Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 268 ภารกิจเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2
บทที่ 268 ภารกิจเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2
[ยินดีด้วย ท่านได้เลื่อนระดับเป็นเลเวล 30 แล้ว! ได้รับแต้มค่าสถานะ 1 แต้มสำหรับเพิ่มค่าสถานะใดก็ได้!]
[ท่านพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 กรุณาไปยังอาจารย์ผู้ฝึกสอนประจำคลาสเพื่อรับภาคกิจสำหรับเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 การเปลี่ยนคลาสในครั้งที่ 2 นี้จะไม่เพียงแต่ทำให้ท่านแข็งแกร่งขึ้น แต่ท่านจะได้เรียนรู้สกิลใหม่ ๆ ที่ทรงพลังมากขึ้นด้วย ดังนั้นหลังจากที่ทำการเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 เสร็จสิ้น ท่านจะได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มอีก 1 แต้มสำหรับพัฒนาค่าสถานะตนเอง!]
เสียงของระบบดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่างที่เปล่งออกมาจากตัวเขาในเวลาเดียวกัน หลังจากที่ไล่ถล่มกองพันซี่โครงด้วยความคึกคะนอง ในที่สุดเซียวเฟิงก็สามารถอัปเลเวลเป็นเลเวล 30 ได้แล้ว!
เซียวเฟิงยังคงรักษาความเป็นผู้นำในหลาย ๆ ด้านไว้ได้และยังคงเป็นอันดับ 1 ในอันดับเลเวลดังเดิม หรือต่อให้ดูจากอันดับรวมเซิร์ฟเวอร์ เซียวเฟิงก็ยังมีเลเวลสูงกว่าธอร์ถึง 2 เลเวลในขณะที่แม้แต่ธอร์เองก็ยังเป็นที่สองให้เขาเลย!
เรื่องนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว สิ่งที่เซียวเฟิงเป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือการเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 มากกว่า เขาอยากจะได้สกิลใหม่รวมถึงแต้มค่าสถานะอีก 2 แต้มที่สามารถนำไปอัปเกรดอะไรก็ได้หลังจากที่เปลี่ยนคลาสได้แล้ว ด้วยเหตุนี้เซียวเฟิงจึงอยากจะรีบทำสิ่งนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ยิ่งมันเสร็จเร็วเท่าไหร่ เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นได้เร็วเท่านั้น!
ปัญหาเดียวของเซียวเฟิง ณ ตอนนี้น่าจะเป็นเพราะคลาสที่ตัวเองเป็นอยู่นั้นถือเป็นคลาสลับคลาสหนึ่ง เพราะงั้นชายหนุ่มจึงไม่รู้ว่าใครที่เป็นอาจารย์ประจำคลาสนี้กันแน่ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เซียวเฟิงก็ตัดสินใจที่จะไปยังนครศักดิ์สิทธิ์ก่อน ยังไงเสียเขาก็ได้อาชีพลับนี้มาจากที่นั่น มันจะต้องมีทางที่ทำให้เปลี่ยนเป็นคลาสสองได้อยู่แน่ ๆ
“ท่านบิชอปเรนัลด์ ผมขอรบกวนอะไรท่านหน่อย!”
พลันเมื่อเห็นบิชอปเรนัลด์กำลังเดินอย่างเร่งรีบผ่านหน้าจุดวาร์ปประจำเมืองเทียนหลงที่ใช้สำหรับเดินทางไปยังนครศักดิ์สิทธิ์ เซียวเฟิงไม่รอช้าที่จะรั้งอีกฝ่ายไว้ก่อนในทันที
“อาร์คบิชอป? ข้าสามารถช่วยอะไรท่านได้บ้าง?”
