Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 494 ผสานพลังเต๋า
ตอนที่ 494 ผสานพลังเต๋า
หยางฉีเย่ว์ยิ้มกล่าว “ตําหนักจันทราทมิฬเป็นสํานักของแดนวิญญาณ
อ้างว้าง พระราชกวงกวงหานเป็นสํานักที่เหนือกว่าตําหนักจันทรา
ทมิฬ ลองบอกข้าสิ ว่าข้ารู้ถึงพระสูตรหัวใจตะวันจันทราหรือไม่?”
“พี่หยาง ดูเหมือนท่านฟื้นคืนความทรงจํานายหญิงน้อยของพระราชวัง
แห่งนั้นมาได้แล้ว!” ฉินหยุนหัวเราะคิกคัก “ไม่นึกเลยว่าท่านจะเป็น
เซียนของพระราชวังจันทรา! ครั้งแรกพบท่าน ข้านึกว่าเป็นเพียงแต่
เซียนหญิงงามเสียอีก!”
หยางฉีเย่ว์ยืนในสระนํ้า ริมฝีปากบุ้ยพลางยิ้มตอบ “อย่าได้พูดกล่าว
แล้ว เร่งรีบถอดเสื้อผ้าเจ้าออก!”
ฉินหยุนถึงกับสะดุ้ง “ถอด?”
“ใช่! ข้าไม่คิดแอบดู อย่าได้กังวลไป!” หยางฉีเย่ว์ยิ้มพลางหันกายไป
สระกายเต๋าเป็นฟอง นํ้าในสระสดใหม่จะถูกส่งเข้ามาแทนที่นํ้าซึ่ง
ผ่านการใช้งานในทุกชั่วลมหายใจ เพราะเหตุนี้มันจึงมีพลังที่กล้า
แกร่ง
ฉินหยุนไม่ทราบคิดอันใดขณะถอดเสื้อผ้าตนเองและเดินแช่กายลง
“พี่หยาง ท่านเองก็เปลื้องผ้าหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามเสียงเบาคิดเหลือบ
ตามองหยางฉีเย่ว์ที่ยืนในสระนํ้า
“เจ้าเด็กลามก คิดให้ข้าถอดเสื้อผ้าออกงั้นหรือ?” นางแม้กล่าวเช่นนั้น
ทว่าเสื้อผ้าขณะนี้ก็ถูกปลดออกแล้ว
ฉินหยุนเหม่อมองที่หยางฉีเย่ว์ นางขณะนี้สวมใส่น้อยชิ้นภายใน
สระนํ้า เนินอกปกคลุมไว้ด้วยชั้นผ้าไหมบาง เบื้องล่างเป็นเอวขาว
ชวนจับตามอง
ร่างกายเพรียวงดงามของหยางฉีเย่ว์ พร้อมขาที่ขาวนวลกําลังก้าวสู่
กลางสระกายเต๋าสีทอง นํ้าในสระเพียงถึงช่วงเอวของนาง เหนือ
สะดือของนางขณะนี้สามารถเห็นชัดแจ้ง ส่วนด้านล่าง ที่เห็นชัดก็มี
เพียงขายาวงดงามคู่หนึ่ง
ฉินหยุนคุดคู้อยู่มุมหนึ่งของสระนํ้าขณะรับชมหยางฉีเย่ว์ก้าวเดินเข้า
มา เขาถึงกับต้องกลืนนํ้าลายไปอึกใหญ่
หยางฉีเย่ว์เมื่อนั่งยองลง นางค่อยแช่กายในสระนํ้าทั้งร่างกายอย่าง
แท้จริง
“ยื่นมือเจ้าออกมา พวกเราจะฝึกร่วมกันโดยเกาะกุมมือเอาไว้!”
หยางฉีเย่ว์พอได้เห็นสีหน้าแปลกประหลาดของฉินหยุน นางอดขํา
ไม่ได้จนหัวเราะออก “ขออภัยแล้วที่ทําเจ้าผิดหวัง!”
