Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 568 เริ่มต้นโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ
บทที่ 568 เริ่มต้นโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ
บทที่ 568 เริ่มต้นโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ
เซียวเฟิงมานั่งทบทวนอยู่หลายต่อหลายครั้งถึงหายนะที่จางจิ่วจิ่วได้พูดเอาไว้ แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะปุบปับขนาดนี้
อันที่จริงต่อให้ไม่ใช่เขาก็ไม่น่าจะมีใครคาดคิดเช่นกัน
นี่เป็นวันที่สามหลังจากที่พวกเขากลับมาจากเมืองหลวง เซียวเฟิงกำลังช่วยซือเยี่ยจิ๋งเก็บเลเวลอยู่ที่เขตแดนแห่งความมืด และแน่นอนว่าวันนี้ผลไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเซียวเฟิงดูจะมีเรื่องให้คิดจนไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลาด้วย
มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย เพราะหลังจากที่ตัวเองก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์และเข้าถึงสภาวะธรรมชาติ สัญชาตญาณในร่างกายของเขาก็พุ่งขึ้นสูงมาก ๆ มันสามารถรับรู้ได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเข้ามาและเพื่อพัฒนาตนเองไปในทางที่เหมาะสม แต่เขากลับรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น
สิ่งนั้น…กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า!
เพราะแบบนี้การกำจัดมอนสเตอร์ของเซียวเฟิงจึงไม่ราบรื่นตลอดทั้งวัน เขาว่อกแว่กและระแวงสิ่งที่จะเกิดขึ้นรอบตัวอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าครั้งไหน ยามที่หันไปมองรอบตัว เขาก็พบเพียงซือเยี่ยจิ๋งที่กำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์ไม่ไกลเท่านั้น ละแวกนี้ไม่มีสิ่งอื่นใดกำลังเคลื่อนไหวอยู่เลย
ด้วยวิธีการของเซียวเฟิง มันทำให้ซือเยี่ยจิ๋งเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ร่างบางสวมอุปกรณ์สำหรับป้องกันขณะที่พุ่งไปมาท่ามกลางฝูงมอนสเตอร์ที่ถาโถม ด้วยมีดเริ่มต้นที่ไม่ได้มีพลังโจมตีสูงส่งอะไรนัก เธอต้องโจมตีเป้าหมายเดิม ๆ อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเซียวเฟิงตั้งกฎไว้ว่า การโจมตีทุกครั้งของเธอต้องเป็นการโจมตีจุดอ่อนเท่านั้นด้วย!
ในวันแรกของการฝึก ซือเยี่ยจิ๋งไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการต่อสู้แบบนี้ได้ดีนัก ในฐานะที่เธอเป็นผู้ใช้การโจมตีระยะใกล้ การถูกห้อมล้อมด้วยมอนสเตอร์จำนวนมากนัก ลำพังเพียงโจมตีทีละเป้าหมายก็นับว่ายากแล้ว นี่ยังต้องเป็นการโจมตีจุดตายอีก เพราะงั้นผลลัพธ์ในวันแรกจึงกลายเป็นว่า เธอโดนโจมตีไปมากกว่า 50 ครั้งใน 1 ชั่วโมง และมีมอนสเตอร์ที่โดนโจมตีจุดตายไปเพียง 200 กว่าตัวเท่านั้น ส่วนเซียวเฟิงไม่ได้ยื่นมือมาช่วยอะไรนอกจากคอยฟื้นพลังชีวิตให้เธอกับร่ายการคืนชีพศักดิ์สิทธิ์ไว้เผื่อเธอพลาดท่าเท่านั้น
ในขณะที่วันที่สองซือเยี่ยจิ๋งก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอถูกโจมตีเพียง 20 ครั้งเท่านั้นใน 1 ชั่วโมง แต่ก็สร้างความเสียหายร้ายแรงแก่มอนสเตอร์ไปมากกว่า 600 ครั้งเลยทีเดียว!
