Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 503 หมาป่ าเขาปี ศาจ
ตอนที่ 503 หมาป่ าเขาปี ศาจ
เทียนรั่วเหลิงเจตนาคัดเลือกฉินหยุนเข้าร่วมกลุ่มของนาง เรื่องนี้ทํา
เอาหลายผู้คนถึงกับบังเกิดความไม่เข้าใจในตัวอีกฝ่ าย!
“เทียนรั่วเหลิง เจ้าคิดหยามเหยียดเขาหรือ?” เย่ว์อู่หลันหัวเราะ “นี่
ไม่ดีนัก! นอกจากนี้ เขายังมีเพียงหนึ่งชีพจรวิญญาณ คิดว่ารับตัวเขา
เอาไว้แล้วจะใช้อะไรได้กัน?”
เทียนรั่วเหลิงหาได้แม้ชายตามองเย่ว์อู่หลัน นางเพียงมองที่ฉินหยุน
“ข้าไม่สนว่าเขามีกี่ชีพจรวิญญาณ ตราบเท่าที่ใช้งานได้ เท่านั้นก็พอ!”
ฉินหยุนเดิมคิดฉายเดี่ยว แต่พอได้เห็นหญิงสาวเช่นเทียนรั่วเหลิง
เขากลับเกิดความสนใจในตัวอีกฝ่ ายขึ้นมา
“ย่อมได้ ข้ารับฝ่ ามือเจ้า หวังว่าเจ้าจะพูดจริง!” ฉินหยุนกล่าวเชื่องช้า
ก่อนจะยืนหยัดที่ตําแหน่งเดิม
“ข้าย่อมไม่ใช่คนบ้าเช่นพวกนั้น!” เทียนรั่วเหลิงโพล่งเสียงเบาออกมา
“รับฝ่ ามือ!”
นางออกห่างจากฉินหยุนเพียงไม่กี่เมตร ขณะนี้พุ่งทะยานเข้ามา นาง
ปลดปล่อยออร่าแกร่งกล้า ผลักฝ่ ามือเข้าใส่หน้าอกฉินหยุน การ
ชั่วขณะที่ฉินหยุนเห็นเทียนรั่วเหลิงทะยานเข้าหา ทั้งร่างกายของเขา
เย็นเยียบ ชั้นเยือกแข็งสีแดงปรากฏขึ้นบนพื้นผิวร่างกายของเขา!
ฝ่ ามือที่เย็นเยือก มันปลดปล่อยพลังเต๋าเย็นเยือกออกมา!
นี่ทําให้หลายผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ต่างรับรู้ถึงอากาศเย็นเยือก
ตู้ม!
ฝ่ ามือเย็นเยือกปะทะเข้ากับหน้าอกของฉินหยุน!
รอบข้างขณะนี้กลายเป็นปกคลุมด้วยเกล็ดนํ้าแข็ง
ฉินหยุนยืนหยัดไร้การเคลื่อนไหว ร่างกายนี้ต้านรับฝ่ ามืออีกฝ่ าย
เอาไว้ได้!
ร่างกายของเขา เรียกได้ว่าไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดอย่างแท้จริง!
“ดี เช่นนั้นเจ้าร่วมกลุ่มกับข้า!”
เทียนรั่วเหลิงเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ฝ่ ามือถอนกลับ ดวงตา
ของนางปรากฏความพึงพอใจ
เย่ว์อู่หลัน หยางมู่เทียน และหลงอู่เฉิน ขณะนี้ล้วนสะท้านถึงภายใน!
อีกฝ่ ายถึงขั้นสามารถรับฝ่ ามือของเทียนรั่วเหลิง นี่หมายความถึงฉิน
หยุนมีกําลังทัดเทียมกับนาง!
“หัวหน้า เขามีเพียงหนึ่งชีพจรวิญญาณ นี่จะไม่เป็นปัญหาใดหรือ?”
เยี่ยชี่เฉิงที่ใบหน้าหล่อเหลา ขณะนี้เผยสีหน้าไม่ยินดีออกมา อีกฝ่ าย
ขณะมองที่ฉินหยุน ดวงตานั้นเปี่ ยมด้วยความเหยียดหยามอีกฝ่ าย
เยี่ยชี่เฉิงเป็นบุตรหลานตระกูลเยี่ย เขาเองก็เป็นคนของกลุ่มเทียนรั่ว
เหลิง และเขาผ่านการทดสอบของเทียนรั่วเหลิงมาได้ พละกําลังย่อม
ไม่อ่อนด้อย
“หากเขาแข็งแกร่งจริง เช่นนั้นมีกี่ชีพจรวิญญาณจะมีปัญหาที่ตรง
ใด? ข้าเพียงต้องการเลือกสหายร่วมกลุ่มที่แข็งแกร่ง หาได้ใช่สวะที่
มีชีพจรวิญญาณมากมายแต่ไร้ค่า!” เทียนรั่วเหลิงกล่าวคําเสียงเย็น
หยางมู่เทียนแค่นเสียง “เทียนรั่วเหลิง มาดูกันว่าสหายร่วมกลุ่มของ
เจ้าจะทําเจ้าตกที่นั่งลําบากหรือไม่! อะไรอย่างเช่นหนึ่งชีพจรวิญญาณ
ไม่ใช่สิ่งควรค่าที่เจ้าจะรับเอาไว้!”
หลงอู่เฉินโพล่งเสียง “สาเหตุว่าทําไมเขารับฝ่ ามือจากเทียนรั่วเหลิง
ก็เพราะมีชุดเกราะเต๋าที่กาย! หาได้ใช่กําลังอันแข็งแกร่งของเขา!”
ชุดเกราะเต๋า!
เรื่องนี้ทําเอาหลายผู้คนร้องออกอย่างตื่นตระหนก!
หลากหลายผู้คนขณะนี้ ต่างเผยสีหน้าละโมบกันออกมา
แม้เป็นแดนวิญญาณอ้างว้าง ชุดเกราะเต๋าก็ยังเป็นสิ่งลํ้าค่า!
“เขาใช้อุปกรณ์เต๋าเพื่อผ่านการทดสอบมาได้! นี่ไม่ยุติธรรมแล้ว!”
คนหนึ่งร้องทักท้วงดังขึ้น
“หากเจ้ามีก็จงใช้ อย่าได้พูดจามากความ!” ชายวัยกลางคนชุดดําคน
หนึ่งเผยเสียงเย็น
“ครอบครองชุดเกราะเต๋า ก็ถือเป็นความแข็งแกร่งส่วนบุคคลประการ
หนึ่ง! แม้พวกเราเป็นศิษย์ห้าตระกูลใหญ่ ก็หาได้มีมันในครอบครอง
ไม่!” เย่ว์อู่หลันขณะนี้เคลื่อนสายตามองทางฉินหยุนด้วยอารมณ์ที่
แปรเปลี่ยน
กระนั้น ฉินหยุนหาได้สนใจนางไม่!
หลงอู่เฉินและหยางมู่เทียน ขณะนี้เกิดความไม่สบายใจรุนแรง นี่ก็
เพราะพวกเขาเพิ่งปล่อยบุคคลที่ครอบครองชุดเกราะเต๋าหลุดมือไป!
“ชุดเกราะเต๋าของเขาย่อมต้องเป็นการฉกชิงมา!” หลงอู่เฉินเผยเสียง
เดียดฉันท์ “สําหรับมัน ปลดปล่อยพลังของชุดเกราะเต๋าออกมาได้
สักหนึ่งในสิบ ก็ถือว่าดีมากล้นแล้ว!”
“จงระวังสิ่งลํ้าค่าของเจ้าเอาไว้ให้ดี!” หยางมู่เทียนมองที่ฉินหยุน
เสียงหัวเราะของเขาดังออกอย่างโฉดชั่ว
หลายผู้คนขณะนี้ต่างมองฉินหยุนประหนึ่งหมาป่ าคิดล่าเหยื่อ พวก
เขาคิดอยากถลกเอาชุดเกราะอีกฝ่ ายออกมา!
คนในกลุ่มยังมีอีกหนึ่ง นามว่าตงฟางเฉ่า รูปลักษณ์ของเขาหาได้
หล่อเหลาอันใดนัก
ทว่า เขาครอบครองใบหน้าเหลี่ยม ทําให้ผู้คนรู้สึกเกิดความวางใจ
ขึ้นมาได้
อย่างรวดเร็ว เขานําเอาชุดคลุมสีทองหรูหราออกมาสวมใส่ เผยออก
ซึ่งออร่าของชนชั้นสูง
ตงฟางเฉ่ายิ้ม “ถึงกับมีพลังระดับนี้ด้วยหนึ่งชีพจรวิญญาณ นี่จึง
เรียกว่าพละกําลังแท้จริง! ข้าตงฟางเฉ่า ให้ข้าเรียกหาเจ้าอย่างไรดี?”
“ฉินหยุน!” ฉินหยุนเกิดความประทับใจที่ดีต่อตงฟางเฉ่า ดังนั้นเขา
จึงตอบคําอีกฝ่ ายอย่างไม่อิดออด
ได้ยินสองคํา “ฉินหยุน” กลุ่มคนขณะนี้ถึงขั้นเผยความตื่นตะลึง!
“นั่นเป็นคนที่ตบหน้าเหลียวฉงเจิ้งงั้นหรือ?”
“เหลียวฉงเจิ้งแห่งนครพฤกษาโบราณ ถูกบุคคลนามฉินหยุนตบเข้า
ที่ใบหน้า กระนั้นเขากลับไม่ยอมรับว่าเป็ นเรื่องที่เกิดขึ้น นี่เป็นผู้อื่น
กล่าวอีกทีหนึ่ง!”
“ดูเหมือนจะเป็ นเรื่องจริง ฉินหยุนผู้นี้สมควรมีพลังให้ทําเรื่อง
ดังกล่าวได้!”
“สวรรค์! เหลียวฉงเจิ้งเป็นศิษย์สํานักเซียน เขาย่อมต้องคิดหาทางแก้
แค้นอีกฝ่ ายในภายหน้าแน่!”
“ชายผู้นี้ช่างโชคร้ายนัก ถึงขั้นไปหาเรื่องกับคนเช่นเหลียวฉงเจิ้ง!”
การได้เข้าร่วมสํานักเซียน ถือเป็นความฝันสูงสุดของบรรดาบุตร
หลานตระกูลชนชั้นสูง
กระทั่งว่าเหลียวฉงเจิ้งเป็นศิษย์นอกของสํานักเซียน แต่เขาเป็นบุตร
หลานของตระกูลที่เหนือลํ้า ดังนั้นจึงเป็นตัวตนที่ผู้คนต้องแหงน
หน้าขึ้นมอง!
ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวแปลก ความจริงต่อเรื่องราวของเขาในแดน
ยุทธ์อ้างว้าง คล้ายยังไม่มาถึงกลุ่มคนเหล่านี้
เขาเกิดความสงสัยขึ้น ว่ากลุ่มคนที่ไปยังแดนยุทธ์อ้างว้างเหล่านั้น
ไม่ใช่คนของแคว้นมหาดวงดาว
และดูเหมือน ผู้อาวุโสบางคนที่มีสถานะสูงส่งของแดนวิญญาณ
อ้างว้าง คิดปิ ดบังต่อเรื่องราวนี้เอาไว้
ในช่วงบ่าย ชายชราชุดดํานําเอาเรือบินออกมา นําพาผู้คนออกจาก
นครดาบกระบี
เรือบินลํานี้ความเร็วเลิศลํ้า เพียงช่วงเย็น ก็นําพาทุกคนมาถึงภูเขาที่
โดดเดี่ยวแห่งหนึ่ง
นครดาบกระบี่อยู่ไม่ไกลจากแดนอสูรอ้างว้าง ดังนั้นพวกเขาจึง
มาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว
ที่ทางเข้าเขตแดนอ้างว้างปี ศาจแดง มันมีม่านแสงสีแดงปรากฏอยู่
ชายชราชุดดํากล่าวคํา “หลังจากนี้สิบวัน จงออกมาเมื่อถึงเวลา และ
นั่นคือจุดสิ้นสุดของการทดสอบ!”
