Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 505 กลุ่มคนอันตราย
ตอนที่ 505 กลุ่มคนอันตราย
ในเขตแดนอ้างว้างปี ศาจแดงแห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงหมาป่ าเขาปี ศาจที่
แข็งแกร่ง แต่ยังมีสัตว์ร้ายตัวอื่นที่ยังไม่มีการกล่าวถึงคงอยู่
ฉินหยุนแบกร่างเทียนรั่วเหลิงบนหลัง ฝี เท้ากําลังก้าวเดินออกจาก
สถานที่ซึ่งหยุดพักก่อนหน้านี้
“น้องตงฟาง อาการบาดเจ็บไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ไม่ร้ายแรงอะไร! ข้ายังเคลื่อนไหวได้อยู่!”
ความสามารถในการฟื้นตัวของตงฟางเฉ่าถือว่าน่าทึ่ง หัวใจของเขา
ถูกจ้วงแทงเข้าใส่โดยตรง กระนั้นตอนนี้ยังทําเสมือนคล้ายไม่มีอัน
ใดเกิดขึ้น
เมื่อครู่ เทียนรั่วเหลิงได้ทําการแช่แข็งร่างฝูงหมาป่ าเขาปี ศาจ เป็น
นางใช้พลังอย่างมหาศาล ทําให้ไม่อาจฟื้นคืนได้ในระยะเวลาอันสั้น
“หยางมู่เทียน ตัวสารเลวนั่น แท้จริงส่งเยี่ยชี่เฉิงมาคิดอ่านวางแผน
ต่อข้า!”
เมื่อเทียนรั่วเหลิงนึกย้อนถึงเรื่องราวนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเผยโทสะออก
ฉินหยุนขณะนี้ค่อยปล่อยร่างของเยี่ยชี่เฉิงออกมา!
เยี่ยชี่เฉิงถูกพันธนาการเอาไว้ ร่างกายนอนกับพื้น เขาพยายามดิ้นรน
พร้อมกรีดร้อง
“หัวหน้า ข้ายกไอ้สารเลวนี้ให้ท่านจัดการแล้ว!” ฉินหยุนจิกทึ้งที่
เส้นผมเยี่ยชี่เฉิง พร้อมทั้งแค่นเสียงเย็นกล่าวคําออก
“พี่ชายฉิน อย่าได้สังหารข้า… ข้าก็แค่สุนัขข้างทางตัวหนึ่ง! ตราบ
เท่าที่ไว้ชีวิตตํ่าต้อยนี้แก่ข้า ให้ข้ากินขี้ยังได้!” เยี่ยชี่เฉิงร้องอ้อนวอน
เทียนรั่วเหลิงมองทางเยี่ยชี่เฉิง นางกลายเป็นบังเกิดโทสะ “ฉินหยุน
เจ้าลงมือสังหารมันเสีย!”
“อย่าได้สังหารข้า อย่าได้สังหารข้า…” เยี่ยชี่เฉิงกรีดร้องออกด้วย
สํานึกหวั่นเกรงต่อความตาย เขาเร่งรีบร้องขอ “ท่านปู่ ฉิน เป็นข้าผิด
ไปแล้ว โปรดละเว้นชีวิตตํ่าต้อยของข้า!”
สีหน้าฉินหยุนเย็นเยือก นิ้วทั้งห้ายื่นออก เกิดขึ้นเป็นกรงเล็บเผยให้
เห็น
ขณะนี้ฝ่ ามือของเขายื่นเข้าหาหน้าท้องเยี่ยชี่เฉิง แทงทะลุผ่านเนื้อ
หนัง นําเอาแก่นเต๋าอีกฝ่ ายออกมา!
ภายในแก่นเต๋าย่อมมีวิญญาณยุทธ์ นี่ถือเป็นสิ่งลํ้าค่าที่สุดของเยี่ยชี่
เฉิงแล้ว
“เจ้า… เจ้านําแก่นเต๋าข้าออกมา นี่เป็นข้อห้ามร้ายแรง!” เยี่ยชี่เฉิง
กรีดร้องอย่างชวนสังเวช ใบหน้าขณะนี้ซีดเผือด
ตงฟางเฉ่าก้าวเดินเข้ามากล่าวคํา “ให้ข้าลงมือ!”
คําพอกล่าวจบ ดาบนั้นก็ฟันลงเข้าใส่ตัดหัวเยี่ยชี่เฉิงเป็นที่เรียบร้อย!
