Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 448
ภายในเขตแดนอ้างว้าง
ราชสีห์สวรรค์ที่แกร่งกล้าจำนวนหนึ่ง ขณะนี้พุ่งเข้ามาหาฝูงชน ราชันยุทธ์หลายคนขณะนี้กำลังพยายามสุดแรง เพื่อต้านทานพวกมันเอาไว้ พร้อมสั่งการให้ผู้อื่นที่เหลือถอยฉากเป็นการด่วน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดสะเทือนเลือนลั่นดังท่ามกลางความมืดเสียงสงบ เป็นผลให้ภูเขาใกล้เคียงหลายแห่งต้องยุบตัว
การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้น ราชันยุทธ์หลายคนเข้าร่วมต่อกรกับราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพ
ชิ้นส่วนรถลากจำนวนมากกระเด็นกระจาย ถูกแรงระเบิดเป่าไปทั่วทุกหนแห่ง
มีแต่แม่เฒ่าตู้และมู่เฟิงที่หลบหนีได้รวดเร็ว ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบใด
ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพจำนวนหนึ่ง ขณะนี้พุ่งทะยานเข้ามา ทว่าพวกมันไม่ได้ใช้กรงเล็บราชสีห์สวรรค์ออก เพียงแต่ใช้เสียงคำรามราชสีห์สวรรค์สะเทือนถึงชั้นฟ้า ปลดปล่อยคลื่นพลังแกร่งกล้าของราชสีห์สวรรค์ให้ประจักษ์
ไม่ต้องกล่าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ กระทั่งราชันยุทธ์ก็ไม่อาจรับมือได้ไหว
มีผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำกว่าสิบคนหลบหนีเชื่องช้า โชคคล้ายหมดสิ้น ร่างถูกกระชากโดยกรงเล็บราชสีห์ตะปบเข้า ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณขณะนี้ก็ตายไปแล้วอีกหลายสิบ
มีแต่ราชันยุทธ์ที่แกร่งกล้าจึงยังอยู่รอด กระทั่งว่าเป็นราชันยุทธ์หลายสิบคน พวกเขาก็พบว่าหากคิดเผชิญหน้ากับราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพเหล่านี้เป็นเรื่องยากจนเกินไป
พวกเขาได้แต่ยืนหยัดลากถ่วงเวลาให้ผู้อื่นหลบหนีโดยเร็ว นี่ก็เพื่อเป็นการลดทอนผู้เสียชีวิตให้มากที่สุด
“ท่านยายตู้ ตามผู้จัดการมู่ไป เขาทราบว่าที่ใดจึงปลอดภัย!” ฉินหยุนตะโกนดัง
“ทางด้านนั้นรวดเร็วนัก ต้องบอกเลยว่าคนจากตำหนักจารึกเทวะตอบสนองรับมือได้ดีเยี่ยมจริง!” แม่เฒ่าตู้หัวเราะ “หากพวกเราหลบหนีช้ากว่านี้ คงตกอยู่ท่ามกลางปัญหานั่นด้วยกันหมดแล้ว”
ได้ยินเสียงอึกทึกดังจากด้านนอก ไม่ว่าใครล้วนก็ต้องเกิดความกลัวเกาะกุมหัวใจ
มู่เฟิงรวดเร็ว แม่เฒ่าตู้ที่ตามติดก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ทางด้านผู้อื่นที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสบถออกในใจ มู่เฟิงจากตำหนักจารึกเทวะ แม่เฒ่าตู้จากหุบเขาลึกล้ำจันทรา ทั้งสองคล้ายทราบดีว่าราชสีห์สวรรค์จะปรากฏตัว
แต่แล้วกลับไม่มีการแจ้งเตือนต่อพวกเขา!
