Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 69 วิหารแห่งแสง
บันไดที่คล้ายกับทำขึ้นมาจากหยกนี้ทอดยาวขึ้นไปในก้อนเมฆ และดูเหมือนว่าจะยาวไปถึงท้องฟ้า
บนบันไดคือนครศักดิ์สิทธิ์ที่ตระการตา จนเซียวเฟิงที่ยืนอยู่บนพื้นดินมองเห็นเพียงแค่กำแพงและหอคอยสูงที่ตั้งตระหง่านเข้าไปในก้อนเมฆเท่านั้น
“สาวกผู้เลื่อมใส ยินดีต้อนรับสู่ภูเขาเจิดจรัส” ภายใต้บันไดนั้นมีแถวของอัศวินเกราะสีเงินอยู่มากมาย หลังจากที่เซียวเฟิงมาถึงอัศวินสองคนก็เดินเข้ามาพูดกับเขาอย่างเป็นมิตร
“ผมต้องการที่จะเข้าพบเทพธิดาแห่งแสง โบสถแห่งเมืองเทียนหลงกำลังมีปัญหา” เซียวเฟิงพูด เขายังคงไม่สามารถที่จะมองเห็นเลเวลของอัศวินแสงพวกนี้ แต่อัศวินพวกนี้สวมใส่อุปกรณ์ที่ดีมากๆ และน่าจะมีเลเวลที่สูงกว่าเหล่าอัศวินในเมืองเทียนหลงเสียอีก
“ที่เมืองเทียนหลงก็มีปัญหาเช่นกันเหรอ…. ดูเหมือนว่าพวกเผ่าแห่งความมืดจะเริ่มใจกล้าขึ้นกว่าเดิม…” อัศวินด้านหน้าพูดขึ้น ทำให้เซียวเฟิงรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของเขา
“เมืองหลักแห่งอื่นก็มีปัญหาเช่นกันงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ระหว่างการทำพิธีถือกำเนิดในภูเขาเจิดจรัส ภูเขาแห่งนี้จะอยู่ในภาวะปิด เช่นเดียวกับวงแหวนเคลื่อนย้ายของโบสถย่อยตามเมืองอื่นๆ ที่จะถูกตัดชั่วคราว ดังนั้นเผ่าแห่งความมืดคงจะถือโอกาสนี้เพื่อเข้าโจมตี และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น”
อัศวินอธิบาย ส่วนเซียวเฟิงก็เอาแต่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ แล้วอัศวินก็พูดต่อไป
“เทพธิดาแห่งแสงอยู่ในวิหารแห่งนี้ เจ้าสามารถเดินเข้าไปในวิหารเพื่อหานางได้ เพราะมีเพียงแค่เทพธิดาแห่งแสงเท่านั้นที่สามารถใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายได้ในภาวะปิดแบบนี้”
เมื่อมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเพื่อจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ เขาจึงปีนบันไดหยกขาวอย่างไม่รอช้า
จืออี้ตามชายหนุ่มไปติดๆ ทั้งที่ความงุนงงยังคงประทับอยู่บนในหน้าอันงดงามของเธอ ทั้งนี้ก็เพราะหญิงสาวเชื่อว่านี่คือภารกิจใหญ่ เนื่องจากเธอสังเกตเห็นว่าเซียวเฟิงกับอัศวินแสงพูดคุยเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งแสง และพวกปีศาจแห่งความมืด
ในขณะนี้เซียวเฟิงกำลังปีนบันไดขึ้นไปยังภูเขาเจิดจรัส เธอจึงตามเขาไปในทันที และด้วยประสบการณ์การเล่นเกมออนไลน์มานานหลายปี หญิงสาวก็ยิ่งมั่นใจว่านี่คือภารกิจระดับสูง และเธออาจได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลแม้ได้รางวัลตอบแทนเพียงเล็กน้อยก็ตาม!
“นักผจญภัยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ ภูเขาเจิดจรัสจะไม่เปิดทางให้เจ้า โปรดกลับมาอีกครั้งเมื่อเจ้าเลเวล 50”
แต่อัศวินตัวสูงสองคนห้ามเธอไว้เมื่อเธอกำลังจะปีนบันไดขึ้นไป
“อะไรนะ? ทำไมฉันถึงขึ้นไปไม่ได้ล่ะ? เขาก็เป็นนักผจญภัยเหมือนกับฉันนะ!” จืออี้ชี้ไปที่เซียวเฟิงที่กำลังปีนบันไดขึ้นไปและโต้แย้ง
“ยังมีสาวกอีกหลายคนที่เชื่อในแสงสว่างอยู่ท่ามกลางเหล่านักผจญภัย พวกเขามีศรัทธา และภูเขาเจิดจรัสจะตอบรับพวกเขา” อัศวินข้างหน้าพูดขึ้น
“ฉันก็นับถือแสงสว่างนะ! ฉันเป็นผู้ประกอบพิธีกรรม! ฉันก็ต้องมีศรัทธาเหมือนกับเขาสิ! ให้ฉันเข้าไปที่นั่นเถอะ!” จืออี้ตอบอัศวินทันที แต่ครั้งนี้อัศวินข้างหน้ากลับกลายเป็นยืนเงียบ และไม่สนใจเธอ
“นี่! ท่านฮีลเลอร์! สาวกผู้เลื่อมใส! ช่วยบอกพวกเขาทีว่าเรามาด้วยกัน!” หลังจากที่พบว่าอัศวินไม่เชื่อใจเธอ จืออี้จึงตะโกนหาเซียวเฟิง
แต่เซียวเฟิงอยากที่จะทิ้งเธอไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรออกไปและเร่งฝีเท้าแทน ไม่นานนักชายหนุ่มก็ไม่ได้ยินเสียงของจืออี้อีกต่อไป
บันไดนั้นมีความยาวมาก แต่โชคดีที่ผู้เล่นจะไม่มีวันเหนื่อย นอกจากนั้นภูเขานี้ก็สูงเพียงแค่ 100 เมตร เซียวเฟิงจึงปีนขึ้นถึงยอด และได้เห็นเมืองที่โอ่อ่าเต็มๆ ตา
“คุณได้พบกับวิหารแห่งแสง ศูนย์กลางแห่งความศรัทธาของภูมิภาคเอเชีย! ค่าชื่อเสียง +100”
เซียวเฟิงประหลาดใจ ดูเหมือนว่านครศักดิ์สิทธิ์จะถือเป็นจุดศูนย์กลางของวิหารแห่งแสง ณ เขตฮัวเซี่ย และเขตอื่นก็น่าจะมีวิหารที่คล้ายๆ กันนี้
ทว่าเซียวเฟิงไม่สนใจความจริงอันนี้ ประตูเมืองนั้นเปิดอยู่ และเซียวเฟิงก็เดินเข้าไปในนครศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกอาบไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ในทันที
นครศักดิ์สิทธิ์นั้นใหญ่โต แต่ชื่อในแผนที่ของระบบกลับดูธรรมดา มันแตกต่างจากเมืองหลักทั่วไปที่ผู้เล่นอยู่ และมีพื้นที่ซับซ้อนไม่มากนัก มีสถานที่อำนวยความสะดวกมากมายที่นี่ และมีวิหารสำคัญอยู่ใจกลางเมือง เซียวเฟิงที่เห็นจึงรีบวิ่งไปในทันที
แต่มันแปลกที่นครศักดิ์สิทธิ์เงียบงันแบบนี้ มี NPC อยู่เพียงไม่กี่คน และเซียวเฟิงไม่รู้ว่าพวกเขาไปซ่อนกันอยู่ที่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่ NPC ที่พบก็จะเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมที่มีตำแหน่งเป็นอาร์คบิชอปเหมือนกับบิชอปไคเซอร์
เซียวเฟิงสอบถาม NPC ไม่กี่คนที่กำลังเดินผ่านใกล้กับทางเข้าวิหารกลางเมือง จากนั้นเขาก็รีบเข้าไปที่นั่นในขณะเดียวกับที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือวิหารกลางอย่างแปลกๆ เพราะจากด้านนอกของเมือง ผู้เล่นจะสามารถเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเข้ามาถึงเมืองเท่านั้นถึงจะเห็นว่ามีแสงสว่างแรงกล้าอยู่กลางเมือง มันเหมือนกับแนวช่องของแสงส่องลงไปที่เมืองในแนวตั้ง แต่เซียวเฟิงไม่รู้ถึงตำแหน่งของมัน
“สาวกผู้เลื่อมใส? ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อน เจ้ามาจากสาขาย่อยงั้นรึ?” คาร์ดินัลคนหนึ่งถามขึ้นขณะเดินออกมาจากวิหารและเห็นเซียวเฟิง ณ ทางเข้า เขาเป็นชายแก่และมีชื่อบนหัวของเขาว่าบิชอปเรนัลด์
“ใช่แล้ว ผมมาจากเมืองเทียนหลง.. ”
“อ่า! เมืองเทียนหลง! ไคเซอร์สบายดีไหม? เราเป็นเพื่อนเก่ากัน!” บิชอปเรนัลด์ดีใจเมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น ชายแก่จึงพูดขัดเซียวเฟิงขึ้นมาทันที
“ท่านบิชอปไคเซอร์สบายดี แต่เมืองเทียนหลงกำลังตกอยู่ในอันตราย และผมมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเทพธิดาแห่งแสงสว่าง” เซียวเฟิงระงับความโกรธของเขาไว้ และพยายามอดกลั้น เพราะตอนนี้ชายหนุ่มเหลือเวลาอีกประมาณสิบนาทีในการทำภารกิจของเขาให้สำเร็จ!
