Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 443 ความลับตระกูลเชี่ยว
เสียงก่นด่าโกรธแค้นสารพัดชนิด ขณะนี้ปลิวว่อนทั่วทั้งลานกว้าง
โดยเฉพาะกับผู้ที่เดิมพันด้วยเหรียญม่วงทั้งหมดที่มีโดยพึ่งพาฉินหยุน พวกเขาสบถออกจนแทบจะตายตกเสียตรงนี้
ศิษย์รุ่นเยาว์หลายคน รวมถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำจากหลายสถาบันและสำนัก รวมทั้งหมดทั้งสิ้นวางเงินเดิมพันไปมากถึงหมื่นล้านเหรียญม่วง ขณะนี้สูญเสียกันถ้วนหน้า
สุ่ยเทียนสื่อผิดหวังเล็กน้อย กระนั้นใบหน้าก็ยังเปื้อนด้วยรอยยิ้ม “ย่อมไม่เป็นไร ถือว่าได้มากพอแล้ว!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่กล่าวอันใด นางจับจ้องมู่เฟิงและยิ้มให้ เกิดข้อสงสัยว่ามู่เฟิงและฉินหยุนลอบตกลงอะไรกันลับหลังอย่างแน่นอน
สื่อชิงเฉิงและหงเมิ่งจู ทั้งสองไม่พูดอันใดเช่นกัน พวกนางชนะมาหลายครั้งคราร่วมกับฉินหยุน ดังนั้นสูญเสียแค่นี้ไม่คู่ควรให้ต้องบ่นออก
สำหรับผู้อื่น เสียงบ่นดังขรมไม่ขาดสายแล้ว
กระทั่งว่าเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตราชันยุทธ์ พวกเขายังรู้สึกไม่สบายใจยามต้องเสียมากถึงสองร้อยล้านเหรียญม่วง
แน่นอนว่าราชันยุทธ์หงหยิงเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้กล่าวอันใดออกมา อย่างไรแล้วบุตรสาวของเขาก็ได้รับมามาก
“ไอ้สารเลวผู้นี้ ข้าคิดอยากสังหารมันตายเสียที่นี่!”
“สองครั้งติดกัน เหตุใดครั้งที่สามจึงไม่ เป็นมันคิดหลอกลวงพวกเราหรือ?”
“มันต้องตั้งใจทำแน่! สารเลวนัก มันคิดฟื้นฟูเลือดเนื้อให้ตำหนักจารึกเทวะอย่างเห็นได้ชัด ภายหน้ามันต้องได้รับผลประโยชน์อันใดแน่!”
“ชั่วช้า!”
ศิษย์รุ่นเยาว์จากกองกำลังมีชื่อเสียง ขณะนี้พวกเขาพบว่าพวกตนเพิ่งใช้เหรียญม่วงในมือกันจนหมดสิ้น!
เพราะเหตุนี้ผู้คนจึงก่นด่าฉินหยุน นี่ถือเป็นเรื่องโหดเหี้ยมต่อพวกเขาเกินไป!
ฉินหยุนไม่คิดอะไรมาก อย่างไรแล้วเขาก็แค่ลูกพี่ลูกน้องหน้าโง่ที่แวะมารับบทชั่วคราว
สำคัญกว่านั้น เขาได้รับเหรียญม่วงมากมายมหาศาล เพียงพอให้ใช้ได้อีกนาน
“พวกเราเดินทางคืนนี้กันเลยเป็นอย่างไร?” ราชันยุทธ์จากตระกูลสายเลือดกล่าวขึ้น
พวกเขาทราบว่าตระกูลสายเลือดมังกร ขณะนี้เข้าเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียนไปแล้ว พวกเขาย่อมต้องไม่คิดถูกทิ้งล้าหลัง
“คืนนี้ก็คืนนี้! ให้รวมตัวกันที่ด้านนอกประตูทิศเหนือ!”
ราชันยุทธ์หลายคนทำการตกลงกัน กระทั่งว่าอารมณ์ไม่ดี พวกเขาก็ยังคิดไปยังหลุมฝังเซียน!
