Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 437 หลุมพลางการพนัน
สุ่ยเทียนสื่อ ขณะนี้ยินดีทำตามไม่วุ่นวายดังคำของแม่เฒ่าตู้ นางมองทางฉินหยุนและเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ “น้องชายชื่ออะไร?”
ขณะนางพูดกล่าว ก็ใช้นิ้วขาวนวลราวกล้วยไม้ หยิบเอาชิ้นหยกสีม่วงซึ่งห้อยตรงหน้าอกของนางออกมา พร้อมหัวเราะร่วน “น้องชาย คิดว่าวิหคหยกสีม่วงชิ้นน้อยนี้ของข้างดงามหรือไม่? ข้าเพิ่งซื้อหามันมา!”
“ข้าคิดว่ารังของมันดูดีกว่ายิ่งนัก!” ฉินหยุนตอบกลับสีหน้าเรียบเฉย
การตอบกลับนี้ทำเอาสุ่ยเทียนสื่อหัวเราะคิกคัก นางหัวเราะจนพอใจค่อยกล่าวต่อ
“น้องชาย เจ้ายังไม่ได้ตอบนามของเจ้าแก่ข้า” สุ่ยเทียนสื่อถามย้ำอีกครั้งขณะยืนตรงหน้าฉินหยุน
“เรียกหาข้าเป็นอาฉ่วย!” น้ำเสียงฉินหยุนราบเรียบ ดวงตาขณะนี้ก็เรียบเฉยขณะมองสุ่ยเทียนสื่อผู้งดงาม จับจ้องไปยังดวงตาวิหคอมตะเย้ายวนของนาง
สื่อชิงเฉิงเร่งรีบเดินเข้ามา ดึงเส้นผมยาวของสุ่ยเทียนสื่อไว้ คิดอยากดึงนางให้พ้นทาง “วิญญาณร้ายวารี เจ้าพอได้แล้ว! หัดรู้จักเรียนรู้จากน้องสาวทั้งสองคนเสียบ้าง พวกนางล้วนดียิ่งนัก!”
สุ่ยเทียนสื่อมองที่สื่อชิงเฉิงพลางบุ้ยปากโต้เถียง “นางมารสีม่วง นี่เป็นบุรุษของเจ้าหรือ? เหตุใดใจร้อนเช่นนี้?”
แม่เฒ่าตู้และผู้อาวุโสอีกสองคนไม่ประหลาดใจต่อการกระทำนี้ของสุ่ยเทียนสื่อ พวกนางไม่ได้กล่าวอันใดต่ออีก
อย่างไรแล้วพวกเขากลับเกิดความนับถือต่อฉินหยุน ที่ขณะนี้ดวงตายังคงกระจ่างชัด
นี่จึงเป็นเหตุผล ว่าทำไมสุ่ยเทียนสื่อถึงอดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจฉินหยุน
“พี่สาว ข้างนอกมีเรื่องสนุกอันใดหรือไม่? พาข้าไปรับชมเล่นด้วยแล้ว! นี่ข้ายังไม่ได้ออกไปข้างนอกเลยนะ!” เสี่ยวเตียนชิงก้าวเดินออกมา คว้ามือสุ่ยเทียนสื่อเอาไว้และเขย่าแรง
สุ่ยเทียนสื่อตอบกลับเสียงเบา “หาได้มีอันใดสนุก พี่สาวผู้นี้ไปล่อลวงมาได้แค่หลายล้านเหรียญม่วงเท่านั้นเอง!”
สื่อชิงเฉิงเดินมาทางฉินหยุนและกล่าว “น้องชาย ผู้นี้คือสุ่ยเทียนสื่อ ข้าบอกต่อเจ้าก่อนหน้าแล้ว ให้ระมัดระวังนางเอาไว้!”
“ทางนี้คือเสี่ยวเตียนซิง นามแท้จริงสุ่ยซิง เป็นน้องสามของวิญญาณร้ายวารีผู้นั้น! และนั่นเสี่ยวกั๋วเอ๋อ นามแท้จริงสุ่ยกั๋ว เป็นน้องรองของวิญญาณร้ายวารี!”