ฉินหยุนบุ้ยริมฝีปากยื่นมือออก ขณะนี้มือของเขาเกาะกุมอยู่กับมือ
ขาวของหยางฉีเย่ว์พร้อมกล่าวขึ้น “พี่หยาง พวกเราฝึกร่วมกันไม่
เป็นไรหรือ?”
“อย่าได้กังวลไป พวกเราเพียงเชื่อใจกันและกันก็พอ!” หยางฉีเย่ว์
ตอบคํา
พระสูตรหัวใจตะวันจันทราฝึกฝนได้เพียงแต่สตรี เมื่อฝึกฝนร่วมกับ
บุรุษ มันต้องเป็นการชี้นําโดยสตรี
ฉินหยุนเร่งรีบปรับความคุ้นเคยกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ขณะนี้ ก่อน
หน้า เขาฝึกฝนกับเชี่ยวเย่ว์หลานไปครั้งหนึ่งแล้ว ความรู้สึกครั้งนี้
คล้ายคลึงกัน
“เสี่ยวหยุน ค่อย ๆ ปลดปล่อยพลังจากลูกไฟยักษ์ออกมา!” หยางฉี
เย่ว์กล่าว “ข้าจะรับหน้าที่นําทางให้แก่มันเอง!”
“ขอรับ!” ฉินหยุนขณะนี้กระทําตามคําบอกกล่าว
อย่างรวดเร็ว เขาสัมผัสถึงพลังของลูกไฟยักษ์ก่อนชักนํามันสู่หยางฉี
เย่ว์ มันถ่ายเทออกจากร่างกายของเขา ไหลเข้าสู่ร่างกายของหยางฉี
เย่ว์
พลังงานเมื่อเข้าสู่ร่างกายของนาง มันไหลเวียนรวดเร็วกลับเข้าสู่
ร่างกายของเขา
เมื่อได้รับกลับคืน มันให้ความรู้สึกอ่อนโยน ราวกับมันได้ผสานเข้า
กับพลังจากแก่นเต๋าของหยางฉีเย่ว์ไปเรียบร้อยแล้ว
ถัดจากนั้น พลังงานพลันทะลักไหลรวมเข้าสู่แก่นเต๋าทั้งสามของฉิน
หยุน จากนั้นมันค่อยไหลเวียนกลับสู่ร่างกายของหยางฉีเย่ว์
ดวงตาฉินหยุนเบิกกว้างขณะมองที่ใบหน้างดงามของหยางฉีเย่ว์ เขา
กล่าว “พี่หยาง เหตุใดก่อนหน้านี้ท่านหอมแก้มข้ากัน?”
“อย่าได้ถามมากเรื่อง!” นํ้าเสียงของหยางฉีเย่ว์คล้ายกระอักกระอ่วน
ทว่านางตานั้นเปี่ ยมด้วยความอ่อนโยน
“พี่หยาง ท่านฟื้นคืนความทรงจําทั้งหมดของชาติภพก่อนครบถ้วน
แล้วหรือ?” ฉินหยุนถามอีกครั้ง
หยางฉีเย่ว์พยักหน้ารับเชื่องช้า
ฉินหยุนเองก็ทราบว่าตนเองมีชาติภพก่อน ในคราวนั้นเขาลังเลว่า
ควรถามหยางฉีเย่ว์ดีหรือไม่
แต่เมื่อผ่านความลังเลมาพอสมควรแล้ว เขาจึงตัดสินใจถามออกไป
“พี่หยาง สาเหตุว่าท่านยายที่พระราชวังกวงหานมอบวิญญาณยุทธ์
จันทราทมิฬแก่ข้า… เพราะนางบอกว่าชาติภพก่อนหน้าข้าคือราชัน
เซียน!” ฉินหยุนกล่าวเชื่องช้า
หยางฉีเย่ว์ถอนหายใจเบา “เป็นเช่นนั้น! ไม่อย่างนั้นแล้ว นางจะไม่มี
ทางไว้ใจเจ้าถึงเพียงนั้นแน่!”