นี่ไม่ใช่พวกเขาไม่อยากแจ้งเตือน แต่ฉินหยุนและมู่เฟิงรู้ตัวว่าราชสีห์สวรรค์เข้ามาใกล้ก็สายเกินไปแล้ว
สิ่งหนึ่งที่ต้องทราบ คือราชสีห์สวรรค์เหล่านี้แกร่งกล้าและรวดเร็วมากล้ำ
ฉินหยุนพอสัมผัสถึงออร่าราชสีห์ห่างออกไปนับพันเมตร การโจมตีก็แทบจะมาถึงในพริบตาแล้ว
ครั้งแรกเริ่มเดินทาง หลายคนรู้สึกว่ากลุ่มนี้แข็งแกร่ง อย่างไรแล้ว นี่ก็ประกอบขึ้นด้วยราชันยุทธ์หลายสิบคน รวมถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำอีกกว่าร้อยคน แต่แล้ว ขณะนี้พวกเขาทั้งหมดต้องแตกกระเจิงเพราะกลุ่มราชสีห์สวรรค์
หลายคนสบถก่นด่าภายในต่อบรรดาราชันยุทธ์ เพราะราชสีห์สวรรค์และมังกรเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ
หากราชันยุทธ์ไม่ทำร้ายมังกรจนบาดเจ็บหนัก พวกตนไม่มีทางต้องมามีสภาพชวนอนาถเพียงนี้ เพราะจะมังกรคอยสะกดข่มราชสีห์สวรรค์เอาไว้
ชั่วขณะนี้ กระทั่งบรรดาราชันยุทธ์เหล่านั้นยังต้องสำนึกเสียใจที่ตัดสินใจโจมตีมังกรตัวนั้น พวกเขาก่อนหน้านี้ปิดล้อมมังกรและโหมโจมตี ขณะนี้กลับกลายเป็นพวกตนเองถูกฝูงราชสีห์สวรรค์ปิดล้อมเสียแทน
ราชสีห์สวรรค์เหล่านี้ ต่อสู้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งค่อยเร่งรีบหนีหาย
บรรดาราชันยุทธ์ถอนหายใจโล่งอก จากนั้นค่อยไล่ตามมู่เฟิงและผู้อื่น
สิ่งนี้ตรงกับที่ฉินหยุนคาดเดา ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพเหล่านั้นถูกอัญเชิญออกมา ดังนั้นเมื่อพ้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง พวกมันจำเป็นต้องกลับไปพัก
“ในที่สุดก็ปลอดภัย!” แม่เฒ่าตู้เปิดหน้าต่าง มองที่ท้องฟ้าดาราพร่างพราย “ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพเหล่านั้นสมควรถูกอัญเชิญมาจริง! สงสัยนักว่าพวกมันจะปรากฏตัวอีกครั้งหรือไม่!”
สื่อชิงเฉิงเผยน้ำเสียงกังวล “เป็นข้าสงสัย ว่าภายในเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียน จะยังมีราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพเช่นนั้นอีกหรือไม่”
“หากหลุมฝังเซียนอันตรายเพียงนั้นจริง พวกเราก็ต้องเร่งรีบหนีห่างโดยเร็วที่สุด!” ฉินหยุนกล่าว
แม่เฒ่าตู้และผู้อื่นพยักหน้ารับ อย่างไรแล้ว การรักษาชีวิตรอดไว้ก่อนย่อมสำคัญที่สุด
พอฟ้าสาง เสียงโห่ร้องดังจากภายนอก
ฉินหยุนและคณะเร่งรีบออกจากรถลาก บินขึ้นสูงกลางอากาศ ที่ได้เห็นเป็นสะพานเก่าแก่โบราณแห่งหนึ่ง นี่คือสะพานที่พังทลาย
สะพานแห่งนี้ไม่ใหญ่มากนัก
ผ่านกาลเวลา มันถูกปกคลุมด้วยหญ้าและเถาวัลย์จำนวนมาก เป็นเรื่องยากจะพบพานสะพานนี้หากไม่ใช่ทราบดีว่ามันมีอยู่
สะพานเช่นนี้หาได้แปลกต่อฉินหยุน ก่อนหน้านี้ เขาได้เคยเข้าไปยังสวนโบราณผ่านทางสะพานพังทลายเช่นนี้
“ร่วมมือกัน เปิดเส้นทางสู่แดนอ้างว้าง!” ราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะตะโกนขึ้น “เมื่อเข้าไปแล้ว ก็ไม่ต้องเกรงว่าราชสีห์สวรรค์จะโจมตีอีก!”
เพียงไม่นาน สะพานนี้เต็มไปด้วยผู้คน
ราชันยุทธ์ยืนหยัดตรงหน้า ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำยืนทางด้านหลัง
ผู้อื่นขณะนี้เพียงรับชมจากภายนอกสะพาน
“เริ่มพร้อมกัน หนึ่ง สอง สาม!” ราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะตะโกนขึ้น ราชันยุทธ์ผู้อื่นและขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ล้วนร่วมมือกันปลดปล่อยพลังถ่ายเทเข้าสู่ตัวสะพาน
อย่างรวดเร็ว ม่านแสงปรากฏขึ้นที่สะพานซึ่งพังทลาย
เส้นทางเปิดออกแล้ว!
