Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 508 ไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้
ตอนที่ 508 ไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้
ที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่แปด ผู้คนสามารถใช้ขุมพลังเต๋า สร้าง
ร่างจําแลงของวิญญาณยุทธ์ออกมาต่อสู้ได้
เมื่อถึงระดับที่เก้า มันจะยิ่งเสริมแกร่งให้แก่ร่างจําแลง เปรียบดัง
สิ่งมีชีวิตของจริง
ขณะนี้ หลู่ชิงถงปลดปล่อยนาคาสายฟ้าสองเศียร มันคือร่างที่เกิดขึ้น
จากแก่นเต๋า รวมเข้ากับร่างสัตว์ของวิญญาณยุทธ์
พลังเช่นนี้ เทียบเท่าได้กับสัตว์วิญญาณระดับที่เก้า!
ตามปกติ เมื่อเผชิญหน้ากับร่างจําแลงวิญญาณสัตว์ สิ่งที่ใช้สําหรับ
ต่อต้าน ก็คือใช้ร่างจําแลงวิญญาณยุทธ์ของตนเองเข้าสกัด!
ชั่วขณะที่นาคาสายฟ้าสองเศียรปรากฏ มันเลื้อยอย่างรวดเร็วเข้าหา
ฉินหยุนแล้ว!
แก๊สพิษสีดํา ฉับพลันหลุดรอดจากปากนาคา ทําเอาผู้พบเห็นเกิด
ความหวาดกลัว
ผู้คนล้วนเชื่อ ว่าฉินหยุนจะต้องปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมา
แต่แล้ว ฉินหยุนกลับไม่ได้ปลดปล่อยร่างจําแลงวิญญาณยุทธ์!
หลู่ชิงถงตามด้านหลังนาคาสายฟ้าสองเศียร ขณะนี้สบโอกาส จึงพุ่ง
ทะยานร่างเข้าปะทะฉินหยุน สายฟ้าอสนีบาตทองม่วงสว่างวูบเข้า
โจมตีออกอย่างดุดัน!
ฉินหยุนเร่งรีบผลักฝ่ ามือมังกรสัมบูรณ์ออก!
ด้วยหนึ่งฝ่ ามือประทับออก สายฟ้ารุนแรงทะยานพุ่ง เสียงราชสีห์
คํารามดังสนั่น ปรากฏขึ้นเป็นรูปร่างฝ่ ามือสีดําขนาดใหญ่ยักษ์ เข้า
ปะทะกับนาคาสายฟ้าสองเศียรร่างยักษ์
ชั่วขณะที่ภาพร่างฝ่ ามือปรากฏ มันทําเอาผู้คนร้องอุทานอย่างตื่น
ตระหนก!
ที่นี่ คือแหล่งรวมตัวของผู้ฝึกตนจากตระกูลใหญ่มากหน้าหลายตา
ถึงอย่างนั้นแล้ว พวกเขาก็ไม่คล้ายพบเห็นว่าฉินหยุนใช้วิชายุทธ์ที่มี
ต้นตอจากอะไร
พวกเขาเพียงทราบ ว่าเคล็ดวิชาฝ่ ามือนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง
พลังเต๋าแรกเริ่มที่ปลดปล่อยออกมา มันเหนือลํ้ายิ่งกว่าหลายคนที่
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า กระทั่งเกือบสูงลํ้าถึงขอบเขตวรยุทธ์
วิญญาณ!
ฉินหยุนผลักฝ่ ามือแรกเสร็จสิ้น ก็ตามติดด้วยฝ่ ามือมังกรสัมบูรณ์ที่
สอง!
ภาพร่างของฝ่ ามือมังกรที่สอง หาได้ใช่เป็นฝ่ ามือ
แต่เป็นหัวราชสีห์สีดําขนาดใหญ่ที่กําลังอ้าปากพร้อมกลืนกิน!
หัวราชสีห์ทะยานออก ผสานเข้ากับภาพร่างฝ่ ามือ คิดเข้ากลืนกิน
เป้าหมายตรงหน้า
โฮก!
เสียงคํารามดังสนั่น ทําให้ฝุ่นดินบนพื้นขณะนี้ฟุ้งกระจายขึ้นกลาง
อากาศ!