“พี่หยาง ชาติภพก่อนข้าเป็นราชันเซียนจริงหรือ?” ฉินหยุนรวบรวม
ความกล้าเอ่ยถาม
“ถูกต้องแล้ว นั่นคือชีวิตก่อนหน้านี้ของเจ้า!” หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “เจ้าเป็น
ชายที่น่ารําคาญไม่น้อยเลยละ!”
ฉินหยุนพอได้ฟังเช่นนี้ เขาจึงถามต่อด้วยสีหน้าช่วยไม่ได้ “พี่หยาง
ชาติภพก่อนของข้า ได้ทําอะไรไม่ดีต่อท่านไว้หรือไม่?”
หยางฉีเย่ว์ยิ้มกล่าว “ย่อมไม่! ให้ข้ากล่าวเช่นนี้แล้วกัน ชาติภพก่อน
หน้าเจ้าเป็นคนที่โป้ปดยิ่งนัก เจ้าเกี้ยวพาราสีต่อข้าทว่าไม่สําเร็จ!
เพราะเหตุนั้นเจ้าจึงแวะเวียนมาก่อกวนข้าที่พระราชวังกวงหาน
บ่อยครั้ง เพราะเจ้ามีฝีมือวิถีจารึกยอดเยี่ยม จึงมาที่พระราชวังกวง
หานบ่อยครั้งยิ่งนัก!”
“เป็นไปได้ด้วยหรือ? ชาติภพก่อนข้าไปหลอกลวงอะไรท่านเอาไว้
กัน?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องนี้ยากจะเชื่อ
“ครั้งแรกที่ข้าทราบเรื่องนี้ ข้าเองก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้!” หยางฉี
เย่ว์แค่นเสียง “นับเป็ นเรื่องดีที่เจ้าไม่มีความทรงจําจากชาติภพก่อน
หน้า ไม่เช่นนั้นเจ้าคงได้เป็นจอมลวงโลกอีกแน่!”
ฉินหยุนนึกถึงปิ งชิงขึ้นมาจึงเอ่ยถาม “พี่หยาง ท่านรู้จักเซียนนามปิ ง
ชิงหรือไม่?”
“เจ้ารู้จักนางได้อย่างไรกัน?” หยางฉีเย่ว์เผยความตื่นตะลึงขณะเร่ง
ร้อนเอ่ยถาม
ฉินหยุนบอกเล่าเรื่องที่พบเจอปิ งชิงในสุสานเซียน
“เหมือนนางจะเกลียดข้าไม่น้อยเลย!” ฉินหยุนถอนหายใจ “ชาติภพ
ก่อนหน้า ข้าคงสร้างปัญหาเอาไว้มากแล้ว!”
“เรื่องพิพาทระหว่างเจ้าและนางเป็ นเรื่องจากเมื่อสองถึงสามหมื่นปี
ก่อน ในตอนนั้น เพื่อหลอกใช้นาง เจ้ากระทั่งเล่นกับความรู้สึกของ
นาง!”
“เป็นธรรมดาหากนางคิดเกลียดชังเจ้า โชคดีนักที่เจ้าไม่ได้เผยท่าที
เช่นชาติภพก่อน ดังนั้นนางจึงคิดว่าเจ้าเพียงแค่คนหน้าเหมือนจอม
ลวงโลกคนนั้น!” หยางฉีเย่ว์บอกเล่าออกมา
ฉินหยุนขณะนี้บุ้ยปาก “แย่ยิ่งนัก! เช่นนั้นข้าไม่มีศัตรูไปทั่วแดน
เซียนอ้างว้างเลยงั้นหรือ?”
