Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 378 พบกันอีกครั้ง
บทที่ 378 พบกันอีกครั้ง
บทที่ 378 พบกันอีกครั้ง
“ดูเหมือน…สมบูรณ์แบบจริง ๆ” เซียวเฟิงอดแตะคางของเขาไม่ได้ มองขึ้นลงที่หลิวเฉียงเหว่ยแล้วเขาก็ต้องพูดอย่างจริงใจ หลิวเฉียงเหว่ยไม่มีข้อบกพร่องให้ชายหนุ่มติได้เลย ไม่ว่าในรูปลักษณ์ที่งดงามของเธอ หรือความงดงามและอารมณ์เย็นของเธอ หรือความสำเร็จที่เธอได้รับจากการเป็นหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์
สิ่งเหล่านี้ได้ขยายความเปล่งปลั่งของเธอในฐานะผู้หญิง ซึ่งจะทำให้ผู้ชายทุกคนตั้งตารอและหวนคิดถึง ยิ่งกว่านั้น เธอจะทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะพิชิตด้วย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวเฉียงเหว่ยอดไม่ได้ที่จะยืดเอวของตัวเองขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอและดูหยิ่งผยองมากขึ้น
“แล้วเธอหมายความว่ายังไง? จะประกาศอธิปไตยและขับไล่จืออี้ออกไปหรือไง?” เซียวเฟิงถามด้วยความสนใจ
“ไม่…” หลิวเฉียงเว่ยส่ายหัว ตอนนี้พอเธอจำได้ว่าเธอตบเซียวเฟิงที่ประตูวิลล่า เธอก็อายเพราะความกล้าของเธอ แต่เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน
“แล้วเธอคิดว่ามีสถานะสูงกว่าและมีสิทธิ์ต่อรองเงื่อนไขหรือเปล่า?” เซียวเฟิงยังคงถามต่อไป
“ก็ไม่…” หลิวเฉียงเหว่ยอยากจะพยักหน้า แต่เธอไม่กล้ามองตาของเซียวเฟิง สาเหตุหลักมาจากเธอถูกเซียวเฟิงกดขี่มาเป็นเวลานานเกินไป และเธอไม่กล้าที่จะต่อต้าน
“แล้วเธอเป็นอะไรมากไหม? ออกไปเดี๋ยวนี้! อย่าว่าแต่ตอนนี้เธอไม่มีสถานะเลย ต่อให้เราจะหมั้นกัน แต่ในตระกูลจางของเรา ผู้หญิงไม่มีสถานะ ดังนั้นอย่าต่อรองเงื่อนไขโดยหวังพึ่งตัวตนของเธอ” เซียวเฟิงกล่าวอย่างไม่อดทน
“ถ้าผู้หญิงในตระกูลนายไม่มีสถานะ ทำไมเสี่ยวหยูถึงเป็นหัวหน้าตระกูลได้ล่ะ?” หลิวเฉียงเหว่ยไม่เต็มใจที่จะยอม ท้ายที่สุด เธอก็เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งพร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามและเบื้องหลังที่ดีแต่กำเนิด ยิ่งไปกว่านั้น อารมณ์กับรูปร่างของเธอยังเหมือนกับนางฟ้าและยอดเยี่ยม ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้เธอง่าย ๆ
“กล้าดียังไงมาเถียงฉัน” เซียวเฟิงจ้องเขม็ง แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมจางเสี่ยวหยูจึงถูกกำหนดให้เป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไปก็ตาม
แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีตัวอย่างของผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าตระกูล!