เพราะเซียวเฟิงไปยืนขวางทางบิชอปเรนัลด์ไว้ เจ้าตัวถึงได้ยอมหยุดเดิน กระนั้นเขาก็ยังมองเซียวเฟิงด้วยแววตาหลบเลี่ยงอยู่เรื่อย ๆ
“ท่านบิชอปเรนัลด์ ผมมีเรื่องอยากจะให้ท่านช่วยนิดหนึ่ง”
เซียวเฟิงแอบใช้ทักษะตรวจสอบขั้นสูงกับบิช็อปเรนัลด์ แต่สิ่งที่เขาได้กลับมานั้นก็คือความว่างเปล่า ผลลัพธ์นี่มันกำลังแสดงให้เห็นว่าเลเวลของบิช็อปเรนัลด์นั้นสูงกว่าเซียวเฟิงเกิน 15 เลเวล! เลเวลของ NPC คนนี้สูงกว่า 45 อีกงั้นเหรอ!?
น่าตกใจชะมัด!
“ว่าอย่างไรนะครับ? ท่านเป็นอาร์คบิชอป ตำแหน่งของท่านสูงกว่าข้าเสียอีก! ข้าช่วยท่านไม่ได้หรอก!”
จากท่าทีของบิชอปเรนัลด์นั้น มันชัดเจนว่าเจ้าตัวเองก็รู้ตัวแล้วว่าโดนเซียวเฟิงแอบพยายามอ่านค่าสถานะอยู่ เขาตื่นตัวและถอยออกห่างเซียวเฟิงเพราะระวังตนเองให้มากขึ้น
ระหว่างภารกิจในดินแดนแห่งความมืดครั้งล่าสุด เซียนเฟิงพยายามอย่างมากในการรับเอาสกิลบางอย่างจากเขา หลังจากนั้นเป็นต้นมา บิชอปเรนัลด์ก็ระวังตนเองจากเซียวเฟิงมากขึ้นกว่าเดิม
“เอ่อ ตอนนี้ผมเลเวล 30 แล้ว เลยอยากจะมาขอให้ท่านช่วยเปลี่ยนคลาสของผมเป็นคลาส 2 ให้หน่อยได้หรือเปล่า? ความแข็งแกร่งของเสี่ยวไป๋เองก็จะเพิ่มขึ้นด้วยถ้าผมแข็งแกร่งขึ้น… ใช่ไหม?”
อันที่จริงเซียวเฟิงก็ไม่ได้พูดจริงจังเสียเท่าไหร่ เพราะชายหนุ่มเองก็ไม่ได้คิดมาตั้งแต่แรกว่า บิชอปเรนัลด์ผู้เป็นคนช่างพูดช่างจาคนนี้จะเป็นอาจารย์ประจำคลาสลับของตัวเอง แต่อีกใจหนึ่ง ลึก ๆ ก็ยังไม่ปักใจไม่เชื่อซะทีเดียว เพราะยังไงเสียคนคนนี้ก็อยู่ในวิหารแห่งแสงประจำดินแดนแห่งพระเจ้าเหมือนกัน ภายในนครศักดิ์สิทธิ์ ผู้เล่นที่ถึงเลเวล 50 แล้วเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าสู่แผนที่นี้ได้ ดังนั้น NPC ที่อยู่ในนี้ก็น่าจะต้องแข็งแกร่งกว่า NPC ด้านนอกเป็นแน่แท้
“ท่านเลเวล 30 แล้วงั้นเหรอ? โอ้ เร็วจริง ๆ ”
บิชอปเรนัลด์มองเซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจ แต่ท้ายสุดเขาก็ทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่ได้หรอก ข้าช่วยท่านไม่ได้ ข้าอาจจะช่วยเปลี่ยนคลาสของพวกผู้ประกอบพิธีกรรมแห่งแสงได้ก็จริง แต่สำหรับคลาสของท่านอย่างผู้ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นั้นสูงเกินความสามารถของข้ายิ่งนัก คลาสนี้อยู่ในระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ์เลย ถึงข้าอยากจะช่วยท่าน ข้าก็ทำไม่ได้จริง ๆ ”
“งั้นท่านช่วยผมเปลี่ยนคลาสเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมแห่งแสงได้หรือเปล่า?”
