Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 290 เหตุร้าย
บทที่ 290 เหตุร้าย
บทที่ 290 เหตุร้าย
ด้วยอาร์ติแฟกต์ทั้ง 5 ชิ้น เซียวเฟิงก็เริ่มจัดการเคลียร์กองทัพโครงกระดูกที่บนยอดภูเขากระดูกนี้อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ต้องระวังตัวให้มากขึ้น มันต่างจากเมื่อครู่ที่มอนสเตอร์ไม่สามารถโจมตีกลับได้ เขาเพียงแค่สาดพลังโจมตีอันรุนแรงลงไปก็เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับการที่จะขี่เสี่ยวเสวียและสร้างความเสียหายไปด้วยจากบนฟากฟ้าที่ยอดเขานี้ เนื่องจากที่ด้านล่างนั้นมีกลุ่มมอนสเตอร์ที่สามารถโจมตีระยะไกลได้อยู่ เขาอาจจะกลายเป็นเป้าโจมตีได้ง่าย ๆ
“พี่เซียว ให้พวกฉันยืมเสี่ยวเสวียสักพักได้ไหม?” เมื่อเห็นว่าเซียวเฟิงกำลังจะเก็บเสี่ยวเสวียกลับเข้าสู่มิติสัตว์ขี่ เฉียนโตวโตวก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร กลับกันมันเป็นเรื่องที่ดีเสียอีกที่จะให้เสี่ยวเสวียได้รับอากาศภายนอกบ้าง นอกจากนี้เสี่ยวเสวียก็ยังสามารถรับค่าประสบการณ์ได้เรื่อย ๆ อีกด้วย ดังนั้นแล้วเซียวเฟิงจึงปล่อยให้เสี่ยวเสวียเล่นอยู่ด้านนอกก่อน
เฉียนโตวโตวและกลุ่มของผู้เล่นหญิงรีบเข้าไปห้อมล้อมร่างของเสี่ยวเสวียไว้ด้วยแววตาเป็นประกายกันทันที แต่เสี่ยวเสวียนั้นค่อนข้างจะทะนงตนพอดู ต่อให้เฉียนโตวโตวจะเรียนรู้วิธีปรนเปรอมันจากเซียวเฟิงเพื่อเพิ่มความชอบแล้ว เสี่ยวเสวียก็ยอมให้แค่พวกเธอลูบขนเท่านั้น ไม่ยอมให้ขี่แต่อย่างใด
“อวยพรชีวิต!”
“อวยพรป้องกัน!”
“อวยพรอาวุธ!”
“อวยพรความกล้า!”
อีกฟากหนึ่ง เซียวเฟิงก็เริ่มกำจัดมอนสเตอร์แล้ว เขาเลือกสถานที่ที่มีทหารโครงกระดูกรวมตัวกันอยู่เยอะ ๆ จากนั้นก็ร่ายบัฟทั้งสี่ให้ตนเองก่อนจะร่ายสกิลทั้งสามสกิลต่อในทันที!
“โฮลี่ไลท์!”
“ถ้อยคำแห่งเงา!”
“รักษา!”
หมอกแห่งความเสียหายสีแดงลอยขึ้นเหนือหัวมอนสเตอร์เหล่านั้น และทันใดนั้นเองหลอดพลังชีวิตของพวกมันก็หายไปมากกว่าครึ่งเสียอีก!
เซียวเฟิงค่อย ๆ แสดงความพึงพอใจออกมาผ่านสีหน้าและเตรียมที่จะหนีออกจากการไล่ล่าของมอนสเตอร์ที่โดนโจมตีไป สกิลรักษาที่เพิ่งได้มานั้น มันทำความเสียหายได้มากกว่า 400 หน่วยเสียอีก! ถึงแม้ว่าปริมาณความเสียหายระดับนี้จะไม่ได้มากนักสำหรับบอส แต่มันถือว่าร้ายแรงมากสำหรับมอนสเตอร์ที่มีพลังชีวิตเพียงไม่กี่พันเหล่านี้!
ไม่คาดคิดเลยว่าการโจมตีระลอกแรกจะสามารถลดพลังชีวิตของพวกมันได้มากกว่าครึ่งเสียอีก!