“สวัสดีทุกท่านแล้ว!” ฉินหยุนกล่าวคำ
“อาฉ่วย เหตุใดสวมใส่หน้ากากหนังมนุษย์ รูปลักษณ์แท้จริงเลวร้ายหรือ?” เสี่ยวเตียนซิงเอ่ยถาม
“ถูกต้อง เพราะข้าอัปลักษณ์ ไม่คิดอยากทำให้ผู้คนหวาดกลัว จึงได้แต่ทำเช่นนี้!” ฉินหยุนพยักหน้า
“อย่างนั้นแล้วก็สวมใส่มันต่อไป!” เสี่ยวเตียนซิงได้เห็นพี่สาวของอีกฝ่ายอยู่เคียงข้าง จึงค่อยกล้าเอ่ยคำสอบถามขึ้นมาบ้าง
สุ่ยเทียนสื่อยิ้มกว้าง “น้องน้อยอย่าได้เชื่อคำชายผู้นี้ เขากำลังหลอกลวงเจ้า!”
“เจ้ายังคงขาดซึ่งประสบการณ์ ไม่รู้จักการตัดสินผู้อื่น! ดวงตาของชายผู้นี้งดงามยิ่ง ข้าพบเจอบุรุษเพศมามาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นบุรุษซึ่งมีดวงตาเช่นนี้!”
“นอกจากนี้แล้ว ชายคนนี้ยังควบคุมตัวเองได้ดียิ่ง ถือว่าไม่ธรรมดา จากดวงตานั่น ข้ามองเขาเป็นตาเฒ่าจิ้งจอกมากประสบการณ์คนหนึ่ง!”
“สตรีปีศาจม่วง นี่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าจริงหรือ?” สุ่ยเทียนสื่อคุกคามตัวตนฉินหยุนอีกครั้งหนึ่ง
“เป็นลูกพี่ลูกน้องข้าจริง แล้วนี่เจ้าเป็นอะไรไปแล้ว? ตกหลุมรักแบบแรกพบหรือไร?” สื่อชิงเฉิงเผยฝีปากกล่าวตอบ
“เช่นนั้นอย่างน้อย ถอดหน้ากากหนังมนุษย์ออก ให้ข้าได้เห็นรูปลักษณ์แท้จริงของเขา แล้วข้าค่อยตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือไม่!” สุ่ยเทียนสื่อช่างเป็นหญิงสาวช่างสงสัยอย่างยิ่ง
นางปรารถนาเข้าไปฉีกกระชากหน้ากากฉินหยุนออกเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำหากทำได้
สื่อชิงเฉิงตอบคำ “วิญญาณร้ายวารี ผู้คนในเมืองวิญญาณขั้วเหนือนี้มากันมากมายเพียงใดแล้ว? พวกคนจากตระกูลสายเลือดมาถึงหรือยัง?”
“ยังไม่! ข้าหวังให้พวกเขามาโดยเร็ว ข้าเพิ่งเสียหลายล้านเหรียญม่วงไปเมื่อครู่ คิดอยากตกเหยื่อได้รับกลับคืนมาบ้าง!” สุ่ยเทียนสื่อม้วนเส้นผมเล่น ยิ่งทำให้นางดูน่าค้นหายิ่งขึ้น
ฉินหยุนตื่นตระหนก เขาไม่คาดคิด ว่าศิษย์จากตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง จะกลายเป็นปลาใหญ่ที่รอให้ตกในสายตาของสุ่ยเทียนสื่อ
“พี่สาวไฉนได้มาแล้วก็เสียไปมากมายขนาดนั้น?” เสี่ยวเตียนซิงเอ่ยถามด้วยความเสียดาย
“ต้องเรียกว่าเสี่ยงโชค! หงเมิ่งจูจากแคว้นยุทธ์หง ทราบกันว่าเป็นราชาพนัน นางขณะนี้นำบิดาราชันยุทธ์เข้าร่วมการพนัน นางเองก็เสียไปมากถึงยี่สิบล้านเหรียญม่วง” สุ่ยเทียนสื่อยิ้มกว้างไม่ยี่หระ “แค่นี้ไม่นับเป็นไร รอพวกเจ้าชายจากหลายราชอาณาจักรมาถึง ข้าค่อยไปสูบเลือดเนื้อมาใหม่!”
“นี่พวกท่านเล่นอันใดกัน หินเสี่ยงทายหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม เขาถึงขั้นตระหนกยามได้ทราบว่าหงเมิ่งจูเสียไปมหาศาล
สุ่ยเทียนสื่อตอบคำ “หาได้ใช่หินเสี่ยงทาย เป็นไหใบใหญ่นับร้อยวางทางเอาไว้ที่ทางเข้าตำหนักจารึกเทวะ ซึ่งกำลังก่อสร้างขึ้นใหม่ที่เมืองวิญญาณขั้วเหนือแห่งนี้ ไหเหล่านั้นสร้างขึ้นอย่างพิเศษ มันมีฝาปิดด้วย!”
