Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 446
โทเทมวานรทองคำ
สุ่ยเทียนสื่อและแม่เฒ่าเติ้งล้วนอึ้ง พวกนางเพียงคิดว่าฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึก ไม่ทราบว่าเขาจะถึงกับเป็นผู้ขัดเกลาวิญญาณด้วย!
ครั้งสื่อชิงเฉิงอยู่ภูมิภาคชายแดน นางได้ทราบว่าฉินหยุนสามารถแยกวิญญาณยุทธ์ได้
“วิญญาณยุทธ์เหยี่ยวสายฟ้าทองม่วงหรือ? ธรรมดาเกินไปแล้ว! แต่สายเลือดเหยี่ยวสายฟ้านี้ถือว่าไม่เลว!” ฉินหยุนนำเอาไข่มุกสูบโลหิตออกมา จากนั้นวางมันลงที่แผลของชายร่างใหญ่ ทำการดูดกลืนสายเลือดเหยี่ยวสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง
สื่อชิงเฉิงและผู้อื่นขณะนี้หวาดกลัวจับจิตยามได้เห็นภาพที่เกิดขึ้น
นี่ก็เพราะการกระทำอย่างดูดกลืนสายเลือด ถือเป็นสิ่งที่ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูงมองเป็นอาชญากรรม!
ฉินหยุนครอบครองโทเทมราชสีห์สวรรค์ เขาตกเป็นเป้าหมายตระกูลสายเลือดชนชั้นสูงมานานแล้ว ดังนั้นเพียงแค่นี้ย่อมไม่ทำให้หวาดกลัวอันใดเพิ่มเติม
ขณะนี้ฝีเท้าก้าวเดินออกไปยังผู้ฝึกตนสายเลือดอีกคนหนึ่ง ทำการนำวิญญาณยุทธ์ออกอย่างรวดเร็ว เป็นวิญญาณยุทธ์วานรทองม่วง
“เจ้าหมอนี่ครอบครองสายเลือดอะไรกัน?” ฉินหยุนหันกลับมาถามอย่างมีมารยาท
“เป็นสายเลือดวานรทองคำ!” สุ่ยเทียนสื่อตอบกลับ นางก่อนหน้านี้ทราบว่าลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิงเป็นคนลึกลับ ชัดเจนว่าไม่ใช่คนธรรมดา กระนั้นพอได้ทราบความจริง มันยิ่งทำนางตื่นตะลึงยิ่งกว่าที่คาดคิดไว้
“ฉินหยุน เจ้าคิดอยากเป็นศัตรูกับตระกูลสายเลือดทั้งโลกหรืออย่างไร?” ผู้ฝึกตนสายเลือดตะโกนถามอย่างโกรธแค้น
“พวกเจ้าต่างหากที่มองข้าเป็นศัตรูก่อน!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง นำเอาไข่มุกสูบโลหิตออกมา วางที่บาดแผลของผู้ฝึกตนสายเลือดตรงหน้า
ขณะนี้เขาก้าวเดินไปยังผู้ฝึกตนสายเลือดคนสุดท้าย รอยยิ้มชั่วร้ายเผยออก “พี่สาววิญญาณร้ายวารี ชายคนนี้เล่าครอบครองสายเลือดอันใด?”
“สายเลือดพยัคฆ์อัคคี วิญญาณยุทธ์ก็เป็นพยัคฆ์อัคคีทองม่วงเช่นกัน!” สุ่ยเทียนสื่อกลืนน้ำลาย เพราะฉินหยุนขณะนี้ทำการแยกวิญญาณยุทธ์อีกครั้งหนึ่งแล้ว
ไม่ช้า ผู้ฝึกตนสายเลือดอีกคนต้องร้องออกด้วยความเจ็บปวดเกินบรรยาย
เรื่องนี้ทำเอาสื่อชิงเฉิงและคณะค่อยรู้สึกสาแก่ใจขึ้นมาบ้าง
ชั่วขณะนี้เอง โมโมกล่าวขึ้น “พี่หยุน มีหนึ่งในคนเหล่านี้ครอบครองโทเทม น่าจะเป็นคนที่มีสายเลือดวานรทองคำคนนั้น!”
