Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 52 ดาเมจอันโหดเหี้ยม
บทที่ 52 ดาเมจอันโหดเหี้ยม
ครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกที่มีการต่อสู้แบบทีมเกิดขึ้นตั้งแต่ที่มิธเปิดบริการมา แต่มันก็เป็นแค่การต่อสู้ขนาดเล็ก เพราะว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ของทั้งสองกิลด์ยังอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นแห่งอื่น ถึงกระนั้นกิลด์มิดซัมเมอร์กิลด์ และกิลด์ดูมส์เดย์ลีกก็พร้อมใจกันรวมสมาชิกกว่า 50 คนเพื่อที่จะฆ่าเซียวเฟิง และยิ่งไปกว่านั้นเห็นได้ชัดว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ของกิลด์ทั้งสองนั้นเป็นสมาชิกระดับสูงและเก่งมากจากทั้งอาวุธและเครื่องสวมใส่ของแต่ละคน
“ฉันคิดว่าแกเป็นผู้เล่นคนแรกที่เปลี่ยนคลาสได้แล้วซะอีก แต่ดูแล้วคงจะไม่ใช่ และในเมื่อแกยังอยู่แค่หมู่บ้านเริ่มต้น งั้นก็อย่าคิดว่าฉันจะกลัวแก! เพราะไม่มีทางที่แกจะเป็นยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นที่เป็นคนแรกที่ได้เปลี่ยนคลาสโดยปกปิดชื่อของเขา!”
ลอว์ก็อตพูดอย่างเย็นชา เขาอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นเดียวกันกับเซียวเฟิง ดังนั้นจึงรู้ดีว่าเซียวเฟิงนั้นชอบที่จะปกปิดชื่อตัวละครเมื่อชื่อของชายหนุ่มต้องขึ้นในระบบประกาศของเกม
แม้พวกเขาจะคิดว่าเซียวเฟิงยังไม่ได้เปลี่ยนคลาส แต่พวกเขาก็ยังถือว่าชายหนุ่มเป็นผู้มีฝีมือ ยิ่งกว่านั้นความสนใจของหัวหน้ากิลด์ทั้งสองยังเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขารู้ว่าเซียวเฟิงได้ทำภารกิจทดสอบสำเร็จ และมีเคล็ดลับในการผ่านอยู่ในมือ
ในช่วงเวลาปัจจุบัน ผู้เล่นที่มีเลเวล 10 ทุกคนต่างติดอยู่กับการผ่านภารกิจทดสอบ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของเขตฮัวเซี่ยก็ตาม
จึงเห็นได้ชัดว่าการได้ข้อมูลเคล็ดลับพวกนี้มามีความสำคัญมาก
ทั้งสองกิลด์เชื่อมั่นว่าถ้ากิลด์ของพวกเขาได้ข้อมูลส่วนนี้มา มันก็จะช่วยให้ผู้เล่นชั้นสูงจำนวนมากเริ่มหันมาสนใจกิลด์ของพวกเขา
ลอว์ก็อตกระตุกเปลือกตาอย่างไม่รู้ตัว โรสเองก็มองไปทางเซียวเฟิงราวกับว่าเธอกำลังพิจารณาถึงผลได้ผลเสียของการต่อสู้ครั้งนี้
แต่พวกเธอก็ได้ออกคำสั่งล่าค่าหัวเซียวเฟิงไปแล้ว และมันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเจรจาต่อรองกับเขา ดังนั้นพวกเขาทั้ง 2 จึงได้ข้อสรุปเดียวกันว่า
เซียวเฟิงจะต้องตาย!
“ฆ่ามัน!”
ทันทีที่ได้ยินคำสั่ง ผู้เล่นระดับสูงกว่า 50 คนเริ่มการจู่โจมพร้อมกัน กลุ่มนักรบพุ่งเขาไปหาเซียวเฟิง ส่วนแนวหลังก็โจมตีเขาด้วยสกิล หลายรูปแบบ เซียวเฟิงและคู่นิโคลัสจึงโดนสกิลมากมายถล่มเกินกว่า จะรับได้
“วิ่งเข้าไปในนั้น แล้วใช้พวกมันเป็นโล่ป้องกัน”
หลังจากที่ใช้สกิลเพิ่มพลังอาวุธให้กับเจ๋าซือ เซียวเฟิงก็ออกห่างจากทั้งสองคนและพุ่งเข้าไปหากลุ่มนักรบแบบตาต่อตา โดยในขณะเดียวกันเขาก็วางคทารักษาลงแล้วเปลี่ยนไปใช้กระบองที่มีศักยภาพในการจู่โจมที่ดีกว่า
กระบองยักษ์สีทองปรากฏขึ้นในมือของเซียวเฟิง เขาใช้มันทุบใส่กลุ่มนักรบที่อยู่กันมากมายตรงหน้า ทำให้นักรบห้าคนถูกโจมตีพร้อมกัน
-82!