“กลับกัน!” สื่อชิงเฉิงดึงฉินหยุนตามมา สุ่ยเทียนสื่อรับหน้าที่คุ้มกันฉินหยุนข้างกาย พวกนางเป็นกังวลว่าจะมีคนคิดทำร้ายเขา
“น้องชายรักษาตัวด้วย! เป็นเจ้านำพาผลประโยชน์ยิ่งใหญ่สู่ตำหนักจารึกเทวะของเรา ให้ข้าเชื้อเชิญเจ้าร่วมดื่มไวน์ขอบคุณสักครั้งหนึ่ง!” มู่เฟิงเร่งรีบตะโกนไล่หลังเมื่อเห็นว่าฉินหยุนกำลังจะจากไป
สุ่ยเทียนสื่อเร่งรีบตอบ “อาฉ่วย อย่าได้ไปแล้ว!”
ฉินหยุนตอบกลับด้วยรอยยิ้มโง่งม “หากผู้อื่นต้องการเลี้ยงอาหารและไวน์ เหตุใดข้าจึงไม่ไปเล่า?”
กล่าวคำจบ เขาจึงเดินไปหามู่เฟิงพร้อมยิ้มให้ “ต้องให้ข้าได้กินของดีนะ!”
“น้องชายถึงกับซื่อตรงเพียงนี้ เช่นนั้นไปกัน!” มู่เฟิงยิ้มพร้อมตบไหล่ฉินหยุน เขากล่าวคำออก “น้องชายมีความสามารถมองเห็นผ่านสิ่งของหรือ? สามารถมองผ่านเสื้อผ้าหญิงสาวได้หรือไม่?”
ได้ยินคำกล่าวมู่เฟิง สื่อชิงเฉิง สุ่ยเทียนสื่อ และหญิงสาวคนอื่นล้วนเผยสีหน้าแปลกประหลาด
“สุภาพสตรีมิตรสหายรบกวนกลับไปก่อนแล้ว! ข้าย่อมส่งน้องชายผู้นี้กลับไปอย่างปลอดภัยแน่นอน!” มู่เฟิงหัวเราะขณะมองทางเชี่ยวเย่ว์เหม่ย “ท่านหญิงหลงเย่ว์เหม่ยใช่หรือไม่? ในเมื่อท่านเดินทางมาจากตระกูลสายเลือดมังกร เช่นนั้นขอเรียนเชิญ ข้าย่อมคิดสอบถามท่านถึงเรื่องราวของตระกูลสายเลือดมังกรบ้างแล้ว”
“ย่อมได้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอบกลับเย็นเยือก
ถัดจากนั้น มู่เฟิงจึงจากไปพร้อมฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย
หงเมิ่งจูคาดเดา ว่าฉินหยุนเมื่อครู่นี้ต้องตกลงอะไรเป็นการลับกับมู่เฟิง เพราะเหตุนั้นเขาจึงตั้งใจแพ้
นางกลายเป็นยินดีอยู่ภายใน เพราะหมายความถึงฉินหยุนย่อมได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากความร่วมมือครั้งนี้
เป็นนางไม่ยินดีเช่นกันหากให้คนจากตระกูลสายเลือดเหล่านั้นมีกำลังอำนาจเพิ่ม พวกคนเหล่านั้นหยิ่งผยองไร้สิ้นสุด หากสามารถสร้างผลกำไรให้คนกลุ่มคน ภายในใจนางกลายเป็นไม่ยินดี
มู่เฟิงพาฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไปยังห้องประชุมลับในตำหนักจารึกเทวะ
“พวกเจ้าทั้งสองหยุดแสดงแล้วนั่งลงกันก่อน!” มู่เฟิงยิ้มพลางเชื้อเชิญ
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพอนั่งลงแล้ว จึงไขว้ขาพร้อมยิ้มกว้างกล่าวคำ “พวกท่านช่างทำเรื่องสกปรกต่อหน้าต่อตาคนหมู่มากได้เพียงนี้!”
“ไม่นับเป็นอะไร พวกเราก็แค่สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน!” มู่เฟิงหัวเราะดัง
ฉินหยุนหยิกที่ใบหน้าเชี่ยวเย่ว์เหม่ย “เจ้าเล่า เป็นเจ้าอ้างตัวเป็นคนของตระกูลสายเลือดมังกร กระทั่งข้ายังเกือบเชื่อ!”