ฉินหยุนพอได้ยินดังนี้ เขาเร่งรีบก้าวเดินเข้าไป ฉีกกระชากเสื้ออีกฝ่ายออก เผยซึ่งรอยสักโทเทมที่แผ่นหลัง
“ฮ่าฮ่าฮ่า อยากได้โทเทมราชสีห์สวรรค์ของข้าหรือ แต่ไฉนกลายเป็นข้าได้โทเทมจากพวกเจ้ากันนะ!” คำพอกล่าวจบ เขานำเอาแก่นเต๋าออกจากผู้ฝึกตนสายเลือด จากนั้นค่อยระเบิดร่างอีกฝ่ายจนตายตก
ผู้ฝึกตนสายเลือดพอสิ้นชีวิต โทเทมในร่างกายย่อมเคลื่อนคล้อยสู่ร่างกายของฉินหยุน เป็นเขาได้ครอบครองมันต่อ!
เมื่อผู้ฝึกตนที่ครอบครองโทเทมถูกสังหาร ผู้ที่มีชัยย่อมได้รับโทเทมมาครอง!
รอยสักโทเทมที่มีต้นกำเนิดจากตำหนักโทเทม ไม่อาจได้รับด้วยวิธีการนี้
ฉินหยุนมองไข่มุกในมือ เป็นไข่มุกสูบโลหิต ไข่มุกผนึกวิญญาณ และแก่นเต๋าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ พวกมันเหล่านี้ เป็นสิ่งที่กระทั่งเหรียญม่วงมหาศาลล้นพ้นก็ไม่อาจซื้อหา
เขามาถึงด้านข้างรถลาก ที่ซึ่งหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรกักขังเซี่ยงสื่อเฉวียนเอาไว้
ฉินหยุนเดินเข้าหาสื่อชิงเฉิง สัมผัสที่ใบหน้าอีกฝ่าย สีหน้าเจ็บปวดเผยขณะกล่าวออก “พี่สาวซาลาเปานึ่ง ใบหน้าท่านยังเจ็บอยู่หรือไม่?”
“ย่อมไม่เจ็บแล้ว!” สื่อชิงเฉิงทราบ ว่าฉินหยุนชื่นชอบลูบไล้หยิกใบหน้าของนางเป็นที่สุด เมื่อครู่นางกระทั่งคิด ว่าใบหน้าอาจเสียโฉมไปตลอดกาลแล้วด้วยซ้ำ
แต่ด้วยเพราะฉินหยุนมาทันเวลา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางเกิดผลลัพธ์เช่นตอนนี้
สื่อชิงเฉิงนึกย้อนขึ้นได้ ว่านางช่วยเหลือฉินหยุนหลอมหลายสิ่งอย่างที่ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ ถังใหญ่ใบนั้นก็รวมอยู่ด้วย ขณะนี้นางค่อยเข้าใจ ว่าฉินหยุนตระเตรียมรับเรื่องราวไม่คาดฝันเอาไว้ตั้งแต่แรก
สุ่ยเทียนสื่อยิ้มขื่นขมยามได้เห็นฉินหยุนห่วงหาใบหน้าของสื่อชิงเฉิง
ฉินหยุนขณะนี้กลับมาถึงตรงหน้าหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร ใส่กระแสพลังจิตรุนแรงเข้าไปจำนวนหนึ่ง ทำการกระทุ้งศีรษะของเซี่ยงสื่อเฉวียนจนอีกฝ่ายกรีดร้องอย่างเจ็บปวดรวดร้าว
“สารเลวที่ต่ำช้า!” ฉินหยุนนำร่างเซี่ยงสื่อเฉวียนออกมา กำหมัดที่กราดเกรี้ยวยกขึ้น ต่อยเข้าที่เซี่ยงสื่อเฉวียนอย่างรุนแรง
เซี่ยงสื่อเฉวียนร้องตะโกน “ฉินหยุน เจ้ากล้าโจมตีข้าหรือ! เจ้าต้องตายอย่างอนาถ!”
“ผู้ที่ตายคือเจ้า!” ฉินหยุนคว้าร่างเซี่ยงสื่อเฉวียนขึ้นมา ทำให้อีกฝ่ายได้เห็นร่างศพของพรรคพวกตนเอง
ได้เห็นดังนี้ เซี่ยงสื่อเฉวียนกลายเป็นหวาดกลัว ถึงขั้นร่ำร้องอ้อนวอน “อย่าได้สังหารข้า ข้าทราบความผิดแล้ว! ข้ามันเดรัจฉาน ต่อให้สังหารข้าไป ก็มีแต่จะเปื้อนมือโดยเปล่า!”
คำพอกล่าวจบ เสียงร้องเจ็บปวดดังแทนที่ วิญญาณยุทธ์ของเขาถูกฉินหยุนนำออกมาในพริบตา
ถัดจากนั้น ฉินหยุนใช้ไข่มุกสูบโลหิต ดูดกลืนสายเลือดอีกฝ่าย
“ตอนพวกเราเข้ามายังเทือกเขาเมฆมังกร พบเจออันตรายหลายอย่างเกิดขึ้น สมควรต้องร่วมมือกันฟันฝ่า แต่พวกเจ้าเดรัจฉานนัก! กลับใช้โอกาสนี้โจมตีพวกเรา หากเจ้าไม่รนหาที่ตายจะอยู่ไม่เป็นสุขหรืออย่างไร?”
