Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 453
ตอนที่ 453 สังหาร
ฉินหยุนพอได้ยินคํากล่าวสัญญาต่อจิตวิญญาณ เขาค่อยคิดว่าเรื่องราว
สมเหตุสมผล สัญญานี้กดขี่อย่างยิ่ง หากลงนามขึ้นมา ย่อมเชื่อใจอีก
ฝ่ ายได้
“ตกลง อย่างนั้นเริ่มทําสัญญาจิตวิญญาณกันเลย!” ฉินหยุนก้าวเดิน
ไปและกล่าว
แม้ชายชราถูกขังที่นี่นานนับ แต่ยังคงแข็งแกร่ง สามารถปลดปล่อย
การโจมตีรุนแรง เพียงพลิกฝ่ ามือ ก็สามารถสังหารฉินหยุนและคณะ
ได้ในพริบตา
“เจ้าหนู คิดนําพาอิสรภาพมาสู่ข้าหรือ? ข้าย่อมไม่เชื่อว่าเจ้ามีความ
สามารถเพียงนั้น!” กระนั้นแล้ว เขาก็ยังยินดีลงนามสัญญาจิต
วิญญาณกับฉินหยุน
เขาและฉินหยุนได้แยกเอาเศษเสี้ยวจิตวิญญาณออกมาและผสานเข้า
ด้วยกัน หลังสัญญาเสร็จสิ้น พวกเขาค่อยเก็บเศษเสี้ยวจิตวิญญาณที่
ผสานกันกลับคืนสู่จิตวิญญาณดั้งเดิม
เนื้อหาของสัญญา คือหลังจากที่ฉินหยุนช่วยเหลือชายชรา ชายชรา
จะต้องไม่ทําอันตรายใดต่อพวกเขา และยังต้องปกป้องพวกเขา
นําพาพวกเขาไปพบสุสานหลัก และแบ่งปันสมบัติกันอย่างเท่าเทียม
นอกจากนี้ ยังต้องปกป้องพวกเขาให้ออกไปจากแดนอ้างว้างแห่งนี้
ด้วย
ชายชรานามว่าอู่หมิงซวี ยามเมื่อประกาศนามออก ทั้งสื่อชิงเฉิง
และสุ่ยเทียนสื่อล้วนคิดค้นความทรงจํา กระนั้นก็พบว่าไม่เคยได้ยิน
นามนี้มาก่อน
“เจ้าหนู บอกต่อข้าว่าคิดปลดปล่อยข้าอย่างไร? ไม่ใช่ว่าข้าปรามาส
ต่อเจ้า แต่สิ่งที่กักขังข้าเอาไว้แข็งแกร่งยิ่ง กระทั่งว่ามีตัวข้าหลายคน
ก็ยังไม่อาจทําลายสิ่งนี้ได้!” อู่หมิงซวีกล่าวคํา
ตามปกติแล้ว อุปกรณ์เต๋าระดับต้นก็ถือว่ายอดเยี่ยม แต่สิ่งนี้คืออุปกรณ์
เต๋าระดับราชันสําหรับเอาไว้กักขังผู้คนนั้น นับเป็นการสิ้นเปลือง
สมบัติสวรรค์อย่างแท้จริง
ฉินหยุนปลดปล่อยโมโมออกมา บอกต่อนางให้พิจารณาโซ่ตรวน
ได้เห็นภูติน้อยงดงามอีกครั้ง สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อคิดอยากยื่น
ฝ่ ามือไปละเล่นด้วย
“เจ้าตัวน้อยนี่… ภูติอสูรงั้นหรือ?” อู่หมิงซวีเผยความประหลาดใจ
“สวรรค์ ภูติอสูรไม่เคยยอมรับมนุษย์เป็ นเจ้านายมาก่อน แต่แล้วเจ้า
กลับมีสัมพันธ์อันดีกับนางได้อย่างนั้นหรือ ช่างหาพบพานได้ยาก
นัก!”
สุ่ยเทียนสื่อกล่าวเสียงเบา “ภูติอสูรสามารถนําโทเทมมาสู่พวกเรา
แต่มนุษย์เพียงใช้วิธีบีบบังคับ ให้ภูติอสูรปลดปล่อยโทเทมของมัน
มาให้พวกเรา!”