ผู้เข้าร่วมทดสอบทั้งหมด ขณะนี้ก้าวเดินผ่านเข้าม่านแสงสีแดง ออก
เดินทางสู่เขตแดนอ้างว้างปี ศาจแดง
ที่นี่คือเขตแดนอ้างว้าง ที่ครอบครองโดยหอขุนเขาดาบกระบี่ มีแต่
หอขุนเขาดาบกระบี่อนุญาต จึงค่อยสามารถเข้ามาได้
“เทียนรั่วเหลิง จับตาดูคนกลุ่มของเจ้าเอาไว้! ไม่เพียงแต่สวมใส่ชุด
เกราะเต๋า แต่ยังมีเรื่องกับเหลียวฉงเจิ้ง หลายคนต้องคิดอยากสังหาร
อย่างแน่นอน!” เย่ว์อู่หลันตะโกนดัง
“ผู้ใดคิดสังหารสหายร่วมกลุ่มข้า เช่นนั้นก็ต้องสังหารข้าก่อน!”
เทียนรั่วเหลิงเผยเสียงเย็นเยือก จิตสังหารปลดปล่อยไม่คิดปิ ดบัง
สายตาขณะนี้มองทางหลงอู่เฉินและหยางมู่เทียน
อย่างรวดเร็ว กลุ่มทั้งหมดได้เข้าสู่ป่ าโบราณของเขตแดนอ้างว้าง
ปี ศาจแดง พวกเขาเริ่มกระจายตัวกันออกค้นหาหมาป่ าเขาปี ศาจ
หมาป่ าเขาปี ศาจที่นี่มีมากมาย เพราะที่เขตแดนอ้างว้างปี ศาจแดง
แห่งนี้ มันมีนํ้ามันสัตว์จํานวนมหาศาล ที่จะช่วยให้กําเนิดฝูงสัตว์
อสูรแข็งแกร่งขึ้นมาได้
หมาป่ าเขาปี ศาจ เป็นสัตว์อสูรลึกลํ้า กระทั่งว่าเป็นผู้ฝึกตนที่เพิ่งก้าว
สู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ คิดล่ามันยังต้องถี่ถ้วนและระมัดระวัง
การล่าหมาป่ าเขาปี ศาจ ถือเป็นงานอันตรายอย่างยิ่ง!
กระทั่งว่าเป็นกลุ่มผู้ฝึกตนแข็งแกร่งร่วมมือกัน ก็ยังไม่อาจจัดการ
พวกมันได้โดยง่าย
เยี่ยชี่เฉิงมองทางฉินหยุนพร้อมกล่าวปรามาส “มีชุดเกราะเต๋าแล้ว
อย่างไร? มันใช้ต่อสู้ไม่ได้!”
“หัวหน้า พวกเรามีคนไม่มากตั้งแต่แรกเริ่ม เหตุใดจึงต้องลากถ่วง
พวกเราลงไปเช่นนี้ด้วยกัน?”
เยี่ยชี่เฉิงเผยความไม่พอใจต่อฉินหยุนอย่างเต็มที่ ร่องรอยความเป็น
ปฏิปักษ์ของอีกฝ่ ายเผยเด่นชัด
“เยี่ยชี่เฉิง ด้วยกําลังเจ้า สมควรสามารถเข้าร่วมกลุ่มอื่นได้! เหตุใด
เจ้าไม่ชอบกลุ่มนี้แต่ยังอยู่ต่อ?” ตงฟางเฉ่ายิ้มกล่าว “เจ้าไม่ใช่ว่า
ต้องการเกาะชายเสื้อหัวหน้าหรอกหรือ?”
เทียนรั่วเหลิงเผยใบหน้าเย็นเยือกกล่าวคํา “อย่าได้พูดคุยมากความ
แล้ว ไป!”
ฉินหยุนไม่กล่าวคําใด ได้แต่ลอบตั้งระวังต่อเยี่ยชี่เฉิงเอาไว้!
ช่วงเย็น หมาป่ าเขาปี ศาจมักออกมาล่าหาอาหาร
หมาป่ าเขาปี ศาจอาศัยอยู่กันเป็นฝูง ทว่าก็มีพวกที่สันโดษ แต่ก็มี
เพียงน้อยนิด
เป้าหมายของกลุ่มขนาดเล็ก ย่อมต้องเป็นหมาป่ าที่อยู่โดดเดี่ยว!