ฉินหยุนโยนร่างเซี่ยงสื่อเฉวียนที่โดนดูดจนแห้งลงกับพื้นรุนแรง จากนั้นค่อยนำเอาแก่นเต๋าอีกฝ่ายออกมา
เซี่ยงสื่อเฉวียนเสียใจจนตายตก กระนั้นตอนนี้สายเกินไปแล้ว ก่อนที่เขาจะตาย สิ่งที่ต้องพบเจอคือความหวาดกลัวต่อความโหดร้ายที่ถูกทารุณ!
แม่เฒ่าเติ้งออกจากถังหยก กล่าวขอบคุณต่อฉินหยุน นางให้สัญญาว่าจะไม่เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้
หากเรื่องราวไม่รั่วไหว ฉินหยุนย่อมยินดี อย่างไรแล้ว เขาก็เป็นที่ต้องการตัวของทั้งตระกูลสายเลือดชนชั้นสูงและตำหนักโทเทม
หลังจากเสี่ยวกั๋วเอ่อรักษาเสร็จสิ้น นางเข้ามากล่าวขอบคุณต่อฉินหยุน นับว่าเป็นเรื่องหาได้ยากนักที่ภูเขาน้ำแข็งเช่นนางจะกล่าวคำออก
กระนั้นในชั่วเวลานี้ น้ำเสียงของนางหวานหยด ดวงตานี้เปี่ยมด้วยความตื้นตัน
แม่เฒ่าเติ้งเร่งรีบกล่าว “ที่นี่อันตรายเกินไป ข้าจะพาเสี่ยวกั๋วเอ่อและเสี่ยวเตียนซิงกลับไปก่อน! พวกเจ้าจะกลับไปด้วยกันเลยหรือไม่?”
ฉินหยุนส่ายศีรษะตอบคำ “ย่อมไม่! ข้าคิดอยากไปดูเขตแดนอ้างว้างฝังเซียนกับตา พวกท่านคิดกลับก็กลับก่อนได้เลย!”
“เจ้าหนู ให้ข้าร่วมทางไปด้วยแล้ว พวกเราจะไปสมทบกับท่านยายตู้ ด้วยนางร่วมทาง พวกเราจะได้ปลอดภัย!” สื่อชิงเฉิงกล่าวขึ้น
“ให้ข้าไปด้วย!” สุ่ยเทียนสื่อโพล่งเสียงดังขึ้นมา “ท่านยายเติ้ง รบกวนท่านพาพวกนางสองคนกลับบ้านก่อนแล้ว!”
แม่เฒ่าเติ้งมองทางฉินหยุน ทราบว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ด้วยเขาอยู่ที่นี่ พวกนางจะต้องปลอดภัย
“ตามนั้น รักษาตัวด้วย!” แม่เฒ่าเติ้งกล่าวตอบ
“พี่สาว ท่านต้องดูแลนายน้อยฉินด้วย เขาคือผู้มีพระคุณของพวกเรา!” เสี่ยวเตียนซิงมองทางฉินหยุนด้วยความนับถือ น้ำเสียงเบากล่าวออก “นายน้อยฉิน ให้ข้าได้เห็นรูปลักษณ์แท้จริงของท่านได้หรือไม่?”
ฉินหยุนยิ้มตอบ “ย่อมต้องได้!”
เขาถอดหน้ากากออก เผยซึ่งใบหน้าหล่อเหลาจนแทบไร้ที่ติ ด้วยรอยยิ้มประดับใบหน้าขณะนี้ ยิ่งทำให้อีกฝ่ายชวนลุ่มหลงได้
“ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าอัปลักษณ์ ถือว่าหลอกลวงต่อข้า!” เสี่ยวเตียนซิงยิ้มกว้างตอบคำ
ดวงตาชวนลุ่มหลงของสุ่ยเทียนสื่อ ขณะนี้มองที่ใบหน้าหล่อเหลาของฉินหยุน ราวกับนางได้เห็นอาหารอันโอชะ
เสี่ยวเตียนซิงและเสี่ยวกั๋วเอ่อ ทั้งสองบอกลาต่อฉินหยุนและคณะ ก่อนจากไปพร้อมแม่เฒ่าเติ้ง
สื่อชิงเฉิงพูดขึ้น “อย่างนั้นพวกเราก็รีบไปกันดีกว่า!”
