Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 500 ทะเลาะเบาะแว้งกับอาจารย์โอสถ
ตอนที่ 500 ทะเลาะเบาะแว้งกับอาจารย์โอสถ
คนสวนทั้งหลายในห้องโถงขณะนี้เริ่มทักท้วง
“หญิงสาวเหล่านั้นจากสามสํานักจันทราล้วนหยิ่งผยอง หากข้าเผลอ
ไปทําพืชโอสถเหล่านั้นตายเข้า พวกนางคงต่อว่าพวกเราไม่เหลือชิ้น
ดีแล้ว!”
“ถูกต้อง แม้พวกนางล้วนเป็นสตรี แต่ท่าทีนั้นหาได้ดีไม่ บ่อยครั้ง
มักมีเรื่องกับผู้อื่น และยังร่วมมือกันก่อการ เรื่องราวเหล่านี้สร้าง
ความรําคาญยิ่ง!”
“รักษาเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นเป็ นเรื่องยากเกินไปแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น
คงมีแต่ต้องทุ่มสุดตัวจึงสามารถทําได้!”
บุคคลที่รับหน้าที่เผยรอยยิ้มออกมา “ทุกท่าน จะมีเพียงยี่สิบคนที่
สามารถทําการรักษาเมล็ดพันธุ์ได้มากที่สุด จึงมีสิทธิ์เข้าสู่การคัดเลือก
ในรอบถัดไป! การแข่งขันย่อมโหดร้าย ทุกท่านล้วนจ่ายหนึ่งร้อยล้าน
เหรียญม่วงเพื่อเข้าร่วม ดังนั้นก็พยายามให้มากหน่อยแล้ว!”
ผู้คนได้แต่ถอนหายใจ ทางเลือกล้วนไม่มีแต่แรก ได้แต่ปลอบใจ
ตนเองรับการทดสอบ
ฉินหยุนและคนสวนอีกกว่าร้อยคน ได้แต่ตามผู้ที่รับหน้าที่ทดสอบ
ไปยังห้องโถงกว้างขวางแห่งหนึ่งที่ชั้นสอง
เมื่อเข้ามาแล้ว พวกเขาจึงรับรู้ได้ถึงจิตสังหารแรงกล้า!
โถงกว้างใหญ่มีผู้คนนับพัน แต่แล้วกลับเกิดความหนาวเย็นสุดขั้ว
ทั้งหมดนี่ก็เพราะจิตสังหารเย็นเยือกรุนแรง!
ในที่สุดฉินหยุนค่อยเข้าใจ ว่าเหตุใดคนสวนโอสถเหล่านั้นจึงร้อง
โอดครวญ หญิงสาวของสามสํานักจันทรา ทั้งหมดล้วนมองผู้อื่น
เป็นปฏิปักษ์
แม้พวกเขายืนอยู่ไกลห่างกว่าสิบเมตร กระนั้นก็ยังรับรู้ถึงความเย็น
เยือกถึงสันหลัง
บุคคลที่รับหน้าที่การทดสอบ รับรู้ถึงแรงกดดันไม่ต่างกันนี้ นํ้าเสียง
เชื่องช้าของเขากล่าวออก “ภูติน้อยที่งดงามทั้งหลาย เหล่านี้คือคน
สวนโอสถที่เข้ารับการทดสอบของพวกเรา พวกเขาจะรับผิดชอบทํา
การรักษาเมล็ดพันธุ์โอสถให้! ขอให้นําเอาสมุนไพรเหล่านั้นออกมา
วางพวกมันเอาไว้ตรงหน้า แล้วบอกถึงรายละเอียด และสาเหตุที่ทํา
ให้เมล็ดพันธุ์เกิดการเสื่อมถอยขึ้นออกมา!”
ศิษย์หญิงของตําหนักจันทราทมิฬล้วนสวมใส่ชุดขาว ทางด้านศิษย์
หญิงของนครจันทราอัคคี ต่างสวมใส่ชุดสีแดง ทางด้านศิษย์หญิง
ของเกาะจันทราปี ศาจ ต่างสวมใส่ชุดสีชมพู
สํานักจันทราทั้งสาม เรียกได้ว่าเป็นตัวตนแข็งแกร่งในแดนวิญญาณ
อ้างว้าง
ศิษย์หญิงเหล่านี้มีสีหน้าเย็นเยือก เพราะท่าทีแสดงความเป็นปฏิปักษ์
อย่างชัดเจน มันให้ความรู้สึกราวพวกนางพร้อมจะสังหารอีกฝ่ ายทุก
เมื่อ ฉินหยุนและคณะคนสวนโอสถ ต่างได้แต่ต้องระมัดระวังตนเอง
ไว้
แต่ละฝั่ง จะมีศิษย์หญิงราวสิบคน พวกนางนําเอาพืชโอสถมากมาย
ออกมา วางไว้บนโต๊ะที่ปูรองด้วยแผ่นหนังสัตว์
“สมุนไพรโอสถนี้ทราบกันในชื่อดอกไม้ม่วงหยวนลึกลํ้า พวกเจ้า
ตําหนักจันทราทมิฬถึงกับทํามันตายได้ ช่างน่านับถือนัก!” หญิงสาว
จากนครจันทราอัคคีกล่าวเย้ยหยัน
ใบหน้าของศิษย์หญิงจากตําหนักจันทราทมิฬดํามืด ดวงตาพวกนาง
ขณะนี้เผยความคิดฆ่าฟันออก
ฉินหยุนเร่งรีบเดินเข้าไป คว้าดอกไม้ม่วงหยวนลึกลํ้าขึ้นมาและกล่าว
“รากวิญญาณของดอกไม้ม่วงลึกลํ้าหยวนได้รับความเสียหาย นี่สมควร
เกิดปัญหาภายใน แต่มันย่อมสามารถรักษาและฟื้นคืนกลับมาได้!”
หญิงผมยาวใบหน้ารูปไข่จากตําหนักจันทราทมิฬ ขณะนี้เผยสีหน้า
ยินดีออกพร้อมกล่าว “ถูกต้องแล้ว! สาเหตุมันก็เป็นเพียงแค่นั้น กับ
คนที่ไม่รู้อะไร ถึงกับกล้าดีพูดกล่าวออกมาได้!”
ฉินหยุนถือดอกไม้ม่วงหยวนลึกลํ้าในมือแน่น คิดใช้งานโทเทมต้นไม้
แปรเปลี่ยนพลังจากโทเทมต้นไม้ ให้กลายเป็นพลังเต๋าพิเศษอย่างหนึ่ง
จากนั้นค่อยผสานเข้าสู่ตัวดอกไม้ม่วง
เพียงไม่นาน ดอกไม้ม่วงที่เหี่ยวเฉา ค่อยฟื้นคืนชีวิตกลับมา มันบาน
สะพรั่งเสมือนได้เกิดใหม่ รากวิญญาณขณะนี้ได้ฉินหยุนรักษาเอาไว้
เขาได้เรียนรู้จากเฟิ งหงหลันและหยวนหยานหยิง ดังนั้นเขาจึงมี
พื้นฐานอยู่ระดับหนึ่ง
เฟิ งหงหลันและหยวนหยานหยิง ทั้งสองขณะนี้อยู่ในตําหนักจันทรา
ทมิฬ และสมควรได้รับหน้าที่ให้ทําการปลูกพืชพรรณโอสถทั้งหลาย
ฉินหยุนพบว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะด้วยความสามารถของพวกนาง
พืชพรรณโอสถที่เหี่ยวเฉาเหล่านี้สมควรรักษาได้อย่างง่ายดาย
“น้องชายช่างวิเศษนัก ถึงขั้นทําสําเร็จในคราวเดียว!” หญิงผมยาว
กล่าวออกด้วยความประหลาดใจไม่น้อย
ขณะนี้เอง ชายคนหนึ่งในชุดสีเขียว ผู้ซึ่งเพิ่งก้าวเดินขึ้นบันไดมา
พลันแค่นเสียงพร้อมโบกพัดในมือ “ก็แค่กลหลอกเด็ก!”
ได้เห็นอีกฝ่ ายปรากฏตัว คนสวนโอสถเฒ่าชราหลายคนต่างเดินเข้า
ไปแสดงความนับถือ
“นายน้อยเหลียว ได้ยินว่าท่านเพิ่งก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่
เก้า และยังเอาชนะศิษย์ลําดับที่สิบของตําหนักพฤกษาดวงดาว ถือว่า
เป็ นเรื่องวิเศษยิ่งนัก!”
“สมแล้วที่เป็นหลานคนโตของผู้อาวุโสใหญ่แห่งตําหนักพฤกษา
ดวงดาว พรสวรรค์ท่านช่างมากล้น!”
“คุณชายเหลียว ท่านครอบครองวิญญาณยุทธ์แปรสภาพสีแดง
ความสามารถในการรักษาย่อมดีกว่าผู้ใด ในรุ่นเดียวกัน ย่อมไม่มี
ผู้ใดสามารถเทียบเปรียบท่านได้!”
เมื่อหญิงสาวจากสามสํานักจันทราได้พบเหลียวฉงเจิ้ง จิตสังหาร
ของพวกนางขณะนี้ค่อยเลือนหาย
จากเรื่องนี้ ก็เป็นการบ่งบอกแล้วว่าเหลียวฉงเจิ้งเป็นผู้มีความสามารถ
เพียงใด!
เหลียวฉงเจิ้งครอบครองใบหน้าหล่อเหลา ขณะนี้เผยความอหังการ
ยิ้มออกอย่างภาคภูมิ “พวกเจ้าทั้งหมดล้วนมาทดสอบที่ตรงนี้ เพื่อได้
เป็นคนสวนโอสถใช่หรือไม่? นี่เป็นเพียงหนทางเดียวหากพวกเจ้า
คิดเข้าร่วมหุบเขาเซียนโอสถ กระนั้น หากได้เข้าไปแล้ว ชะตาใน
ชีวิตที่เหลือก็ต้องเป็นคนสวนโอสถไปทั้งชีวิต!”
“สําหรับข้า ศิษย์นอกของหุบเขาเซียนโอสถ ย่อมใช้เวลาอีกไม่นาน
จึงค่อยได้เป็นศิษย์หลัก!”
เขาได้เห็นบรรดาคนสวนโอสถต่อสู้กันแทบตาย เพื่อตําแหน่งคนสวน
โอสถในหุบเขาเซียนโอสถ มันยิ่งทําให้เขารับรู้ถึงความเหนือกว่า
อย่างมากลํ้า
ฉินหยุนมองทางเหลียวฉงเจิ้ง ก่อนจะทําการรักษาเมล็ดพันธุ์ที่เหี่ยว
เฉาต่อไปอย่างครํ่าเคร่ง
เขาต้องจัดการสามกล่องหยกตรงหน้า แต่ละกล่องบรรจุสมุนไพร
โอสถเอาไว้เพื่อรอรับการรักษา ในเมื่อสามสํานักจันทรามาที่นี่เพื่อ
ทําการรักษาพวกมัน พวกนางย่อมต้องคาดหวังนําผลลัพธ์ที่ดีกลับคืน
ไป
เพียงเวลาชั่วครู่ เขาก็รักษาสมุนไพรโอสถไปกว่าสิบต้นแล้ว
“ศิษย์น้องและศิษย์พี่ทั้งหลาย ถึงกับมาโดยไม่บอกต่อข้า หากแจ้งไว้
ก่อน ข้าคงส่งคนไปสร้างความสําราญให้แล้ว!” เหลียวฉงเจิ้งยิ้ม
กล่าว
“พวกเราค่อนข้างเร่งรีบนัก ดังนั้นจึงมุ่งตรงมาเพื่อเรื่องนี้!” หญิงสาว
จากเกาะจันทราปี ศาจ กล่าวออกด้วยนํ้าเสียงไม่สุภาพหรือไม่หยาบ
กระด้างจนเกินไป
ด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบ ศิษย์หญิงจากสามสํานักจันทรา ขณะนี้ไม่
คล้ายมองเหลียวฉงเจิ้งดีเช่นก่อน ขณะนี้จิตสังหารของพวกนาง
คล้ายถูกพยายามยับยั้งเอาไว้
เมื่อคนสวนโอสถผู้อื่นได้พบ ว่าฉินหยุนฟื้นคืนชีพแก่เมล็ดพันธุ์ไป
มากแล้ว พวกเขาค่อยเร่งรีบ ทําการฟื้นคืนชีพให้แก่เมล็ดพันธุ์เหล่านั้น
อย่างไรแล้วพวกเขาก็มีเวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วยาม!