ทว่าอันที่จริง ที่ทำให้น่าสงสัยเป็นเพราะมีผู้ชายที่ยอดเยี่ยมหลายคนในรุ่นนี้ และอีกหลายคนเป็นผู้สืบเชื้อสายตรง
ท้ายที่สุด เซียวเฟิงก็อยู่ในอันดับที่สามด้วยซ้ำ ทว่าจางเสี่ยวหยูกลับถูกกำหนดให้เป็นหัวหน้าตระกูล ซึ่งทำให้เซียวเฟิงสับสนมาก
“ไม่…” หลิวเฉียงเหว่ยปิดปากของเธออย่างรวดเร็วและหนีออกจากห้องของเซียวเฟิง แต่เธอปิดประตูอย่างแรง แสดงให้เห็นว่าเธอยังคงไม่พอใจ
ด้วยเหตุนี้ เซียวเฟิงจึงพ่นลมด้วยความพึงพอใจ ทำการนอนบนหมอนและสวมหมวกเกม เขาไม่รู้ว่าหลังจากเข้าสู่ระบบ ไปแล้วเขาจะอยู่ในเขตฮัวเซียหรือเขตฮันกึล เขาต้องเข้าสู่ระบบแล้วดูเงื่อนไขก่อน
“ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งมิธ!”
แสงที่อยู่ข้างหน้าเขาเปลี่ยนจากสีดำเป็นสว่าง เมื่อเขาลืมตา สิ่งที่อยู่ในดวงตาของเขาคือฉากในโลกของเกมแล้ว
น่าเสียดายที่สิ่งที่ทำให้เซียวเฟิงผิดหวังก็คือเขายังอยู่ในเขตฮันกึล นี่คือมุมที่หลบซ่อนชั่วคราวก่อนที่จะออกจากระบบครั้งล่าสุด และการที่เขากลับบ้านในโลกความเป็นจริงไม่ได้ทำให้เขากลับมาที่เขตฮัวเซียในเกมด้วย
“เกิดบ้าอะไรขึ้น?” เซียวเฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน แต่เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เกิดสถานการณ์นี้
ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างหมดหนทาง เนื่องจากเขาคิดอะไรไม่ออกเลย เซียวเฟิงต้องหาวิธีกลับไปที่เขตฮัวเซีย ซึ่งมันก็น่าจะมีวิธีที่จะกลับไป เนื่องจากเขตฮันกึลและเขตฮัวเซียต่างก็อยู่บนดินแดนแห่งพระเจ้า เขาจึงต้องหาเมืองหลักที่มีวิหารแห่งแสง และด้วยจุดเทเลพอร์ตของวิหารแห่งแสง เขาก็สามารถเทเลพอร์ตไปยังโฮลี่ซิตี้ได้
วิหารแห่งแสงทุกแห่งมีจุดเทเลพอร์ตไปยังโฮลี่ซิตี้ และโฮลี่ซิตี้ตั้งอยู่ในเขตฮัวเซีย ดังนั้นเขาจึงต้องการหาเมืองหลักที่มีวิหารแห่งแสง
ด้วยเหตุนี้เซียวเฟิงจึงออกเดินทางและเริ่มออกจากที่นี่ เซียวเฟิงมีแต่คัมภีร์เทเลพอร์ตกลับเมืองของเขตฮัวเซียซึ่งทั้งหมดใช้การไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้แค่เดินไปที่เมืองหลักเท่านั้น
แต่ก่อนหน้านั้น เซียวเฟิงยังต้องรู้ที่ตั้งของเมืองหลักด้วย เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็เตรียมถามผู้เล่นฮันกึลที่อยู่ใกล้เคียง และมันจะดีมากถ้าได้คัมภีร์เทเลพอร์ตกลับเมืองจากพวกเขาด้วย
สถานที่ที่มีผู้เล่นจำนวนมากอยู่ใกล้ ๆ แน่นอนว่าต้องเป็นทางเข้าดันเจี้ยนเลเวล 35 ดินแดนแห่งอสูรหินที่เขาเคยผ่านแล้ว และที่นั่นก็อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เซียวเฟิงออกจากระบบ ดังนั้นหลังจากที่เซียวเฟิงรู้ว่าจะไปทางไหนแล้ว เขาก็เดินไป
“ว่าแต่”
เซียวเฟิงนึกถึงอะไรบางอย่างและหยิบแหวนที่มีแสงสีขาวออกมาจากช่องเก็บของของเขา นี่เป็นไอเทมที่ดีที่สุดจากการผ่านดินแดนแห่งอสูรหินครั้งแรกได้ ของสวมใส่แหวนระดับเทพเจ้า มันถูกมอบให้เซียวเฟิงโดยหลีเซียนหยุน เพราะเซียวเฟิงสมควรได้รับแหวนระดับเทพเจ้านี้ ด้วยถ้าไม่มีเขา ปาร์ตี้จักรวรรดิแห่งกาลาดูจะไม่สามารถผ่านดันเจี้ยนได้เลย บอสระดับเทพเจ้าตึงมือเกินไปสำหรับผู้เล่นตอนนี้ แม้ว่าจะใช้หลายคนที่มีเลเวลสูงมาปรามมัน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าบอสด้วยปาร์ตี้ที่มีสมาชิกเพียงยี่สิบคนเว้นแต่จะเป็นผู้เล่นชั้นยอด
สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงหดหู่ ถ้ารู้ว่าปาร์ตี้จักรวรรดิแห่งกาลาดูเป็นของเขตฮันกึล มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะช่วยให้พวกเขาผ่านดันเจี้ยนแรกและให้คะแนนเกียรติยศเขตแก่เขตฮันกึล
เซียวเฟิงเอาแหวนระดับเทพเจ้าออกมาและตรวจสอบค่าสถานะ ท้ายที่สุด มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาได้มาจากการลงดันเจี้ยน
แหวนแห่งหิน
ประเภท: เทพเจ้า
ประเภทของของสวมใส่: แหวน
เลเวลของสวมใส่: 35
ความต้องการของสวมใส่: ไม่มี
คุณสมบัติ: ดิน
พลังชีวิต +100
พลังป้องกัน +35
พลังป้องกันเวท +35
สกิล:
เทพเจ้า: อนุญาตให้สวมใส่โดยไม่คำนึงถึงเลเวลของสวมใส่ แต่ทุกเลเวลที่ผู้สวมใส่ต่ำกว่าความต้องการของสวมใส่ จะลดค่าสถานะพื้นฐานจะลดลง 10%
มั่นคงดุจหินผา: สกิลติดตัว เพิ่มค่าสถานะพื้นฐานทั้งห้าของคุณให้มีค่าเท่ากัน ซึ่งจะอิงตามค่าที่สูงที่สุด
แหวนแห่งหินทำจากหินที่หนักเล็กน้อย ค่าสถานะของมันทรงพลังมาก นอกเหนือจากการเพิ่มพลังชีวิตและพลังป้องกันอย่างสูงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มค่าสถานะพื้นฐาน
แม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มค่าสถานะพื้นฐานตรง ๆ แต่จะเพิ่มค่าสถานะที่ต่ำกว่าให้เท่ากับค่าสถานะที่สูงสุดได้ เช่นค่าสถานะที่สูงสุดของเซียวเฟิงคือค่าจิตวิญญาณ ซึ่งมีค่ามากกว่าค่าสถานะอื่น ๆ อย่างค่าความทนทาน ค่าความว่องไว และอื่น ๆ ถึง 30 หน่วยกว่า ๆ ด้วยสกิลติดตัวนี้ ค่าสถานะอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าจิตวิญญาณของเซียวเฟิงก็จะเพิ่มขึ้นกว่า 30 หน่วย!
การเพิ่มค่าสถานะที่คู่ควรกับการเป็นของสวมใส่ระดับเทพเจ้า!
หลังจากสวมแหวนแห่งหินด้วยความพอใจแล้ว ค่าสถานะของเซียวเฟิงก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเซียวเฟิงจะมีชุดเซ็ตอาร์ติแฟกต์อย่างชุดมังกร แต่พวกเครื่องประดับนั้นเป็นของปกติ เช่นแหวนของเขา อันที่ดีที่สุดคือแหวนห้วงมิติที่เป็นระดับเทพเจ้า อีกสามวงได้แก่ แหวนแห่งศรัทธาซึ่งเพิ่มพลังชีวิต 50 หน่วยพร้อมด้วยสกิลฟื้นฟู แหวนของราชาโครงกระดูกซึ่งเพิ่มพลังป้องกันและพลังชีวิต และแหวนแห่งความเร็วซึ่งเพิ่มความเร็วได้สามเท่าจากปกติ ในหมู่พวกนี้ แหวนแห่งความเร็วมีระดับต่ำที่สุดซึ่งอยู่ในระดับหายาก ตอนนี้มันจึงถูกแทนที่
อย่างไรก็ตาม เซียวเฟิงจะได้ก็หลังจากกลับไปที่เขตฮัวเซีย ท้ายที่สุดแล้ว ของสวมใส่ของเขาก็ยังอยู่กับซือเยี่ยจิ๋ง ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในเขตฮันกึลและเขายังกลับไปไม่ได้
“นักอัญเชิญเลเวล 38 กำลังหาปาร์ตี้ ฉันสามารถดึงล่อมอนสเตอร์ได้อย่างมืออาชีพและควบคุมบอสได้อย่างมั่นคง!”