-94!
-97!
-81!
-89!
เลขความเสียหายมหาศาลเด้งขึ้นบนหัวของนักรบทั้งห้า ทำให้พวกเขาต่างก็เสียพลังชีวิตไปเป็นจำนวนมาก
“บ้าแล้ว! นั่นมันเยอะมาก! พวกนักบวชรีบเพิ่มพลังชีวิตให้พวกนั้นเร็ว”
ลอว์ก็อตกับโรสและผู้เล่นคนอื่นรวมถึงไนฟที่กำลังดูการต่อสู้ก็ถึงกับผวาเมื่อพวกเขาทุกคนเห็นตัวเลขความเสียหายนั่น! เพราะปัจจุบันนี้มีนักรบเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีพลังชีวิตถึง 160 หน่วย!!
จึงกล่าวได้ว่านักรบทั้งห้าคนนั้นต่างก็ถูกลดพลังชีวิตไปมากกว่าครึ่งภายใต้การโจมตีครั้งเดียวเท่านั้น!!
กิลด์ใหญ่ทั้ง 2 กิลด์นั้นมีนักบวชอยู่เพียงแค่ 7 หรือ 8 คนเท่านั้น แล้วนักบวชทั้งหมดก็ยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย พวกเธอจึงทั้งปราดเปรียวและรวดเร็ว ทว่าขณะที่กำลังจะยกคทาขึ้นเพื่อเพิ่มพลังชีวิตให้กับเหล่านักรบ ก็พลันมีลูกศร 5 ดอกพุ่งเขาหาพวกเธอจากด้านบนเสียก่อน!
ลูกศรพวกนี้เป็นสกิลวงกว้างของเจ๋าซือ โดยเขาเลือกนักบวชเป็นเป้าหมาย ดังนั้นลูกศรทั้ง 5 ดอกของเขาจึงพุ่งลงไปบนหัวของนักบวชทั้ง 5 นางอย่างแม่นยำ
-127!
-118!
-122!
-242 คริติคอล!
-119!
ด้วยการเสริมพลังสกิลอวยพรอาวุธ ทำให้พลังโจมตีของเจ๋าซือนั้นน่าเกรงขามกว่าของเซียวเฟิงเสียอีก นักบวชสาวร่างบาง 3 คน ถูกเขาฆ่าอย่างง่ายดายภายใต้ศรเดียวเท่านั้น
“หะ! ทำไมพลังโจมตีมันถึงแรงขนาดนี้ ไปฆ่านักธนูนั่นซะ”
ลอว์ก็อตอึ้งเมื่อเห็นพลังโจมตีของพวกเซียวเฟิง นี่พวกมันมีอุปกรณ์ดีๆ กันทุกคนเลยหรือไง ?
พวกเซียวเฟิงทั้ง 3 คนโดนล้อมไว้หมดทุกด้าน ทำให้พวกเขามีพื้นที่ในการป้องกันที่น้อยมาก หลังจากที่ใช้สกิลนั่นแล้ว เจ๋าซือก็ฆ่านักบวชอีกสองคนที่เหลือ ก่อนจะใช้สกิลช็อตเพื่อสังหารนักรบที่อยู่ใกล้กับเซียวเฟิง แล้วเขาก็ไม่สามารถหลบได้อีกต่อไปจึงโดนสกิลทั้งหลายเข้าอย่างจัง!