“รอเดี๋ยว!” ฉินหยุนนำเอายันต์อัคคีออกมาจำนวนหนึ่ง เผาไหม้สถานที่แห่งนี้เป็นเถ้าถ่าน
จากนั้นค่อยใช้พลังแผ่นดินไหว ทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง พื้นดินเกิดการยุบตัวรวดเร็ว เพียงพริบตา ทั้งบริเวณนี้ก็ถล่มลงสู่เบื้องล่างจนหมดสิ้น
สื่อชิงเฉิงนำรถลากออกมา “เร็วเข้า ไปพบท่านยายตู้กัน สงสัยนักว่าทางด้านนั้นขณะนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว!”
การต่อสู้ระหว่างราชันยุทธ์และมังกรขณะนี้คล้ายเบาเสียงลง
ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพแกร่งกล้าหลายตัว ขณะนี้ไล่ล่ากลุ่มผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ทำเอากลุ่มใหญ่ต้องกระจายตัวออก
ฉินหยุนนั่งด้านในรถลาก เผยรอยยิ้มกล่าวคำออก “พอมาคิดว่าพวกท่านอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ แต่ท้ายที่สุดกลับต้องให้ข้ามาช่วยเหลือ! พี่สาวซาลาเปานึ่ง เป็นข้าช่วยเหลือท่านเอาไว้หลายครั้งแล้วนะ!”
สุ่ยเทียนสื่อยิ้มหวาน “พี่สาวซาลาเปานึ่ง เหตุใดเจ้าไม่ตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยชั่วชีวิตที่เหลือเสียเลยเล่า?”
“วิญญาณร้ายวารี เจ้าอย่าได้ทำให้เรื่องราวยุ่งเหยิง!” สื่อชิงเฉิงเผยน้ำเสียงตอบโต้ทันควัน
สุ่ยเทียนสื่อเข้าถึงข้างกายสื่อชิงเฉิง รอยยิ้มเผยออกพร้อมกล่าว “ข้าไม่คิดเลย ว่าหญิงงามอันดับหนึ่งของแดนเหนือจะถูกเรียกหาเป็นพี่สาวซาลาเปานึ่ง ก่อนหน้านี้ข้าบอกแล้วว่าเจ้าอ้วนขึ้น เป็นเจ้าไม่ยอมรับ!”
กล่าวคำจบ นางจึงหยิกที่ใบหน้าสื่อชิงเฉิง เผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ปรากฏผ่านใบหน้า
สื่อชิงเฉิงผลักนางออก สายตาจับจ้องไม่วาง “วิญญาณร้ายวารี เจ้าอย่าได้เปิดเผยเรื่องของฉินหยุนในวันนี้เป็นอันขาด!”
สุ่ยเทียนสื่อมาถึงข้างกายฉินหยุน เอนศีรษะพิงที่หัวไหล่อีกฝ่าย รอยยิ้มเย้ายวนของนางเผยออกขณะกล่าวคำ “อย่าได้กังวลแล้ว ข้าย่อมไม่เปิดเผยเรื่องนี้! ผู้มีพระคุณตัวน้อยของพวกเรา ให้ข้าตอบแทนอย่างไรดี? สนใจเป็นร่างกายของข้าหรือไม่?”
นางพอกล่าวคำ เสื้อก็เริ่มลื่นหลุด เผยซึ่งไหล่ขาวนวลดั่งหิมะ เป็นนางเย้ายวนถึงขีดสุดแล้ว
ฉินหยุนคว้ามือนุ่มของสุ่ยเทียนสื่อเอาไว้พร้อมยิ้มกล่าว “พี่สาววิญญาณร้ายวารี ท่านต้องการตอบแทนข้าด้วยร่างกายหรือ? เป็นหญิงสาวของข้าหรือ?”
“ย่อมใช่!” สุ่ยเทียนสื่อจูบที่แก้มฉินหยุนพร้อมยิ้มชวนลุ่มหลง “เป็นข้าจริงจัง!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “อย่างนั้นก็ตกลง นับแต่นี้ท่านเป็นผู้หญิงของข้า!”
สุ่ยเทียนสื่อประหลาดใจไปวูบ ใบหน้ากลายเป็นแดงก่ำ เผยสีหน้าเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก สายตาขณะนี้จับจ้องไปที่สื่อชิงเฉิงเอ่ยคำเสียงนุ่ม “เจ้าหนูน้อย เป็นข้ารักเจ้าจนแทบตายแล้ว! เช่นนั้นเริ่มเมื่อใดดี?”