วันนี้เป็นวันที่สามและซือเยี่ยจิ๋งก็แสดงผลลัพธ์ที่น่าทึ่งออกมาให้เห็น แม้ว่าจะโดนล้อมด้วยมอนสเตอร์ แต่สถานการณ์มันก็ไม่ได้ตึงมือเหมือนวันก่อน ๆ แล้ว
แววตาของหญิงสาวนิ่งสงบ ในขณะที่ร่างกายที่พลิ้วไหวนั้นก็ขยับไปมาอย่างเฉียบคม สัญชาตญาณขั้นพื้นฐานในการต่อสู้ของเธอเองก็ถูกพัฒนาขึ้นในระดับที่สามารถหลบการโจมตีที่จะเข้ามาโดยไม่ต้องมองได้แล้ว และที่สำคัญที่สุด การโจมตีแต่ละครั้งของเธอมันก็มั่นคงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าการโจมตีของเธอจะดูไม่รุนแรงอะไร ทว่าการโจมตีทุกครั้งกลับสามารถโจมตีเข้าจุดตายได้ตลอดแม้ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ที่มากันกลุ่มใหญ่ก็ตาม!
และด้วยความพัฒนานี้ ผลลัพธ์สำหรับวันที่สามของเธอก็ดีเกินคาดด้วยเช่นกัน ซือเยี่ยจิ๋งถูกโจมตีไปไม่ถึง 10 ครั้งใน 1 ชั่วโมง ในขณะที่เธอสามารถโจมตีจุดตายมอนสเตอร์ไปได้กว่า 1,400 ครั้ง!
สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงแอบพยักหน้ายอมรับ ในฐานะที่เธอคนนี้เป็นนักฆ่า เธอไม่จำเป็นต้องมาสนใจเรื่องการโจมตีเป็นหมู่แบบนี้ก็ได้ เพียงแต่เธอต้องฝึกความแม่นยำให้อยู่ในระดับสูงที่สุด หากสำเร็จเมื่อไหร่ การเป็นผู้เล่นระดับพระเจ้าก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
ตอนนั้นเอง เสียงของระบบก็ดังกังวานไปทั่วฟากฟ้า
[ประกาศทั่วทุกเซิร์ฟเวอร์! ‘มิธ’ จะทำการปิดปรับปรุงในอีก 30 นาทีข้างหน้าเพื่อทำการอัปเดตโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ กรุณาติดตามเนื้อหาการอัปเดตผ่านหน้าโฮมเพจอย่างเป็นทางการของเกม! ผู้เล่นที่ยังอยู่ในระบบทุกท่าน ขอให้ออฟไลน์ภายในเวลา 30 นาทีนี้! ย้ำเตือน ขอให้ผู้เล่นที่ยังอยู่ในระบบทุกท่าน ออฟไลน์ภายในเวลา 30 นาทีนี้ มิเช่นนั้น ท่านจะถูกบังคับให้ออกจากระบบเมื่อถึงเวลากำหนด!]
[ประกาศทั่วทุกเซิร์ฟเวอร์!…]
[ประกาศทั่วทุกเซิร์ฟเวอร์!…]
[ประกาศทั่วทุกเซิร์ฟเวอร์!…]
[ประกาศทั่วทุกเซิร์ฟเวอร์!…]
เสียงประกาศแบบเดิม ๆ ดังอยู่ห้าครั้ง และมันก็ทำให้นัยน์ตาของเซียวเฟิงขยายกว้างที่สุดเท่าที่จะสามารถขยายได้อันเนื่องมาจากความตกใจไปชั่วขณะ โครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ!
เขาได้ยินไม่ผิดแน่ ๆ! ระบบเพิ่งจะประกาศชื่อนี้ออกมาจริง ๆ!