ถึงแม้ว่าคูลดาวน์ของถ้อยคำแห่งเงาจะค่อนข้างนาน ทำให้การโจมตีรอบต่อไปจะมีแค่โฮลี่ไลท์และรักษา แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการกำจัดมอนสเตอร์ในสองรอบ! ช่างเป็นพลังโจมตีที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้นะ!
มันคงจะมีแต่ไอเทมที่ไร้เทียมทานเท่านั้นถึงจะสามารถทำความเสียหายขนาดนี้ได้
ด้วย 10 วินาทีของสกิลคงกระพันที่เป็นสกิลของชุดเกราะมังกร มันก็ทำให้การรอเวลาคูลดาวน์ 27 วินาทีของสกิลกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย นอกจากนั้นเขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังเต็มที่ของชุดเกราะมังกรด้วยซ้ำ เพียงแค่โล่มังกรก็น่าจะซื้อเวลาได้ง่าย ๆ แล้ว เมื่อคูลดาวน์สกิลเสร็จสิ้น เซียวเฟิงก็หันกลับไปและร่ายสกิลระลอกที่สองใส่ทหารโครงกระดูกต่อในทันที!
เสียงประกาศจากระบบพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน มันทำให้เหล่าผู้เล่นผู้หญิงที่มาด้วยต่างพากันเลเวลอัปเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม พวกเธอต่างก็เริ่มจะเบื่อกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขึ้นมาบ้างแล้ว สิ่งที่พวกเธอทำได้นั้นมีเพียงถอนหายใจทิ้งไปเรื่อย เพราะลำพังแค่พลังของเซียวเฟิง พวกเธอก็ไม่ต้องทำอะไรอีกเลย เป็นอันชัดเจนว่าพวกเธอยอมรับถึงความแข็งแกร่งของเขาจริง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อที่จะให้ได้อยู่กับเสี่ยวเสวียมากยิ่งขึ้น พวกเธอยังเริ่มจะเฉยต่อสิ่งของที่ดร็อปทิ้งไว้ในสนามรบด้วย สิ่งของมากมายเหล่านั้นจึงถูกปล่อยให้หายไปตามกาลเวลาเพราะมันมีจำนวนมากเกินไป หากจะเก็บจริง ๆ พวกเธอจำเป็นต้องใช้เวลาพอตัวเลยเพื่อคัดเลือก
มีเพียงเซียวเฟิงเท่านั้นที่ยังคงขยันขันแข็งในการปัดกวาดมอนสเตอร์ในที่แห่งนี้ ใจหนึ่งเขาก็รอให้ถ้อยวาจาแห่งเงาคูลดาวน์เสร็จ ส่วนอีกใจหนึ่งก็คอยเลือกเก็บไอเทมบางชิ้นไปเพื่อจะนำไปสะสมค่าประสบการณ์ของทักษะหลอมขึ้นรูปไปด้วย
“มีคนกำลังเก็บเลเวลอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”
ตอนนั้นเอง กลุ่มของผู้เล่นที่มีไอเทมดีระดับหนึ่งก็เดินเข้ามายังจุดยอดของภูเขากระดูกจากด้านล่าง พวกเขาต่างพากันตกตะลึงที่ได้เห็นเฉียนโตวโตว และเหล่าผู้เล่นผู้หญิงที่มาอยู่ในแผนที่ระดับสูงนี้ได้โดยที่พวกเขายังไม่กล้าขึ้นมาเลยก่อนหน้านี้
“เฮ้ ๆ ทำไมตรงนี้ถึงมีแต่ผู้เล่นผู้หญิงเต็มไปหมดเลยล่ะ?”
กลุ่มผู้เล่นที่มาทีหลังนี้เป็นปาร์ตี้ที่มีแต่ผู้เล่นชายกว่าสิบคน เมื่อพวกเขาเห็นเฉียนโตวโตว และผู้เล่นหญิงคนอื่น ๆ มีแต่ไอเทมระดับทั่วไป ความตื่นเต้นในใจมันก็ก่อเกิดขึ้นมา
“สาว ๆ ตั้งปาร์ตี้กันไหม?”
“ช่าย เก็บเลเวลตัวคนเดียวคงน่าเบื่อน่าดู มาเก็บเลเวลกับพวกเราไหม?”