มู่เฟิงกล่าวตอบ “ฉินหยุน นางหาได้โกหกไม่! ตระกูลเชี่ยวที่ภูมิภาคชายแดนแห่งนั้น เดิมครอบครองสายเลือดมังกรสืบทอดมา สายเลือดมังกรในร่างของเสี่ยวเย่ว์เหม่ย สมควรตื่นขึ้นมาจริง!”
ฉินหยุนขณะนี้จับจ้องเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ถึงขั้นพูดอะไรไม่ออก
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแลบลิ้นออก “ท่านลุงอ้วนกลมทราบเรื่องราวมากเพียงนี้? อย่างนั้นแล้วไม่คิดกัดกินข้าหรือ?”
มู่เฟิงหัวเราะดัง “หากข้าคิดอยากกินเจ้า อย่างนั้นเจ้าคงไม่เหลือแม้กระดูกแล้ว!”
ฉินหยุนขณะนี้ นึกถึงข้อสงสัยของเชี่ยวเสวียนฉินต่อตระกูลเชี่ยว
ตอนนี้เป็นการยืนยัน ว่าข้อสงสัยนี้เป็นจริง ตระกูลเชี่ยวครอบครองและสืบทอดสายเลือดที่พิเศษ
“ผู้อาวุโส นี่ท่านมอบให้กับพี่ชายข้าเท่าใดกัน?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยถามขึ้น
“เจ็ดพันล้าน!” มู่เฟิงยิ้มขณะนำเอาบัตรผลึกม่วงออกมา เขาเดินไปยังฉินหยุนพร้อมยิ้มให้ “ได้ร่วมมือครั้งนี้เป็นข้ายินดีแล้ว!”
ฉินหยุนยิ้มตอบ “กล่าวตามตรง ข้าก็ไม่คิดอยากให้คนพวกนั้นชนะ!”
ฉินหยุนขณะนี้ มีทั้งสิ้นแปดพันล้านเหรียญม่วงในบัตรผลึก!
มู่เฟิงหัวเราะ “เจ้าช่างน่าทึ่งยิ่งนัก ถึงขั้นมีพลังแห่งการทำนาย!”
ฉินหยุนเพียงยิ้มรับ ไม่กล่าวตอบอันใด วิธีการเอาชนะของเขา ย่อมไม่อาจอธิบายรายละเอียดออกไปได้ นี่ก็เพื่อไม่ให้ตำหนักจารึกเทวะทำการป้องกันในภายหน้า
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียง “ผู้อาวุโสอ้วนกลม เหตุใดตำหนักจารึกเทวะของท่านไม่คุ้มครองพี่ชายของข้าอีก? กระทั่งเพิกถอนคุณสมบัติอาจารย์จารึก! นี่โหดร้ายไปหรือไม่!”
มู่เฟิงตอบคำ “ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง เสนอมรดกเลือดบริสุทธิ์แก่เบื้องบนของตำหนัก ทางด้านตำหนักโทเทม พวกเขามอบอักขระโทเทมจำนวนหนึ่งให้ เพราะเหตุนั้นตำหนักจารึกเทวะจึงตัดสินใจไม่ให้การคุ้มครองฉินหยุนอีกต่อไป!”
“นอกจากนี้ ฉินหยุนยังไม่ได้เข้าสู่สวนโบราณ กลับกัน เขาไปยังสวนโบราณแห่งอื่น เขากลายเป็นบุคคลที่สูญหาย ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เบื้องบนของตำหนักจารึกเทวะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์!”
ฉินหยุนเอ่ยถาม “ผู้จัดการ ในสวนโบราณเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
มู่เฟิงกล่าวตอบ “ข้าบอกได้เพียงว่า สวนโบราณนั้นอนุญาตแต่ผู้ที่ครอบครองอักขระชีวิตสามตัวหรือน้อยกว่าให้เข้าไป มีบางสิ่งสำคัญซุกซ่อนด้านในนั้น เมื่อเข้าไปแล้ว จะมีคนไปรับตัวเจ้า จัดแจงให้เจ้าค้นหาสมบัติดังกล่าว!”
ฉินหยุนมั่นใจ ว่าสมบัตินั่นต้องเป็นวิญญาณดวงตะวัน!
มู่เฟิงเอ่ยถาม “ฉินหยุน เจ้าคิดไปยังเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียนด้วยหรือ?”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “แน่นอน! ข้าต้องการยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียน กับแผนที่หลุมฝังเซียน!”