ดวงตาของเซียวเฟิงเป็นประกายหลังได้ยินเช่นนั้น เพราะผู้ประกอบพิธีกรรมแห่งแสงเองก็เป็นคลาสลับอีก 1 คลาสเช่นกัน ยังไงเสียมันก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเขาแน่ ๆ หากสามารถเปลี่ยนเป็นคลาสนั้นได้
“อย่าแม้แต่จะคิดเลยท่าน มีเพียงนักบุญที่มีศรัทธาอันแรงกล้าและต้องเป็นผู้ที่สร้างคุณประโยชน์วิหารแห่งแสงเท่านั้น จึงจะสามารถชำระล้างร่างกายในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมแห่งแสงได้ ดังนั้นแล้วเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในการดูแลของข้าหรอก” บิชอปเรนัลด์มองเซียวเฟิงด้วยความระมัดระวังอีกครั้งราวกับรู้ว่าเซียวเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่
“อืม… ถ้างั้นมีใครที่สามารถช่วยผมเปลี่ยนคลาสได้บ้างล่ะ?”
เซียวเฟิงส่ายหน้ากับปัญหาที่โผล่มาเรื่อย ๆ เช่นนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือมันยังไงจึงตัดสินใจถามออกไปก่อน ถ้าเขาจำไม่ผิดผู้เล่นจำเป็นต้องได้รับการชำระร่างกายในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะเปลี่ยนคลาส เรื่องนี้มันตั้งแต่ที่เขาเข้ามายังนครศักดิ์สิทธิ์นี้ตั้งแต่แรก ๆ แล้ว ดังนั้นมันคงไม่มีประโยชน์อะไรหากผู้เล่นเหล่านั้นไม่สามารถมายังนครศักดิ์สิทธิ์ได้
“ท่านทำได้เพียงไปหาเทพธิดาแห่งแสง พลังแห่งเทพนั้นเหนือชั้นและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังแห่งแสงยิ่งนัก มีเพียงเทพธิดาแห่งแสงเท่านั้นที่มีพลังเช่นนั้นในนครแห่งศักดิ์สิทธิ์นี้” บิชอปเรนัลด์พูดด้วยท่าทีเคารพและจงรักภักดีราวกับว่าเบื้องหน้าเขามีเทพธิดาแห่งแสงยืนอยู่จริง ๆ
“โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะไปที่นั่นเลย”
พูดก็พูดเถอะ อันที่จริงเซียวเฟิงไม่ได้อยากจะไปพบหน้าเทพธิดาแห่งแสงอะไรขนาดนั้น NPC ตนนี้น่ะน่ากลัวเกินไป ถึงแม้ว่าเซียวเฟิงจะไม่เคยเกรงกลัวใคร อีกทั้งกล้าที่จะเผชิญหน้ากับบอสที่แข็งแกร่งมากมายรวมไปถึงกล้าที่จะประจัญหน้ากับกิลด์กลอรี่ทั้งกิลด์ได้ด้วยตัวคนเดียวก็ตาม แต่เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้มันมาจากความแข็งแกร่งของเขาที่ทำให้เขามั่นใจว่าสามารถสู้ได้