“พวกเราเก่งเรื่องเก็บเลเวลมากเลยนะ! พวกเธอแค่เดินตามอยู่ด้านหลังก็ได้ค่าประสบการณ์ไปฟรี ๆ เลย!”
“ดูไอเทมของพวกเธอสิ มันคงยากที่จะเก็บเลเวลใช่ไหมล่ะ?”
มองไปยังกลุ่มผู้เล่นชายที่กรูเข้ามาทักทายเชิงจีบ เหล่าผู้เล่นผู้หญิงต่างก็ตกใจและพากันหันไปหาบอสอย่างเฉียนโตวโตวเพื่อขอให้ช่วย
เฉียนโตวโตวที่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเหมือนกันก็ได้แต่ส่ายหน้า มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้เล่นหญิงในเกมนี้จะถูกจีบอยู่บ่อยครั้ง แต่สิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือบางครั้งผู้เล่นชายก็ลามปามถึงขนาดจะลวนลามผู้เล่นหญิงที่ไม่กล้าสู้พวกเขาด้วย ประเด็นเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ที่พวกเขาจะมาเพื่อทำความรู้จักหรือจะขอตั้งปาร์ตี้เพื่อช่วยเก็บเลเวล แต่ประเด็นมันอยู่ที่พวกเธอนั้นเป็นผู้เล่นที่หนักไปทางการใช้ชีวิตในเกม ดังนั้นพวกเธอจึงไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลยแม้แต่นิด การที่มาอยู่ที่นี่ก็เพราะเซียวเฟิงเป็นคนแบกรับอันตรายไว้ให้ เช่นนั้นแล้วพวกเธอยังจำเป็นต้องไปอยู่ปาร์ตี้เดียวกับผู้เล่นธรรมดาพวกนี้อีกเหรอ?
“เอาสิ จัดปาร์ตี้กันเลย จะได้เก็บเลเวลไปด้วยกัน”
ขณะที่เฉียนโตวโตวกำลังคิดหาวิธีหนีออกจากผู้เล่นชายเหล่านี้ เซียวเฟิงก็เข้ามาพอดี เขาหัวเราะก่อนจะพูดกับกลุ่มผู้เล่นชายแทนพวกเธอ
“ดูเหมือนว่าจะมีผู้เล่นอีกหนึ่งคนสินะ ดูจากไอเทมของนายแล้ว คงเป็นนักบวชใช่หรือเปล่า? เพื่อสาว ๆ พวกนี้ พวกเราจะให้นายเข้าปาร์ตี้ด้วยก็ได้ ยังไงซะนักบวชก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง”
“เข้ามาในปาร์ตี้ซะ จากนั้นก็คอยเติมเลือดกับร่ายบัฟให้จากด้านหลังก็แล้วกัน ส่วนพวกสาว ๆ แค่คอยเชียร์ก็พอ!”
“ช่าย…ดูพวกเรากำจัดมอนสเตอร์ก็พอ! เดี๋ยวจะแสดงให้ดูว่าไอเทมเจ๋ง ๆ ที่ได้มาอยู่กับคนเจ๋ง ๆ แล้วจะเป็นยังไง!”
เมื่อเห็นเซียวเฟิงปรากฏตัว ผู้เล่นชายก็แสดงท่าทีรังเกียจ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อผลประโยชน์ของผู้เล่นหญิงที่พวกเขาทั้งหมดหมายปอง พวกเขาก็ยอมส่งคำเชิญไปให้เซียวเฟิงด้วย ยังไงเสียเซียวเฟิงก็เป็นนักบวช การมีนักบวชในปาร์ตี้ย่อมต้องดีกว่าไม่มีอยู่แล้ว
“ได้เลย!”
เซียวเฟิงยิ้มและยอมรับคำเชิญเข้าปาร์ตี้
ทันใดนั้นเอง ผู้เล่นชายในปาร์ตี้นั้นทั้งหมดก็ได้ยินเสียงประกาศจากระบบพร้อมกันว่า [ผู้เล่น ‘แด๊ด’ ได้เข้าร่วมปาร์ตี้ของพวกท่านแล้ว!]