สื่อชิงเฉิงเอ่ยถาม “ฉินหยุน ภูติอสูรนี้เป็นอะไรกับเจ้า? เหมือนนาง
จะสนิทกับเจ้าไม่น้อย!”
“ข้าย่อมคือผู้ถูกเลือก! ด้วยทั้งหล่อเหลาและยังเป็นคนดี ภูติอสูรจึง
เลือกติดตามข้า!” ฉินหยุนหัวเราะ
โมโมปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนมากมาย อดไม่ได้ที่จะเกิดความอึดอัด
ใจ กระนั้น นางเชื่อใจฉินหยุนอย่างยิ่ง นางเชื่อว่าฉินหยุนจะไม่
ปล่อยให้นางได้รับอันตราย ดังนั้นจึงยอมหาญกล้าบินขึ้นไปที่โซ่
ตรวน ตรวจสอบอักขระด้านในของมัน
มนุษย์แทบไม่ทราบเรื่องภูติอสูร ที่ทราบก็แค่ส่วนที่ภูติอสูรสามารถ
ช่วยเหลือให้มนุษย์ได้ครอบครองโทเทม
อย่างมาก ก็เพียงทราบว่าภูติอสูรระดับพระแม่นั้นสามารถทําให้
โทเทมวิวัฒนาการได้
คนส่วนใหญ่ล้วนไม่ทราบ ว่าภูติอสูรมีความสามารถทําลายหรือ
ซ่อมแซมอักขระ
พิจารณาเรียบร้อยแล้ว โมโมค่อยปล่อยแสงอ่อนจางยิงใส่โซ่ตรวน
เป็นนางง่วนอยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม บินไปมาตรงโซ่ตรวนนั้น
“เรียบร้อยแล้ว!” นางกล่าวคําจบ จึงกลับไปหาฉินหยุน และกลับเข้า
สู่มิติเก็บของ
อู่หมิงซวีรู้สึกได้ถึงพละกําลังของตนกลับคืน หาได้ถูกผนึกเช่นกาล
ก่อน ครานี้อดไม่ได้ที่จะเผยความประหลาดใจ จากนั้นจึงพยายามดึง
โซ่ตรวนอย่างสุดกําลัง พบว่ามันถูกปลดออกมาแล้ว
หลังผ่านกาลเวลายาวนาน ในที่สุดเขาก็เป็นอิสระจากโซ่ตรวนที่รัด
พันทั้งมือและเท้า
“ข้าได้อิสระกลับคืนแล้ว!” อู่หมิงซวียังแทบไม่เชื่อตนเอง
“ผู้อาวุโสอู่ ก่อนหน้านี้ท่านบอก ว่ามั่นใจที่ข้าไม่อาจปลดมันได้!”
ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“ย่อมได้ ข้าผิดไปแล้ว!” อู่หมิงซวียิ้มกว้าง “เจ้าหาได้แข็งแกร่ง แต่
กลับมีหญิงสาวแข็งแกร่งงดงามสองคนติดตามมา ข้าไม่ควรปรามาส
ต่อเจ้าเลยจริง ๆ!”
เขาทราบ ว่าผู้ที่ช่วยตนเองปลดปล่อยออกมาคือภูติอสูร นางถึงขั้น
ทําลายอักขระของอุปกรณ์เต๋าได้
“ผู้อาวุโส อีกฝั่งหนึ่งของผนังกําแพง มีราชาผีดิบอยู่หลายตัว อีกทั้ง
ราชันยุทธ์ พวกเราควรกลับไปทางนั้นหรือไม่?” ชั่วขณะนี้ สื่อชิง
เฉิงเผยความยินดีขณะเอ่ยถามออกมา
อู่หมิงซวีกล่าวตอบ “แน่นอน! พวกเราจะออกไปผ่านทางสุสานนั่น!”
กล่าวคําจบ เขายื่นมือออกวางไว้ที่ผนังกําแพง ผลักเปิ ดออกเป็นประตู!
หลังจากอู่หมิงซวีเปิ ดผนังหิน ฉินหยุนและคณะรับรู้ได้ถึงออร่าผีดิบ
แรงกล้า
“ผู้อาวุโสคนนี้เชื่อถือได้หรือไม่กัน?” สุ่ยเทียนสื่อคว้ามือฉินหยุน
เอาไว้แน่น เอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล
“ย่อมเชื่อถือได้! อย่างไรแล้วเขามีชีวิตรอดมาได้เพียงนี้ ย่อมต้องมี
ฝีมือไม่อ่อนด้อย!” ฉินหยุนกล่าวตอบ “ออกไปรับชมเรื่องราวกัน
ดีกว่า!”