“ข้าเข้าใจแล้ว โปรดตามข้ามา” ดูเหมือนบิชอปเรนัลด์จะชอบคุย แต่ยังโชคดีที่เขารู้ว่าสิ่งใดมีความสำคัญสูงสุด เขาจึงรีบนำทางเข้าไปในวิหารทันทีหลังจากที่ได้ยินว่าเมืองตกอยู่ในอันตราย
เซียวเฟิงยอมรับข้อตกลงนี้ด้วยความดีใจ วิหารกลางนั้นใหญ่เกินไป และเขาก็ไม่รู้จักที่นี่ดีพอ ดังนั้นชายหนุ่มจึงตามบิชอปเรนัลด์ไปอย่างไม่ลังเล
“ไม่นานมานี้เผ่าแห่งความมืดในดินแดนแห่งพระเจ้าได้สร้างปัญหาขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน เทพธิดาแห่งแสงคาดการณ์ไว้ว่ากองทัพมืดจะกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงเริ่มทำพิธีกรรมเพื่อชิงความได้เปรียบ แต่พวกเราไม่คาดว่าพวกเผ่าแห่งความมืดบ้านั่นจะสบโอกาสและเข้าโจมตีเมืองอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายก็เป็นเมืองเทียนหลงที่ตกเป็นเป้าหมายด้วยเช่นกัน”
“แต่พวกเผ่าแห่งความมืดจะต้องถูกชำระล้างอย่างแน่นอนด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์หลังจากพิธีการถือกำเนิดนั้นเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ เพราะพวกมันไม่มีทางที่จะต่อกรกับพลังแสงได้แม้ว่าจักรพรรดิปีศาจจะกลับมาอีกครั้งก็ตาม ภาวะปิดของภูเขาเจิดจรัสนั้นเกิดขึ้นโดยพลังของกาลอวกาศที่แข็งกล้าจากพิธีการถือกำเนิด แต่นั่นก็ถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้พิธีการถูกทำลายเช่นกัน” บิชอปเรนัลด์พูดไม่หยุดตลอดทาง ก่อนที่ในที่สุดเซียวเฟิงกับชายแก่จะมาถึงด้านในของวิหารกลาง และถึงแม้ชายหนุ่มจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพิธีถือกำเนิดที่เรนัลด์ได้กล่าวถึง แต่เขาก็รู้ว่าตนไม่เหลือเวลาที่จะถามคำถาม ดังนั้นเซียวเฟิงจึงทำได้แค่รอถามเรนัลด์ทีหลัง
“นั่งไงเล่า ตรงนั้นคือเทพธิดาแห่งแสง!”
เซียวเฟิงสังเกตเห็นชื่อที่โดดเด่นก่อนที่บิชอปเรนัลด์ชจะบอกเขาเสียอีก
เพราะวิหารนั้นว่างเปล่าและกว้างขวาง ในขณะที่พลังแห่งแสงนั้นแข็งกล้า พร้อมกับที่มีอัศวินยืนอยู่ทั้งสองด้าน โดยร่างของพวกเขานั้นอยู่ในชุดเกราะที่ปิดบังแม้กระทั่งใบหน้า ส่วนตรงกลางก็มีบัลลังก์หยกขาวอันหรูหราตั้งอยู่ เป็นบัลลังก์ของพระเจ้าที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ และเทพธิดาแห่งแสงที่ NPC ทั้งหลายพูดถึงก็กำลังนอนอยู่ข้างบนบัลลังก์นั่น เธอดูเกียจคร้านเป็นอย่างมาก
เซียวเฟิงไม่รู้ว่าจะอธิบายเทพธิดาแห่งแสงแบบไหนดี เพราะเธอดูเหมือนหญิงสาวที่สวยไร้ที่ติ!