“มีปาร์ตี้ไหนบ้างที่ไม่ได้ฆ่าบอสตัวสุดท้าย? เชิญฉันเลย! ฉันเป็นนักรบโล่ที่มีพลังป้องกัน 280 หน่วย!”
“อะไรนะ? นักรบโล่ที่มีพลังป้องกัน 280 หน่วย? ท่านปรมาจารย์ ยินดีต้อนรับสู่ปาร์ตี้ของเรา!”
“มีผู้เล่นชั้นยอดคนไหนบ้างที่พยายามผ่านดันเจี้ยน? มันจะดีกว่าถ้ามีหนึ่งใน 100 อันดับแรกของอันดับความสามารถอยู่ด้วย!”
“มีหนุ่มคนไหนพาสาวมาผ่านดันเจี้ยนบ้าง?”
“อาณาจักรแห่งกาลาดู กองร้อยระดับสูงหมายเลข 7 เริ่มลงดันเจี้ยนแล้ว เราจะฆ่าเฉพาะบอสลำดับ 1 และ 2 และฟาร์มของสวมใส่อย่างมีประสิทธิภาพ มาเป็นสมาชิกที่ทรงพลังและพวกคนขี้เกียจได้โปรดอยู่ให้ห่างจากเรา!”
…
ทางเข้าดันเจี้ยนดินแดนแห่งอสูรหินนั้นดูมีชีวิตชีวามาก กลุ่มผู้เล่นต่างโห่ร้องเรียกให้มาสร้างปาร์ตี้ แต่บอสตัวสุดท้ายระดับเทพเจ้าทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ท้อถอย หลายปาร์ตี้ต้องการฆ่าบอสแค่อันดับ 1 และอันดับ 2 เพื่อฟาร์มของสวมใส่เท่านั้น
“หืม? ท่านปรมาจารย์! มันยากมากเลยกว่าจะหาท่านเจอ!”
ทันทีที่เซียวเฟิงเดินเข้าไปในฝูงชน ก่อนที่เขาจะหาผู้เล่นเพื่อสอบถามได้ เขาก็ถูกผู้เล่นฮันกึลหยุดไว้ก่อน
เซียวเฟิงอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง และพบว่าคนที่เรียกเขาค่อนข้างคุ้นหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นสมาชิกปาร์ตี้ของจักรวรรดิแห่งกาลาดูตอนที่เขาทำภารกิจดันเจี้ยนครั้งก่อน
ในขณะนี้ เขาได้จัดตั้งกองร้อยระดับสูงหมายเลข 7 เองเพื่อรับคนที่ไม่ได้สังกัดกิลด์ลงดันเจี้ยน ทันทีที่เขาเห็นเซียวเฟิง ตอนแรกเขาก็ขยี้ตาอย่างไม่เชื่อสายตา และจากนั้นก็เพิกเฉยปาร์ตี้ของตัวเองซึ่งเพิ่งจัดระเบียบและเดินเข้ามาหาอย่างตื่นเต้น
“ท่านปรมาจารย์ เราตามหาท่านมาหลายวันแล้ว แต่ไม่พบท่านเลย และท่านก็เมินคำขอเป็นเพื่อนของเรา เรารอท่านอยู่ที่ทางเข้ามาสองวันแล้ว ในที่สุดท่านก็มาดันเจี้ยนสักที!” คนคนนี้มีชื่อว่า ‘แอปเปิ้ลโซน’ เมื่อเห็นเซียวเฟิง เขาก็ตื่นเต้นมาก