“ชื่ออะไรวะเนี่ย…”
ขณะที่พวกเขากำลังบ่นกัน ใครบางคนที่ดูข้อมูลของเซียวเฟิงอยู่ก็เบิกตากว้างก่อนจะอุทานออกมา
“หา? เลเวล 32!?”
“คลาสของหมอนี่… สังฆราชศักดิ์สิทธิ์!?”
“แม่เจ้าโว้ย!!”
เสียงร้องอุทานหลุดออกมาให้ได้ยินจากผู้เล่นชายเหล่านั้น สีหน้าของพวกเขาดูหวาดกลัวราวกับเห็นผี ดวงตาที่เบิกโพลงนั้นหันมองเซียวเฟิงเป็นตาเดียวกันด้วยความไม่คาดฝัน
บนอันดับเลเวล มีผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้นทีเลเวล 32 และผู้เล่นคนนั้นก็คือผู้เล่นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซีย… เจ้าแห่งฮีลเลอร์!
“ไม่ใช่ว่าพวกนายอยากจะเข้าปาร์ตี้มาเก็บเลเวลด้วยกันเหรอ? ไปกันเถอะ” เซียวเฟิงยิ้มและพูดเรียกสติคนเหล่านั้นจากความตกใจ
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์! นายคือเจ้าแห่งฮีลเลอร์!!”
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์… พวกเราไม่รู้จริง ๆ ว่าสาว ๆ เหล่านี้มากับคุณ! พวกเราไม่ได้จะมารบกวนคุณนะครับ!!”
ปาร์ตี้ของเหล่าหนุ่ม ๆ รีบพากันปาดเหงื่อและกล่าวขอโทษขอโพยเซียวเฟิงอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาว ๆ ที่สวมใส่ไอเทมระดับทั่วไปถึงมาโผล่ในแผนที่ระดับสูงได้ แถมท่ามกลางพวกเธอก็ไม่มีใครที่เป็นคลาสโจมตีเลยนอกจากนักบวช
เรื่องมันกลับกลายเป็นว่านักบวชที่เป็นหัวหน้าปาร์ตี้ของพวกเธอนั้น คือผู้เล่นอันดับ 1 ในเขตฮัวเซียซะได้! ไม่มีใครสามารถสู้เขาได้ทั้งนั้น! แม้จะตัวคนเดียว แต่ก็สามารถท้าทายกับทุกสิ่งในเกมได้อย่างไม่เคยหวาดหวั่นเลย!
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ได้โปรดให้อภัยพวกเราด้วยเถอะครับ เดี๋ยวพวกเราจะรีบไปที่อื่นเดี๋ยวนี้เลย!”
“ใช่ ๆ พวกเราไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์กำลังเก็บเลเวลอยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเราคงไม่เข้ามา!”
พวกเขาทั้งหมดรีบขอตัวและพากันหนีไป เจ้าแห่งฮีลเลอร์ในสายตาของพวกเขานั้นไม่ใช่ผู้เล่นทั่ว ๆ ไป ไม่มีใครกล้าที่จะมีปัญหากับเขาโดยที่ไม่มีเหตุผล ต่อให้จะมีกิลด์ใหญ่หนุนหลังอยู่ก็ตาม!
ถ้าเกิดคนเหล่านี้ตระหนักได้ช้ากว่านี้อีกหน่อยละก็ คงจะโดนเซียวเฟิงเก็บหมดแล้วแน่ ๆ เขายืนมองผู้เล่นชายพวกนั้นวิ่งหนีออกไปจากภูเขากระดูกอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ทำอะไรต่อ อันที่จริง ชายหนุ่มไม่อยากจะเปิดเผยศักยภาพในการขจัดมอนสเตอร์ของตนให้มีคนได้เห็นมากนักต่างหาก
“พี่เซียวเท่สุด ๆ!”
เฉียนโตวโตวดูจะคลั่งไคล้เซียวเฟิงมาก ๆ จากท่าทีของเธอ ซึ่งผู้เล่นหญิงคนอื่น ๆ เองก็คิดเช่นเดียวกับเธอด้วยเหมือนกัน
“ไปกันต่อได้แล้ว”
เซียวเฟิงส่ายหน้าโดยที่ไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาวกกลับไปหากองทัพกระดูกกองอื่นต่อเพื่อที่จะได้เพิ่มเลเวลให้สาว ๆ เหล่านี้ไว ๆ
พวกเขาใช้เวลาทั้งวันในการเก็บเลเวล กองทัพโครงกระดูกที่ดูมีมหาศาลจนไม่คาดคิดว่าจะกำจัดได้หมดในชีวิตนี้นั้น ณ ตอนนี้มันถูกเซียวเฟิงปัดเป่าไปจนหมดแล้ว!