ผู้หญิงคนนี้จะต้องถูกระบบจำลองขึ้นมาแน่ๆ เพราะเธอสมบูรณ์แบบและความสวยงามของเธอก็ไร้ที่ติ
หญิงสาวคือความสวยงามแห่งตะวันออก แต่เซียวเฟิงไม่มั่นใจอายุของเธอ เธอดูเหมือนจะมีอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่บางครั้งผู้เล่นคนอื่นอาจคิดว่าเธอมีอายุยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปีเพราะว่าเธอนั้นสมบูรณ์แบบเกินไป และลักษณะเฉพาะของผู้หญิงในร่างของเธอ ทั้งรูปร่าง ใบหน้า กับผิวก็ช่างสมบูรณ์แบบ เธอมีทุกส่วนของความงามและดูสมบูรณ์แบบเกินกว่าที่จะเป็นไปได้
ผู้หญิงแบบนี้น่าจะเป็นที่ต้องการของผู้ชายทุกคนบนโลก แต่เซียวเฟิงรู้สึกว่าเธอนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อม นอกจากความสวยที่ไม่น่าเชื่อของหญิงสาว ดวงตาของเธอก็น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก
เธอทำตัวอยู่เหนือกว่าคนอื่น ทั้งอวดดีและหัวสูง ช่างสมกับเป็นเทพธิดาแห่งแสง หญิงสาวก้มมองดูคนธรรมดาราวกับว่าพวกเขาเป็นแค่แมลง เธอมองเซียวเฟิงด้วยหางตาเท่านั้น ก่อนจะหันกลับไปอย่างไม่แยแสราวกับว่าการมองคนอื่นจะทำให้ตัวเธอแปดเปื้อน
ด้วยรูปโฉมที่สมบรูณ์แบบของเธอ หญิงสาวจึงเป็นดั่งเทพธิดาแห่งโลกอื่น เหนือกว่ามนุษย์เดินดินและสูงขึ้นไปเสียดฟ้าจนต้องแหงนมอง
หญิงสาวสวมเสื้อราตรีสีขาว พร้อมกับมีมงกุฎสีเงินอยู่บนศีรษะของเธอ ผมดำยาวของเธอปลิวสยายและสะอาดเอี่ยมอ่อง ดูศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ สมควรแล้วที่เธอจะได้รับการบูชาจากคนธรรมดา
ใช่ สัตว์ประหลาดตัวนี้ต้องเป็นเทพธิดา เซียวเฟิงหลงอยู่กับความสวยของเธอ เทียบกับเธอแล้วโรสผู้ที่มีรูปลักษณ์ที่ดีและละเอียดอ่อนดูเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงที่ยังไม่โตเท่านั้น
“เทพธิดาแห่งแสง นี่คือสาวกผู้เลื่อมใสจากเมืองเทียนหลง”
เซียวเฟิงได้สติกลับมาหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของบิชอปเรนัลด์ เขาหยิบเอาจดหมายจากบิชอปไคเซอร์ออกมาทันทีเพราะเหลือเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนที่ภารกิจจะล้มเหลว
ซึ่งเมื่อชายหนุ่มปล่อยมือออกจากจดหมายนั่น มันก็พลันปลิวออกไปอย่างฉับพลันและหล่นลงไปในมือของเทพธิดาที่กำลังพิงอยู่บนบัลลังก์
เธอเปิดจดหมายออกและอ่านมัน หลังจากนั้นจดหมายก็หายไปในอากาศ ทั้งหมดนั่นเธอทำไปอย่างไร้ซึ่งความใส่ใจและไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา
“ข้าเข้าใจแล้ว”
หลังจากนั้นเธอก็พูดออกมาในที่สุด เสียงของเธอนั้นสมบูรณ์แบบและไร้ซึ่งมลทิน
มันสำเร็จแล้วเหรอ?
เซียวเฟิงอึ้ง เขามองเทพธิดาอย่างไม่เชื่อ เมืองเทียนหลงกำลังตกอยู่ในอันตรายจากที่ลิชยักษ์ได้ทำการเอาไว้ กองทัพมืดได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว และเมืองเทียนหลงก็เป็นเป้าหมายแรกของพวกมัน แล้วทำไมเทพธิดาถึงยังใจเย็นอยู่ล่ะ?
“เจ้าคือสาวกผู้เลื่อมใสในหมู่นักผจญภัยนับไม่ถ้วน… เจ้าทำได้ดีมากในการทำลายแผนการแรกของกองทัพมืด ข้าจะให้รางวัลกับเจ้า เจ้าอยากได้อะไร?”
เทพธิดาแห่งแสงพูดขึ้นอีกครั้ง เธอมองลงมาที่เซียวเฟิงอย่างโอ้อวด
ถ้าว่ากันตามตรง เซียวเฟิงไม่ชอบทัศนคติของเธอ หญิงสาวมองมาที่เขาอย่างกับว่าเขาเป็นชนชั้นล่าง ดังนั้นเซียวเฟิงจึงไม่คิดรักษาความสุภาพอีกเมื่อเขาตอบคำถามของเธอ
“ผมอยากทำศีลจุ่ม” กัปตันโบลตันบอกกับเขาว่าผู้เล่นสามารถเปลี่ยนคลาสและเลือกคลาสลับที่ซ่อนอยู่ได้หลังจากรับการล้างบาปแล้ว ดังนั้นถึงเซียวเฟิงจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพิธีศีลจุ่ม แต่เขาก็ยังร้องขอมัน
“บิชอปเรนัลด์ เจ้าจงพาคนผู้นี้ไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อชำระบาป” เทพธิดาแห่งแสงพูดอย่างเย็นชา ในเวลาเดียวกันเซียวเฟิงก็ได้ยินเสียงเตือนของระบบ
“คุณได้สำเร็จภารกิจเนื้อเรื่องส่วนที่สอง [การนำพาแห่งแสง]! คุณได้รับค่าประสบการณ์ 10,000 หน่วยและการล้างบาปเป็นรางวัล!”