แต่สำหรับเทพธิดาแห่งแสงตนนี้ มันกลับทำให้เซียวเฟิงรู้สึกว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอยู่ตลอดเวลา ทั้ง ๆ นี่เป็นโลกเสมือนด้วยซ้ำ! ด้วยเหตุนี้เซียวเฟิงจึงไม่อยากมีปัญหาอะไรกับเธอหากเป็นไปได้ นอกจากนี้ชายหนุ่มยังพยายามเลี่ยงที่จะพบหน้าเธอด้วยวิธีต่าง ๆ โดยไม่สนใจว่าจะต้องจ่ายอะไรไปบ้างก็ตาม
ทว่าตอนนี้เพื่อให้ได้เปลี่ยนเป็นคลาสที่ 2 เซียวเฟิงทำได้เพียงรวบรวมความกล้าแล้วไปพบหน้าหล่อนเท่านั้น…
นครศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ค่อนข้างจะมีรูปแบบคล้ายกับปราการด่านหน้า เพราะนอกจากจะมีจุดวาร์ปขนาดใหญ่ตรงกลางจตุรัสแล้ว มันยังมีจุดวาร์ปเล็กย่อยอยู่ตามถนนเต็มไปหมด เซียวเฟิงเลือกจุดวาร์ปประจำเป็นบริเวณหน้าประตูหลังของวิหาร ซึ่งมันใกล้กับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เขาสามารถไปหาเสี่ยวไป๋ได้ไวมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่เซียวเฟิงหันหน้าและเดินเข้าไปยังวิหารแห่งแสงผ่านทางประตูหลังเหมือนปกติ ก็พบว่าภายในวิหารแห่งแสงที่เปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการใหญ่แห่งเมืองแห่งเทพนั้น บัดนี้มันเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพาลาดินหรือผู้ประกอบพิธีกรรมต่างเดินกันขวักไขว่จนเห็นได้ตลอดทาง แต่เพราะว่าตำแหน่งของเซียวเฟิงนั้นสูงกว่าพวกเขาเหล่านี้ อาร์คบิชอปอย่างเซียวเฟิงจึงสามารถเดินเข้าไปถึงใจกลางของวิหารได้อย่างรวดเร็วและพบกับเทพธิดาแห่งแสงที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ได้ในท้ายที่สุด
บัลลังก์นั้นกำลังลอยตัวอยู่ บรรยากาศโดยรอบเปี่ยมไปด้วยความสงบและทรงเกียรติ บนบัลลังก์นั้น เทพธิดาแห่งแสง NPC ผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่เซียวเฟิงเคยพบเจอในโลกของเกมกำลังนอนด้วยท่าที่สง่างามและสมบูรณ์แบบอยู่ ขณะเดียวกันสายตาที่เหมือนจะปิดลงมาก็คอยสอดส่องมองมาด้านล่างราวกับกำลังมองโลกเบื้องล่างอยู่ด้วย
“ท่านเทพธิดาแห่งแสงสว่าง”
ภายในโถงขนาดใหญ่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลย ดวงตาที่งดงามของเธอเองก็ปิดสนิทอยู่ ดังนั้นเซียวเฟิงจึงไม่กล้าที่จะทำอะไรมากนอกเสียจากเอ่ยขานชื่อของเธอเบา ๆ หลังจากที่เข้ามาภายในแล้ว
“หืม?”