หยางฉีเย่ว์ขณะนี้ค่อยยิ้ม “หากเจ้าได้ความทรงจําชาติภพก่อนกลับคืน
มา เจ้าคงได้ทราบว่าเรื่องราวเล็กน้อยที่ก่อขึ้นในแดนยุทธ์อ้างว้าง
แทบไม่นับเป็นอะไร!”
“นี่ข้าต้องตามสะสางเรื่องราวจากชาติภพก่อนด้วยงั้นหรือ?” ฉินหยุน
ขณะนี้แทบไม่คิดอยากนึกถึงวันหน้า
“หึ! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซํ้า ชาติภพก่อนหน้าเจ้าเป็นคนชั่วร้าย
นัก ทว่าในชีวิตนี้กลับห่วงหาผู้อื่นยิ่ง ดังนั้นเจ้าจึงได้รับวิญญาณดวง
ตะวันมาถึงสอง” หยางฉีเย่ว์เผยใบหน้าที่แสดงความอิจฉาอย่างพบ
เห็นได้ชัดออกมา
“พี่หยาง ชาติภพก่อนหน้านี้ข้าเลวร้ายเพียงนั้นเลยหรือ?” ฉินหยุน
ขณะนี้กลายเป็นเกิดความเครียดขึ้นมา
“เรียกว่าพวกต้มตุ๋นคงไม่ถูกต้องนัก อย่างไรแล้ว เจ้าก็ถือเป็นตัวฉกาจ
ในเรื่องนี้ หลายครั้งเจ้าก็แค่หลอกลวงเงินผู้อื่น ไม่ก็หลอกหญิงสาว
ให้มีสัมพันธ์ทางกายร่วมด้วย บางครั้งก็ฉกไก่ชิงสุนัข จนกระทั่งได้
เป็นราชันเซียน!”
หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “เสี่ยวหยุน อย่าได้คิดมากแล้ว ในเมื่อพวกเราถือกําเนิด
ขึ้นใหม่ พวกเราก็ควรเป็นไปในชีวิตนี้! หากเป็นไปได้ ข้าก็อยาก
ชดเชยเรื่องที่ทําพลาดในชาติภพก่อนเช่นกัน!”
ฉินหยุนเร่งรีบพยักหน้ารับ “พี่หยาง ชาติภพก่อนครั้งที่ท่านเสียชีวิต
ข้าได้ยินจากท่านยาย ว่าข้าถูกสังหารเพราะไปตามล้างแค้นให้แก่
ท่าน!”
หยางฉีเย่ว์บุ้ยปากเล็กน้อยพลางแค่นเสียง “ไม่ว่าจะด้วยอะไร ข้าไม่
คิดเชื่อว่าเจ้าไปล้างแค้นให้แก่ข้า ให้คาดเดา หลังเหตุการณ์นั้น เจ้า
ควรหลบลี้หนีหายโดยเร็วกว่าผู้ใดแล้ว!”
“นี่เป็นไปได้หรือ?” ฉินหยุนเผยรอยยิ้มเก้กัง
“เอาละ ชาติภพก่อนหน้าเป็นไรล้วนช่างมันปะไร! โดยสรุป ขณะนี้
เจ้าเป็นคนดีก็พอแล้ว!”
“และข้าก็รู้สึกขอบคุณเจ้าอย่างยิ่ง! เป็ นเจ้าที่ช่วยข้าพ้นจากโคลนตม
หย่อมนั้น… ในตอนนั้น หากไม่ใช่เจ้า ข้าคงกลายเป็นเตาหลอมฝึกฝน
ของเชี่ยวหยางหลง ชีวิตข้าคงจบสิ้นที่ตรงนั้นไปแล้ว! ขณะนี้ข้าได้รับ
วิญญาณยุทธ์จันทราทมิฬที่ท่านแม่หลงเหลือไว้ให้ รวมถึงความทรง
จํา การฝึกฝนของข้าก้าวหน้ายิ่งยวด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็ นเพราะเจ้า!”
นัยน์ตาของหยางฉีเย่ว์เผยความอ่อนโยนขณะกล่าวยิ้มหวาน “ตอนนี้
เจ้าก็คือเจ้า และเจ้าก็ได้เติมเต็มสิ่งที่ทําผิดพลาดชาติภพก่อนหน้าไป
มากแล้ว!”
ฉินหยุนพอได้ฟังเช่นนี้ เขาค่อยเกิดความยินดีขึ้นมา
“เสี่ยวหยุน เจ้าช่วยปิ งชิง และดูเหมือนจะช่วยนางเอาไว้อย่างมหาศาล
เลยทีเดียว แม้เจ้าไม่มีความทรงจําในชาติภพก่อนหน้า แต่สิ่งที่เจ้าทํา
ถือเป็นการถมเต็มความผิดพลาดในช่วงชีวิตก่อนหน้าที่มากพอแล้ว!”
หยางฉีเย่ว์ขณะครุ่นคิดก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ นางยิ้มกล่าวต่อ “ไม่ว่าปิ ง
ชิงเกลียดชังเจ้าเพียงใด นางย่อมอภัยให้แก่เจ้า! ข้าได้ยินว่านางมี
ความรู้สึกให้เจ้าอย่างลึกลํ้าไม่น้อยเลยทีเดียว!”
ย้อนกลับไปตอนฉินหยุนอยู่กับปิ งชิง เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์อัน
ซับซ้อนของนาง
“พี่หยาง ท่านรู้จักธิดาแห่งแม่มดหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถามอีกครั้ง
หยางฉีเย่ว์ไม่เคยพบเซี่ยฉีโหรวมาก่อน ดังนั้นนางย่อมไม่ทราบว่า
เซี่ยฉีโหรวเป็นธิดาแห่งแม่มด
เอ่ยถึงธิดาแห่งแม่มด สีหน้าของหยางฉีเย่ว์กลายเป็นเคร่งเครียด นาง
เร่งรีบกล่าว “เสี่ยวหยุน เรื่องราวของธิดาแห่งแม่มด ถือเป็ นเรื่อง
ต้องห้ามในแดนเซียนอ้างว้าง! สาเหตุว่าทําไมพระราชวังกวงหาน
ของพวกเราถูกทําลาย ก็เป็ นเพราะเรื่องนี้!”
“เรื่องนี้ซับซ้อนนัก เจ้าไม่ต้องทราบกระจ่างชัดก็ได้ เมื่อใดเจ้าฟื้น
คืนความทรงจําจากชาติภพก่อนหน้าแล้ว เจ้าจะทราบเองว่ามันเกิด
เรื่องอะไรขึ้น!”
“แต่เรารู้จักกับพี่สาว เรายังได้พี่สาวช่วยไว้ถึงสองครั้งครา ความสัมพันธ์
ที่มีต่อกันเรียกว่าดีเยี่ยม! ครั้งพี่สาวถูกไล่ต้อนจนเกือบถึงแก่ความตาย
เราไม่อาจช่วยเหลือ นี่เป็นความผิดที่ตกค้างอยู่ในใจเราเสมอมา!”
ฉินหยุนครุ่นคิดเช่นนี้กับตนเองอยู่ภายใน
ฉินหยุนเดิมคิดบอกหยางฉีเย่ว์ว่าเซี่ยฉีโหรวเป็นธิดาแห่งแม่มด
กระนั้น ได้ยินคําของหยางฉีเย่ว์ เขาจึงตัดสินใจว่าเรื่องนี้สมควรเก็บ
ไว้จนกว่าจะถึงเวลา
เขาเป็นกังวล ว่าหยางฉีเย่ว์จะไปยังหุบเขาเมฆมังกรเพื่อค้นหาหลุม
ฝังเซียน ที่แห่งนั้นมีแต่อันตรายอยู่ทุกหนแห่ง!