บันไดที่คล้ายกับทำขึ้นมาจากหยกนี้ทอดยาวขึ้นไปในก้อนเมฆ และดูเหมือนว่าจะยาวไปถึงท้องฟ้า
บนบันไดคือนครศักดิ์สิทธิ์ที่ตระการตา จนเซียวเฟิงที่ยืนอยู่บนพื้นดินมองเห็นเพียงแค่กำแพงและหอคอยสูงที่ตั้งตระหง่านเข้าไปในก้อนเมฆเท่านั้น
“สาวกผู้เลื่อมใส ยินดีต้อนรับสู่ภูเขาเจิดจรัส” ภายใต้บันไดนั้นมีแถวของอัศวินเกราะสีเงินอยู่มากมาย หลังจากที่เซียวเฟิงมาถึงอัศวินสองคนก็เดินเข้ามาพูดกับเขาอย่างเป็นมิตร
“ผมต้องการที่จะเข้าพบเทพธิดาแห่งแสง โบสถแห่งเมืองเทียนหลงกำลังมีปัญหา” เซียวเฟิงพูด เขายังคงไม่สามารถที่จะมองเห็นเลเวลของอัศวินแสงพวกนี้ แต่อัศวินพวกนี้สวมใส่อุปกรณ์ที่ดีมากๆ และน่าจะมีเลเวลที่สูงกว่าเหล่าอัศวินในเมืองเทียนหลงเสียอีก
“ที่เมืองเทียนหลงก็มีปัญหาเช่นกันเหรอ…. ดูเหมือนว่าพวกเผ่าแห่งความมืดจะเริ่มใจกล้าขึ้นกว่าเดิม…” อัศวินด้านหน้าพูดขึ้น ทำให้เซียวเฟิงรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของเขา
“เมืองหลักแห่งอื่นก็มีปัญหาเช่นกันงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ระหว่างการทำพิธีถือกำเนิดในภูเขาเจิดจรัส ภูเขาแห่งนี้จะอยู่ในภาวะปิด เช่นเดียวกับวงแหวนเคลื่อนย้ายของโบสถย่อยตามเมืองอื่นๆ ที่จะถูกตัดชั่วคราว ดังนั้นเผ่าแห่งความมืดคงจะถือโอกาสนี้เพื่อเข้าโจมตี และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น”
อัศวินอธิบาย ส่วนเซียวเฟิงก็เอาแต่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ แล้วอัศวินก็พูดต่อไป
“เทพธิดาแห่งแสงอยู่ในวิหารแห่งนี้ เจ้าสามารถเดินเข้าไปในวิหารเพื่อหานางได้ เพราะมีเพียงแค่เทพธิดาแห่งแสงเท่านั้นที่สามารถใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายได้ในภาวะปิดแบบนี้”
เมื่อมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเพื่อจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ เขาจึงปีนบันไดหยกขาวอย่างไม่รอช้า
จืออี้ตามชายหนุ่มไปติดๆ ทั้งที่ความงุนงงยังคงประทับอยู่บนในหน้าอันงดงามของเธอ ทั้งนี้ก็เพราะหญิงสาวเชื่อว่านี่คือภารกิจใหญ่ เนื่องจากเธอสังเกตเห็นว่าเซียวเฟิงกับอัศวินแสงพูดคุยเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งแสง และพวกปีศาจแห่งความมืด
ในขณะนี้เซียวเฟิงกำลังปีนบันไดขึ้นไปยังภูเขาเจิดจรัส เธอจึงตามเขาไปในทันที และด้วยประสบการณ์การเล่นเกมออนไลน์มานานหลายปี หญิงสาวก็ยิ่งมั่นใจว่านี่คือภารกิจระดับสูง และเธออาจได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลแม้ได้รางวัลตอบแทนเพียงเล็กน้อยก็ตาม!
“นักผจญภัยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ ภูเขาเจิดจรัสจะไม่เปิดทางให้เจ้า โปรดกลับมาอีกครั้งเมื่อเจ้าเลเวล 50”
แต่อัศวินตัวสูงสองคนห้ามเธอไว้เมื่อเธอกำลังจะปีนบันไดขึ้นไป
“อะไรนะ? ทำไมฉันถึงขึ้นไปไม่ได้ล่ะ? เขาก็เป็นนักผจญภัยเหมือนกับฉันนะ!” จืออี้ชี้ไปที่เซียวเฟิงที่กำลังปีนบันไดขึ้นไปและโต้แย้ง
“ยังมีสาวกอีกหลายคนที่เชื่อในแสงสว่างอยู่ท่ามกลางเหล่านักผจญภัย พวกเขามีศรัทธา และภูเขาเจิดจรัสจะตอบรับพวกเขา” อัศวินข้างหน้าพูดขึ้น
“ฉันก็นับถือแสงสว่างนะ! ฉันเป็นผู้ประกอบพิธีกรรม! ฉันก็ต้องมีศรัทธาเหมือนกับเขาสิ! ให้ฉันเข้าไปที่นั่นเถอะ!” จืออี้ตอบอัศวินทันที แต่ครั้งนี้อัศวินข้างหน้ากลับกลายเป็นยืนเงียบ และไม่สนใจเธอ
“นี่! ท่านฮีลเลอร์! สาวกผู้เลื่อมใส! ช่วยบอกพวกเขาทีว่าเรามาด้วยกัน!” หลังจากที่พบว่าอัศวินไม่เชื่อใจเธอ จืออี้จึงตะโกนหาเซียวเฟิง
แต่เซียวเฟิงอยากที่จะทิ้งเธอไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรออกไปและเร่งฝีเท้าแทน ไม่นานนักชายหนุ่มก็ไม่ได้ยินเสียงของจืออี้อีกต่อไป
บันไดนั้นมีความยาวมาก แต่โชคดีที่ผู้เล่นจะไม่มีวันเหนื่อย นอกจากนั้นภูเขานี้ก็สูงเพียงแค่ 100 เมตร เซียวเฟิงจึงปีนขึ้นถึงยอด และได้เห็นเมืองที่โอ่อ่าเต็มๆ ตา
“คุณได้พบกับวิหารแห่งแสง ศูนย์กลางแห่งความศรัทธาของภูมิภาคเอเชีย! ค่าชื่อเสียง +100”
เซียวเฟิงประหลาดใจ ดูเหมือนว่านครศักดิ์สิทธิ์จะถือเป็นจุดศูนย์กลางของวิหารแห่งแสง ณ เขตฮัวเซี่ย และเขตอื่นก็น่าจะมีวิหารที่คล้ายๆ กันนี้
ทว่าเซียวเฟิงไม่สนใจความจริงอันนี้ ประตูเมืองนั้นเปิดอยู่ และเซียวเฟิงก็เดินเข้าไปในนครศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกอาบไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ในทันที
นครศักดิ์สิทธิ์นั้นใหญ่โต แต่ชื่อในแผนที่ของระบบกลับดูธรรมดา มันแตกต่างจากเมืองหลักทั่วไปที่ผู้เล่นอยู่ และมีพื้นที่ซับซ้อนไม่มากนัก มีสถานที่อำนวยความสะดวกมากมายที่นี่ และมีวิหารสำคัญอยู่ใจกลางเมือง เซียวเฟิงที่เห็นจึงรีบวิ่งไปในทันที
แต่มันแปลกที่นครศักดิ์สิทธิ์เงียบงันแบบนี้ มี NPC อยู่เพียงไม่กี่คน และเซียวเฟิงไม่รู้ว่าพวกเขาไปซ่อนกันอยู่ที่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่ NPC ที่พบก็จะเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมที่มีตำแหน่งเป็นอาร์คบิชอปเหมือนกับบิชอปไคเซอร์
เซียวเฟิงสอบถาม NPC ไม่กี่คนที่กำลังเดินผ่านใกล้กับทางเข้าวิหารกลางเมือง จากนั้นเขาก็รีบเข้าไปที่นั่นในขณะเดียวกับที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือวิหารกลางอย่างแปลกๆ เพราะจากด้านนอกของเมือง ผู้เล่นจะสามารถเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเข้ามาถึงเมืองเท่านั้นถึงจะเห็นว่ามีแสงสว่างแรงกล้าอยู่กลางเมือง มันเหมือนกับแนวช่องของแสงส่องลงไปที่เมืองในแนวตั้ง แต่เซียวเฟิงไม่รู้ถึงตำแหน่งของมัน
“สาวกผู้เลื่อมใส? ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อน เจ้ามาจากสาขาย่อยงั้นรึ?” คาร์ดินัลคนหนึ่งถามขึ้นขณะเดินออกมาจากวิหารและเห็นเซียวเฟิง ณ ทางเข้า เขาเป็นชายแก่และมีชื่อบนหัวของเขาว่าบิชอปเรนัลด์
“ใช่แล้ว ผมมาจากเมืองเทียนหลง.. ”
“อ่า! เมืองเทียนหลง! ไคเซอร์สบายดีไหม? เราเป็นเพื่อนเก่ากัน!” บิชอปเรนัลด์ดีใจเมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น ชายแก่จึงพูดขัดเซียวเฟิงขึ้นมาทันที
“ท่านบิชอปไคเซอร์สบายดี แต่เมืองเทียนหลงกำลังตกอยู่ในอันตราย และผมมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเทพธิดาแห่งแสงสว่าง” เซียวเฟิงระงับความโกรธของเขาไว้ และพยายามอดกลั้น เพราะตอนนี้ชายหนุ่มเหลือเวลาอีกประมาณสิบนาทีในการทำภารกิจของเขาให้สำเร็จ!