“ข้าจะส่งถ่ายพลังอีกชั่วระยะเวลาหนึ่งไปยังทางเข้าของแดนอ้างว้าง เพื่อที่จะได้คงอยู่อีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง!” ราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะตะโกนขึ้น
ชั่วขณะนี้ ศิษย์ผู้เยาว์หลายคนตื่นเต้นยินดี เพราะพวกเขากำลังจะได้เข้าหลุมฝังเซียนในตำนานโบราณ
ฉินหยุนไม่ทราบว่าหลุมฝังเซียนนี้เกี่ยวข้องกับเซี่ยฉีโหรวหรือไม่ มีแต่ต้องไปสำรวจดูกับตาว่าจะได้เบาะแสใดมาบ้าง
“เข้าไปแล้วระวังตัวให้ดี! แดนอ้างว้างแห่งนี้ถูกปิดมาเป็นเวลานานยิ่ง ภายในต้องมีอันตรายซุกซ่อนอยู่เป็นแน่!” สื่อชิงเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเบา
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “พวกเราอย่าได้รีบเข้าไปเป็นแนวหน้า”
ถึงขณะนี้ คนหนึ่งตะโกนถามขึ้น “เส้นทางเปิดออกแล้ว ผู้ใดคิดเข้าไปก่อน?”
ไม่มีผู้ใดทราบว่าภายในมีอะไร หากเข้าไปแล้วต้องเผชิญหน้ากับอันตราย ก็แทบไม่มีโอกาสได้กลับมา
“ราชันยุทธ์ล้วนแกร่งกล้า สักคนหนึ่งควรเข้าไปก่อน!” คนหนึ่งตะโกนขึ้น
“พวกเราราชันยุทธ์ หากพบเจออันตรายด้านในและต้องสูญเสียราชันยุทธ์ไปแม้สักคน พวกเราจะไม่มีทางฟื้นคืนได้แม้ว่าจะต้องสูญเสียขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำสักสิบคน ก็ไม่อาจเทียบได้!” หนึ่งในราชันยุทธ์กล่าวเสียงเย็นเยือกตอบกลับ
ผู้ใดจะเข้าไปก่อน? เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาสำคัญขึ้นมาเสียแล้ว!
ราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะกล่าว “ให้ข้าใช้หุ่นเชิดมนุษย์ทดลองเข้าไปก่อนแล้วกัน!”
เขาพอกล่าวจบ ก็นำเอาหุ่นเชิดออกมาและขว้างโยนเข้าไป
เมื่อหุ่นเชิดเข้าสู่ด้านในม่านแสง ราชันยุทธ์ผู้นี้คิ้วขมวดกล่าวคำ “ไม่มีการตอบสนอง! นี่ไม่ได้ผล!”
“มีสัตว์เลี้ยงอันใดหรือไม่? ส่งพวกมันเข้าไปสำรวจก่อน! อย่างมากก็เสียแค่สัตว์เลี้ยง!” มู่เฟิงกล่าว
ไม่มีผู้ใดคิดให้ความร่วมมือ แม้เป็นสัตว์เลี้ยง ทว่าพวกมันก็ล้ำค่าอย่างยิ่ง
ทั้งสถานที่กลายเป็นเงียบกริบ ไม่มีผู้ใดยินดีเสียสละสัตว์เลี้ยงตนเอง
อย่างกะทันหัน ชายชราหนวดเครายาวซึ่งครอบครองออร่าประหลาดกล่าวคำออก “เอาอย่างนี้เป็นไร ให้สำนักที่มีความดีความชอบน้อยที่สุดเข้าไปตรวจสอบ! ข้าคิดว่าหุบเขาลึกล้ำจันทรานั้นมีส่วนร่วมในเรื่องนี้น้อยที่สุด และลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิงผู้นั้น ก็ไม่อาจนับว่าเป็นคนของสำนักใด”
“ลูกพี่ลูกน้องของนาง ใช้โอกาสที่มีเล่นพวกเราเอาไว้เยอะ แต่แล้วขณะนี้กลับยังไม่ได้รับอันใดตอบแทน นี่ถือว่าไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเรานัก!”