หญิงสาวผู้งดงามลืมตาขึ้นมาช้า ๆ สายตาของเธอมันนิ่งสงบโดยไม่ไหวติงแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นเซียวเฟิงเสียเองที่ต้องชะงักเพราะรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นปริมาณมากโถมเข้ามาจากรอบตัว โชคยังดีที่ความกดดันเหล่านั้นหายไปเองหลังจากที่อีกฝ่ายพบว่าผู้ที่เข้ามาเป็นเซียวเฟิง เธอเชยตามองก่อนจะส่งเสียงแสดงความสงสัยออกมา
“เอ่อ… ท่านเทพธิดาแห่งแสง… ท่านพอจะช่วยเปลี่ยนคลาสให้ผมได้หรือเปล่า?” เขาเอ่ยถามถามด้วยความระมัดระวังในถ้อยคำ
“ท่านเลเวล 30 แล้วงั้นหรือ? ดี” ใบหน้าสวยแสดงความชื่นชมออกมาซึ่งหาได้ยากนักที่จะได้เห็นสีหน้าเช่นนี้ ร่างงามลุกขึ้นมานั่งช้า ๆ ด้วยความเลิศเลอและใจเย็นก่อนจะพูด
“ทันเวลาพอดี ท่านได้เจอกับฐานที่ตั้งของเผ่าพันธุ์แห่งความมืดไปแล้ว อย่าง เมืองแห่งความโศกเศร้า วิหารแห่งแสงตัดสินใจแล้วว่าจะแก้ไขปัญหานี้ให้เด็ดขาดเสียที พวกเราจะร่วมมือกับเขตแดนมนุษย์เพื่อเข้าทำลายฐานที่ตั้งของเผ่าพันธุ์แห่งความมืดซะ แม้ว่าตอนนี้พวกเราจะมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งมารวมกันแล้วก็จริง แต่เรายังขาดผู้นำ ท่านในนามของข้ารับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า อีกทั้งยังคุ้นเคยกับเมืองแห่งความโศกเศร้า เพราะงั้นแล้วข้าจะส่งท่านไปในฐานะผู้นำทัพ หน้าที่ของท่านคือการทำลายล้างฐานที่ตั้งของเผ่าพันธุ์แห่งความมืดให้สิ้นซาก”
สิ้นเสียงพูดกล่าวของเทพธิดาแห่งแสง เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของเซียวเฟิง
[คุณจะรับภารกิจเปลี่ยนคลาส 2 – ทำลายเมืองแห่งความโศกเศร้า หรือไม่?]
ฉิบหาย!
เซียวเฟิงงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จริง ๆ ถึงจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เวลาจะเปลี่ยนคลาสจะต้องทำภารกิจ แล้วยิ่งการที่คลาสของเขามันเป็นคลาสลับ ภารกิจจะยากกว่าการเปลี่ยนคลาสปกติก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกอะไร
ทว่าใครจะไปคิดว่าภารกิจที่ว่านั่นคือการไปทำลายเมืองแห่งความโศกเศร้าวะ!?
เมืองแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจากการที่เซียวเฟิงได้เข้าไปเห็นด้วยตาของตนเอง จากเดิมที่เป็นเมืองร้างไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใด ๆ ตอนนี้มันกลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยบอสระดับสูงเดินไปเดินมาเต็มไปหมด ครั้งล่าสุดเซียวเฟิงก็ไม่สามารถแม้จะเข้าถึงประตูทางเข้าเมืองแห่งนี้เสียด้วยซ้ำ ทว่าคราวนี้เทพธิดาแห่งแสงกลับบอกให้ชายหนุ่มไปทำภารกิจเปลี่ยนคลาสโดยการทำลายเมืองแห่งความโศกเศร้าทิ้งซะ! นี่มันไม่ตลกเลยนะ!
“เอ่อ… ท่านเทพธิดา… ภารกิจนี้มันยากเกินไปหรือเปล่าน่ะครับ? แล้วถ้าผมทำไม่สำเร็จจะเป็นยังไงล่ะ?”