“ข้าเข้าใจแล้ว โปรดตามข้ามา” ดูเหมือนบิชอปเรนัลด์จะชอบคุย แต่ยังโชคดีที่เขารู้ว่าสิ่งใดมีความสำคัญสูงสุด เขาจึงรีบนำทางเข้าไปในวิหารทันทีหลังจากที่ได้ยินว่าเมืองตกอยู่ในอันตราย
เซียวเฟิงยอมรับข้อตกลงนี้ด้วยความดีใจ วิหารกลางนั้นใหญ่เกินไป และเขาก็ไม่รู้จักที่นี่ดีพอ ดังนั้นชายหนุ่มจึงตามบิชอปเรนัลด์ไปอย่างไม่ลังเล
“ไม่นานมานี้เผ่าแห่งความมืดในดินแดนแห่งพระเจ้าได้สร้างปัญหาขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน เทพธิดาแห่งแสงคาดการณ์ไว้ว่ากองทัพมืดจะกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงเริ่มทำพิธีกรรมเพื่อชิงความได้เปรียบ แต่พวกเราไม่คาดว่าพวกเผ่าแห่งความมืดบ้านั่นจะสบโอกาสและเข้าโจมตีเมืองอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายก็เป็นเมืองเทียนหลงที่ตกเป็นเป้าหมายด้วยเช่นกัน”
“แต่พวกเผ่าแห่งความมืดจะต้องถูกชำระล้างอย่างแน่นอนด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์หลังจากพิธีการถือกำเนิดนั้นเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ เพราะพวกมันไม่มีทางที่จะต่อกรกับพลังแสงได้แม้ว่าจักรพรรดิปีศาจจะกลับมาอีกครั้งก็ตาม ภาวะปิดของภูเขาเจิดจรัสนั้นเกิดขึ้นโดยพลังของกาลอวกาศที่แข็งกล้าจากพิธีการถือกำเนิด แต่นั่นก็ถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้พิธีการถูกทำลายเช่นกัน” บิชอปเรนัลด์พูดไม่หยุดตลอดทาง ก่อนที่ในที่สุดเซียวเฟิงกับชายแก่จะมาถึงด้านในของวิหารกลาง และถึงแม้ชายหนุ่มจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพิธีถือกำเนิดที่เรนัลด์ได้กล่าวถึง แต่เขาก็รู้ว่าตนไม่เหลือเวลาที่จะถามคำถาม ดังนั้นเซียวเฟิงจึงทำได้แค่รอถามเรนัลด์ทีหลัง
“นั่งไงเล่า ตรงนั้นคือเทพธิดาแห่งแสง!”
เซียวเฟิงสังเกตเห็นชื่อที่โดดเด่นก่อนที่บิชอปเรนัลด์ชจะบอกเขาเสียอีก
เพราะวิหารนั้นว่างเปล่าและกว้างขวาง ในขณะที่พลังแห่งแสงนั้นแข็งกล้า พร้อมกับที่มีอัศวินยืนอยู่ทั้งสองด้าน โดยร่างของพวกเขานั้นอยู่ในชุดเกราะที่ปิดบังแม้กระทั่งใบหน้า ส่วนตรงกลางก็มีบัลลังก์หยกขาวอันหรูหราตั้งอยู่ เป็นบัลลังก์ของพระเจ้าที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ และเทพธิดาแห่งแสงที่ NPC ทั้งหลายพูดถึงก็กำลังนอนอยู่ข้างบนบัลลังก์นั่น เธอดูเกียจคร้านเป็นอย่างมาก
เซียวเฟิงไม่รู้ว่าจะอธิบายเทพธิดาแห่งแสงแบบไหนดี เพราะเธอดูเหมือนหญิงสาวที่สวยไร้ที่ติ!