ช่วงเย็นผ่านพ้นรวดเร็ว ภายในป่ าโบราณหนาทึบ มันเต็มไปด้วย
ต้นหญ้าสูง ทําการปิ ดบังแมลงมีพิษเอาไว้
กลางดึกที่มืดมิด…
ภายในป่ า พอคิดว่ามีแมลงพิษสารพัดชนิดคงอยู่ มันก็ยิ่งชวนน่ากลัว
และขนลุกขึ้นเรื่อย ๆ
เทียนรั่วเหลิงเดินนําหน้า นางใช้พลังความเย็นของนาง ทําการขับไล่
แมลงมีพิษนานาชนิดให้ถอยพ้นทางที่เดินผ่าน
ท่ามกลางความมืด นางถือหินเรืองแสงสาดส่องในป่ า หาได้หวั่น
เกรงว่าจะเป็นการดึงดูดสัตว์ใดให้เข้าโจมตีไม่
ตงฟางเฉ่าเดิมผ่อนคลายยิ่ง แต่แล้วขณะนี้ สีหน้าของเขากลับ
กลายเป็นเคร่งเครียด
ทางด้านเยี่ยชี่เฉิง เขามีแต่ร่องรอยความไม่ยินดีประดับที่ใบหน้ามา
ตลอดทาง!
“อย่าได้สังหารสัตว์อสูรลึกลํ้าตัวอื่น หากหมาป่ าเดียวดายพวกนั้น
สัมผัสตัวตนพวกเราได้ พวกมันย่อมต้องหนีหายไปไกลแน่!” ฉินหยุน
กล่าวเสียงเบา
“เจ้าทราบวิธีค้นหาหมาป่ าเขาปี ศาจที่อยู่เดียวดายหรือ?” เยี่ยชี่เฉิง
โพล่งเสียงดังขึ้น “เจ้าหาได้ทําอันใดไม่ จงหุบปากแล้ว! เจ้าก็เพียง
แต่คิดใช้พวกเราหาผลประโยชน์เข้าตนเอง!”
ฉินหยุนไม่ส่งเสียงใดตอบ เพราะเทียนรั่วเหลิงกําลังมองมาทางนี้
เขาย่อมต้องไว้หน้าแก่เทียนรั่วเหลิง
ไม่อย่างนั้น เขาคงหันกลับไปฉายเดี่ยวนานแล้ว!
“เยี่ยชี่เฉิง จงสุภาพกว่านี้!” ด้วยสีหน้าเย็นเยือก เทียนรั่วเหลิงกล่าว
คําออก “ฉินหยุนเข้าร่วมกลุ่มเพราะข้าตัดสินใจ! ในเมื่อเจ้าเลือกเข้า
ร่วมกลุ่มกับข้า ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของข้า!”
เยี่ยชี่เฉิงพอมองสบตาฉินหยุน ความรู้สึกโกรธเกลียดยิ่งปะทุภายใน
ดวงตา สีหน้าขณะนี้กลายเป็นดํามืด
“หัวหน้า ข้ามียันต์ที่สามารถตามรอยสัตว์อสูรได้! แต่ ข้าไม่รับประกัน
ว่ามันจะเจาะจงไปค้นหาหมาป่ าเขาปี ศาจนั่นได้หรือไม่!”
ฉินหยุนโพล่งเสียงกล่าวขึ้น
ขณะนี้ สิ่งสําคัญคือต้องเข้าร่วมหอขุนเขาดาบกระบี่ให้จงได้!
ตราบเท่าที่ได้เข้าร่วมหอขุนเขาดาบกระบี่ เรื่องราวเล็กน้อยไว้ค่อย
สะสางภายหน้ายังได้!
“รีบนํามันออกมาแล้ว!” เทียนรั่วเหลิงเผยความยินดีปรากฏผ่าน
ดวงตาเย็นเยือก
ฉินหยุนส่งยันต์ไล่ล่าอสูรให้แก่เทียนรั่วเหลิง “หัวหน้า หากพบเจอ
ฝูงหมาป่ า อย่าได้กล่าวโทษข้า!”
“ข้าย่อมไม่คิดกล่าวโทษเจ้าอยู่แล้ว!” เทียนรั่วเหลิงใช้งานยันต์ ทํา
การติดตามยันต์นั้นไป
เพียงไม่นาน ออร่าของสัตว์อสูรจึงปรากฏให้พวกเขาสัมผัสอย่าง
เด่นชัดที่ตรงหน้า!
เทียนรั่วเหลิงเร่งรีบเก็บยันต์ไล่ล่าอสูร ส่งคืนแก่ฉินหยุนพร้อมกล่าว
“เป็นหมาป่ าเดียวดาย ได้เรื่องแล้ว!”