ภารกิจนี้มันคือความลังเลครั้งใหญ่ของเซียวเฟิงเลย เขาไม่มั่นใจมาก ๆ ว่าจะทำมันได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งก็เพราะชายหนุ่มยังไม่เห็นความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นจึงต้องเพลย์เซฟไว้ก่อนโดยการถามเรื่องความเสี่ยงนี้เอาไว้
ขืนไม่สามารถทำภารกิจเปลี่ยนเป็นคลาสที่ 2 นี้ได้และต้องติดอยู่กับคลาส 1 นี้ไปตลอด มันคงทำให้ชายหนุ่มไม่อยากจะเล่นเกมนี้ต่ออีกเป็นแน่
“ในเมื่อท่านได้ทำให้เทพกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านเองด้วยพันธสัญญาของสิ่งมีชีวิตแล้ว ท่านเองก็สามารถใช้พลังของเทพที่ท่านครอบครองไว้ได้เช่นกัน ซึ่งแค่นั้นก็เพียงพอต่อการกวาดล้างเหล่าเผ่าพันธุ์แห่งความมืดแล้ว ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถชักนำพวกเราและเหล่าพันธมิตรสู่ชัยชนะที่ปลายทางอย่างการทำลายฐานที่ตั้งของเผ่าพันธุ์แห่งความมืด เมืองแห่งความโศกเศร้า ได้อย่างแน่นอน”
ถึงขนาดนั้นแล้วเทพธิดาแห่งแสงก็ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้แก่เซียวเฟิงแม้แต่นิด เธอไม่ปล่อยเขาไปและพูดออกมาตรง ๆ ซึ่งเสียงของระบบที่ดังตามท้ายมานั้นก็ระบุชัดเจนแล้วว่าเขาถูกบังคับให้ต้องยอมรับภารกิจเท่านั้น
[คุณได้ยอมรับภารกิจเปลี่ยนคลาสที่ 2 ทำลายเมืองแห่งความโศกเศร้า!]
ให้มันได้อย่างงี้สิ!
สีหน้าของเซียวเฟิงนั้นแข็งทื่อเหมือนหินไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางเลือกอื่นเสียแล้ว อันที่จริงชายหนุ่มก็รู้มานานแล้วว่าฉายา อาร์คบิชอป นั้นไม่ใช่ฉายาที่สวยหรูทั่ว ๆ ไป คิดไว้แล้วว่าสักวันหนึ่งเรื่องยาก ๆ ก็จะต้องเข้ามาหาถึงที่แน่ ๆ แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะมารูปแบบนี้กัน? แล้วถ้าหากเขาทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ ชายหนุ่มอาจจะต้องกลายเป็นคนโดนกำจัดแทนหรือเปล่า?
“นี่เป็นฎีกาของข้าที่สามารถยืนยันตัวตนของท่านได้ ไปยังเมืองจักรวรรดิของเขตแดนมนุษย์ เพื่อหาจักรพรรดิเทอร์รานเสีย”
เซียวเฟิงไม่มีโอกาสได้เสียใจแต่อย่างใด เทพธิดาแห่งแสงผู้งดงามยื่นจดหมายสีทองฉบับหนึ่งให้เขา และมันก็ลอยจากมือของเธอเข้าสู่มือของชายหนุ่มอย่างนุ่มนวล
“เมืองจักรวรรดิเหรอครับ?”
หลังจากที่ตั้งได้แล้ว เซียวเฟิงก็ต้องตกใจออกมาอีกเพราะเมืองจักรวรรดิที่ว่านั่นมันไม่ใช่สถานที่ธรรมดา! บนแผ่นดินแห่งพระเจ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลผืนนี้ มันมีเมืองหลักมากมายหลายร้อยเมือง อย่างเช่น เทียนหลง เฉิงฉุนและตงฮวง
และเมืองที่อยู่เหนือเหล่าเมืองพวกนี้ คือเมืองที่เป็นศูนย์กลางของเขตแดนมนุษย์บนแผ่นดินของพระเจ้า เมืองจักรวรรดิ!
ความหมายของชื่อเมืองนั้นได้บอกความสำคัญของเมืองไปหมดแล้ว เมืองนั้นเป็นที่อยู่ของจักรพรรดิ ไม่ว่าจะเป็นด้านขนาดหรือความอเนกประสงค์ เมืองแห่งนี้เหนือกว่าเมืองหลักอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าที่นี่เองก็จะต้องกลายเป็นที่จัดอีเวนต์ให้ผู้เล่นในอนาคตแน่ ๆ !