เหลียวฉงเจิ้งพบว่าหญิงสาวเหล่านี้ไม่ไว้หน้าตนเอง ความโกรธจึง
สุมอยู่ภายใน ทว่ามันไม่อาจระเบิดออก
ขณะนี้ คนหนุ่มสาวหลายคนสวมใส่ชุดหรูหราจึงมาถึง พวกเขา
คล้ายมาที่นี่โดยเจาะจง เพื่อรับชมโฉมงามของสามสํานักจันทรา
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ศิษย์หญิงของสามสํานักจันทราล้วนมีชื่อเสียง
โด่งดัง
แน่นอนว่าเหตุผลที่พวกเขาเข้าใกล้ศิษย์หญิงของสํานักจันทรา ก็เพื่อ
คิดใช้เคล็ดวิชาการฝึกฝนร่วมกับพวกนาง
“เหล่าหวง เด็กหนุ่มนี่เป็นใคร? คล้ายเขามีทักษารักษาสมุนไพรโอสถ
ดีไม่น้อย!” เหลียวฉงเจิ้งกล่าว
“นามเขาคือฉินหยุน พื้นเพข้าไม่ทราบนัก โดยสรุป เขาค่อนข้างเป็น
คนที่ดีผู้หนึ่ง และยังเป็นผู้มีความตั้งใจยิ่ง!” ชายชราที่ถูกเรียกหาเป็น
เหล่าหวง คือผู้รับหน้าที่การคัดเลือก เขาเร่งรีบตอบคําถามของ
เหลียวฉงเจิ้ง
“ฉินหยุนหรือ?” เหลียวฉงเจิ้งทวนนามซํ้า จากนั้นจึงหันมองทาง
มิตรสหายตนเอง ทั้งหมดล้วนส่ายหน้า พวกเขาไม่เคยได้ยินนามนี้
มาก่อน
ฉินหยุนเมื่อพบว่าผู้อื่นไม่เคยได้ยินนามตนเอง เขาค่อยรู้สึกสบายใจ
ขึ้นมาก
เพียงไม่นาน หนึ่งชั่วยามจึงผ่านพ้น
ฉินหยุนทําการรักษาเมล็ดพันธุ์ไปมากมาย พวกมันรวมกันแล้วกว่า
เก้าสิบ ถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่ง!
“น้องชายฉินหยุนผู้นี้ เจ้าช่างมีความสามารถในการฟื้นคืนชีพเมล็ด
พันธุ์โอสถลึกลํ้ายิ่งนัก นอกจากนี้ยังอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่
เก้าด้วยอายุเพียงเท่านี้ เจ้าสนใจเข้าร่วมเกาะจันทราปี ศาจของเราเป็น
คนสวนโอสถหรือไม่? พวกเราย่อมไม่ด้อยไปกว่าหุบเขาเซียนโอสถ!”
เสียงหญิงสาวทรงเสน่ห์ในชุดสีชมพูดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มซุกซน
ได้ยินดังนี้ ผู้อื่นล้วนไหวหวั่น เกาะจันทราปี ศาจหาได้เคยอนุญาตให้
ชายใดเข้าร่วมไม่!
ฉินหยุนพอได้ยินเสียงฮือฮาฝูงชน เขาค่อยหัวเราะแห้งรับ “พี่สาว
เกาะจันทราปี ศาจหาได้รับชายใดเข้าไปไม่! อย่าได้หลอกข้าเล่นแล้ว!”
“ไม่ใช่ว่าเป็นการให้เจ้าเข้าไปยังเกาะหลัก แต่มันมีเกาะเล็กใกล้เคียง
เกาะจันทราปี ศาจ เพื่อให้เจ้าได้ใช้เพื่อปลูกพืชพรรณ!” หญิงสาวเผย
เสียงทรงเสน่ห์พลางหัวเราะรับ “อย่าได้ทักท้วงใดแล้ว ติดตามพวก
เรากลับเสียเดี๋ยวนี้!”