“วิธีการเล่น คือคาดเดาไหใหญ่เหล่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ตำหนักจารึกเทวะได้สร้างขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน นับว่าเป็นของน่าสนใจอย่างหนึ่ง!”
เพียงไม่นาน สุ่ยเทียนสื่อก็อธิบายรายละเอียดวิธีการเล่นอย่างครบถ้วน
ไหใหญ่นับร้อยใบ แต่ละใบจะมีหมายเลขหนึ่งถึงหนึ่งร้อย
ก่อนเริ่มการเดิมพัน ผู้คนของตำหนักจารึกเทวะ จะนำหุ่นเชิดนกใส่ในไหใบแรก พวกเขาจะเปิดค่ายอาคมมิติให้ทำงานภายในไหทั้งหนึ่งร้อยใบ ทำให้พวกมันเชื่อมโยงถึงกัน
ผ่านการทำงานชั่วครู่ พวกเขาจะปล่อยให้ผู้คนได้คาดเดา ว่าไหหมายเลขใดจะมีนกบินออกมา
หากคาดเดาถูกต้อง ก็ได้รับรางวัลจากเงินลงเดิมพันถึงสิบเท่ากลับคืน!
ลงพนันน้อยสุดที่หนึ่งหมื่นเหรียญม่วง สูงสุดมากถึงสิบล้านเหรียญม่วง!
โดยจะสามารถเล่นได้ทุกหนึ่งชั่วยาม และหนึ่งวันจะมีถึงหกรอบด้วยกัน!
ฉินหยุนขณะนี้ถึงกับมองเหยียดต่อตำหนักจารึกเทวะ ถึงกับใช้ลูกไม้ต่ำช้าเช่นนี้เพื่อหลอกลวงเอาเหรียญม่วงจากผู้คน
“ข้าคิดอยากเล่น!” ฉินหยุนกล่าว
“เช่นนั้นก็ไปกัน! จะอย่างไร พวกเราตอนนี้ก็ยังไม่ได้เดินทางไปเทือกเขาเมฆมังกร ไปหาความสนุกบ้างถือเป็นเรื่องดี!” สื่อชิงเฉิงกล่าว
“อย่างนั้นก็ไปด้วยกัน!” สุ่ยเทียนสื่อหัวเราะดัง
“พี่สาว ให้ข้าไปด้วย!” เสี่ยวเตียนซิงโพล่งคำออกมา
“ได้ อย่างนั้นแล้วเสี่ยวกั๋วเอ่อไปด้วยหรือไม่?” สุ่ยเทียนสื่อถามขึ้น ขณะสายตามองไปที่เสี่ยวกั๋วเอ่อที่อยู่ริมหน้าต่าง
“ไม่!” เสี่ยวกั๋วเอ่อตอบกลับเย็นชา
ถัดจากนั้น ฉินหยุนตามหญิงงามทั้งสาม ออกไปจากโรงเตี๊ยม มุ่งหน้าสู่ถนนเส้นหลักที่จอแจ
โดยเฉพาะกับสุ่ยเทียนสื่อ บุรุษหลายคนตามชายทาง ล้วนต้องหยุดจ้องมองความงดงามของนาง ตลอดทางที่เดินผ่าน ทำเอาเกิดความอึกทึกไม่น้อย
สื่อชิงเฉิงค่อนข้างทราบดีว่าสุ่ยเทียนสื่อเป็นเช่นไร ดังนั้นนางได้สงบเงียบปากคำเอาไว้
ทางด้านฉินหยุน เขารักษาระยะห่างจากสามหญิงสาวไว้
ไม่ช้า พวกเขาค่อยมาถึงลานกว้างตรงหน้าตำหนักจารึกเทวะ
ตรงนี้ มีไหขนาดใหญ่นับร้อยใบตั้งเรียงราย
ไหใหญ่เหล่านี้มีสีดำ และยังหนาอย่างยิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พลังใดในการตรวจสอบภายใน
ชั่วขณะที่ฉินหยุนมาถึง เขาทดสอบใช้พลังจิตสำรวจมัน พบว่าถูกสกัดกั้นเอาไว้ที่ภายนอกตัวไห
“เปล่าประโยชน์ กระทั่งราชันยุทธ์ก็ไม่อาจมองเห็นในไหใหญ่นั่นได้! ราชันยุทธ์สองคนขณะนี้ สูญเสียไปนับพันล้านเหรียญม่วงแล้ว!” สุ่ยเทียนสื่อรู้สึกไม่สบอารมณ์ยามได้เห็นฉินหยุนจ้องมองไหใหญ่จริงจัง
นั่นก็เพราะตอนฉินหยุนมองที่นาง หาได้มีความจริงจังเช่นนี้ไม่
นางแทบไม่อยากเชื่อ ว่าไหใบใหญ่เหล่านั้นจะน่าดึงดูดยิ่งกว่านาง
ฉินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ใช้งานเนตรวิญญาณสมบูรณ์ มองทะลุเข้าไปในไหใหญ่
การกระทำนี้ทำให้เขาแตกตื่น เดิมเขาเพียงคิดมาที่นี่เพื่อพบหงเมิ่งจู ไม่ได้ตั้งใจมาเล่นพนัน!