“นี่จะอัปเดตกันอีกแล้วเหรอเนี่ย? ถ้าจำไม่ผิดอัปเดตล่าสุดก็เพิ่งเดือนที่แล้วเองไม่ใช่เหรอ? ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าจะมีอัปเดตวันนี้”
ซือเยี่ยจิ๋งที่ถอยกลับมาจากกลุ่มมอนสเตอร์ด้วยทักษะล่องหนพูดเมื่อเธอมายืนอยู่ข้าง ๆ เซียวเฟิงแล้ว
“มันไม่น่าจะใช่เรื่องดีแน่ ๆ ฉันรู้สึกได้ถึงอะไรไม่ชอบมาพากล ถ้ายังไงเราออฟไลน์กันก่อนเถอะ”
เซียวเฟิงส่ายหน้าเรียกสติ เขาสวมแหวนอวกาศและเอื้อมแขนไปโอบเอวของซือเยี่ยจิ๋งไว้ก่อนจะเทเลพอร์ตตนไปยังโถงปราสาทภายในเมืองแห่งความโศกเศร้า
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจถอนอุปกรณ์ทุกอย่างภายในตัวไปเก็บไว้ในคลังแสงและออฟไลน์
ทันทีที่ออฟไลน์ออกมาจากเกม เซียวเฟิงก็ตรงเข้าไปยังฟอรั่มอย่างเป็นทางการของเกมเพื่อตรวจสอบดูว่าเนื้อหาอัปเดตครั้งนี้มีอะไรบ้าง ทันใดนั้น เนื้อหาที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเซียวเฟิงถูกความตกใจกลืนกิน!
[เนื้อหาส่วนที่จะเพิ่มเข้ามาในเกม คือ ขั้นแรกของโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ มีรายละเอียดดังนี้ : โลกของมิธ สนับสนุนให้ผู้เล่นทุกท่านร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นั่นคือ ด้วยโลกที่ถูกสร้างด้วยข้อมูลของมิธนี้ จะไม่สามารถออฟไลน์ได้อีกต่อไป ทุกคนจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในมิธได้ตลอดกาล!]
เพียงแค่วรรคแรกของเนื้อหาการอัปเดตก็ทำเอาแววตาของเซียวเฟิงเปี่ยมไปด้วยความไม่เชื่อและความตกใจสุด ๆ แล้ว
อาณาจักรแห่งทวยเทพที่เซี่ยเหอพูดไว้ ในที่สุดมันก็ถูกเริ่มต้นแล้วจริง ๆ ! แถมยังกะทันหันมาก ๆ ด้วย! มันไม่มีวี่แววเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเร็วถึงเพียงนี้!
และตัวโครงการนี้เองก็มีแนวทางที่ชัดเจน…นั่นคือ การให้ที่ลี้ภัยแก่คนหมดหนทาง!
การมีอยู่ของมัน จะทำให้ผู้เล่นที่เลือกจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกจริง รวมไปถึงชีวิต สามารถเข้าไปมีชีวิตต่อในโลกของเกมอันเป็นโลกใบที่สองได้!
เซียวเฟิงใช้เวลาคิดเรื่องนี้พักใหญ่ ๆ เลย เขาค่อนข้างจะสงสัยว่า มันจะมีคนที่คิดจะเข้าร่วมกับอาณาจักรแห่งทวยเพและละทิ้งชีวิตในโลกนี้จริง ๆ เหรอ?
แล้วก็คิดย้อนกลับไปถึงแผนการณ์อาณาจักรแห่งทวยเทพของโนอาห์ที่น่าจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีแม้ว่ามันจะผ่านการลงมติของรัฐบาลทั่วทั้งโลกไปแล้ว ไม่ว่าจะมองมุมไหน โครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพนี้ก็ค่อนข้างจะเลือดเย็นมาก ๆ เลยทีเดียว และมันน่าจะขัดกับหลักการของโนอาห์อยู่มาก ๆ เลยอีกด้วย หรือแท้จริงแล้วมันเป็นเพียงคำสั่งของเหล่าคนที่อยู่ในสภาเท่านั้น?