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ฝึกฝนร่วมกัน พวกเขาร่วมกันขัดเกลาลูกไฟ
ยักษ์ มันทําให้ทั้งสองต่างได้รับประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่ไหลผ่านเข้า
มา
พลังงานจากลูกไฟยักษ์ รวมเข้ากับพลังงานจากสระกายเต๋า มันรวม
กันเพิ่มพูนการฝึกฝน ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์สร้างกระดูกเต๋าได้อย่าง
รวดเร็วเพราะหัวใจมหาวิถีแห่งเต๋า รวมถึงโลหิตเต๋าที่แกร่งกล้าด้วย!
การฝึกฝนกระดูกเต๋า หมายความถึงผู้ครอบครองสามารถยืนหยัดรับ
การโจมตีพลังมหาวิถีแห่งเต๋า พร้อมกันนี้ มันยังเป็นการเกิดขึ้นของ
อักขระชีวิตแห่งเต๋าตัวที่แปด!
หยางฉีเย่ว์และฉินหยุนฝึกฝนร่วมกันอยู่สามวัน ทั้งสองล้วนเลื่อน
ระดับขึ้นมาพร้อมกัน!
หลังการเลื่อนระดับ หยางฉีเย่ว์ร้องเสียงเบาขณะพลังจากอักขระ
ชีวิตของนางทะลักออก
อักขระชีวิตตัวที่แปดปลดปล่อยพลังเต๋าออกมา มันควบแน่นจน
เกิดขึ้นเป็นดวงจันทราสุกสว่างกลางท้องฟ้า!
“ไม่ใช่จันทราทมิฬหรือ?” ฉินหยุนเผยความประหลาดใจขณะรับชม
ดวงจันทร์ที่สุกสว่าง
“ข้าปลดปล่อยพลังผ่านอักขระชีวิต นี่คือพลังเต๋า! พลังเต๋าของข้าคือ
พลังแห่งจันทรา ดังนั้นจึงปลดปล่อยมันออกมาเป็นดวงจันทรา!”
หยางฉีเย่ว์กล่าว
ฉินหยุนรู้สึกมาตลอดว่าพลังเต๋าของตนเองพิเศษ มันไม่อาจสะกดลง
ได้หากปลดปล่อยออก แต่หากมีอักขระชีวิตตัวที่แปด เขาจะ
ปลดปล่อยมันออกมาเป็นพลังเต๋าที่แข็งแกร่งได้
หยางฉีเย่ว์ดึงดวงจันทรากลับคืนพลางกล่าว “เสี่ยวหยุน พวกเราเป็น
ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่แปดแล้ว เมื่อใดก้าวสู่ระดับที่เก้า
พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังแดนวิญญาณอ้างว้าง เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”
“ขอรับ!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ
หลังการเลื่อนระดับ ทั้งสองออกจากถํ้า นําพาเฉียวอวี้และฉื่อซินซิน
ให้เข้ามาฝึกฝนด้านใน
ทางด้านฉินหยุน ขณะนี้หลอมสร้างยันต์หยกพิเศษขึ้น เพื่อให้พวก
นางทั้งสองสามารถเข้าออกถํ้าได้อย่างอิสระโดยอาศัยยันต์หยก
ขณะฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ออกจากนครโบราณยุทธ์เต๋า ทั้งสองใช้
เข็มทิศค้นหาแดนอ้างว้างลึกลับโบราณซึ่งเป็นที่ตั้งของสํานักเก้า
ตะวัน!
หยางฉีเย่ว์เกลียดชังสํานักเก้าตะวันถึงทรวง เพราะการทําลายล้าง
พระราชวังกวงหานของนาง มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับสํานักเก้า
ตะวัน!
ขณะนี้ นางกําลังคิดกวาดล้างสํานักเก้าตะวันในสามแดนอ้างว้าง
แล้ว!