ฉินหยุนกลายเป็นมีโทสะเพราะคำพูดเหล่านี้ ผู้อาวุโสตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น อีกฝ่ายคือหวังเทียนซือเมื่อเหตุการณ์ครั้งเดินทางสู่เทือกเขาเมฆมังกร อีกฝ่ายถึงกับยังมีชีวิตรอดอยู่ได้!
ราชันยุทธ์หลายคนที่นี้โดนลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิงล่อลวง คาดเดาว่าจะต้องชนะพนัน ครั้งนี้ได้ยินคำแนะนำปราดเปรื่อง ย่อมยินดีร่วมเห็นด้วย
“น้องชายที่หน้าโง่ตรงนั้น เจ้าเองก็คิดอยากเข้าเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียน ดังนั้นตอนนี้ถือเป็นโอกาสแล้ว เร่งรีบเข้าไปเสีย!” หวังเทียนซือหัวเราะชั่วช้าเสียงดัง
ตัวเขาเองก็ถูกหลอกลวงไปหลายร้อยล้านเหรียญม่วง ภายในใจจึงเกลียดชังอีกฝ่ายไม่ใช่น้อย
สื่อชิงเฉิงเร่งร้อนกล่าว “อย่างนั้นพวกเราก็ไม่เข้าไปแล้ว เช่นนี้ก็จบแล้วใช่หรือไม่? น้องชายอย่าได้ฟังคำของเขา กลับกัน!”
หวังเทียนซือแค่นเสียงดัง “ไม่ได้! หุบเขาลึกล้ำจันทราแต่เดิมไม่ทราบสถานที่ตั้งหลุมฝังเซียน แต่ขณะนี้ติดตามพวกเราจนถึงที่นี่ เจ้าควรทราบว่าหากทำเช่นนั้นถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบต่อพวกเรา! ดังเจ้าทราบ ว่าพวกเรากว่าจะสืบค้นสถานที่แห่งนี้พบเจอต้องสูญเสียไปมากมายเพียงใด!”
ราชันยุทธ์หลายคนเผยสีหน้าเห็นด้วยต่อความคิดนี้ ให้คนหน้าโง่คนหนึ่งเข้าไปย่อมเป็นเรื่องดี
“ก็ได้ ข้าจะเข้าไป!” ฉินหยุนกัดฟันแน่นตอบคำ
“น้องชาย อย่าได้เข้าไปแล้ว ให้ข้าเข้าไป!” สื่อชิงเฉิงเร่งร้อนดึงร่างเขาเอาไว้
สุ่ยเทียนสื่อขณะนี้ออกหน้า “ชิงเฉิง เจ้าถอยกลับมา ให้ข้าเข้าไปแทน! ความเร็วของข้าเหนือล้ำกว่าพวกเจ้า หากมีอันตรายภายใน ข้าย่อมถอยกลับได้ทันท่วงที!”
ฉินหยุนออกปาก “พี่สาว แม้พวกท่านเป็นหญิงสาว แต่กลับหาญกล้านัก บรรดาราชันยุทธ์สายเลือดเหล่านั้นแท้จริงแข็งแกร่ง แต่กลับเป็นพวกขลาดเขลา หาได้หาญกล้าดังสตรีเช่นพวกท่านไม่!”
คำพอกล่าวจบ เขาเร่งรีบทะยานกายออก มุ่งหน้าเข้าหาม่านแสงของสะพานที่พังทลาย
ความเร็วฉินหยุนมากล้ำ ก่อนที่สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อจะทันตอบสนอง ฉินหยุนก็เข้าม่านแสงไปแล้ว
แม่เฒ่าตู้ได้เห็นทั้งสองคิดตามติดเข้าไป นางต้องรีบเข้ามาขวางทางด้านหน้าด้วยเสียงเบา “อย่าได้เข้าไปแล้ว! เจ้าหนูนั่นผ่านอะไรมาก็มาก เขาย่อมไม่เป็นไร!”
ทั้งสุ่ยเทียนสื่อและสื่อชิงเฉิง ทั้งสองภายในร้อนรุ่มดั่งไฟเผาไหม้ กระทั่งว่าทราบภายในมีอันตราย พวกนางพอได้เห็นอีกฝ่ายเข้าไปแล้วจึงคิดตามติด ทว่ากลับต้องโดนแม่เฒ่าตู้ขวางเอาไว้เสียก่อน
ฉินหยุนเมื่อเข้ามาแล้ว เขาพบว่าตนเองอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของสะพานที่พังทลาย!