ตงฟางเฉ่าเก็บหัวของเยี่ยชี่เฉิงเอาไว้
ขณะนี้รุ่งสาง เก้าดวงตะวันลอยขึ้นฟ้าแล้ว
แม้ว่าเป็นช่วงกลางวัน แต่ในเขตแดนอ้างว้างปี ศาจแดง ยังคงมี
อันตรายอยู่ทั่วทุกหัวระแหง
เทียนรั่วเหลิงในเวลานี้ก็ฟื้นคืนกลับมาได้มากแล้ว
เป็นอีกครั้งที่ฉินหยุนสัมผัสถึงออร่าดิบเถื่อน และเป็นอันตรายจาก
กายของนางได้!
ได้ทราบว่าอีกฝ่ ายอาการดีขึ้นแล้ว เขาค่อยวางใจ
เทียนรั่วเหลิงนําเอายันต์ไล่ล่าอสูรออกมา ทําการสะกดรอยตามหมา
ป่ าเขาปี ศาจอย่างต่อเนื่อง
นางขณะนี้มีความเข้าใจต่อความแข็งแกร่งของฉินหยุนโดยคร่าว
กระทั่งว่าต้องเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่ า พวกเขาก็ยังสามารถรับมือ
พวกมันได้ไหว
กลุ่มสามคนเคลื่อนที่เร็วผ่านป่ าหนาทึบ
“หัวหน้า เมื่อใดพวกเราพบเจอฝูงหมาป่ า ค่อยหารือกลยุทธ์กันดี
หรือไม่?”
อย่างกะทันหัน ฉินหยุนโพล่งคํากล่าวออกมาขณะตามหลังเทียนรั่ว
เหลิง
“ย่อมได้!”
เทียนรั่วเหลิงได้ทราบกระจ่างชัด ว่าในแขนเสื้อฉินหยุนยังมีของดี
เก็บไว้ใช้อีกมาก
และอีกฝ่ ายยังเป็นคนดีขนาดที่สามารถเชื่อใจได้
ตงฟางเฉ่าไม่กล่าวอันใด อย่างไรแล้ว เขาก็ถือว่าได้รับผลประโยชน์
หลังจากตามรอยผ่านยันต์ไล่ล่าอสูรมากว่าสองชั่วยาม เทียนรั่วเหลิง
ค่อยหยุดฝี เท้า
“ด้านหน้ามีฝูงหมาป่ า! จํานวนน่าจะราวยี่สิบตัวเห็นจะได้!” เทียนรั่ว
เหลิงหันมองทางฉินหยุน “เจ้ามีกลยุทธ์อันใดนําเสนอ?”
ฉินหยุนนําเอาดวงตาวิญญาณออกมา ปลดปล่อยพวกมันลอยออก
ด้วยเขาควบคุม ดวงตาวิญญาณจึงบินมุ่งหน้าเข้าไปสํารวจ
สภาพการณ์ของฝูงหมาป่ าเขาปี ศาจ
“ให้ข้าลงมือจัดการจ่าฝูงพวกมันก่อน!” ฉินหยุนกล่าวขณะเล็ง
เป้าหมายไว้ที่หมาป่ าเขาปี ศาจตัวใหญ่
“พวกหมาป่ ากําลังมาทางนี้ ให้ข้าแช่แข็งพวกมันเอง!” เทียนรั่วเหลิง
กล่าวเสียงเย็น “เมื่อลงมือสําเร็จ พวกเราค่อยถอยทัพ!”
ฉินหยุนขมวดคิ้ว “หัวหน้าไม่ต้องออกหน้าแล้ว!”
“เช่นนั้นให้พวกเราทําอะไร?” เทียนรั่วเหลิงกล่าวถาม
“ข้ามียันต์สะกดกาย สมควรใช้หยุดร่างหมาป่ าฝูงนี้ได้ชั่วระยะเวลา
หนึ่ง!” ฉินหยุนกล่าวตอบ
คําพอกล่าวจบ เขานําเอาดาบและกระบี่จํานวนหนึ่งออกมา
ทั้งหมดล้วนเป็นอาวุธเต๋า!
ได้เห็นอุปกรณ์เหล่านี้ต่อหน้า เทียนรั่วเหลิงและตงฟางเฉ่า หัวใจ
ถึงกับสั่นเทิ้มรุนแรงไม่เป็นจังหวะ!
พวกเขาทราบดี ว่าอุปกรณ์เต๋าเหล่านี้ลํ้าค่ามากมายเพียงใด
ศิษย์ทั่วไป คิดครอบครองเพียงหนึ่งยังเป็ นเรื่องยาก!
แต่แล้วฉินหยุน กลับมีพวกมันในครอบครองหลายชิ้นนัก!
“ข้าเชื่อใจพวกเจ้า ดังนั้นจึงจะให้หยิบยืมพวกมันสักชั่วเวลาหนึ่ง!”
ฉินหยุนเผยเจตนา
แม้พวกเขาไม่เคยใช้อาวุธเต๋ามาก่อน แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้
ความแกร่งกล้าของอาวุธเต๋า เพื่อทําลายการป้องกันแข็งแกร่งของ
หมาป่ าเขาปี ศาจได้
เทียนรั่วเหลิงขณะนี้เก็บกระบี่ของนางกลับที่ด้านหลัง ทางด้านตง
ฟางเฉ่าก็เก็บดาบตนเองไว้ที่ด้านหลังเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้ใช้อาวุธของหอขุนเขาดาบกระบี่ เพราะพวกมันไม่ใช่
สิ่งที่สามารถทะลวงเกราะหนาของหมาป่ าเขาปี ศาจ
ตงฟางเฉ่าถือดาบสีนํ้าเงินในมือ ขณะนี้เกิดความยินดีจนกระทั่งมือ
ไม้สั่น เขาถอนหายใจกล่าวคําออก “ชั่วชีวิตนี้เราคงได้มีโอกาส
ครอบครองมันสักวันหนึ่ง!”
หากสวรรค์มีตา เช่นนั้นโชคลาภย่อมตกสู่ผู้คนได้ สายตาของเขา
ขณะนี้ กําลังจับจ้องดาบยาวกว่าเมตรหนึ่งในมือพร้อมความตื่นเต้น
ที่บังเกิด
ทันใดนี้เอง ฉินหยุนนําเอาปื นใหญ่ราชันลึกลํ้าออกมา “รอตรงนี้สัก
เดี๋ยว ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วค่อยลงมือ!”
เขาบินขึ้นสูงบนท้องฟ้า ทําการเล็งเป้าหมายไปยังฝูงหมาป่ าเขาปี ศาจ
จากนั้น ปื นใหญ่จึงถูกยิงออก!
ตู้ม!
ด้วยแก่นเต๋าขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าเป็นกระสุนปื นใหญ่ เขา
ยิงทําลายดงไม้ในรัศมีหลายร้อยเมตรเพื่อสร้างทัศนวิสัย เสียงระเบิด
ดังเด่นชัดโลดแล่นผ่านอากาศไปกว้างไกล
ร่างของจ่าฝูงหมาป่ าขณะนี้ แตกสลายเพราะแรงระเบิดเมื่อครู่!
ทางด้านหมาป่ าเขาปี ศาจตัวอื่น พวกมันชะงักไปครู่ สบโอกาสให้
เทียนรั่วเหลิงและตงฟางเฉ่าเร่งรีบเข้าลงมือได้!
พวกเขาไม่ได้ใช้ยันต์สะกดกายที่ฉินหยุนมอบให้แต่อย่างใด!
ความเร็วของเทียนรั่วเหลิงมากลํ้า พละกําลังที่ปลดปล่อยออกก็ชวน
สะพรึงยิ่ง
เดิมนางร่างสูงอยู่แล้ว ขณะนี้ด้วยถือกระบี่ใหญ่ในมือ นางยิ่งให้
อารมณ์เปรียบดังหญิงแกร่งผู้หนึ่ง ร่างกายของนางเผยออกซึ่งจิต
สังหารรุนแรงเข้าสะกดข่มเป้าหมาย
ขณะนางเข้าหาฝูงหมาป่ า ก็ทําการโคจรพลังเต๋าแรกเริ่มเข้าใส่ตัว
กระบี่ใหญ่ในมือด้วย!
ด้วยเสียงตะโกนเบา นางออกกระบวนท่าสับฟัน กระบี่ยาวพาดผ่าน
แผ่นหลังของหมาป่ าเขาปี ศาจ ทําการแบ่งร่างพวกมันออกเป็นสอง
ซีกอย่างง่ายดาย!
ตงฟางเฉ่าใช้งานเคล็ดวิชาดาบชั้นโลกาอันวิจิตร ทําการแทงทะลวง
ใส่หัวของหมาป่ าเขาปี ศาจ เป็นการปลิดชีพมันในพริบตา!
กระทั่งว่าหมาป่ าเขาปี ศาจโจมตีอย่างดุดัน แต่ตงฟางเฉ่าและเทียนรั่ว
เหลิงต่างมีเคล็ดวิชาตัวเบาเลิศลํ้า ทําให้ทั้งสองสามารถหลบเลี่ยงได้
ดังใจนึก
ฉินหยุนลงจากฟากฟ้า กระบี่ใหญ่ในมือฟาดหวดออก สับฟันเข้าใส่
ร่างหมาป่ าเขาปี ศาจที่พุ่งทะยานเข้าหา!
ตงฟางเฉ่าและเทียนรั่วเหลิง ต่างรู้สึกได้ว่าครอบครองอาวุธแข็งแกร่ง
ถือเป็นความเลิศลํ้าประการหนึ่ง!
กระบี่และดาบที่ทั้งสองใช้งานก่อนหน้านี้ มันไม่อาจทะลวงผ่าน
ปราการป้องกันของหมาป่ าเขาปี ศาจได้ด้วยซํ้า!
แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้งานอาวุธเต๋า ขุมพลังแกร่งกล้าที่พวกมันมอบให้
เพียงพอจนสามารถสังหารหมาป่ าเขาปี ศาจได้เพียงหนึ่งกระบวนท่า!
หมาป่ าเขาปี ศาจทั้งสิ้นยี่สิบตัว ขณะนี้ถูกสังหารจนสิ้นแทบใน
พริบตาแล้ว!
ตงฟางเฉ่ามองไปยังร่างฝูงหมาป่ าที่นอนนิ่งกับพื้น ดวงตาเผยความ
ไม่อาจเชื่อ “พวกมันเป็นสัตว์ลึกลํ้าจริงหรือ? นี่ไม่ใช่ว่าสังหารพวก
มันง่ายเกินไปหรือ!”
“ข้าต้องการแก่นอสูรและร่างพวกมัน!” ฉินหยุนกล่าว
เทียนรั่วเหลิงและตงฟางเฉ่า เร่งรีบช่วยจัดการนําแก่นอสูรออกมา
ส่งมอบพวกมันแก่ฉินหยุน
เมื่อรวบรวมเศษซากร่างได้ครบถ้วน พวกเขาจึงเร่งรีบออกไปให้พ้น
จากพื้นที่
ในช่วงบ่าย พวกเขาได้พบเจอฝูงหมาป่ าอีกหนึ่ง และแน่นอนว่า การ
ลงมือสังหารก็เรียบง่ายดังเช่นก่อนหน้า!
พวกเขาขณะนี้เพียงเพิ่งเข้ามาได้สองวัน ก็สังหารหมาป่ าเขาปี ศาจไป
ได้กว่าห้าสิบตัวแล้ว!
เมื่อฟ้ามืด เทียนรั่วเหลิงจึงบอกให้พวกเขาพักผ่อนกันก่อน
ทั้งสามใช้เวลาทั้งคืนพักผ่อนฟื้นคืนกําลัง พอรุ่งสาง พวกเขาค่อย
ออกเดินทางโดยมีเทียนรั่วเหลิงนําทัพ
ขณะผ่านป่ าหนาทึบ พวกเขามาถึงพื้นที่ราบโล่ง
“นี่เป็นบึงปี ศาจ บินข้ามผ่านมันไป!” เทียนรั่วเหลิงทะยานกายขึ้น
บนฟ้าพร้อมกล่าว “บึงนํ้านี้มีพิษ ระมัดระวังให้ดีด้วย!”
ฉินหยุนหลุบสายตาลงมอง ภายในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดความตื่น
ตระหนก
บึงนํ้านี้สงบจนเกินไป มันทําให้เกิดความรู้สึกหนักอึ้งภายใน ว่ามัน
จะต้องมีสัตว์ยักษ์ซุกซ่อนตัวอยู่เบื้องล่าง
หลังข้ามผ่านบึงนํ้า พวกเขาค่อยลงที่พื้นดินอีกฝั่งหนึ่ง สายตาขณะนี้
มองสํารวจที่เนินเขาโล่งเตียนตรงหน้า
ฟุ่ บ ฟุ่ บ ฟุ่ บ!
ขณะพวกเขาฝี เท้าแตะที่พื้น อย่างกะทันหัน กลุ่มคนพลันปรากฏ
พรวดพราดออกมา
“หยางอวี้เห่า เจ้าคิดทําอะไร?” ดวงตาของเทียนรั่วเหลิงเผยความเย็น
เยือกขณะมองกลุ่มเจ็ดคนที่ล้อมพวกตนเอาไว้
หยางอวี้เห่าเป็นบุตรหลานตระกูลหยาง ค่อนข้างอ่อนด้อยกว่าหยาง
มู่เทียน อีกฝ่ ายเป็นชายร่างสูงกํายําใบหน้าเหลี่ยม!
“เหตุใดตอนนี้พวกเจ้าเหลือเพียงสาม?” หยางอวี้เห่ามองทางฉินหยุน
พร้อมเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
“เยี่ยชี่เฉิงตายแล้ว!” เทียนรั่วเหลิงตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ
หยางอวี้เห่าสายตาจับจ้องที่ฉินหยุนไม่โยกย้าย “ชายผู้นี้เป็นสวะ
ครอบครองหนึ่งชีพจรวิญญาณ กระนั้นกลับครอบครองอาวุธและ
ชุดเกราะเต๋า ข้าชื่นชอบพวกมันนัก!”
“ที่พูดนั่น หมายความถึงต้องการชิงทรัพย์ใช่หรือไม่?” เทียนรั่วเหลิง
เผยนํ้าเสียงกราดเกรี้ยว
“ไม่ ไม่ ย่อมไม่ใช่ ข้าเพียงวางแผนชิงทรัพย์ของฉินหยุน! ให้มัน
ออกจากกลุ่มเจ้า แล้วพวกเจ้าเข้าร่วมกลุ่มพวกเรา!” หยางอวี้เห่า
หัวเราะดัง เขาหาได้หวั่นเกรงเทียนรั่วเหลิงไม่แม้เพียงนิด
เทียนรั่วเหลิงโกรธจัด เพราะไม่มีศิษย์ของห้าตระกูลคนใดเห็นนาง
ในสายตา
อีกฝ่ ายชัดเจนว่ามองเหยียดต่อนาง!
อุปกรณ์เต๋าที่ตงฟางเฉ่าและเทียนรั่วเหลิงหยิบยืม ขณะนี้อยู่ในมิติ
เก็บของส่วนตัว พวกเขาตระเตรียมหยิบมันออกคิดเริ่มเปิ ดศึกครั้ง
ใหญ่!
ฉินหยุนพลันโพล่งกล่าวคําขึ้น “หากเจ้าเอาชนะข้าได้ เจ้าก็เอาชุด
เกราะเต๋าข้าไป เช่นนี้เป็นอย่างไร?”
“ไม่มีปัญหา!” หยางอวี้เห่าหัวเราะดัง “เจ้าถือว่ามีความกล้าดีนี่!”
คําพอกล่าวจบ ฝี เท้าเขาจึงก้าวเดินเข้าหาฉินหยุน
แต่แล้ว กลับปรากฏชายในชุดสีเหลืองก้าวเดินถึงด้านหลังของเขา
“พี่ใหญ่ โปรดอนุญาตให้น้องชายผู้นี้ต่อสู้แทน! สวะเช่นนี้อย่าได้
เปลืองมือท่านแล้ว!” ชายในชุดเหลืองมีปากแหลมแก้มลิง ใบหน้า
ขณะนี้เผยความหยิ่งผยองอย่างไม่อาจปิ ดได้มิด
“ซุนหรงฟาน จัดการมันภายในสิบกระบวนท่า! หากไม่ได้ ก็จง
ออกไปให้พ้นจากกลุ่มข้า!” หยางอวี้เห่าพยักหน้ารับ
“สิบกระบวนท่าหรือ? พี่ใหญ่ ท่านประเมินข้าตํ่าเกินไปแล้ว กับสวะ
เช่นมัน แค่สามกระบวนท่าก็เพียงพอ!” ซุนหรงฟานหัวเราะดัง “ตระกูล
ซุนของพวกเราครอบครองวิชายุทธ์ที่ดีเยี่ยม คิดสังหารมันผู้นี้ ถือ
เป็ นเรื่องง่ายดายนัก!”