ท่าทีของเขาทำให้สมาชิกในปาร์ตี้ซึ่งมีผู้เล่นมากกว่าสิบคนสับสน ไม่รู้ว่าทำไมผู้บัญชาการของพวกเขาที่มาจากจักรวรรดิแห่งกาลาดูจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก หลังจากที่จักรวรรดิแห่งกาลาดูผ่านดันเจี้ยนเลเวล 35 ได้เป็นคนแรกของเซิร์ฟเวอร์ ชื่อเสียงของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สมาชิกทุกคนในกิลด์ของพวกเขาหยิ่งผยอง ไม่ต้องพูดถึงสมาชิกปาร์ตี้นั้นเลย ตอนนี้สมาชิกของปาร์ตี้นั้นถูกส่งไปเป็นผู้บังคับบัญชาและจัดปาร์ตี้ของตนเองเพื่อผ่านดันเจี้ยน
แต่ผู้บังคับบัญชาคนนี้ ผู้ที่ผู้เล่นไร้สังกัดต้องประจบเพื่อให้เขายอมให้เข้าปาร์ตี้ กลับมีพฤติกรรมสุภาพต่อนักบวชที่ไม่มีสัญลักษณ์ของจักรวรรดิแห่งกาลาดู นักบวชคนนั้นไม่ใช่ผู้อาวุโสของกิลด์ ทำไมถึงตื่นเต้นนัก?
“ท่านปรมาจารย์ รู้หรือไม่ว่าหลังจากที่ท่านจากไป เราไม่สามารถผ่านบอสตัวสุดท้ายได้ แม้ว่าจะฟาร์มดันเจี้ยนอยู่สองวันเต็ม ๆ 48 ชั่วโมงเลยนะ! สมาชิกในปาร์ตี้ของเราตั้งหน้าตั้งตารอท่านมาอย่างร้อนใจเลย และในที่สุด ท่านก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง!”
จากเสียงกรีดร้องของแอปเปิ้ลโซน ในที่สุดผู้เล่นไร้สังกัดมากกว่าสิบคนก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ปรากฎว่านักบวชคนนี้เป็นสมาชิกของปาร์ตี้ผ่านดันเจี้ยนครั้งแรกและเขาเป็นผู้เล่นทรงคุณค่า?
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแอปเปิ้ลโซนจะตื่นเต้น แต่เซียวเฟิงก็ไม่อยากคุยกับเขา การช่วยให้เขตฮันกึลผ่านดันเจี้ยนแรกทำให้เซียวเฟิงหดหู่ และในเวลานี้ เขาไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงหันกลับและกำลังจะจากไป
“เอ๊ะ? ท่านปรมาจารย์อย่าเพิ่งไป! ฉันทรมานมากเลยนะกว่าจะได้เจอท่าน! ฉันได้แจ้งรองหัวหน้ากิลด์แล้ว เธอจะออกมาจากดันเจี้ยนทันที!”
แอปเปิ้ลโซนรู้สึกกังวลเมื่อเห็นเซียวเฟิงไม่สนใจเขาและกำลังจะจากไป
ทว่าเซียวเฟิงก็เร่งฝีเท้าของเขาหลังจากได้ยินแบบนั้น เขารู้ว่ารองหัวหน้ากิลด์คือหลีเซียนหยุน ผู้บัญชาการแสนสวนของปาร์ตี้ในวันนั้น
“หืม? คุณกำลังจะไปไหน?”
ทว่าดูเหมือนเซียวเฟิงจะช้าไป ร่างสวยเดินมาขวางหน้าเขา เธอคือหลีเซียนหยุน
“มันไม่ใช่เรื่องของเธอ” เซียวเฟิงตอบอย่างสบาย ๆ แล้วมองไปรอบ ๆ มองหาใครสักคนเพื่อถามทาง ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มีจุดประสงค์ถึงเดินมาที่นี่
“ทำไมคุณไม่รับคำขอเป็นเพื่อนของฉันล่ะ?” หลีเซียนหยุนถามด้วยความคับข้องใจ ก้าวเข้ามาหนึ่งก้าวและบดบังการมองเห็นของเซียวเฟิง