ไม่แปลกใจเลยหากฟอรั่มในแต่ละเขตแดนจะถูกอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นที่เข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ มันค่อนข้างส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้เล่นกลุ่มใหญ่เลยทีเดียว มีผู้เล่นมากมายนับไม่ถ้วนที่ยกย่องให้โลกแห่งเกมนี้มีค่ามากกว่าโลกหลักของตน โดยที่พวกเขาใช้เวลาไปกว่า 20 ชั่วโมงไปกับเกม
แต่ยังไงเสียโลกใบที่สองก็ยังคงเป็นโลกใบที่สอง พวกเขายังจำเป็นต้องออกมาใช้ชีวิตที่โลกภายนอกอยู่ แต่ด้วยการมีอยู่ของอาณาจักรแห่งทวยเทพที่จะทำให้เขาสามารถเข้าไปใช้ชีวิตในโลกของเกมได้ตลอดไป มีหรือที่คนเหล่านี้จะไม่สนใจ?
เขารีบโทรหาคราวปรินซ์ในทันทีเพื่อถามถึงข้อมูลภายในของโครงการนี้ ทว่าตัวคราวปรินซ์เองก็ไม่ทราบเรื่องนี้ แถมตอนนั้นเองเขาก็กำลังวุ่นวายอยู่กับข่าวคราวของเรื่องที่เซียวเฟิงถามจนจับทางอะไรไม่ถูกด้วย เมื่อตระหนักได้แล้วว่าคราวปรินซ์เองก็ยังไม่รู้ถึงภายในเรื่องนี้ เซียวเฟิงจึงตัดสินใจที่จะทำให้ตนเองได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวให้จงได้ เพราะงั้นเขาจึงวายสายไป
หลังจากที่เงียบอยู่พักใหญ่ เซียวเฟิงก็นึกถึงเรื่องที่เซี่ยเหอบอกกับเขาไว้เกี่ยวกับอาณาจักรแห่งทวยเทพ ว่าเขาเป็นที่ยอมรับเนื่องจากมีความแข็งแกร่งมากกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ เซียวเฟิงจึงเริ่มอ่านข้อมูลเนื้อหาต่อเผื่อว่าจะได้อะไรเพิ่มเติม
[อันดับแรก : ผู้เล่นจะสามารถเลือก ‘โอนย้าย’ ในหน้าล็อกอินได้ การเลือก ‘โอนย้าย’ หมายถึงท่านได้ตั้งใจจะละทิ้งชีวิตในโลกจริงและเลือกที่จะมาอยู่ในโลกของเกมตลอดไปแล้ว ซึ่งท่านจะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่เกมอัปเดตใด ๆ และไม่สามารถเข้าหน้าล็อกอินเกมได้อีกหลังจากโอนย้ายเรียบร้อยแล้ว]
เซียวเฟิงสวมหมวกเล่นเกมเพื่อหาข้อมูลเพิ่มในฟอรั่ม หลังจากที่อ่านเจอเรื่องนี้ เขาก็สลับไปหน้าล็อกอินเกม ชัดเจน ที่หน้าล็อกอินตอนนี้ มีปุ่นโอนย้ายปรากฏเพิ่มขึ้นมาตามที่ข้อมูลว่าไว้จริง ๆ ในขณะที่ปุ่มล็อกอินยังเป็นสีเทาอยู่นั่นหมายถึง เขายังไม่สามารถล็อกอินเข้าไปในเกมได้ในตอนนี้
[อันดับที่ 2 : โครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพในขั้นแรกนี้ จะพยายามทำให้ผู้เล่นที่เข้าร่วมกับโครงการได้คุ้นชินกับการใช้ชีวิตก่อน ทุกคนจะได้รับรางวัลจากระบบ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ระดับสูง สัตว์เลี้ยงระดับสูงรวมถึงสัตว์ขี่ระดับสูงด้วย รวมถึงยังมีของรางวัลลับที่ใช้เพิ่มความสามารถในการต่อสู้อีก! นอกจากนี้ ก็จะได้รับการปลดล็อกฟังก์ชั่นสุดท้ายอย่าง ฟังก์ชั่นแต่งงาน! ไม่เพียงแต่แต่งงานกับผู้เล่นด้วยกันเอง แต่ท่านยังสามารถแต่งงานกับ NPC ได้อีกด้วย!]