เทียนรั่วเหลิงทราบความแข็งแกร่งของฉินหยุนดี ดังนั้นนางจึงไม่คิด
กล่าววาจาใดแทรกแซง
นางเพียงตั้งป้อมระวังต่อหยางอวี้เห่า!
ด้วยดาบใหญ่ถือไว้แน่นในมือ ซุนหรงฟานก้าวเท้าเข้าหาฉินหยุน
พร้อมสับฟันอย่างไม่คิดใช้กระบวนท่าลึกลํ้าใดออกมา!
พลังเต๋าแรกเริ่มขณะนี้ปะทุออก ทําเอาฝุ่นดินที่พื้นฟุ้งกระจายราวไอ
นํ้าเดือด
ฉินหยุนยกมือขึ้น คว้าจับเข้าที่ดาบของซุนหรงฟานที่สับฟันลงมา
ด้วยมือเปล่า เขาแค่นเสียงกล่าวออก “ข้าละสงสัยนัก ว่าสวะเช่นเจ้า
มีชีวิตรอดจนถึงวันนี้ได้อย่างไรกัน?”
หยางอวี้เห่าและคณะพอได้เห็นเช่นนี้ สีหน้าพวกเขาล้วนแปรเปลี่ยน!
มือของฉินหยุนขยับ ทําการบีบดาบใหญ่ในมือ ปลดปล่อยคลื่นกระแทก
ป่ นสลายดาบใหญ่นั้นกลายเป็นเพียงเศษชิ้นส่วนดาบ
เศษชิ้นส่วนดาบใหญ่ขณะนี้โดนคลื่นกระแทกพัดผ่าน พวกมันปลิว
กระจาย ย้อนเข้าหาร่างของซุนหรงฟานที่ไม่ทันตั้งตัว!
“อ๊าก!” ร่างของซุนหรงฟานถูกทะลวงด้วยเศษคมดาบจํานวนมาก
เสียงพลันต้องร้องออกด้วยความเจ็บปวด “พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วย!”
หยางอวี้เห่าเผยเสียงกราดเกรี้ยว “ฉินหยุน เขาเป็นน้องชายข้า! เจ้า
กล้าสังหารเขาเชียวหรือ?”
“เป็นมันที่คิดสังหารข้าก่อน!” ฉินหยุนเผยเสียงมีโทสะ
“แล้วมันเป็นอย่างไร? น้องชายข้าคิดสังหารผู้ใด มันผู้นั้นย่อมต้อง
ได้แต่ยอมรับความตาย!” หยางอวี้เห่ากล่าวคําจบ เขาจึงทะยานร่าง
เข้าหาฉินหยุน
เทียนรั่วเหลิงระวังตัวอยู่ก่อน สายลมเย็นวูบปรากฏ พุ่งทะยานเข้าหา
ร่างของหยางอวี้เห่า ทําการต่อยเข้าที่ร่างนั้นอย่างไร้ปรานี!
“คู่ต่อสู้เจ้าคือข้า!” เทียนรั่วเหลิงบีบบังคับให้หยางอวี้เห่าต้องถอย
หนี
“เทียนรั่วเหลิง! นางแพศยา เจ้ากล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้าเพียงเพราะ
คนเช่นฉินหยุนงั้นหรือ?” ใบหน้าเหลี่ยมของหยางอวี้เห่าเผยความดํา
มืดขณะกล่าวออกด้วยโทสะ
“พี่ใหญ่…” ซุนหรงฟานกรีดร้อง แต่เสียงยังไม่ทันกล่าวได้จบคํา
ศีรษะก็กลิ้งกับพื้นไปเรียบร้อยแล้ว
ซุนหรงฟานสิ้นชีพ ฉินหยุนคือผู้ลงมือสังหาร!
หยางอวี้เห่าและคณะลิ่วล้อ ได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น โทสะพวก
เขายิ่งเท่าทวี!
เรื่องนี้ถือเป็นฉินหยุนยั่วยุพวกเขาอย่างไม่มีใดจะยั่วยุได้มากกว่านี้
แล้ว!
“เจ้ากล้าดีอย่างไรสังหารน้องชายข้า!” หยางอวี้เห่าคํารามโกรธแค้น
“สังหารพวกมันให้หมด! อย่าได้ให้ผู้ใดรอดชีวิต!”