เจ๋าซือได้แต่ฝืนยิ้มก่อนที่จะล้มลงไปแล้วกลายเป็นศพ ธนูระดับสีฟ้าของเขาตกลงบนพื้นหลังจากที่เจ้าตัวตาย
เซียวเฟิงไม่มีเวลาที่จะช่วยเจ๋าซือ เพราะในตอนนั้นมีผู้เล่นอย่างต่ำ 20 คนรุมโจมตีเจ๋าซือพร้อมกัน ทำให้เกิดดาเมจรวมมากกว่า 1,000 แต้มหากผู้เล่นแต่ละคนทำดาเมจได้คนละ 50 แต้ม
“โอ๊ย! ตีมันแรงๆ เลย!”
เถียซูตะโกน เพราะว่าเขาเป็นผู้เล่นแนวหน้า จึงทำให้คุ้นชินกับการต่อสู้ระยะใกล้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้รับการฝึกจากเซียวเฟิงอีกด้วย ฉะนั้นเขาจึงมีประสบการณ์ในการป้องกันที่มากกว่าเจ๋าซือ เขาเดินหน้าเข้าหาแล้วต่อสู้ตาต่อตากับกลุ่มผู้เล่นกลุ่มหนึ่ง และต่อสู้แบบตาต่อตากับแนวหน้าของพวกนั้น การทำแบบนี้ทำให้ผู้เล่นแนวหลังไม่สามารถที่จะยิงศรใส่เถียซูได้อย่างอิสระ
“อย่าแตกตื่น โจมตีมันเข้าไปอย่าหยุด!”
พลังโจมตีของเถียซูนั้นต่ำกว่าของเจ๋าซือ แต่ว่าเขาต่อสู้อย่างสุดความสามารถจึงฆ่านักรบของกิลด์ดูมส์เดย์ลีกลงได้ แต่ในขณะเดียวกันพลังชีวิตของเขาก็เกือบจะหมดเต็มทีแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะหลบการโจมตีระยะประชิดได้ แต่สกิลระยะไกลนั้นกินพื้นที่มากกว่า
+101!
ทว่าตัวเลขเพิ่มพลังชีวิตกลับเด้งลงที่หัวของเถียซู เซียวเฟิงเพิ่มพลังชีวิตให้เขาได้ทันเวลา ซึ่งเมื่อหันหลังกลับไปด้วยความดีใจ เถียซูก็ได้เห็นว่าเซียวเฟิงนั้นยืนหันหลังพร้อมกับถือคทารักษาอยู่ในมือ
เถียซูอดใจไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก สมแล้วที่เซียวเฟิงเป็นยอดฝีมือ เขาสามารถรักษาคนอื่นถึงแม้ว่าจะหันหลังพร้อมกับต่อสู้ไปด้วย !
ว่าแล้วเถียซูพลันวิ่งกระแทกผ่านกลุ่มนักรบเข้าไปยังแนวหลังอย่างไม่เกรงกลัว เขาทราบดีว่าสกิลระยะไกลนั้นอันตรายที่สุด และเชื่อมั่นว่าเขาสามารถวิ่งกลับออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือของเซียวเฟิง
“ค้อนแห่งการพิพากษา!”
เซียวเฟิงใช้กระบองกระทิงอีกครั้งเพื่อฆ่านักรบอีกคน ทำให้แม้จะเป็นนักรบสายแท็งค์ที่มีพลังชีวิตเต็มก็ไม่สามารถทนต่อค่าความเสียหายของกระบองกระทิงทองได้ จนตอนนี้มีศพนอนอยู่กับพื้นแล้ว 6 ศพ
“กระหน่ำมัน!”
นักรบที่ถือดาบคนหนึ่งด้วยมือทั้งสองข้างพยายามที่ฆ่าเซียวเฟิง แต่ชายหนุ่มกลับบิดตัวหลบการโจมตีอย่างง่ายดายแล้วใช้กิ่งไม้ผลักให้นักรบคนนั้นล้มลง ส่งผลให้พลังชีวิตของคนคนนั้นหายไปกว่าครึ่ง ก่อนที่เซียวเฟิงจะโจมตีไปอีกทีทำให้นักรบคนนั้นตายในทันที
เหลือนักรบอีกเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่ล้อมอยู่ เซียวเฟิงทำให้พวกเขาเสียขวัญ เพราะในเวลาเพียงไม่นานนักรบกว่าครึ่งก็ถูกฆ่าจนเกลี้ยงโดยที่พวกเขายังไม่ได้แม้แต่จะแตะปลายเสื้อของเซียวเฟิงเลยด้วยซ้ำ! ราวกับว่าชายคนนี้มีดวงตาหลายดวงอยู่รอบตัว ….แต่ไม่ใช่แค่พวกคลาสนักรบที่ไม่สามารถแตะต้องเขาได้ เพราะแม้แต่ลูกไฟ ลูกศร และศรน้ำแข็งบนอากาศชายหนุ่มก็สามารถหลบได้ทั้งหมด!!