แต่แล้วขณะนี้ ด้วยการใช้เนตรวิญญาณมองเข้าไหใบใหญ่ เขากลับพบว่ามันสามารถมองทะลุปรุโปร่ง!
ตำหนักจารึกเทวะทำเรื่องไม่ดีต่อเขาเอาไว้ ขณะนี้ เขายังถือว่ามีข้อพิพาทกับตำหนักจารึกเทวะอยู่ ดังนั้นแล้ว…
นี่ถือเป็นโอกาสดีในการล้างแค้นสักเล็กน้อย!
ตั้งแต่ก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สาม การฝึกฝนเนตรวิญญาณเป็นไปได้ด้วยดี ขนาดที่เขาสามารถมองทะลุผ่านเห็นได้หลายสิ่ง
“ตอนนี้กำลังจะปล่อยหุ่นเชิดหกเข้าสู่ด้านในแล้ว ทุกท่านโปรดเตรียมเหรียญม่วงเอาไว้ให้ดี ต่อแถวเข้ามาแล้วซื้อหาเลขที่ต้องการ! สำหรับผู้ที่ต้องการลงมากกว่าหนึ่งล้านเหรียญม่วง ไม่จำเป็นต้องต่อแถว!” ชายหนุ่มคนหนึ่งหัวเราะดังขึ้นพลางประกาศ
“ราชันยุทธ์หงหยิง กับองค์หญิงราชาพนันอยู่ที่นี่แล้ว!” คนหนึ่งตะโกนขึ้น
“ทั้งสองก่อนหน้านี้เสียไปมาก กระนั้นขณะนี้ก็ยังมาอีกครั้ง!”
“วิเศษนัก! ราชันยุทธ์เย่ว์จากแคว้นยุทธ์เย่ว์เมื่อครู่นี้ เพิ่งสูญเสียไปนับร้อยล้านเหรียญม่วง!”
“ยังมีราชันยุทธ์เชี่ยวจากแคว้นยุทธ์เชี่ยว เขานั้นเสียไปเกือบหนึ่งร้อยล้านเช่นเดียวกัน!”
พอราชันยุทธ์หงหยิงมาถึง เขายิ้มพลางกล่าวคำ “สิบล้านเหรียญม่วง สำหรับข้าไม่นับเป็นอะไร สำหรับการเดิมพันนี้เป็นเรื่องดีต่อบุตรสาวข้า! หากนางคิดอยากเล่นต่อ ข้าก็ยินดีให้เหรียญม่วงแก่นางไปเล่น!”
“ข้าย่อมไม่เล่นแล้ว นี่มันหลอกลวงกันเกินไป!” หงเมิ่งจูแค่นเสียงกล่าวคำ “ข้าอยู่ที่นี่ มาดูว่าจะมีผู้ใดชนะพนันนี้บ้าง!”
ที่นี่ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าเล่นเพราะเดาสุ่ม แต่ก็มีไม่มาก บางคนเพียงลงเดิมพันแค่หนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นเหรียญม่วง ทางด้านหลักแสนเหรียญม่วง มีเพียงน้อยนิด
“นั่นไม่ใช่วิญญาณร้ายวารีกับสตรีปีศาจม่วงจากหุบเขาลึกล้ำจันทราหรือ? ย้อนกลับไปตอนนั้น นี่ถือเป็นโฉมงามหยดย้อยแห่งแดนยุทธ์อ้างว้าง ก่อฝนเลือดไปทั่วทุกหนแห่ง!”
“วิญญาณร้ายวารีเมื่อครู่นี้ สูญเสียไปหลายล้านเลยทีเดียว!”
“หญิงสาวทั้งสองคนนั้นน่าดูชมนัก!”