ซึ่งผลลัพธ์ของการลงทุนลงแรงครั้งนี้มันก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะไม่เพียงเซียวเฟิงจะเลเวลขึ้นเป็น 33 แต่เฉียนโตวโตว และลูกทีมของเธอก็เลเวลเพิ่มทะลุ 20 กันหมดแล้วด้วย นั่นหมายความว่า พวกเธอทั้งหมดเลเวลเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ภายในวันเดียวเลย!
หากไม่เห็นกับตาต้องไม่มีใครเชื่อแน่ ๆ ว่าพวกเธอเหล่านี้เลเวลเพิ่มขึ้นถึง 10 เลเวลในหนึ่งวัน แล้วก็ไม่น่าจะมีใครทำได้ด้วยหากเขาไม่ใช่เซียวเฟิงที่สามารถกำจัดมอนสเตอร์ร้อยพันตัวได้ภายใน 1 นาที แต่ทั้งนี้ก็เพราะเฉียนโตวโตวกับผู้เล่นสาว ๆ เหล่านี้มีเลเวลที่ค่อนข้างน้อย ดังนั้นพวกเธอจึงสามารถเลเวลเพิ่มขึ้นได้มากขนาดนี้ ในเมื่อตอนนี้พวกเธอมีเลเวลมากกว่า 20 กันแล้ว ความเร็วในการเพิ่มของมันจึงลดลงอย่างทันตาเห็น
“มอนสเตอร์…ยังไม่เกิดงั้นเหรอ?”
เซียวเฟิงหันมองไปรอบ ๆ ภูเขาแห่งนี้จากแต่เดิมที่มีทหารโครงกระดูกอยู่เต็มไปหมด ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรอีกแล้วนอกเสียจากพื้นสีขาวที่ทอดยาวต่อกันเป็นแถว สิ่งนี้คือส่วนสันหลังของซากศพมังกรยักษ์อันเป็นที่มาของชื่อภูเขากระดูก ทุก ๆ ครั้งที่เซียวเฟิงได้เห็นพื้นสีขาวขนาดใหญ่นี้ มันก็ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า มังกรตนนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่มันจะตัวใหญ่ขนาดไหนกันนะ?
“อ๊ะ?”
ขณะที่เซียวเฟิงหันไปมองยังทิศทางของมหาสุสานใต้พิภพ เขาก็ชะงักไป พร้อมกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้!
ในเมื่อครั้งนั้นผู้คุ้มกันแห่งปราสาทใต้พิภพสามารถหนีไปได้พร้อมกับเผ่าพันธ์แห่งความมืดบางส่วน มันก็น่าจะเป็นไปได้ที่จะกลับมายังมหาสุสานแห่งนี้ ทำไมเขาถึงไม่คิดเรื่องนี้มาก่อนเลยนะ!
“มาเร็ว! ไปอีกแผนที่กัน!”
ณ จุด ๆ นี้ เซียวเฟิงไม่สามารถทนรอให้เฉียนโตวโตว ตามมาพร้อมกับลูกทีมได้แล้ว
หลังจากที่เขาเข้ามายังชั้นแรกของปราสาทใต้พิภพ เซียวเฟิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
นั่นเพราะที่ชั้นแรกของปราสาทใต้พิภพนี้ มีมอนสเตอร์กลับมาเกิดใหม่เหมือนเดิมแล้ว!
เมื่อตอนที่ผู้คุ้มกันภายในปราสาทถูกเรียกตัวไปร่วมสงคราม พื้นที่แห่งนี้ก็ปล่อยให้มอนสเตอร์เกิดใหม่ตามที่มันควรจะเป็น แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่ามันจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้คุ้มกันที่หนีไปได้นั้นก็น่าจะกลับไปยังที่ของมันแล้วด้วย!