ขณะนี้เขาค่อยเข้าใจ ว่าสะพานนี้ยังสมบูรณ์ ทว่าสองส่วนนั้นอยู่คนละสถานที่
“ตอนนั้นที่เราเข้าไปในสวนโบราณ หากเป็นสถานการณ์ตามปกติ สถานที่ที่ควรไปถึงคืออีกฝั่งของสะพาน!” ฉินหยุนครุ่นคิดกับตนเอง
เขาระแวดระวังเดินข้ามผ่านสะพาน สำรวจสถานการณ์ด้านในเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียน ขณะนี้ความตะลึงฉายชัดที่ใบหน้าของเขา
ภายในกว้างใหญ่ เขาแทบไม่อาจมองเห็นจุดสิ้นสุดของแดนอ้างว้างลึกลับโบราณแห่งนี้ แต่เดิมเขานึกว่าควรเป็นสถานที่ไม่ใหญ่มาก
เก้าดวงตะวันลอยค้างกลางท้องฟ้า เวลายังเป็นเช่นที่อีกด้านหนึ่ง
ภายในหลุมฝังเซียน มีทั้งภูเขาและป่าอยู่มากมาย
พอเดินผ่านพ้นจากสะพาน เขาจึงได้เห็นป่าโบราณกว้างใหญ่
ต้นไม้โบราณเหล่านั้นสีดำสนิท กระทั่งใบไม้ พวกมันยังถูกย้อมเป็นสีดำจนสิ้น
ยิ่งเวลาผ่านไป คลื่นสายลมเย็นเยือกจึงพัดผ่านเข้ามาจากด้านในป่าสีดำ มันให้ความรู้สึกชวนกระวนกระวาย
“ภูตผีสัตว์ร้าย!” ฉินหยุนปลดปล่อยพลังจิตขณะความเย็นแล่นผ่านร่าง
นี่ก็เพราะภายในป่าโบราณตรงหน้า มีภูตผีสัตว์ร้ายกระจายตัวอยู่ทั่วทุกหนแห่ง!
ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านี้ สัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เช่นกัน!
“เวร!” ฉินหยุนใช้รองเท้ากำราบมังกร เร่งรีบวิ่งหนีรวดเร็ว เพียงพริบตา เขาก็ถึงม่านแสงที่สะพาน ออกไปพ้นจากเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียน
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ขณะนี้กำลังเผยความหนักอึ้งจ้องมองสะพานที่พังทลาย เมื่อทั้งสองได้เห็นฉินหยุนกลับออกมา ค่อยถอนหายใจโล่งอกกันได้
พอเห็นบุคคลอ่อนแอหน้าโง่กลับมาอย่างปลอดภัย ผู้อื่นล้วนอดไม่ได้ที่จะโห่ร้องกันออกมา นี่หมายความว่าด้านในปลอดภัย
“ด้านในเป็นอย่างไร?” หวังเทียนซือเร่งรีบถาม
ด้วยเพราะอยากทราบเรื่องราวภายใน หวังเทียนซือเข้ามาถามอย่างหาได้สนไม่ว่าเมื่อครู่ทำอะไรไว้
ฉินหยุนตอบกลับ “เมื่อเข้าไปแล้ว ที่พบเป็นป่าใหญ่ ภายในป่ามีภูตผีสัตว์ร้ายอยู่มหาศาล!”
ทุกคนพอได้ยินดังนี้ รอยยิ้มที่ใบหน้าพลันเลือนหาย!
ภูตผีสัตว์ร้ายจำนวนมหาศาล นี่ไม่ใช่ข่าวดี!
“เป็นเช่นนั้นหรือ? หากมีจำนวนมากมายจริง อย่างนั้นเจ้ากลับมาได้อย่างไร?” หวังเทียนซือเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ
ฉินหยุนหลอกลวงผู้คนเอาไว้มาก ดังนั้นขณะนี้พวกเขาจึงตั้งข้อสงสัย
“หากไม่เชื่อข้า เหตุใดจึงให้ข้าเข้าไป? หากต้องการหลอกลวง อย่างนั้นข้าบอกว่าภายในปลอดภัยไม่มีอันตรายไม่ดีกว่าหรือไร!” ฉินหยุนโต้คารมกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจรุนแรง