Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 504 สุนัขที่ภักดี
ตอนที่ 504 สุนัขที่ภักดี
ขณะมองที่หัวหมาป่ าซึ่งร่วงหล่น ทั้งเทียนรั่วเหลิงและตงฟางเฉ่า
ต่างเผยความตื่นตะลึง
เมื่อครู่ เทียนรั่วเหลิงเองก็คิดอยากสับฟันบั่นเอาหัวหมาป่ าออกมา
กระนั้น เกราะที่ร่างของหมาป่ าเขาปี ศาจกลับแข็งแกร่งจนเกินไป ทํา
ให้ยากต่อการฟันให้ขาด
แต่แล้วด้วยเพียงการสับฟันไม่กี่ครั้ง ฉินหยุนกลับทําการตัดเอาหัว
หมาป่ าออกมาได้อย่างง่ายดาย
“กระบี่ที่ดี!” ตงฟางเฉ่าหัวเราะดังจากใจ “ต้องพูดกล่าวกันเลย หัวหน้า
มีสายตาที่ดีนัก ถึงกับดึงเจ้าเข้ามาร่วมกลุ่มได้ นับเป็นโชคดีประการ
หนึ่งแล้ว!”
แม้เทียนรั่วเหลิงไม่กล่าวคําใด แต่นางก็เชื่อ ว่าการนําฉินหยุนเข้า
ร่วมกลุ่มถือเป็นการอํานวยความสะดวกอย่างมหาศาล
เพื่อจัดการหมาป่ าเขาปี ศาจ หากไม่มีอาวุธที่ดี ย่อมเป็ นเรื่องยากลําบาก
ทั้งนี้ ฉินหยุนยังยินดีให้หยิบยืมยันต์ไล่ล่าอสูร ทําให้ทั้งกลุ่มสามารถ
พบเจอหมาป่ าเขาปี ศาจได้อย่างรวดเร็ว
เยี่ยชี่เฉิงรับชมอยู่ไกลออกไป ขณะนี้นํ้าเสียงแค่นออกด้วยความ
กระนั้นที่ดวงตา กลับเปี่ ยมด้วยความริษยาและละโมบ
ชุดเกราะเต๋า และกระบี่ลึกลํ้า ทั้งสองล้วนเป็นวัตถุลํ้าค่า
อย่างดี พวกเขาก็เพียงได้ครอบครองอาวุธวิญญาณระดับราชัน
มีแต่ศิษย์ที่พรสวรรค์มากลํ้าอย่างถึงที่สุดของจริง จึงสามารถได้
ครอบครองอุปกรณ์ลึกลํ้า
และมีเพียงอยู่ในสถานการณ์พิเศษ บรรพบุรุษของตระกูลจึงจะยอม
ให้หยิบยืมอุปกรณ์เต๋าออกมาใช้งาน
เทียนรั่วเหลิงขณะนี้เก็บหัวหมาป่ าไว้ ส่วนร่างกาย นางหาได้
ต้องการไม่
กระดูกและเกราะของสัตว์อสูรลึกลํ้าถือเป็นวัสดุลํ้าค่า เหมาะแก่การ
นําไปขัดเกลาเป็นอุปกรณ์ลึกลํ้า
ฉินหยุนครอบครองอุปกรณ์มิติเก็บของมากมาย ดังนั้นจึงไม่หวั่น
เกรงเรื่องพื้นที่ และเก็บเอาร่างหมาป่ าไปแต่เพียงผู้เดียว
“ไปกันต่อ!” เทียนรั่วเหลิงกล่าวคํา
ฉินหยุนนําเอายันต์ไล่ล่าอสูรออกมาพร้อมกล่าว “หัวหน้า ข้ามอบ
ยันต์นี้ให้แก่ท่านแล้วกัน!”
“ข้าขอซื้อมันที่ห้าแสนเหรียญม่วง!” นางไม่คิดรับของกํานัลจากฉิน
หยุน ทว่า นางมีความต้องการยันต์นี้อย่างแรงกล้า
“ตกลง!” ฉินหยุนเร่งรีบนําเอาบัตรผลึกม่วง รับมาทั้งสิ้นห้าแสน
เหรียญม่วง
“พี่หยุน ยันต์นี้สมควรเป็นสิ่งลํ้าค่ายิ่ง! แม้ตระกูลข้าก็ไม่มียันต์เช่นนี้
ในครอบครอง!” ตงฟางเฉ่ากล่าวชื่นชม “พอจะขายมันให้แก่ข้าได้
หรือไม่? ข้าเสนอให้ที่หกแสนเหรียญม่วง!”
“ตกลง!” ฉินหยุนรับรู้ ว่าตงฟางเฉ่าหาได้ใช่คนเลวร้าย ทั้งนี้เขายัง
ประทับใจแรกพบในตัวอีกฝ่ ายจากการแสดงออก
ตงฟางเฉ่ายิ้มรับ พร้อมเร่งรีบนําบัตรผลึกม่วงออกมา “พี่หยุน ท่าน
สมควรเป็นดาวนําโชคแล้ว! หยางมู่เทียนและหลงอู่เฉิน พวกมัน
ล้วนสายตามืดบอด!”
เทียนรั่วเหลิงมองทางตงฟางเฉ่าเย็นเยือกพร้อมกล่าว “ตงฟางเฉ่า
ยันต์นี้หาได้ยากยิ่ง อย่าได้กล้าดีคิดขายพวกมันเชียว!”
“อย่าได้กังวลไป ข้าย่อมไม่คิดขายอยู่แล้ว!” ตงฟางเฉ่าหัวเราะแห้ง
รับคําหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่าเขาคิดอยากซื้อหามันเก็บไว้ใช้งาน
เอง
“ฉินหยุน ขายให้แก่ข้าสักแผ่นหนึ่ง ข้าให้ที่ห้าแสนเหรียญม่วง!” เยี่ย
ชี่เฉิงเร่งรีบเดินเข้ามา ร้องโพล่งออกด้วยความหิวกระหาย
หากคิดขายมันต่อสักหนึ่งล้านหรือสองล้าน เยี่ยชี่เฉิงย่อมได้รับผล
กําไรก้อนโต
“หมดแล้ว!” ฉินหยุนไม่แม้แต่จะมองหน้าตอบคํา
“บัดซบ เจ้าย่อมต้องมีมันอีก!” เยี่ยชี่เฉิงกลายเป็นมีโทสะ คว้าเข้าที่
คอเสื้อฉินหยุนคิดข่มขู่
“เยี่ยชี่เฉิง ปล่อยมือจากเขา!”
ใบหน้างดงามเย็นเยือกของเทียนรั่วเหลิง ขณะนี้ปลดปล่อยจิตสังหาร
แรงกล้าออกมา
เยี่ยชี่เฉิงปล่อยมือจากฉินหยุนพร้อมกล่าวโกรธเคือง “เทียนรั่วเหลิง
เจ้าจงดูให้ดี มันผู้นี้หาได้เห็นข้าเป็นสหายร่วมกลุ่มไม่!”
“หากเจ้าต้องการยันต์ไล่ล่าอสูร ข้าจะขายมันให้แก่เจ้าเอง!” เทียนรั่ว
เหลิงเผยดวงตาเปี่ ยมด้วยจิตสังหาร มือของนางยื่นส่งยันต์ให้อีกฝ่ าย
เยี่ยชี่เฉิงไม่กล้ารับไว้ ได้แต่กลํ้ากลืนโทสะเก็บลงท้อง
“สวะเช่นมันก็เพียงแค่โชคดีเก็บของตกพื้นขึ้นมาได้!”
เทียนรั่วเหลิงเผยเสียงเย็น “อย่าได้ให้เหตุการณ์เช่นเมื่อครู่เกิดขึ้นอีก
ไม่เช่นนั้น เจ้าก็จงไสหัวไป!”
แน่นอนว่าเยี่ยชี่เฉิงไม่คิดจากไป เพราะเมื่อครู่ เขาได้เห็นกับตาแล้ว
ว่าสามารถจัดการหมาป่ าเขาปี ศาจได้ง่ายดายเพียงใด
แม้ไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็ทราบว่าฉินหยุนคือตัวนําโชคให้กับทั้ง
กลุ่ม
และเรื่องนี้ก็ยังเป็นการเพิ่มพูนโทสะแก่เขา เพราะเขาอิจฉาฉินหยุน
จนแทบตายตก
ไม่เพียงแต่สิ่งของดีงามที่ฉินหยุนครอบครอง แต่ยังอิจฉาฉินหยุน
เพราะได้รับการยอมรับจากเทียนรั่วเหลิง!
เทียนรั่วเหลิงขณะนี้นําเอายันต์ไล่ล่าอสูรออกมา ทําการค้นหาสัตว์
อสูรต่อเนื่อง
“ในเขตแดนอ้างว้างปี ศาจแดงแห่งนี้ มีเพียงแต่หมาป่ าเขาปี ศาจ
หรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามเสียงเบา
“สมควรมีสัตว์อสูรอื่นอยู่ร่วม แต่จํานวนน่าจะน้อยกว่าหมาป่ าเขา
ปี ศาจมากนัก” ตงฟางเฉ่าตอบกลับ
กลางดึก แสงจันทร์และแสงดาวสาดส่องสู่เขตแดนอ้างว้างแห่งนี้ ทํา
การส่องสว่างพื้นที่ให้สามารถมองเห็น
ทว่าในป่ าที่มืดมิดซึ่งแสงไม่อาจส่องถึง ขณะนี้กําลังเกิดความโกลาหล
ขึ้นหย่อมหนึ่ง!
เทียนรั่วเหลิงก้าวเดินนําหน้า นางเร่งรีบเก็บยันต์ไล่ล่าอสูรพร้อม
กล่าวเคร่งเครียด “มีฝูงหมาป่ าตรงหน้า ไปดูสถานการณ์กันก่อน!”
ด้วยกระบี่ยาวในมือ สีหน้าเยี่ยชี่เฉิงแปรเปลี่ยนขณะคิดล่าถอย
อย่างกะทันหัน เขาคล้ายเหยียบอะไรบางอย่างเข้าจนร้องตะโกน
เสียงดัง “งูพิษ!”
เสียงตะโกนนี้ ทําเอาสีหน้าของเทียนรั่วเหลิงแปรเปลี่ยนรุนแรง
ฟุ่ บ ฟุ่ บ ฟุ่ บ!
หมาป่ าเขาปี ศาจฝูงตรงหน้า ขณะนี้สะดุ้งรู้ตัวเข้าปิ ดล้อมพวกเขา
เอาไว้
“เยี่ยชี่เฉิง ตัวบัดซบหน้าโง่!” เทียนรั่วเหลิงสบถด่าออก
“ข้าเพิ่งเตือนเจ้าว่าตรงนี้มีงูพิษ!” ได้เห็นหมาป่ าเขาปี ศาจปิ ดล้อม เยี่ย
ชี่เฉิงถึงกับต้องหลั่งเหงื่อกาฬเย็นเยือกออกท่วมกาย
กระทั่งตงฟางเฉ่าที่สงบมาโดยตลอด ขณะนี้ยังต้องสั่นกลัวขึ้นมา
กระนั้น เขาก็ยังกล่าวออก “วางใจ พวกเราต้องเชื่อใจในความแข็งแกร่ง
ของหัวหน้า นางย่อมต้องนําพวกเราพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้!”
“ไม่ใช่ว่าก็แค่โดนล้อมเอาไว้โดยฝูงหมาป่ าเขาปี ศาจหรือไร? ข้า ตง
ฟางเฉ่าผู้นี้ย่อมไม่คิดหวั่นเกรง!”
แม้กล่าวคําเช่นนั้น แต่ขาของตงฟางเฉ่าก็สั่นไม่หยุด
หมาป่ าเขาปี ศาจมีทั้งสิ้นสิบห้าตัว พวกมันต่างพร้อมโจมตี และตัวที่
ใหญ่ที่สุดตัวหนึ่ง สมควรเป็นจ่าฝูงของพวกมัน!
หมาป่ าเขาปี ศาจปิ ดล้อมฉินหยุนและคณะ พวกมันหอนร้องเสียงตํ่า
จิตสังหารขณะนี้โหมซัดเข้าใส่พวกเขา นี่ยิ่งเป็นการโดนสะกดข่ม
เทียนรั่วเหลิงเผยเสียงเย็น “ข้าคิดแช่แข็งพวกมัน พวกเจ้าทั้งหมดให้
เคลื่อนที่เร็ว ทําการโจมตีหรือไม่ก็สังหารพวกมันโดยเร็ว ข้าไม่อาจ
ถ่วงพวกมันเอาไว้ได้นานนัก!”
นางพอกล่าวคําจบ ทั้งร่างจึงเริ่มปรากฏแสงสีขาวสว่างเรืองรอง
สายนํ้าแข็งส่องสว่างสิบห้าสายพลันปรากฏจากพื้น เข้ารัดพันร่างฝูง
หมาป่ าเอาไว้!
สายนํ้าแข็งเหล่านี้รวดเร็วดังสายฟ้า มันเข้าถึงหมาป่ าเขาปี ศาจทั้งสิบ
ห้าตัวอย่างพร้อมเพรียงกัน!
ในเวลานี้ อากาศเย็นเยือกรอบด้านที่ปรากฏ มันทําให้อุณหภูมิลด
ตํ่าลงเปรียบดังอยู่กลางทุ่งหิมะ!
ทันใดนี้เอง หมาป่ าเขาปี ศาจหอนร้องดัง ร่างกายพวกมันโดนปก
คลุมเอาไว้ด้วยชั้นเยือกแข็ง เป็นการแช่แข็งให้พวกมันไม่อาจไหว
ติงได้ชั่วขณะ!
ฝูงหมาป่ าปรากฏตัว ฉินหยุนคือผู้ตื่นตัวมากที่สุด ขณะนี้ เขาคิด
โจมตีออกอย่างรวดเร็ว!
กายพุ่งทะยาน ปลดปล่อยพลังเต๋าเก้าสมบูรณ์ ผสานเข้ากับกระบี่
ใหญ่เต๋าที่มี สับฟันที่คอของหมาป่ าตัดหัวมันออก!
ทางด้านตงฟางเฉ่า ก็โจมตีออกเช่นกัน ทว่าเขาเพียงแทงทะลุเข้าที่
ดวงตาของหมาป่ า จากนั้นค่อยโจมตีที่หัวพวกมัน
เยี่ยชี่เชิงได้ตงฟางเฉ่าเป็นต้นแบบ ทําการโจมตีเข้าที่ดวงตาพวกมัน
ก่อน จากนั้นค่อยโจมตีที่หัว
แม้พวกเขาอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า แต่ที่พวกเขาเผชิญหน้า
ขณะนี้ คือสัตว์อสูรลึกลํ้า ที่มีพลังทัดเทียมขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
ด้วยไม่มีอาวุธที่ดีในครอบครอง การโจมตีทะลวงการป้องกันของ
สัตว์ลึกลํ้าเป็ นเรื่องยาก
ตงฟางเฉ่ามองทางฉินหยุนอย่างอิจฉา เพราะอีกฝ่ ายตัดหัวหมาป่ าได้
สําเร็จเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้เขาค่อยได้ตระหนัก ว่าตนเองและเยี่ยชี่เฉิงหาได้มีประโยชน์
อันใดต่อกลุ่มไม่!
ฉินหยุนเคลื่อนที่เป็นวงกลม ทําการสับฟันเอาหัวหมาป่ าทั้งหมดให้
ร่วงหล่นได้สําเร็จ!
สัตว์อสูรลึกลํ้าทั้งสิบห้าตัว ขณะนี้เรียกได้ว่าแทบถูกสังหารในพริบตา!
กระทั่งตงฟางเฉ่า ยังพบว่าเรื่องนี้แม้เห็นกับตายังยากจะเชื่อได้ลง!
เพราะเมื่อเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูรลึกลํ้าแข็งแกร่ง มันเป็นสิ่งที่มีแต่
ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณจึงสามารถรับมือได้!
เยี่ยชี่เฉิงมองที่กระบี่ในมือฉินหยุน ความโลภขณะนี้แทบเข้าครอบงํา
จนฉายชัดผ่านดวงตา!
เทียนรั่วเหลิงถอนหายใจเอาลมเย็นออก กล้ามเนื้อของนางเกิดความ
ตึงเครียดไม่น้อย
เมื่อครู่ นางต้องใช้พลังภายในไปอย่างมหาศาล เรียกได้ว่าแทบหมด
สิ้น!
“หัวหน้า!” เยี่ยชี่เฉิงเร่งรีบวิ่งเข้าไปประคองร่าง ทําการถ่ายเทพลัง
ภายในเข้าสู่กายนางเป็นการช่วยเหลือ
ตงฟางเฉ่าเองก็เข้าไปช่วยเหลือโคจรถ่ายเทพลังภายใน
ทางด้านฉินหยุน เขาลงมือเข้าเก็บหัวและร่างของหมาป่ าที่สิ้นชีพ
“ฉินหยุน จงเร่งรีบส่งมอบหัวหมาป่ าเหล่านั้นแก่หัวหน้า!” เยี่ยชี่เฉิง
ร้องตะโกนดัง
“เมื่อหัวหน้าหายดีแล้ว ข้าย่อมต้องส่งมอบให้แก่นาง!” ฉินหยุนกล่าว
ตอบ “พวกเราต้องรีบไปจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็วที่สุด!”
“วาจาที่ไร้สาระ จงรีบนําเอาหัวหมาป่ าเหล่านั้นออกมาวางไว้ที่พื้น!”
เยี่ยชี่เฉิงแค่นเสียงเบา “หากเจ้าคิดหนีไปจะทําอย่างไร?”
“หากปล่อยหัวหมาป่ าวางกับพื้น มันจะเป็นการดึงดูดหมาป่ าเขาปี ศาจ
ใกล้เคียงให้เข้ามาเร็วขึ้น!” สีหน้าฉินหยุนแปรเปลี่ยนขณะกล่าว
เสียงเย็น
เยี่ยชี่เฉิงกล่าวคําจบ ดาบยาวในมือของเขาฉับพลันนี้จ้วงแทงออก
เป้าหมายคือหัวใจของตงฟางเฉ่า ขณะนี้ดาบได้เสียบแทงเข้าไปแล้ว
ด้วยซํ้า!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กะทันหันเกินไป!
ตงฟางเฉ่าตะโกนตะโกนร้องกราดเกรี้ยว “เยี่ยชี่เฉิง นี่เจ้าทําบ้าอะไร!?”
เยี่ยชี่เฉิงเร่งรีบดึงดาบกลับมา พาดผ่านเอาไว้ที่ลําคอของเทียนรั่ว
เหลิง
“ฉินหยุน จงส่งมอบหัวหมาป่ าเหล่านั้น พร้อมทั้งอุปกรณ์เต๋าและ
กระบี่ในมือเจ้า!” เยี่ยชี่เฉิงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
ขณะนี้ เขากําลังใช้มือลูบที่ใบหน้าภูเขานํ้าแข็งงดงามของเทียนรั่ว
เหลิง รอยยิ้มยิ่งมายิ่งเผยความโฉดชั่ว
“เยี่ยชี่เฉิง ปล่อยตงฟางเฉ่าไป!” เทียนรั่วเหลิงมีโทสะ ร่างกายของ
นางถึงขั้นสั่นเทิ้ม
เมื่อครู่นางไปใช้พลังไปมหาศาล ดังนั้นขณะนี้จึงไม่มีแรงต่อต้าน!
“ฮ่าฮ่า เจ้ายังคิดหรือว่าจะรอดพ้น ข้าได้แจ้งต่อพี่ใหญ่หยางแล้ว อีก
ไม่ช้าเขาจะมาถึง!” เยี่ยชี่เฉิงหัวเราะดัง
“เยี่ยชี่เฉิง ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าไม่ยินดีไปจากกลุ่ม เพราะเจ้าเป็น
สุนัขที่ภักดีต่อหยางมู่เทียน!” ตงฟางเฉ่าเผยเสียงโกรธแค้น
เยี่ยชี่เฉิงยิ้มภาคภูมิ “พี่ใหญ่หยางดูแลข้าดีเปรียบดั่งน้องชายคนหนึ่ง!
ข้าเองก็ไม่คิด ว่าตัวตนสวะเช่นมันจะมีของวิเศษในครอบครอง
มากมายเพียงนี้ ผลการเก็บเกี่ยวครั้งนี้เรียกได้ว่ามหาศาลนัก!”
“เยี่ยชี่เฉิง ข้าน่าจะฆ่าเจ้าแต่แรก!”
ฉินหยุนที่เงียบมาตั้งแต่เกิดเรื่อง ขณะนี้เสียงเบากล่าวคําออก
“เจ้าหรือมีความสามารถสังหารข้าได้?” เยี่ยชี่เฉิงหัวเราะดังเหยียดหยัน
“เยี่ยชี่เฉิง เจ้าไม่กลัวตระกูลเทียนทวงหนี้แค้นต่อเจ้าหรือไร?” ตง
ฟางเฉ่าพยายามรักษาตนเองพร้อมตะโกนถามอย่างมีโทสะ
“พวกเจ้าล้วนตายในนี้ ตระกูลเทียนจะรู้อันใด? นอกจากนี้ พี่ใหญ่
หยางยังปรารถนาในตัวเทียนรั่วเหลิงมานานแล้วด้วย! แต่… ข้าคง
ต้องขอลิ้มลองนางก่อน!” เยี่ยชี่เฉิงหัวเราะดัง
“ฉินหยุน สังหารข้าไปพร้อมมัน!” เทียนรั่วเหลิงเผยสีหน้าเย็นเยือก
ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวไม่หวาดเกรง ที่นางแสดงออก มีเพียงแต่โทสะ
และความนึกคิดรังเกียจ
ฉินหยุนนําเอายันต์สะกดกายออกมา พร้อมขว้างปาพวกมันออก
เยี่ยชี่เฉิง ผู้ซึ่งขณะนี้หัวเราะดังจากใจ ร่างกายพลันต้องแข็งค้าง!
ทันทีเมื่อร่างกายแข็งทื่อไม่อาจขยับ ร่างฉินหยุนกลายเป็นภาพติดตา
เข้าสับฟันใส่แขนของเยี่ยชี่เฉิง จากนั้น เขาค่อยจ้วงแทงเข้าที่หน้าอก
ของอีกฝ่ าย!
ฉินหยุนยกกระบี่ใหญ่ในมือขึ้น ปลดปล่อยฝ่ ามือออกเข้าประทับที่
หน้าท้องของเยี่ยชี่เฉิง!
เยี่ยชี่เฉิงที่เดิมอหังการ ขณะนี้กรีดร้องเจ็บปวด ร่างกระเด็นลอยลิ่ว
เข้าปะทะต้นไม้ใหญ่!
“ยันต์… ยันต์สะกดกาย!” เยี่ยชี่เฉิงกระอักโลหิตคําโตออกจากปาก
ร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว
ฝ่ ามือฉินหยุนยกขึ้น คลื่นอากาศรุนแรงถูกปลดปล่อยออก มันเข้า
ปะทะกับร่างเยี่ยชี่เฉิงจนแทบกลายเป็นก้อนเนื้อเหลว ทําการบดขยี้
อีกฝ่ ายจนร่างแหลกเละกับพื้น
“หัวหน้า เอาอย่างไรต่อดี!” ฉินหยุนกล่าวถามอย่างไม่รีบร้อน
ทั้งตงฟางเฉ่าและเทียนรั่วเหลิง ขณะนี้จ้องมองฉินหยุนอย่างไม่
ทราบว่าเมื่อครู่นี้เกิดเรื่องอันใดขึ้น!
โดยเฉพาะเทียนรั่วเหลิง นางคิดว่าเมื่อครู่ถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตนาง
แล้วด้วยซํ้า!
พวกเขาไม่คาดคิด ว่าฉินหยุนจะสามารถแปรเปลี่ยนกระแสนํ้าได้
ง่ายดายเพียงนี้!
“หยางมู่เทียนและคนของมันกําลังมา ออกไปให้พ้นจากที่นี่ก่อน!”
เทียนรั่วเหลิงตัดสินใจอย่างเฉียบขาด
ตงฟางเฉ่าลุกขึ้นยืน “ข้ายังเดินไหว เจ้าช่วยดูแลหัวหน้าแล้ว!”
ฉินหยุนเข้าไปมัดร่างเยี่ยชี่เฉิงเอาไว้ เก็บอีกฝ่ ายสู่มิติเก็บของ จากนั้น
ค่อยจากไปพร้อมตงฟางเฉ่าและเทียนรั่วเหลิง
ทางด้านหยางมู่เทียนที่ได้รับเสียงสื่อสาร เวลานี้กําลังเร่งรีบพุ่งทะยาน
มาด้วยความเร็วสูงลํ้า!
กระนั้น พอมาถึง ที่พบก็เพียงสถานที่เกิดเหตุซึ่งมีฝูงหมาป่ าจํานวน
มากตามกลิ่นเลือดพวกของมันมา เขาจึงได้แต่ต้องเร่งร้อนหลบหนี
อย่างไม่คิดชีวิต