ผู้หญิงคนนี้จะต้องถูกระบบจำลองขึ้นมาแน่ๆ เพราะเธอสมบูรณ์แบบและความสวยงามของเธอก็ไร้ที่ติ
หญิงสาวคือความสวยงามแห่งตะวันออก แต่เซียวเฟิงไม่มั่นใจอายุของเธอ เธอดูเหมือนจะมีอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่บางครั้งผู้เล่นคนอื่นอาจคิดว่าเธอมีอายุยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปีเพราะว่าเธอนั้นสมบูรณ์แบบเกินไป และลักษณะเฉพาะของผู้หญิงในร่างของเธอ ทั้งรูปร่าง ใบหน้า กับผิวก็ช่างสมบูรณ์แบบ เธอมีทุกส่วนของความงามและดูสมบูรณ์แบบเกินกว่าที่จะเป็นไปได้
ผู้หญิงแบบนี้น่าจะเป็นที่ต้องการของผู้ชายทุกคนบนโลก แต่เซียวเฟิงรู้สึกว่าเธอนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อม นอกจากความสวยที่ไม่น่าเชื่อของหญิงสาว ดวงตาของเธอก็น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก
เธอทำตัวอยู่เหนือกว่าคนอื่น ทั้งอวดดีและหัวสูง ช่างสมกับเป็นเทพธิดาแห่งแสง หญิงสาวก้มมองดูคนธรรมดาราวกับว่าพวกเขาเป็นแค่แมลง เธอมองเซียวเฟิงด้วยหางตาเท่านั้น ก่อนจะหันกลับไปอย่างไม่แยแสราวกับว่าการมองคนอื่นจะทำให้ตัวเธอแปดเปื้อน
ด้วยรูปโฉมที่สมบรูณ์แบบของเธอ หญิงสาวจึงเป็นดั่งเทพธิดาแห่งโลกอื่น เหนือกว่ามนุษย์เดินดินและสูงขึ้นไปเสียดฟ้าจนต้องแหงนมอง
หญิงสาวสวมเสื้อราตรีสีขาว พร้อมกับมีมงกุฎสีเงินอยู่บนศีรษะของเธอ ผมดำยาวของเธอปลิวสยายและสะอาดเอี่ยมอ่อง ดูศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ สมควรแล้วที่เธอจะได้รับการบูชาจากคนธรรมดา
ใช่ สัตว์ประหลาดตัวนี้ต้องเป็นเทพธิดา เซียวเฟิงหลงอยู่กับความสวยของเธอ เทียบกับเธอแล้วโรสผู้ที่มีรูปลักษณ์ที่ดีและละเอียดอ่อนดูเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงที่ยังไม่โตเท่านั้น
“เทพธิดาแห่งแสง นี่คือสาวกผู้เลื่อมใสจากเมืองเทียนหลง”
เซียวเฟิงได้สติกลับมาหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของบิชอปเรนัลด์ เขาหยิบเอาจดหมายจากบิชอปไคเซอร์ออกมาทันทีเพราะเหลือเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนที่ภารกิจจะล้มเหลว
ซึ่งเมื่อชายหนุ่มปล่อยมือออกจากจดหมายนั่น มันก็พลันปลิวออกไปอย่างฉับพลันและหล่นลงไปในมือของเทพธิดาที่กำลังพิงอยู่บนบัลลังก์
เธอเปิดจดหมายออกและอ่านมัน หลังจากนั้นจดหมายก็หายไปในอากาศ ทั้งหมดนั่นเธอทำไปอย่างไร้ซึ่งความใส่ใจและไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา
“ข้าเข้าใจแล้ว”
หลังจากนั้นเธอก็พูดออกมาในที่สุด เสียงของเธอนั้นสมบูรณ์แบบและไร้ซึ่งมลทิน
มันสำเร็จแล้วเหรอ?
เซียวเฟิงอึ้ง เขามองเทพธิดาอย่างไม่เชื่อ เมืองเทียนหลงกำลังตกอยู่ในอันตรายจากที่ลิชยักษ์ได้ทำการเอาไว้ กองทัพมืดได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว และเมืองเทียนหลงก็เป็นเป้าหมายแรกของพวกมัน แล้วทำไมเทพธิดาถึงยังใจเย็นอยู่ล่ะ?
“เจ้าคือสาวกผู้เลื่อมใสในหมู่นักผจญภัยนับไม่ถ้วน… เจ้าทำได้ดีมากในการทำลายแผนการแรกของกองทัพมืด ข้าจะให้รางวัลกับเจ้า เจ้าอยากได้อะไร?”
เทพธิดาแห่งแสงพูดขึ้นอีกครั้ง เธอมองลงมาที่เซียวเฟิงอย่างโอ้อวด
ถ้าว่ากันตามตรง เซียวเฟิงไม่ชอบทัศนคติของเธอ หญิงสาวมองมาที่เขาอย่างกับว่าเขาเป็นชนชั้นล่าง ดังนั้นเซียวเฟิงจึงไม่คิดรักษาความสุภาพอีกเมื่อเขาตอบคำถามของเธอ
“ผมอยากทำศีลจุ่ม” กัปตันโบลตันบอกกับเขาว่าผู้เล่นสามารถเปลี่ยนคลาสและเลือกคลาสลับที่ซ่อนอยู่ได้หลังจากรับการล้างบาปแล้ว ดังนั้นถึงเซียวเฟิงจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพิธีศีลจุ่ม แต่เขาก็ยังร้องขอมัน
“บิชอปเรนัลด์ เจ้าจงพาคนผู้นี้ไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อชำระบาป” เทพธิดาแห่งแสงพูดอย่างเย็นชา ในเวลาเดียวกันเซียวเฟิงก็ได้ยินเสียงเตือนของระบบ
“คุณได้สำเร็จภารกิจเนื้อเรื่องส่วนที่สอง [การนำพาแห่งแสง]! คุณได้รับค่าประสบการณ์ 10,000 หน่วยและการล้างบาปเป็นรางวัล!”