แม้เผชิญหน้ากับหมาป่ าเขาปี ศาจระดับลึกลํ้า เทียนรั่วเหลิงก็หาได้มี
ความหวั่นเกรงใดไม่!
หมาป่ าเขาปี ศาจ ขณะนี้อยู่ห่างทางด้านหน้าของพวกเขากว่าร้อยเมตร
ขนาดตัวไม่ถือว่าใหญ่นัก ตัวมันยาวเพียงสามเมตร เรียกได้ว่าค่อนข้าง
เล็กหากเทียบกับสัตว์อสูรตัวอื่น
ร่างกายของมันปกคลุมด้วยเกราะสีดํา และยังมีเขายาวราวครึ่งเมตร
ที่หัว จากที่เห็น มันสมควรมีความคมอย่างยิ่ง!
เทียนรั่วเหลิงเป็นฝ่ ายเปิ ดฉากโจมตีก่อน!
นางกวัดแกว่งกระบี่ยาวสีดําในมือราวแสงวูบ
ชั่วขณะที่สับฟันออก พลังเยือกแข็งแกร่งกล้าจึงปกคลุมพื้นที่กว่าสิบ
เมตรเอาไว้
ฉินหยุนรับรู้ถึงความเย็นเสียดแทงกระดูกแม้อยู่ห่างจากนางนับร้อย
เมตร!
หมาป่ าเขาปี ศาจคิดอยากฉีกกระชากร่างเทียนรั่วเหลิงด้วยเขาที่หัว
กระนั้นร่างกายมันไม่อาจขยับ มันถูกนํ้าแข็งผนึกกายเอาไว้!
ซึบ!
กระบี่ในมือเทียนรั่วเหลิงสับฟันลง จิตสังหารของนางระเบิดออก
พร้อมกันนี้
ความเย็นเยือกชวนขนลุกแผ่ขยายรุนแรง!
กระบี่ในมือนางสับฟันผ่านนํ้าแข็ง พาดผ่านเข้าที่เกราะสีดําของหมา
ป่ าเขาปี ศาจ ทําให้เกิดประกายไฟลอยลิ่วกระเด็นเต็มพื้นที่!
เกราะสีดําของหมาป่ าเขาปี ศาจ เรียกได้ว่าทนทานมหาศาล!
กระบี่ของนางเย็นเยียบเปรียบดังนํ้าแข็งแห่งสวรรค์ แต่ด้วยมันเป็น
เพียงแค่อาวุธวิญญาณ จึงไม่มีทางผ่าร่างของหมาป่ านั้นขาดได้!
ครานี้ ตงฟางเฉ่าเร่งรีบทะยานเข้าไป
ดาบยาวของเขา เสียบแทงเข้าใส่ที่ดวงตาของหมาป่ าเขาปี ศาจ!
หมาป่ าเขาปี ศาจหอนร้องดัง ปลดปล่อยออร่าอสูรระเบิดทะลัก ทํา
การสลัดเกล็ดนํ้าแข็งตามร่างกายออก
ฉินหยุนถือกระบี่ใหญ่ลึกลํ้าในมือ เข้าสับฟันลงจากฟากฟ้าด้านบน
เขาใช้วิชาวายุสังหารกระบวนท่าทลายภูผา สับฟันลงมาเข้าใส่ที่คอ
ของหมาป่ าเขาปี ศาจ!
อย่างไรแล้ว สิ่งนี้ก็เป็นกระบี่ใหญ่ระดับลึกลํ้า ดังนั้นมันจึงสามารถ
ทะลวงเกราะหนาสีดําของหมาป่ าเขาปี ศาจ จนร่างนั้นล้มลงกับพื้น
เกิดเป็นหลุมยุบ!
“ข้าจัดการแช่แข็งมันต่อให้เอง!” ได้เห็นหมาป่ าเขาปี ศาจพยายามดิ้น
รน เทียนรั่วเหลิงจึงตะโกนร้องบอก
คลื่นพลังเย็นเยือกรุนแรง เข้าผนึกการเคลื่อนไหวของหมาป่ าเขา
ปี ศาจ
ฉินหยุนสบโอกาส จึงสับฟันลงรุนแรงหลายครั้ง หัวของหมาป่ า
ขณะนี้ถูกบั่นออกมาแล้ว!