สื่อชิงเฉิงก้าวเดินนําหน้า นางกล่าว “หากเกิดอันใดขึ้น ข้าจะถ่วง
เวลาเอาไว้เอง เทียนสื่อ ให้เจ้าพาฉินหยุนเร่งรีบหลบหนีไป!”
“พี่สาวซาลาเปานึ่งอย่าได้กล่าวมากความแล้ว หากคิดหนีก็ต้องไป
ด้วยกัน!” ฉินหยุนก้าวเดินเข้าไป พร้อมหยิกที่ใบหน้างดงามของ
นางครั้งหนึ่ง
พวกเขาทั้งสามคน ติดตามด้านหลังอู่หมิงซวีสู่ห้องสุสานกว้างใหญ่
พบเห็นแต่ความวุ่นวาย โลงศพหยกเหล่านั้นกระจัดกระจาย หลาย
ร่างกลายเป็นชิ้นส่วนมนุษย์
ราชันยุทธ์สองคนและหวังเทียนซือพร้อมคนที่เหลือ ขณะนี้ถูกฝูงผี
ดิบล้อมเอาไว้
ที่ชวนหนักใจที่สุด ก็คือราชันยุทธ์สองคนหลั่งเลือดที่ท้อง แก่นเต๋า
พวกเขาถูกนําออก มือและเท้าถูกกัดกินโดยราชาผีดิบ
หวังเทียนซือและคณะต่างบาดเจ็บสาหัส พวกเขาเกือบจะถูกผีดิบ
เหล่านั้นกินแหล่มิกินแหล่แล้ว
ทันทีเมื่ออู่หมิงซวีปรากฏตัว บรรดาผีดิบล้วนหันมองมา
หวังเทียนซือเองก็เห็นฉินหยุนและโฉมงามสองคนก้าวเดินเข้ามา
มือพวกเขาทั้งสามจับกันเอาไว้แน่นโดยฉินหยุนอยู่ตรงกลาง
ภายในใจของเขาปะทุออกด้วยความเกลียดชัง เพราะเขาเกือบจะถูก
สังหารอยู่รอมร่อ ขณะที่ฉินหยุนยังอยู่ดีมีสุขและปลอดภัย
“ไอ้หน้าโง่บัดซบ เร่งรีบมาและตายร่วมกับข้า! ทั้งหมดนี่เป็นเพราะ
คนสารเลวเช่นเจ้า ทําให้พวกเราต้องตกอยู่ในปัญหามากมายเพียง
นี้!” หวังเทียนซือเผยนํ้าเสียงเปี่ ยมด้วยความกราดเกรี้ยว
“ใช่เรื่องของข้าหรือ ไม่สักหน่อยนี่!” ฉินหยุนตอบกลับเย็นชา “เจ้า
สิสารเลว ใช้งานข้าบูชายัญครั้งแล้วครั้งเล่า เป็ นเจ้าแส่หาความตาย
แก่ตนเอง!”
“หลายครั้งงั้นหรือ?” หวังเทียนซือพลันนึกได้ ว่าเด็กหน้าโง่ตรงหน้า
คือฉินหยุน!
ขณะคิดกล่าวคําใดออก อู่หมิงซวีทะยานร่างออกไป แขนปลดปล่อย
แสงทองม่วง ดาบคมกล้าฉับพลันปรากฏในมือของเขา!
ดาบเล่มนี้ดูธรรมดา ทว่ามันเผยออกซึ่งจิตสังหารเย็นเยือก โดยทันที
มันเข้าปกคลุมผีดิบชั่วร้ายเหล่านั้นเอาไว้!
สุสานกว้างใหญ่กลับกลายเป็นห้องแช่แข็ง ทั้งหมดนี้เพียงเพราะดาบ
ของอู่หมิงซวีปรากฏออกมา!
แม้อู่หมิงซวีถูกผนึกไว้นานนับ แต่มันหาได้ส่งผลกระทบใดต่อพลัง
อํานาจของเขาไม่
ความเร็วการพุ่งทะยานนั้นเหนือลํ้า ทว่าที่รวดเร็วกว่ายังเป็นดาบ!