“เรื่องนี้กล่าวขานกันมากมายนัก ข้าไม่มั่นใจโดยจำเพาะเจาะจงนัก แต่ก็ยังคิดเข้าไปอยู่ดี!” มู่เฟิงกล่าว “แผนที่หลุมฝังเซียนที่อยู่ในกายเชี่ยวเย่ว์หลานถือเป็นส่วนสำคัญยิ่ง กล่าวได้ว่าตราบเท่าที่ถอดรหัสแผนที่หลุมฝังเซียนได้ เจ้าจะสามารถเข้าสู่หลุมฝังเซียนที่แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างง่ายดาย!”
“ผู้อาวุโส อย่าได้คิดอะไรกับพี่สาวข้า!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยเสียงเป็นกังวล
“อย่าได้กังวล! ข้าไม่ได้เหี้ยมโหดดังเช่นตาเฒ่าในตำหนักจารึกเทวะ!” มู่เฟิงยิ้ม “ข้ามีแต่นับถือรุ่นเยาว์เช่นพวกเจ้า!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอบกลับ “ข้าเดิมวางแผนเข้าร่วมเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียน แต่ความรู้สึกบ่งบอก ว่าที่นั่นไม่มีอันใดดี ดังนั้นขณะนี้จึงรู้สึกเกียจคร้านจะเข้าไป!”
“เจ้าหลอกลวงคนพวกนั้นไปแล้ว บอกว่าตระกูลสายเลือดมังกรเข้าไปด้านในนั้นแล้ว!” ฉินหยุนยิ้ม
“ผู้ใดบอกให้คนพวกนั้นโง่งมกัน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะเบา “พวกหน้าโง่เหล่านั้น พวกมันย่อมต้องตายภายในกันทั้งสิ้น! พี่ชายอย่าได้เข้าไปแล้ว ภายในย่อมอันตรายอย่างยิ่ง!”
ฉินหยุนส่ายศีรษะ “ไม่ ข้าต้องเข้าไปรับชมกับตาตนเอง!”
“อย่างนั้นต้องระวังตัวให้มาก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยลุกขึ้นยืน ก้าวเดินไปที่ประตูและหันกลับมากล่าว “ข้าขอตัวก่อนแล้ว คิดอยากไปเดินเล่นรับชมเรื่องราว!”
“เย่ว์เหม่ย ไม่ต้องการเหรียญม่วงหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ย่อมไม่ ข้ามีหลายร้อยล้านอยู่กับตัวแล้ว เท่านี้ถือว่ามากพอ!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยิ้ม เปิดประตูและเดินจากไป
ฉินหยุนขณะนี้ไม่กังวลเรื่องความไหลลื่นของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย เป็นนางพึ่งพาตนเองใช้ชีวิตได้ และยังปลุกสายเลือดมังกรที่แกร่งกล้าและลึกลับนั้นขึ้นมาได้อีก
“ฉินหยุน เจ้ามีสายเลือดราชสีห์สวรรค์ใช่หรือไม่?” มู่เฟิงเอ่ยถาม
ฉินหยุนพยักหน้ารับ จ้าวฉวนทราบเรื่องเขาครอบครองสายเลือดราชสีห์สวรรค์แต่แรกแล้ว
“ทางที่ดีอย่าได้เปิดเผยตัวเอง ไม่อย่างนั้น ตระกูลสายเลือดของสามแดนอ้างว้าง ย่อมร่วมมือกับตำหนักโทเทมจับตัวเจ้ายิ่งกว่านี้!”