“แกมันไม่ใช่คนแล้ว นี่มันปีศาจชัดๆ!”
โรสและลอว์ก็อตตกตะลึง พวกเขาคิดว่าการกำจัดเซียวเฟิงนั้นจะเป็นเรื่องง่ายเพราะพวกเขามีจำนวนที่มากกว่า และสมาชิกทั้งหมดก็เป็นผู้เล่นระดับสูงอีกด้วย แต่ในตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาคิดผิด ภายในไม่กี่นาทีสมาชิกเกือบ 20 คนก็โดนเซียวเฟิงฆ่าทิ้ง!
“เซียวเฟิง ระวังตัวด้วย!”
แต่ก็ยังมีข่าวดีสำหรับพวกเขา เถียซูที่ต่อสู้อยู่กับสมาชิกแนวหลังด้วยพลังชีวิตที่ลดลงอย่างฮวบฮาบทำให้เซียวเฟิงไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตเขาไว้ได้ไว้ทันเวลา เพราะว่าสกิลโฮลี่ไลท์มีระยะเวลาคูลดาวน์ 30 วินาที เซียวเฟิงจึงต้องเปลี่ยนไปใช้คทารักษาแทนเพื่อลดเวลาคูลดาวน์ นอกเหนือจากนั้นเซียวเฟิงก็ยังใช้แหวนแห่งศรัทธาช่วยเสริม แต่ทว่าก็ไม่สามารถที่จะช่วยเถียซูไว้ได้ หลังจากที่เขาต่อสู้กับสมาชิกแนวหลัง และทำลายขบวนทัพ เถียซูก็ได้ตายลง บวกกับการที่แหวนแห่งศรัทธานั้นใช้พลังชีวิตของเซียวเฟิงไปครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ตอนนี้ชายหนุ่มมีพลังชีวิตแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
“หึหึ!”
ลอว์ก็อตหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ถึงลูกน้องของเขาจะถูกฆ่าไปหลายคน แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าถ้าฆ่าเซียวเฟิงได้มันก็คุ้มค่า!
ในความคิดของเขา เหตุที่เซียวเฟิงยังมีชีวิตอยู่นั่นก็เพราะว่าไอบ้านักรบคนนั้นที่ทำลายรูปแบบทัพของแนวหลัง ทำให้ไม่สามารถที่จะเล็งเซียวเฟิงได้ และยังมีสมาชิกอีกหลายคนที่ถูกฆ่าเพราะว่าความสามารถในการโจมตีอันยอดเยี่ยมของคลาสธนู ที่สามารถสังหารนักบวชไปได้ในตอนเริ่มต้น
ดังนั้นความเสียหายทั้งหมดนี้จึงไม่อาจนับได้ว่าเป็นเพราะเซียวเฟิงเก่งกาจ!
“หึหึ! ตัวช่วยทั้ง 2 คนของแกถูกฆ่าตายไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่แก จัดทัพใหม่แล้วฆ่ามันซะ!”
“อย่างนั้นเหรอ ?” เซียวเฟิงพูดอย่างสงบ มองไปที่ศพของสองนิโคลัสโดยที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“นายเป็นแค่นักบวชก็จริง แต่เราก็จ่ายไปเยอะเหมือนกันเพื่อที่จะสั่งฆ่านาย ถ้าผู้ประกอบพิธีกรรมไม่ได้อยู่ในรายชื่อจัดอันดับ ฉันคงคิดว่านายคือเขาคนนั้นที่อยู่ใน 10 อันดับแรกของผู้เล่นในหอเกียรติยศไปแล้ว” ลอว์ก็อตเย้ยใส่เซียวเฟิงแล้วพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้แกจะต้องตายไม่ว่าแกจะเป็นใครก็ตาม!”