เนื้อหาส่วนนี้เองก็ทำให้เซียวเฟิงขมวดคิ้วอีกเช่นกัน แต่เขาเลือกที่จะอ่านเนื้อหาส่วนต่อไปก่อน
[อันดับที่ 3 : โครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้น และจะอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นก่อนที่ทั้ง 3 ขั้นตอนจะถูกอัปเดตจนครบ ฟังก์ชั่นออนไลน์จะถูกระงับใช้งานไปชั่วคราว ขอผู้เล่นทุกท่านได้โปรดรออย่างใจเย็น]
หากเนื้อหาในอันดับที่ 2 นั้นทำให้เซียวเฟิงขมวดคิ้วแล้ว เนื้อหาในส่วนที่ 3 นี้ก็ทำให้เซียวเฟิงแข็งไปทั้งตัวเลยทีเดียว
แต่เดิมแล้วเซียวเฟิงมีแนวคิดที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมต่อการดำเนินการของโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ แต่หลังจากที่ได้อ่านเนื้อหาอัปเดตส่วนที่ 3 แล้ว มันก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการดำเนินการของโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพนี้ แข็งแกร่งกว่าที่เซียวเฟิงคิดไว้มาก
คนที่โอนย้ายข้อมูลเข้าไปก่อนแล้วก็ยังใช้ชีวิตไม่ได้งั้นเหรอ? แถมยังเหลือการอัปเดตอีกตั้ง 2 ขั้น ที่ยังไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่อีก ไม่รู้เลยว่าควรจะตกใจเรื่องไหนก่อนดี
ด้วยการประกาศเรื่องนี้ แน่นอนว่ามิธได้กลายเป็นหัวข้อที่ทุกคนต่างพูดถึงกันไปทั้งวันเรียบร้อย!
และเพราะมิธได้กลายมาเป็นโลกใบที่ 2 ของผู้คนอีกหลายพันล้านคนทั่วโลก ดังนั้นหากไม่สามารถเข้าเกมได้ พวกเขาคงจะใช้ชีวิตกันลำบากแน่ ๆ!
เซียวเฟิงขมวดคิ้วทิ้งทวนก่อนจะถอดหมวกเล่นเกมออก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หลิวเฉียงเหว่ยและคนอื่น ๆ เปิดประตูห้องของเขาและเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเป็นกังวลพอดี
“เซียวเฟิง…เกิดเรื่องใหญ่แล้วล่ะ!” หลิวเฉียงเหว่ยพูดขึ้นด้วยความร้อนใจเมื่อเห็นว่าเซียวเฟิงไม่ได้ออนไลน์อยู่
“รู้แล้ว ไม่ต้องกังวล ค่อย ๆ ดูปฏิกริยาของคนอื่น ๆ ไปก่อน” เซียวเฟิงรีบดึงสีหน้ากลับไปใจเย็นดังเดิมและพูดปลอบพวกเธอ
“เข้าใจแล้ว…”
พวกเธอล้วนแต่กังวลใจเมื่อได้รับรู้ข่าวนี้ แต่ในเมื่อเห็นเซียวเฟิงยังสงบได้ ท้ายสุดพวกเธอจึงค่อย ๆ ใจเย็นลงตาม ๆ กัน
การรอคอยลากไปอีกสามวัน แต่แล้วข่าวบางอย่างก็ผ่านเข้ามาให้เซียวเฟิงได้สนใจ
นั่นคือกลุ่มของผู้เล่นที่ออกมาประท้วงและคว่ำบาตรเกมเริ่มลดลงแล้ว หลังจากที่มีผู้เล่นกลุ่มแรกได้ตกลงที่จะเข้าร่วมกับโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพนี้
ท่ามกลางคนเหล่านี้ บางคนก็เป็นผู้พิการในชีวิตจริง หรือบางคนก็ป่วยร้ายแรง แม้กระทั่งคนที่แก่ใกล้ตายที่เหลือเวลาชีวิตไม่มากก็มีเหมือนกัน
ส่วนมากคนกลุ่มนี้จะเป็นพวกที่ไม่มีอะไรในชีวิตจริงให้กังวลอีกต่อไปแล้ว พวกเขารู้สึกว่าการใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งความจริงนั้นไม่ได้น่าสนใจเท่ากับเข้าไปอยู่ในโลกของเกม และคนส่วนนี้ล้วนเป็นผู้เล่นที่มาจากเขตที่ค่อนข้างยากจนเสียส่วนใหญ่