สื่อชิงเฉิงหันกลับมากล่าวคำด้วยความริษยาไม่น้อย “วิญญาณร้ายวารี เจ้าอย่าได้เล่นกับความรู้สึกของเด็กแล้ว!”
“อย่าได้มองว่าข้าหว่านโปรยเสน่ห์ไปทั่ว ข้าอย่างไรแล้วก็มีอารมณ์เช่นคนธรรมดา! ฉินหยุนถือเป็นคนแรกในชีวิตข้าแล้ว!” สุ่ยเทียนสื่อมองที่ฉินหยุน ดวงตาเว้าวอนของนางขณะนี้ แทบสามารถพรากเอาวิญญาณจากร่างผู้คนได้
ฉินหยุนยิ้มกว้าง “พี่สาวอย่าได้เข้าใจผิดไป! ข้าเพียงขอให้ท่านเป็นผู้หญิงของข้า ติดตามข้า ช่วยเหลือข้าในวิถีจารึก! แน่นอนว่าท่านยังคงเป็นศิษย์ของหุบเขาลึกล้ำจันทรา แต่ภายหน้าเพียงมาพักอาศัยที่ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์เพียงเท่านั้น!”
“นี่เจ้า! เจ้าหนูน้อย เจ้าช่างไม่รู้วิธีสานสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเอาเสียเลย!” สุ่ยเทียนสื่อกล่าวด้วยสีหน้าเสียดาย จากนั้นค่อยกัดไหล่ฉินหยุนเบา ๆ ไปคราหนึ่ง
“วิญญาณร้ายวารี เป็นเขามีภรรยาแล้ว เจ้าอย่าได้ไปยุ่งกับบ้านคนอื่น!”
“ว่าอะไร? มีภรรยาแล้ว? ใครกัน? หงเมิ่งจูหรือ?” สุ่ยเทียนสื่อเร่งรีบเอ่ยถาม
“ย่อมไม่ใช่! ภายหน้าเจ้าจะได้ทราบเอง!” สื่อชิงเฉิงกล่าวตอบ
สุ่ยเทียนสื่อเผยเสียงเบา “น้องหยุน อย่างไรแล้วข้าหาได้ใส่ใจนัก… เพียงได้อยู่กับเจ้าก็พอ!”
“อย่าได้กังวลไป ภายหน้าท่านย่อมได้อยู่กับข้าแน่! ทั้งการขัดเกลายันต์และติดตั้งค่ายอาคม ล้วนต้องการท่านที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณช่วยเหลือ มันจะทำให้ข้าสะดวกสบายขึ้นมากมายนัก!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง “ท่านบอกว่าจะตอบแทนข้าด้วยร่างกาย อย่างนั้นแล้วแรงกายของท่านคือของข้า!”
“ก็ได้!” สุ่ยเทียนสื่อเผยน้ำเสียงเสียดาย “นับจากนี้ให้ข้าติดตามเจ้า จะเป็นคนรับใช้เช่นนั้นไปจนชั่วชีวิตเลยก็แล้วกัน!”
สื่อชิงเฉิงขณะกำลังคิดกล่าวคำออก นางพลันสัมผัสได้ถึงออร่าสะกดข่มลงมา จึงเร่งรีบควบคุมรถลากบินได้หลบเลี่ยง
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังสนั่น อะไรบางอย่างเมื่อครู่ร่วงหล่นที่พื้นดินเบื้องล่าง!
“เป็นมังกร! มังกรนั่นร่วงโรยแล้ว!” สื่อชิงเฉิงเร่งรีบตะโกน
ฉินหยุนเร่งรีบออกจากรถลาก พบเห็นร่างมังกรนอนอยู่เบื้องล่าง
อย่างรวดเร็ว เขานำเอาหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรออกมา พร้อมกระโจนลงสู่พื้นเบื้องล่าง จับตัวมังกรเอาไว้ภายในหม้อ
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อเพียงเพิ่งออกมา พอได้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งความยินดีและตื่นตะลึงดำเนินไปพร้อมกัน นี่ก็เพราะฉินหยุนได้รับมังกรตัวนั้นอย่างง่ายดายในพริบตาต่อหน้าพวกนาง!
“พี่สาวทั้งสอง เร่งรีบเก็บรถลาก พวกเราต้องหนีด่วน!” ฉินหยุนพอกล่าวคำจบ จึงเข้าไปคว้าสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อเข้าสู่ความมืด ทะยานกายออกอย่างเงียบงันไปจากสถานที่แห่งนี้
พวกเขาเพียงเพิ่งจากไป ราชันยุทธ์กลุ่มใหญ่ขณะนี้ก็ปรากฏกลางท้องฟ้า!