“อย่าให้มันหนีไปได้ พวกคลาสนักรบเข้าไปรุมมันซะ ส่วนพวกโจรก็หาช่องว่างในการฆ่ามัน โจมตีมันโดยใช้ทั้งสกิลล็อกเป้าหมายและสกิลจากระยะไกล” ลิลลี่เองก็ออกคำสั่งตามไปด้วย
โรสไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เช่นเดียวกับไนท์ คูนเนอร์ที่ยืนอยู่อย่างเงียบๆ ไม่ได้สั่งโจมตีแต่อย่างใด
“มันเหลือพลังชีวิตแค่ครึ่งเดียวแล้ว รีบๆ ฆ่ามันสักที”
“ไปกัน ไปฆ่ามัน”
กลุ่มสมาชิกนักรบแนวหน้ารวมตัวกลับมาล้อมรอบเซียวเฟิงอีกครั้ง ในนี้ยังมีคลาสโจรอยู่ 2 คน ซึ่งเมื่อคลาสโจรพวกนี้ถึงเวลา 10 พวกเขาก็จะได้สกิลลอบฆ่าที่ร้ายกาจมาสกิลหนึ่ง!
ระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิลอวยพรอาวุธของเซียวเฟิงได้หมดลงแล้ว และชายหนุ่มก็ใช้มันซ้ำใส่ตัวเขาเองอีกครั้ง ซึ่งเมื่อเกิดแสงสีขาวสว่างจ้า เซียวเฟิงก็พลันมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 หน่วยในทันที! ก่อนที่กระบองกระทิงทองจะเรืองแสง และค้อนโปร่งแสงยักษ์สีทองที่ยาวกว่าสามเมตรจะปรากฏขึ้น เซียวเฟิงจัดการทุบมันลงไปที่กลุ่มผู้เล่นข้างหน้าโดยไม่รอช้า!!
“ค้อนแห่งการพิพากษา!”
-183!
-179!
-360 คริติคอล!
-177!
-181!
-169!
มีตัวเลขความเสียหายที่น่ากลัวมากมายผุดขึ้น ผู้เล่น 6 คนที่อยู่ด้านหน้าถูกค้อนยักษ์ทุบเข้าไปเต็มๆ พวกเขาโดนเซียวเฟิงฆ่าในทันที
“เป็นไปไม่ได้!”
สมาชิกของกิลด์ทั้งสอง และผู้เล่นที่กระจัดกระจายอยู่ซึ่งกำลังสังเกตการต่อสู้อยู่นั้นถึงกับตกตะลึง
“เป็นไปไม่ได้ที่ดาเมจของเขาจะแรงขนาดนี้!”
“เขาเป็นนักบวชนี่ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีดาเมจที่สูงขนาดนี้ ถึงเขาจะใช้สกิลอวยพรอาวุธใส่ตัวเองก็ตาม!”
“บางทีไอ้นี่อาจจะอัพค่าความแข็งแกร่งเป็นหลักก็ได้”
“สังเกตที่สกิลของมันสิ ทำไมนักบวชถึงมีสกิลโจมตีระยะไกล?”
ทุกคนต่างอึ้งกับสิ่งที่พวกเขาเห็น สมาชิกกิลด์แนวหน้าที่ล้อมเซียวเฟิงอยู่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป ส่วนสมาชิกแนวก็หลังก็ลืมที่จะใช้สกิลระยะไกล พวกเขามัวแต่ทึ่งกับเลขดาเมจที่เห็น
ลอว์ก็อตคอแห้ง แม้ว่าจะเตรียมรับมือกับสกิลของเซียวเฟิงเอาไว้แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้คาดไว้ว่าดาเมจของเซียวเฟิงจะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันแบบนี้ ก่อนหน้านี้มันสามารถใช้ลดพลังชีวิตได้ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้ชายหนุ่มกลับสามารถฆ่าคนได้ตั้งมากมายภายใต้การโจมตีครั้งเดียว! นอกจากนั้นมันยังเป็นสกิลที่มีระยะการทำความเสียหายที่กว้างอีกด้วย
ดวงตาของโรสเบิกโต ตอนสร้างตัวละครเธอได้ทำการปรับแต่งใบหน้าไปเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าของเธอสวยน้อยลงจากความเป็นจริงอยู่มาก แต่เธอก็ยังคงดูสวยและสง่าอยู่ดีแม้ว่าตอนนี้เธอกำลังอึ้งกับสกิลของเซียวเฟิงเหมือนกับคนอื่นอยู่ก็ตาม!!