่าวเรื่องกิลด์มิดซัมเมอร์ชนะสงครามป้องกันฐานที่ตั้งก็กระจายไปทั่วเขตฮัวเซีย และนี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กิลด์ต่าง ๆ อยู่กันไม่สุขด้วย พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินมานี้เลย
“หือ? นี่ฉันฟังอะไรผิดหรือเปล่า? มิดซัมเมอร์ชนะสงครามเหรอ?”
“หมายความว่า ถัดจากไดนัสตี้ กิลด์ที่ 2 ที่ชนะในสงครามป้องกันฐานที่ตั้งคือมิดซัมเมอร์งั้นเหรอ?”
“ไม่สมเหตุสมผลเลย! ขนาดเมื่อตอนครั้งแรก พวกนั้นมีทั้งรางวัลจากระบบกับสมาชิกมากกว่าตอนนี้เป็นเท่าตัวยังไม่ชนะ แล้วทำไมแบบนี้ดันมาชนะได้!?”
“บางทีพวกนั้นอาจจะมีประสบการณ์ในการป้องกันมากขึ้นหรือเปล่า? แต่ยังไงมันก็ยังยากจากจำนวนสมาชิกที่หายไปครึ่งหนึ่งนั่นน่ะ”
“แล้วว่าแต่เจ้าแห่งฮีลเลอร์ได้เข้าร่วมศึกนี้ด้วยหรือเปล่า? หา? มิดซัมเมอร์ยกเลิกล่าหัวเจ้าแห่งฮีลเลอร์แล้ว? ทั้งสองฝ่ายปรองดองกันแล้วเหรอ?”
เหล่ากิลด์ขนาดใหญ่ในเขตฮัวเซียต่างพากันถกเถียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ พวกเขารู้กันดีว่าสงครามปกป้องฐานที่ตั้งนั้นยากขนาดไหน ความพ่ายแพ้ของกิลด์มิดซัมเมอร์เมื่อสงครามครั้งแรกเองก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดี
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามิดซัมเมอร์จะชนะสงครามได้เช่นเดียวกับที่ไดนัสตี้ทำ การที่ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของไดนัสตี้นั้นเพราะว่าพวกเขาเป็นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซีย ดังนั้นความแข็งแกร่งของไดนัสตี้ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน
การทำสงครามป้องกันฐานที่ตั้งนั้นเป็นสิ่งที่ทุกกิลด์ต้องทำ ไม่เพียงแค่มิดซัมเมอร์เท่านั้น กิลด์ที่ขนาดใหญ่เท่ากันหรือใหญ่กว่ายังไงก็หนีไม่พ้น
แม้ว่าพวกเขาจะได้รับโทเคนกิลด์มาแล้วและก่อตั้งกิลด์ได้สำเร็จภายใต้การดูแลของ NPC ในเมืองหลัก แต่พวกเขาก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะสงครามป้องกันฐานทัพได้อยู่ดี ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยังไม่ตั้งแคมป์กิลด์กัน ครั้นเมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับชัยชนะของมิดซัมเมอร์ เหล่าผู้บริหารกิลด์ต่าง ๆ จึงเริ่มวางแผนร่วมกันเพื่อทำอะไรบางอย่างแล้ว
มีบางคนในนั้นที่พอจะมีข้อมูลของมิดซัมเมอร์เมื่อตอนรับศึกจากมอนสเตอร์ทั้ง 36 เวฟจากคนที่แฝงตัวเข้าไปในกิลด์ตอนเกิดสงคราม
“นายบอกว่ามีเทพลึกลับช่วยมิดซัมเมอร์ชนะสงครามงั้นเหรอ? แถมยังรับมือกับบอสระดับอิลีตด้วยตัวคนเดียวตอนที่เวฟสุดท้ายมาถึงด้วย?”
“เทพลึกลับ? ใครกันน่ะ? แน่ใจนะว่านั่นไม่ใช่กิลด์อื่นแต่เป็นคน ๆ เดียวที่ช่วยมิดซัมเมอร์น่ะ?”
“จริงเหรอเนี่ย? มั่นใจจริง ๆ เหรอว่ามีคนที่สามารถรับมือบอสที่โหดขนาดนั้นได้ด้วยตัวคนเดียวน่ะ? หมอนั่นมันเป็นใครกัน?”
“เจ้านั่นไม่มีชื่อกิลด์ขึ้น ชื่อตัวละครก็ด้วย แล้วอุปกรณ์ล่ะ? เขาซ่อนอุปกรณ์ด้วยหรือเปล่า? แต่ถึงยังไงก็ไม่น่าจะซ่อนอาวุธใช่ไหม? หรือซ่อนอาวุธด้วย?”
“คน ๆ นั้นถือไม้เท้า? หรือจะเป็นนักเวท? แต่นักเวทจะยืนรับบอสด้วยตัวคนเดียวไหวเหรอ?”
“ไม่ใช่! นั่นไม่ใช่คทาโจมตี แต่เป็นคทารักษา! แล้วก็ชายคนนั้นไม่ใช่นักเวทแต่เป็นนักบวชด้วย! ทั่วทั้งเขตฮัวเซียน่ะ มีแค่นักบวชคนเดียวที่พอจะทำแบบนั้นได้อยู่นะ!”
…
คืนนี้ อีเวนท์เซิร์ฟเวอร์จะเปิดม่านขึ้น และยังไม่มีใครรู้ว่ามันจะยาวนานขนาดไหน ดังนั้นเซียวเฟิงจึงรีบออฟไลน์ก่อนเที่ยงเพื่อที่จะได้ไปบอกเซียวหลิงและหนิงเคอเค่อว่าไม่ต้องรอ หากเขาไม่ได้ลงมากินมื้อเย็นด้วย
ทว่าเมื่อเดินออกมา เซียวเฟิงก็พบว่าทั้งสองสาวนั้นกำลังง่วนอยู่กับสื่อบันเทิงตรงหน้าเสียแล้ว เซียวหลิงกำลังวุ่นกับการเล่นวีดีโอเกมที่ซื้อมาในขณะที่หนิงเคอเค่อกำลังสนอกสนใจอยู่กับรายการทำอาหาร ดูเหมือนว่าเธอกำลังเรียนรู้วิธีทำอาหารอยู่