ยามที่ได้ทอดมองเหล่าอันเดดตรงหน้า เซียวเฟิงก็รู้สึกคุ้นเคยและตื่นเต้นแบบสุด ๆ เขาแทบจะรั้งตัวเองไว้ไม่ให้เข้าไปกำจัดพวกมันก่อนที่พวกสาว ๆ จะตามมาได้แล้วตอนนี้
ทว่าหลังจากที่เฉียนโตวโตวตามมาทัน เธอก็รีบวิ่งเข้าไปหาเซียวเฟิงด้วยท่าทีตกใจ
“พี่เซียว มีบางอย่างไม่ปกติเกิดขึ้น!” เฉียนโตวโตว ที่กำลังตื่นตระหนกมาก ๆ นั้นเข้าไปรั้งเซียวเฟิงที่กำลังจะกำจัดมอนสเตอร์ด้วยความวิตก
“เกิดอะไรขึ้น?” เขารีบถามกลับทันที
“เหมือนว่ากิลด์มิดซัมเมอร์จะเจอปัญหาเข้าให้แล้ว! ที่ทำการของมิดซัมเมอร์กรุ๊ปถูกบุก! แก๊งชิงหลง…เป็นฝีมือของแก๊งชิงหลง! เรารีบโทรแจ้งตำรวจเถอะ!” ความตกใจ วิตกกังวลและความไม่พอใจแสดงออกมาให้เห็นชัดเจนบนใบหน้าของเฉียนโตวโตวที่มองมายังเซียวเฟิง
“ว่ายังไงนะ!?” สีหน้าของเซียวเฟิงเองก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เขาขมวดคิ้ว “ไม่ต้องห่วง ฉันจะออฟไลน์แล้วไปดูเอง การเก็บเลเวลวันนี้พอแค่นี้ก่อน”
พูดจบเซียวเฟิงก็ล็อกออฟไปทันทีเลย ปล่อยให้เฉียนโตวโตวที่กำลังตื่นตระหนกไปอธิบายให้เหล่าผู้เล่นหญิงของเธอฟังทีหลัง หลังจากนั้นเธอเองก็ออฟไลน์ไปเช่นกัน
เมื่อเซียวเฟิงออกมาจากห้องของตนและผลักประตูห้องของสองสาวแห่งกิลด์มิดซัมเมอร์เข้าไป เขาก็ไม่พบร่างของหลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งแล้ว จะมีก็แต่เสียงเครื่องยนต์ที่กำลังทิ้งห่างคฤหาสน์ไกลออกไป แสดงให้เห็นว่าพวกนั้นเพิ่งจะพากันออกไป ยิ่งไปกว่านั้น ประตูห้องของพวกเธอเองก็ไม่ได้ปิดสนิทตั้งแต่แรกด้วย เพราะงั้นเซียวเฟิงถึงสามารถผลักเข้ามาได้เลย นี่ยิ่งแสดงให้เห็นว่ามันเกิดเรื่องใหญ่ระดับที่คนอย่างทั้งสองคนนั้นไม่มีเวลาปิดประตูห้องดี ๆ ก่อนจะออกไปเสียด้วยซ้ำ
“พี่เซียว! พวกเราควรทำยังไงดี?” เฉียนโตวโตวที่รีบออกมาจากห้องเองก็ถามต่อหลังเห็นว่าเรื่องดูจะร้ายแรง
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เธออยู่ที่นี่ คอยดูแลหลิงกับคนอื่น ๆ อย่าให้พวกเธอตื่น เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เซียวเฟิงสวมเสื้อโคตแล้วหันไปพูดกับเฉียนโตวโตว จากนั้นเขาก็รีบกระโดดออกจากชั้นสองของคฤหาสน์ลงไปยังสวนด้านหลังโดยไม่ได้ขอยืมกุญแจรถจากเฉียนโตวโตวติดมือมาด้วย กระนั้นแล้วร่างของเซียวเฟิงก็ไม่ได้วกกลับมา เขาหายไปในความมืดราวกับเป็นเงาที่ไร้ซึ่งตัวตน
เขาไม่คาดคิดเลยว่าก่อนที่คนของเดอะเฮลจะปรากฏตัว พวกเวรชิงหลงจะมาปรากฏตัวก่อนแบบนี้!