“ถึงตอนนั้น เป็นไปได้ว่ากระทั่งตำหนักจารึกเทวะก็อาจเคลื่อนไหว ค่ายอาคมใหญ่ของประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของเจ้าย่อมไม่อาจต้านรับได้ไหว!” มู่เฟิงเผยสีหน้าเคร่งเครียด
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “ข้าเข้าใจดี ขอบคุณผู้จัดการที่กล่าวย้ำเตือน”
“ไม่นับเป็นไร!” มู่เฟิงยิ้มและส่ายศีรษะ
เขาค่อนข้างมองฉินหยุนในแง่ดี ผู้อื่นอาจไม่ทราบแต่เขาทราบว่ากระบี่ของหงเมิ่งจูได้เขาซ่อมแซมให้
แม้เขาไม่ถามออกไป ก็มั่นใจว่าฉินหยุนคือผู้ซ่อมแซมกระบี่จันทร์ลี้ลับ นี่ถือเป็นความสามารถระดับท้าทายสวรรค์ประการหนึ่ง
“ฉินหยุน กลุ่มคนที่ช่วยกันสร้างหลุมฝังเซียนเมื่อกาลก่อน ทางด้านลูกหลานของกลุ่มคนเหล่านั้น พวกเขาคือผู้หล่อเลี้ยงภูมิภาคชายแดน ดังนั้นแล้วที่ภูมิภาคแห่งนั้นจึงมีเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดเกิดขึ้นมากมาย! พรสวรรค์พวกเขาถือว่าไม่แย่ เหตุผลเดียวที่ก้าวหน้าเชื่องช้า ก็เพราะขาดแคลนทรัพยากรเท่านั้น!”
คำกล่าวของมู่เฟิง ทำเอาฉินหยุนตระหนักได้อีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าชายแดนแห่งนั้นมีความลับซุกซ่อนเอาไว้มาก!” เป็นอีกครั้งที่เขานึกถึงสุสานราชวงศ์เทียนเชี่ยว ที่แห่งนั้นก็ถือว่าลึกลับอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง
มู่เฟิงกล่าวต่อ “เอาละ ให้ข้าส่งเจ้ากลับโรงเตี๊ยมแล้วกัน! กระทั่งว่าพวกนางเป็นสตรี หุบเขาลึกล้ำจันทราก็ลึกลับอย่างยิ่งเช่นกัน แม้ว่ามีการติดต่อกับสำนักระดับราชันบ้าง ทว่าพวกนางหาได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใดไม่ กลับกัน เป็นข้าได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยจากพวกนางด้วยซ้ำ!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ ก่อนติดตามมู่เฟิงออกจากตำหนักจารึกเทวะ ขณะนี้พวกเขาโดยสารรถลาก เดินทางกลับโรงเตี๊ยมหรูหราแห่งเดิม
เมื่อกลับมาแล้ว ฉินหยุนเข้าพักผ่อนในห้อง
การใช้เนตรวิญญาณสมบูรณ์และความสามารถเทวะทะลุทะลวง เป็นการใช้พลังงานของเขาไปมหาศาล และค่ำคืนนี้ยังต้องออกเดินทาง เขาต้องพักผ่อนให้มากเท่าที่จะทำได้
กลางดึก ฉินหยุน สื่อชิงเฉิง และสุ่ยเทียนสื่อ ขณะนี้นั่งโดยสารรถลากสีทองม่วง มันเป็นคันเดิมที่ฉินหยุนและสื่อชิงเฉิงเคยโดยสารมาก่อน
แม่เฒ่าตู้ขณะนี้อยู่รถลากอีกคันหนึ่ง พร้อมกับกลุ่มผู้อาวุโส
ขบวนอันยิ่งใหญ่ ขณะนี้มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเมฆมังกร การป้องกันขบวนรถลากนี้ถือว่าแกร่งกล้า
บางคนบินในอากาศ รับหน้าที่ยืนยันเส้นทางไม่ให้กองกำลังหลักนี้แตกแถว
เสี่ยวเตียนซิงมองทางฉินหยุน ใบหน้างดงามขณะนี้เผยความอ่อนโยนขณะเอ่ยถาม “อาฉ่วย เจ้ามีพลังมองเห็นอนาคตหรือ?”
ฉินหยุนยิ้มตอบ “ย่อมไม่ ข้าเพียงหลอกลวงผู้คนเล่น!”
เสี่ยวเตียนซิงบุ้ยปากกล่าวเสียงเบาตอบ “โกหก ข้าย่อมไม่เชื่อ!”
ฉินหยุนเพียงยิ้ม หาได้ตอบกลับคำใด
ชั่วขณะนี้ พื้นดินพลันสั่นสะเทือน เสียงมังกรคำรามดังขึ้นที่ภายนอก!
“มังกรตัวนั้นอีกแล้ว!” สื่อชิงเฉิงร้องออกด้วยอาการตื่นตระหนก