หลังจากที่ผู้เล่นกลุ่มแรกได้เข้าร่วมกับโครงการอาณาจักรแห่งทวยเทพ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยภายในฟอรั่มที่แต่เดิมมีจำนวนมหาศาลทุกวัน ๆ ก็เริ่มลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าพวกเขาจะใช้หลักมนุษยธรรมมองว่าระบบนี้จะทำให้ผู้เล่นถูกพรากชีวิตที่แท้จริงไป แต่ในตอนนี้ การที่ได้รับรู้ถึงความคิดผู้ที่ยอมตกลงเข้าร่วม มันก็ทำให้ความโกรธของพวกเขา แปรเปลี่ยนเป็นการคิดไตร่ตรองแทน ทุกชีวิตล้วนแตกต่าง บางคนก็มีชีวิตในโลกจริงเสมือนว่าถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง
ในขณะที่อีกหลายคนก็มองว่าชีวิตจริงมันน่าเบื่อ ไม่มีใครสามารถใช้ชีวิตแทนกันได้อยู่แล้ว
ยิ่งมีคนตระหนักเรื่องนี้ได้มากขึ้นเท่าไหร่ เสียงคัดค้านก็เริ่มน้อยลง ๆ กลับกัน อาณาจักรแห่งทวยเทพกลับได้จำนวนผู้เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องยอมรับว่า การมีผู้สมัครใจเข้าร่วมนั้น ถือเป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่น ๆ ได้ยกเอาความสนุกสนานในโลกของเกมมาเปรียบเทียบกับความน่าสนใจในโลกแห่งความจริงกันอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม จำนวนเสียงของผู้ไม่เห็นด้วยก็ต้องน้อยลงไปอีก เมื่อหลังจากการไตร่ตรองแล้ว พวกเขาก็พบว่าโลกของเกมนั้นสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง ไม่มีด้านใดเลยที่โลกแห่งความจริงจะเอาชนะได้
เซียวเฟิงขณะนั้นกำลังโทรศัพท์คุยกับคราวปรินซ์อยู่ เขาได้ความมาว่าทางรัฐบาลแต่ละท้องที่ต่างก็ได้ตั้งทีมเพื่อค้นหาแนวทางออกของวิกฤตครั้งนี้ขึ้นมาแล้ว งานหลักของพวกเขาก็คือ ตามหาผู้ที่ได้ตกลงเข้าร่วมกับอาณาจักรแห่งทวยเทพไปแล้วตามสถานที่ต่าง ๆ และจัดการกับพวกเขาในแบบเดียวกัน
เช่นเดิม คราวปรินซ์เองก็ยังไม่มีข้อมูลภายในเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากเขาเองก็ไม่สามารถติดต่อเหล่าคนที่มีระดับสูงกว่าตนได้ในตอนนี้ด้วย สิ่งที่เขาพอจะรู้ได้ตอนนี้ก็มีแต่ ร่างของผู้ที่ได้เข้าร่วมโครงการอาณาจักรพระเจ้าที่หลังการโอนย้ายเสร็จสิ้น เขาจะไม่ต่างอะไรกับคนที่สมองตายไปแล้ว ซึ่งในตอนนี้ร่างของพวกเขาเหล่านี้ต่างก็ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อประคองชีวิตไว้อยู่
ทว่าเพราะการรักษาสภาพร่างกายของคนเหล่านี้ล้วนแต่ใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ในปริมาณที่มากเกินไป อีกทั้งจำนวนของพวกเขายังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ดังนั้นหลังจากที่ได้รับการยืนยันว่าคนที่ถูกส่งมายังโรงพยาบาลได้เข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะไม่สามารถกลับมาได้อีก สิ่งที่ทำได้มีเพียงรอให้ร่างกายของเขาตายจากไปเอง แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ…
รับศพมารักษาสภาพไว้!