“จะมีโอกาสได้นางไหมนะ!”
“เลิกกล่าววาจาไร้สาระแล้ว! คิดยุ่งกับสตรีจากหุบเขาลึกล้ำจันทราไม่ใช่เรื่องเล่น ผู้อื่นที่เคยลองดีไม่เคยมีจุดจบที่ดีมาก่อน!”
“ได้ยินว่าหุบเขาลึกล้ำจันทราเชี่ยวชาญพิษ แต่เคล็ดวิชาพิษใดที่พวกนางเชี่ยวชาญกัน?”
“คิดมีตัณหาจะมีแต่นำความขื่นขมกลับคืนมา! อยู่ให้ห่างจากพวกนางถือเป็นเรื่องดี!”
ฉินหยุนได้ยินฝูงชนสนทนาเรื่องสุ่ยเทียนสื่อและสื่อชิงเฉิง เขาค่อยประทับใจในตัวคนทั้งสองที่ชื่อเสียงลือไกลเพียงนี้
เพียงไม่นาน ค่ายอาคมหยุดการทำงาน หลายคนเริ่มต่อแถว ทำการวางเงินเดิมพัน
หลังจากวางเดิมพัน จะได้รับตั๋วหยก โดยจะมีการสลักหมายเลขและเวลาที่ทำการซื้อเอาไว้ รวมถึงจำนวนเหรียญม่วงที่วางเดิมพัน
ฉินหยุนใช้เนตรวิญญาณสมบูรณ์ มองผ่านไหเหล่านั้น พบว่านกตัวดังกล่าวอยู่ในไหหมายเลขแปดสิบ
ดังนั้นเขาจึงต่อแถวเข้าร่วม
“สตรีปีศาจม่วง ข้าไม่คิดว่าลูกพี่ลูกน้องเจ้าจะลงเล่นด้วย!” สุ่ยเทียนสื่อกล่าวเสียงเบา
“เจ้าก็เล่นไม่ใช่หรือ? เขาก็แค่นึกสนุก!” สื่อชิงเฉิงตอบกลับ
“ข้าต้องการซื้อไหหมายเลขแปดสิบ เป็นเงินห้าแสนเหรียญม่วง!” ฉินหยุนนำบัตรผลึกออกมา ทำการวางเดิมพันทั้งสิ้นห้าแสนเหรียญม่วง
กระทั่งคนของตำหนักจารึกเทวะ ยังไม่ทราบว่าไหใบใดที่มีหุ่นเชิดนกอยู่
สื่อชิงเฉิงพอได้ยินเช่นนี้ นางเร่งรีบเดินเข้ามา “น้องชายบ้าไปแล้วหรือ? ใช้จ่ายเกินไปแล้ว!”
ฝูงชนขณะนี้สายตาจ้องมองสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อจากที่ไกลออกไปมาโดยตลอด อย่างไรแล้วทั้งสองก็เป็นโฉมงามที่ยอดเยี่ยม พวกเขากลับไม่คิด ที่ได้พบว่าสื่อชิงเฉิงแท้จริงมีลูกพี่ลูกน้องหน้าตาธรรมดาเช่นนี้
หลายคนขณะนี้กลายเป็นริษยาลูกพี่ลูกน้องของนาง ถึงขั้นได้ไปอยู่กลางดงหญิงงามจากหุบเขาลึกล้ำจันทรา!
ราชันยุทธ์หงหยิงและหงเมิ่งจูก็ประหลาดใจไม่น้อย พวกเขาเคยได้ยินชื่อเสียงสื่อชิงเฉิงมาก่อน ทว่าไม่ทราบว่านางจะนำพาลูกพี่ลูกน้องมาด้วยเช่นนี้
“น้องชายผู้นี้ฝันถึงนิมิตเมื่อคืน ว่าจะมาซื้อหมายเลขแปดสิบที่นี่ ดังนั้นย่อมเป็นเช่นนั้น! พี่สาวก็ซื้อเสียบ้าง ข้ามั่นใจว่าต้องชนะ!” ฉินหยุนยิ้มให้สื่อชิงเฉิงและกล่าว “ฝันของข้าถือว่าแม่นยำ ตั้งแต่ยังเด็ก ข้าฝันว่าได้ปลดปล่อยตัวเอง แล้วพอตื่นมาเตียงก็เปียกจริง!”
ได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ หลายคนถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออก!
ไม่มีผู้ใดคาดคิด ว่าลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิงจะกลายเป็นตัวโง่งมชั้นดีผู้หนึ่งเช่นนี้!