หญิงสาวใบหน้ารูปไข่จากตําหนักจันทราทมิฬเผยเสียงหัวเราะเย็น
เยือก “ผู้คนของเกาะปี ศาจจันทราล้วนเป็นปี ศาจดังชื่อ! น้องชาย
เมื่อใดเจ้าไป พวกนางจะกัดกินเจ้าจนถึงขั้นไม่หลงเหลือแม้กระดูก!”
“น้องชาย ทางที่ดีเจ้าควรมายังตําหนักจันทราทมิฬของพวกเรา! การ
เพาะปลูกสมุนไพรลึกลํ้าที่ชายเขาจันทราทมิฬจึงถือว่าดีที่สุด!”
“เช่นนั้นสนใจนครจันทราอัคคีหรือไม่! ไม่ว่ามีเงื่อนไขใด พวกเรา
ล้วนยอมรับ!” หญิงสาวชุดสีแดงจากนครจันทราอัคคีเร่งรีบตะโกน
อย่างไม่น้อยหน้า
ฉินหยุนถึงขั้นคิดอยากสลัดหลุดให้พื้นที่ตรงหน้า หญิงสาวเหล่านี้
กําลังคิดใช้เขาเป็นข้ออ้างหาทางเอาชัยชนะกันเอง
คนสวนโอสถที่เหลือ ขณะนี้บังเกิดความริษยา อย่างไรแล้ว สาม
สํานักจันทราย่อมมีการดูแลที่ดีเยี่ยม ทั้งนี้อีกฝ่ ายยังจะได้อยู่ใกล้ชิด
หญิงงามมากหน้าหลายตา
โดยเฉพาะเด็กหนุ่มหัวกะทิอย่างเหลียวฉงเจิ้ง เขาคือผู้ที่บังเกิดความ
ริษยามากล้นที่สุดแล้ว เพราะหาได้มีศิษย์หญิงใดของสํานักเหล่านั้น
เห็นหัวเขาไม่
“เขารักษาเมล็ดพันธุ์โอสถลึกลํ้ากว่าเก้าสิบต้นในหนึ่งชั่วยาม ความ
สามารถนี้เรียกได้ว่าดาษดื่นนัก! ข้าย่อมรักษาได้มากกว่าล้นพ้นด้วย
ซํ้า! นี่ทําให้ข้าเกิดความสงสัย ว่าพวกเจ้าแท้จริงสู้กันเพื่ออันใดกัน
แน่!” เหลียวฉงเจิ้งเผยเสียงขื่นขมดังออกมา
“หากท่านเป็นคนสวนโอสถ พวกเราย่อมคิดอยากได้ตัวท่าน! แต่ตัว
ท่านขณะนี้ นายน้อยเหลียว ท่านเป็นถึงศิษย์นอกของหุบเขาเซียน
โอสถไปแล้ว!” เสียงหญิงสาวทรงเสน่ห์จากเกาะจันทราปี ศาจดัง
ตอบ มันแฝงไว้ด้วยร่องรอยความเดียดฉันท์
ฉินหยุนเร่งรีบกล่าว “ขอบคุณทุกท่านแล้วที่คาดหวังในตัวข้าสูงนัก!
ข้าขณะนี้ตัดสินใจเข้าร่วมหุบเขาเซียนโอสถไปแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่
ต้องขออภัย!”
“เขาหาได้มีความทะเยอทะยานใดไม่ ที่ต้องการก็เพียงแค่เป็นคน
สวนโอสถ!” เหลียวฉงเจิ้งแค่นเสียง “เอาละ ในเมื่อเจ้าคิดอยากเข้า
หุบเขาเซียนโอสถ เช่นนั้นข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเอง!”
เมื่อหญิงสาวจากสามสํานักจันทราได้เห็นเช่นนี้ พวกนางจึงทราบ ว่า
อนาคตของฉินหยุนในหุบเขาเซียนโอสถย่อมไม่ราบรื่นแล้ว พวก
นางได้แต่คิดพยายามช่วยฉินหยุนเอาไว้ เพื่อให้อีกฝ่ ายได้มีโอกาสที่
ดีในฐานะคนสวนโอสถ
กระนั้น พวกนางทั้งหมดล้วนถูกฉินหยุนปฏิเสธ!