ฉินหยุนและคณะแทบไม่เห็นว่าอีกฝ่ ายเหวี่ยงดาบอย่างไร ผีดิบกลุ่ม
นั้นถูกทิ่มแทงจนตาย ร่างสลายกายเป็นฝุ่นธุลี
“ดาบต้นกําเนิด!” ฉินหยุนร้องอุทาน
“ผู้ฝึกตนดาบ?” สื่อชิงเฉิงมองทางฉินหยุนด้วยอาการตกตะลึง
ฉินหยุนพยักหน้ารับ เขาคุ้นเคยกับออร่าของเซี่ยอู่เฟิ งที่เคยใช้ครั้ง
กวัดแกว่งดาบ แน่นอนว่าดาบที่โจมตีตรงหน้าขณะนี้รุนแรงกว่า
ของเซี่ยอู่เฟิ งมากนัก
สุ่ยเทียนสื่ออุทานร้อง “พวกเขาแทบสูญสิ้นกันหมดแล้ว! เป็นทั้งผู้
ฝึกตนดาบและอาจารย์จารึกเต๋าเลยงั้นหรือ? น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
เพียงไม่นานจากนั้น ผีดิบทั้งหมดถูกอู่หมิงซวีเข้าสังหาร ตราบเท่าที่
โดนทิ่มแทง ร่างผีดิบจะระเบิดออก ชัดเจนว่าเป็นเพราะพลังแกร่ง
กล้าสอดแทรกเข้าร่างจนไม่อาจคงสภาพ
ร่างของราชาผีดิบกระจายแตก ตกหล่นซึ่งสองแก่นเต๋า เหล่านี้ คือ
แก่นเต๋าของราชันยุทธ์สองชีวิต
อู่หมิงซวีเร่งรีบดูดกลืนพลังงานจากแก่นเต๋าเหล่านั้น
ฉินหยุนเร่งรีบเดินเข้าไป มองเหยียดหยันทางหวังเทียนซือ
“ว่าอย่างไรสุนัขเฒ่า เจ้าทําข้าเลือดออกหลายครั้งครา ขณะนี้ได้เวลา
รับผลกรรมแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกว้างขณะกระทืบเท้าที่หน้าอกของ
หวังเทียนซือ
อู่หมิงซวีก้าวเดินเข้ามาพร้อมกล่าว “ข้าคิดนําแก่นเต๋ามันออกมา
ฟื้นฟูพลังตนเอง!”
กล่าวคําจบ เขาฝังกรงเล็บลงที่หน้าท้องหวังเทียนซือ นําเอาแก่นเต๋า
อีกฝ่ ายออกมา
“เดี๋ยว…” ฉินหยุนเพิ่งตะโกนคําจบ แก่นเต๋าก็ถูกอู่หมิงซวีดูดกลืน
ไปแล้ว
“มีอะไรหรือ?” อู่หมิงซวีเอ่ยถาม
“ข้าคิดต้องการวิญญาณยุทธ์ของมัน… ช่างเถอะ!” ฉินหยุนเม้มริม
ฝีปาก
“วิญญาณยุทธ์ภูตผีระดับแพลทินัม ขยะไร้ค่า!” อู่หมิงซวียิ้มกล่าว
“เจ้ามีข้อพิพาทกับมันหรือ?”
“มันเกือบสังหารข้าไปหลายครั้ง ความแค้นลึกลํ้าเลยทีเดียว!” ฉินหยุ
นกระทืบเท้าที่ใบหน้าหวังเทียนซือ
หวังเทียนซือ หลังโดนนําแก่นเต๋าออกจากร่าง เขาทั้งหวาดกลัวและ
เจ็บปวด เดิมเขาคิด ว่าจะต้องกลายเป็นผีดิบในภายหน้า ที่ไม่คาดคิด
คือกลับต้องตายเพราะนํ้ามือของฉินหยุน
“อย่างนั้นก็จัดการมัน!” อู่หมิงซวีมองที่ไกลออกไป เพียงโบกมือ
เขานําเอาอาวุธเต๋าทั้งสามชิ้นเข้าหาและกล่าว “หลังผ่านไปหลายปี
ถึงตอนนั้นระดับเจ้าคงพัฒนา รับพวกมันเอาไว้!”