ถึงแม้ว่าเมืองเทียนหลงจะโด่งดังและเป็นที่ยอดนิยมในตอนนี้ แต่มันก็ยังใหญ่และเจริญอยู่ในระดับของเมืองขนาดใหญ่ มีเพียงเมืองจักรวรรดิเท่านั้นที่ใหญ่ในระดับเมืองศูนย์กลางที่สามารถรองรับคนจากทั่วทั้งเขตฮัวเซียได้!
แต่จากกาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านมา ผู้เล่นมากมายที่ได้เข้ามาในดินแดนแห่งพระเจ้าแห่งนี้ต่างก็เฝ้าตามหาที่ตั้งของเมืองจักรวรรดิกันอยู่ตลอด ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เล่นทั่ว ๆ ไปที่อยากจะไปผจญภัยในเมืองนี้ หรือจะเป็นเจ้าของหอการค้าที่อยากจะได้พื้นที่ที่เจริญแล้วมาครอบครองอย่างพื้นที่ในเมืองจักวรรดินั้น ทว่าไม่มีใครเลยที่สามารถหาที่ตั้งของมันเจอ ดังนั้นแล้วเมืองแห่งจักรวรรดิจึงไม่มีผู้เล่นอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
ผู้เล่นหลายคนต่างคาดเดากันไว้ว่าเมืองจักรวรรดินั้นน่าจะเป็นแผนที่ระดับสูง ผู้ที่จะค้นพบทางเข้าได้คงจะต้องถึงเลเวลที่กำหนดเสียก่อน หรือบางทีอาจจะเป็นผู้ที่ผ่านการเปลี่ยนเป็นคลาส 2 หรือดีไม่ดีก็ต้องหลังจากเปลี่ยนเป็นคลาส 3 แล้วก็ได้ ส่วนต้นเหตุที่ทำให้ผู้เล่นรู้ถึงการมีอยู่ของเมืองจักรวรรดินี้ก็คือ ในจุดวาร์ปของเมืองหลักทุกเมือง มันมีตัวเลือกให้วาร์ปไปยังเมืองจักรวรรดิอยู่ แต่กระนั้นมันก็ยังไม่มีใครสามารถเลือกวาร์ปไปได้
ดังนั้นเซียวเฟิงจึงไม่คาดคิดเลยว่าเมืองจักรวรรดิที่เป็นตำนานนั้นจะเป็นฝ่ายมายื่นโอกาสให้ชายหนุ่มหาเจอเองแบบนี้!
นี่มันเป็นภารกิจระดับยากที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เคยผ่านมาเลย ไม่ว่าจะเป็นของรางวัลที่แสนวิเศษที่คู่ควรกับความยากระดับนี้ นี่ขนาดภารกิจยังไม่เริ่มเซียวเฟิงยังตื่นเต้นไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลย
แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่า ‘เงินมักจะมากับสิ่งที่อันตราย’ เซียวเฟิงกัดฟันก่อนจะเดินหน้าออกจากวิหารแห่งแสง ยังไงเสียเขาก็ปฏิเสธมันไม่ได้เสียแล้วสิ
“โตวโตว ฉันเจอที่ตั้งของเมืองจักรวรรดิแล้ว” เหนือสิ่งอื่นใด เซียวเฟิงติดต่อไปยังเฉียนโตวโตว เพื่อที่จะแจ้งให้เธอรู้ข่าวทันที เพราะเขาได้ยินมาว่าอีกฝ่ายกำลังตามหาเมืองนี้มาวันถึงงวันแล้ว
“…” ตลอดการพูดคุย เฉียนโตวโตว เป็นฝ่ายฟังเงียบ ๆ เสียงเดียวที่ได้ยินนั้นก็มีเพียงเสียงสูดหายใจลึก ๆ เท่านั้น ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามทำใจให้สงบอยู่ ถึงจะได้พูดต่อขึ้นมา “พี่เซียว เดี๋ยวฉันจะล้างเนื้อล้างตัวแล้วขึ้นเตียงพี่เดี๋ยวนี้เลย!”
“ออกไปเลยไป๊!”