เหลียวฉงเจิ้งมองทางเหล่าหวงด้วยสายตามุ่งร้าย ขณะนี้ไม่ทราบว่า
เหล่าหวงคิดวางแผนทําอันใด
“ในรอบที่สองนี้ ยังคงเป็นการรักษาสมุนไพรโอสถลึกลํ้า แต่ครั้งนี้
การรักษาจะยิ่งยากขึ้น!” ขณะเหล่าหวงกล่าวคํา เขานําเอากล่อง
ออกมายี่สิบ ทั้งหมดล้วนบรรจุเอาไว้ซึ่งสมุนไพรโอสถลึกลํ้าสีดํา
“พวกมันทั้งหมดนี้ คือเมล็ดพันธุ์โอสถลึกลํ้าที่ติดพิษ!” เหล่าหวง
กล่าว “ห้าคนที่รักษาได้สําเร็จ จะได้ผ่านเข้าสู่รอบถัดไป!”
ฉินหยุนเข้าไปรับเอากล่องหนึ่งโดยทันที
ทางด้านศิษย์หญิงของสามสํานักจันทรา เหลียวฉงเจิ้งและคณะ พวก
เขายังคงอยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดอยากเห็น ว่าเด็กหนุ่มนาม
ฉินหยุน จะสามารถเป็นคนสวนโอสถของหุบเขาเซียนโอสถได้
หรือไม่!
ฉินหยุนเร่งรีบกําจัดพิษภายในโสมไข่มุกสีดํา ทั้งนี้ มันยังฟื้นคืน
กลับเป็นสีทองอย่างรวดเร็ว นี่ถือเป็นการรักษาที่รวดเร็วมากลํ้ายิ่ง
เหตุการณ์นี้ ทําให้บรรดาศิษย์หญิงของสํานักจันทราทั้งสามต้องร้อง
อุทานออก!
เหลียวฉงเจิ้งยังเผยความประหลาดใจต่อความเร็วนี้ กระทั่งว่าเป็น
เขา มันก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วยาม!
ฝูงชนรอคอยจนครบหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดคนที่ห้าก็ทําการรักษาและ
กําจัดพิษได้สําเร็จ
ขณะนี้เข้าสู่รอบสุดท้ายแล้ว!
“รอบสุดท้ายถือเป็ นเรื่องยากของจริง พวกเจ้าแต่ละคนจะได้รับ
เมล็ดพันธุ์ ผู้ใดสามารถทําให้เมล็ดพันธุ์งอกออกมาได้รวดเร็วที่สุด
ผู้นั้นจึงมีคุณสมบัติได้เป็นคนสวนโอสถของหุบเขาเซียนโอสถ!”
เหล่าหวงส่งมอบเมล็ดพันธุ์สีดําให้แก่ฉินหยุนและคณะ
เมื่อเหลียวฉงเจิ้งได้เห็นเมล็ดพันธุ์ที่ถูกส่งมอบ รอยยิ้มพึงใจจึงฉาย
ชัดที่ใบหน้า!
ฉินหยุนรับเมล็ดพันธุ์มา ทราบว่ามันหมดอายุขัยแล้ว ภายในไม่มี
เหลือแม้ร่องรอยของชีวิต!
“สารเลวนัก เป็ นเราถูกจัดฉาก!”
ฉินหยุนสบถกราดเกรี้ยวภายใน นับตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้
กล่าวคําใดต่อเหลียวฉงเจิ้ง แต่แล้ว อีกฝ่ ายกลับบังเกิดความริษยาต่อ
ตัวเขา
บรรดาศิษย์หญิงจากสามสํานักจันทรา ล้วนกล้าพูดกล่าว จากสีหน้า
ฉินหยุนบ่งบอกว่าเกิดเรื่องราวผิดปกติขึ้น พวกนางคาดเดาได้ทันที
ว่าเมล็ดพันธุ์ที่อีกฝ่ ายได้รับมีปัญหาแล้ว เรื่องนี้ยิ่งกลายเป็นทําให้
พวกนางเกิดความรู้สึกผิด
พวกนางต่างทราบดี ว่าเป็นเพราะพวกนางคิดแข่งขันแย่งตัวฉินหยุน
จึงทําให้เหลียวฉงเจิ้งบังเกิดความริษยาขึ้นมา