ฉินหยุนสะดุ้งพร้อมรับกระบี่สีเงินเล่มหนึ่งไว้
“อย่าฆ่าข้า!” หวังเทียนซืออ้อนวอน
ขณะฉินหยุนคิดสังหารหวังเทียนซือด้วยการสับฟัน อู่หมิงซวีก็ผลัก
ฝ่ ามือออก เกิดเป็นเปลวเพลิงปะทุระเบิดออกเผาไหม้หวังเทียนซือ
“มันติดพิษผีดิบ หากเลือดกระจายโดนตัวเจ้า อาจทําให้เกิดปัญหา
ภายหลัง ทางที่ดีอย่าได้ยุ่งกับร่างของพวกมัน!” อู่หมิงซวียิ้มตอบ
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อต่างได้รับดาบคนละเล่ม แม้พวกมันเป็น
อาวุธเต๋าระดับตํ่าทั้งคู่ กระนั้นก็ทําพวกนางยินดีจนแทบแย่แล้ว
“ขอบคุณผู้อาวุโสอู่ ท่านสร้างอาวุธเต๋าเหล่านี้ทั้งหมดเลยหรือ?” สุ่ย
เทียนสื่อเอ่ยถาม
“แน่นอน! เจ้าอาจไม่เชื่อ แต่คนเหล่านี้ใช้งานอาวุธเต๋าที่ข้าหลอมขึ้น
เพื่อจับตัวข้าเอาไว้!” อู่หมิงซวีหัวเราะกับหายนะของตนเอง “ข้า
สร้างมัน และมันก็ย้อนกลับมาทําร้ายข้า!”
หลังดูดกลืนแก่นเต๋าไปจํานวนหนึ่ง เขาค่อยดูมีสภาพที่ดีขึ้น
“ไปกัน พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ของสุสานหลัก ข้าเองก็อยาก
เห็นนักว่าผู้ใดถูกฝังไว้ที่นี่ และจะมีสิ่งของมีค่าใดที่ลงหลุมไปด้วย!”
อู่หมิงซวีหัวเราะดัง ก้าวเดินไปยังค่ายอาคมเคลื่อนย้าย
ฉินหยุนตะโกนขึ้น “รอสักครู่ ที่แห่งนี้มีโทเทม ข้าคิดให้ภูติน้อยนํา
มันออกมาก่อน!”
กล่าวคําจบ เขาปล่อยโมโมออกมา
อู่หมิงซวีตอบคํา “นั่นก็แค่นกกระจอกลึกลํ้าเก้าสวรรค์ เป็นโทเทมที่
ไม่สมบูรณ์ ไม่มีประโยชน์อันใด ที่สุสานหลักน่าจะสมบูรณ์กว่านี้!”
ฉินหยุนพอได้ยินดังนี้ เขาจึงเก็บโมโมและเร่งร้อนเดินไปยังค่าย
อาคมเคลื่อนย้าย
สุ่ยเทียนสื่อและสื่อชิงเฉิงเพิ่งได้รับอุปกรณ์เต๋า พวกนางทําใจเก็บ
พวกมันลงอุปกรณ์มิติเก็บของไม่ได้ จึงได้แต่ถือกระชับแน่นไว้ใน
มือ
แม้ยังไม่ได้สร้างพันธะโลหิต แต่พวกนางก็ยังสามารถใช้เป็นการ
ชั่วคราว เพราะอุปกรณ์เต๋าเหล่านี้สร้างขึ้นโดยอู่หมิงซวี เขาย่อมทํา
ให้อุปกรณ์เต๋ายอมรับสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อได้
หลังจากค่ายอาคมเคลื่อนย้ายทํางาน ฉินหยุนและคณะจึงกลับสู่
เส้นทางที่ใช้มาตอนแรก
อู่หมิงซวีค่อนข้างคุ้นเคยสถานที่ รถลากเรืองแสงขณะนี้นําพาฉินหยุ
นกลับไปตามเส้นทาง
“พวกเราจะโผล่ที่โถงหลักหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
อู่หมิงซวีตอบ “ทางเข้าหลักของสุสานหลักไม่ใช่ประตูทั้งสิบแปด
บาน แต่เป็นโถงหลักแห่งนั้น! ประตูทั้งสิบแปดบาน ใช้เพื่ออําพราง
สําหรับนําไปสู่กับดัก! ประตูที่พวกเจ้าเลือกมานี้ ถือได้ว่าปลอดภัย
ที่สุดแล้ว!”