สายลมเริ่มกรีดร้องโหยหวน จนเสียงนี้คล้ายราชสีห์ที่เผยโทสะ!
ฝ่ ามือที่สองผสานเข้ากับกรงเล็บราชสีห์สีดําดุดัน ขณะนี้ มันเข้าบด
ขยี้ร่างนาคาสายฟ้าสองเศียรออกเป็นเศษซาก
ฝ่ ามือมังกรสัมบูรณ์ คือพลังที่แปรเปลี่ยนไปตามอัตลักษณ์ของ
ผู้ใช้งาน!
ด้วยหยางฉีเย่ว์ชี้นําการฝึกฝน ฉินหยุนจึงเข้าใจฝ่ ามือมังกรสัมบูรณ์
อย่างลึกลํ้ามากขึ้น
ฝ่ ามือทั้งสองที่ปลดปล่อยออก มันแฝงไว้ด้วยพลังมหาศาล
ด้วยเหตุนี้ นาคาสายฟ้าสองเศียรที่เมื่อครู่ดุร้าย ขณะนี้จึงแพ้พ่ายด้วย
ฉินหยุนตอบโต้เพียงสองฝ่ ามือ!
ที่น่าสะพรึงที่สุด ก็คือภาพร่างของกรงเล็บราชสีห์ที่เข้าบดขยี้ร่างนาคา
สายฟ้า พลังที่มันปลดปล่อยออก ถึงขั้นลุกลามบดขยี้ถึงร่างหลู่ชิงถง
หลู่ชิงถง ผู้ซึ่งทะยานเข้ามาอย่างอาจหาญเมื่อครู่ ไม่คาดคิดว่าฉินหยุน
มีกระบวนท่าพลิกผันในฉับพลันที่ดุดันเพียงนี้!
ตู้ม!
ฝ่ ามือมังกรสัมบูรณ์ปะทะกับร่างหลู่ชิงถง เกิดขึ้นเป็นเสียงสายฟ้าดัง
สนั่นครึกโครม!
หลู่ชิงถงกระอักเลือดออกจากปาก ร่างกายกระเด็นกลับลอยลิ่ว!
ฝูงชนต่างระเบิดเสียงฮือฮาดัง!
ฉินหยุน ผู้ซึ่งหลบเลี่ยงมาโดยตลอด ขณะนี้กลับโจมตีออกอย่างรุนแรง
ชนิดที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดฝันถึง!
พวกเขาล้วนกล้าออกปาก ว่าฉินหยุนหลบเลี่ยงหลู่ชิงถงมาตลอดเพื่อ
รอโอกาสนี้!
“หลู่ชิงถง จงลุกขึ้นและสังหารมันเสีย!” หยางมู่เทียนได้เห็นเรื่องราว
แปรเปลี่ยน สีหน้าขณะนี้แทบเผยความบิดเบี้ยว
เป็นดังคํากล่าว หลู่ชิงถงลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล “ฉินหยุน ข้าจะฉีก
ร่างเจ้าออกเป็นชิ้น!”
กระนั้น ขณะที่หลู่ชิงถงลุกขึ้นยืน เขาก็ได้เห็นฉินหยุนพุ่งทะยานเข้า
ใส่อย่างไม่รีรออันใดแล้ว!
ตู้ม!
หมัดอัคคีของฉินหยุนทอแสงวูบ ปรากฏเป็นแสงสว่างเข้มข้นพุ่งเข้า
ปะทะที่หน้าท้องของหลู่ชิงถง!
“อ๊าก!”
หลู่ชิงถงกรีดร้อง
ฉินหยุนโจมตีครั้งที่สามอย่างสําเร็จงดงาม!
เพียงพริบตา เขาก็ปรากฏตัวถึงตรงหน้าของหลู่ชิงถงได้!
ฝ่ ามือหมื่นอาชาและวิชาหานซาน ทั้งสองวิชายุทธ์ผสานรวมกันเป็น
หนึ่ง ผนวกเข้าด้วยเคล็ดวิชาคลื่นยักษ์ ก่อเกิดเป็นคลื่นกระแทกเก้า
ระลอก!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
คลื่นกระแทกรุนแรงเก้าครั้งเกิดขึ้นต่อเนื่อง แรงปะทะรุนแรงจน
เขย่าฟ้าดินสะเทือน
เขาลงมือต่อร่างของหลู่ชิงถงจนถึงขั้นที่อีกฝ่ ายต้องจมลงหลุมลึกใน
พื้นดิน
พื้นดินรอบกายหลู่ชิงถงขณะนี้ แตกระแหงออกเป็นเสี่ยง ชั้นหิน
หนาเบื้องล่าง คล้ายไม่อาจทนรับจนต้องแปรเปลี่ยนเป็นเศษหินที่
ป่ นสลาย!
ผู้คนล้วนมองไปยังหลู่ชิงถงกลางหลุมลึก ความรู้สึกขณะนี้ไม่อาจ
ปิ ดกลั้นจนเกิดการสั่นกลัวขึ้น!
ทางด้านฉินหยุน ไม่ทราบว่าเขากลับถึงข้างกายเทียนรั่วเหลิงเมื่อใด
ขณะนี้เขารับเสื้อกลับคืนพร้อมสวมใส่เหมือนดังไม่เคยเกิดอะไรขึ้น!
หลู่ชิงถง เป็นยอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าซึ่งแข็งแกร่ง
แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น คือเขาพ่ายแพ้ภายในสามกระบวนท่า!
บุตรหลานบรรดาตระกูลใหญ่ทั้งหลายในที่นี้ ล้วนทําใจเชื่อสิ่งที่พบ
เห็นได้ยาก
ฉินหยุนที่ครอบครองพลังแกร่งกล้ามหาศาลเพียงนี้ แต่แล้วกลับเป็น
ตัวตนที่ไม่ได้สังกัดสํานักหรือตระกูลใหญ่ใด
บรรดาตระกูลชนชั้นสูง ล้วนทราบกันว่าหากคิดมีหน้าตาสู่ภายนอก
ได้ ก็จําเป็นต้องมีอย่างน้อยห้าชีพจรวิญญาณ
นอกจากนี้ พละกําลังพวกเขายังมีระดับใกล้เคียงกับหลู่ชิงถง
หากต้องเผชิญหน้าฉินหยุน พวกเขาย่อมไม่มีโอกาสชนะแม้เพียงนิด
หยางมู่เทียนมองทางฉินหยุน พบว่าเรื่องราวยากจะเชื่อ!
หลู่ชิงถงถึงกับพ่ายแพ้!
หยางมู่เทียนเพียงคิด ว่าฉินหยุนอย่างไรแล้วก็ครอบครองเพียงหนึ่ง
ชีพจรวิญญาณ ไม่ว่าอย่างไร อีกฝ่ ายก็ไม่มีทางจัดการหลู่ชิงถงที่มีถึง
หกชีพจรวิญญาณได้!
เพราะเหตุนั้นเขาจึงกล้าเสี่ยงเดิมพัน!
แต่แล้วขณะนี้ หลู่ชิงถงพ่ายแพ้อย่างสิ้นสภาพ นี่หมายความถึงเขา
ต้องเสียสิ่งที่วางเดิมพันไว้!
ฉินหยุนไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์เต๋าใด ใช้เพียงแต่พละกําลังที่ขีดสุด
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า
พลังระดับนี้ แทบเทียบเท่ากับขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าชั้นแนว
หน้าของห้าตระกูลใหญ่!
หากรวมเข้ากับอุปกรณ์เต๋า เขาจะกลายเป็นผู้ไร้เทียมทานท่ามกลาง
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า
“หยางมู่เทียน จงส่งเขาหมาป่ าตามที่ตกลงไว้มาทางนี้! และเจ้าอย่าได้
ลืม คุกเข่าขออภัยต่อฉินหยุนด้วย!”
เทียนรั่วเหลิงยังคงสภาพความเย็นชา คิ้วของนางขณะนี้ขมวดแน่น
พร้อมกล่าววาจาดุดัน
ผู้คนล้วนเข้าใจ ว่าเหตุใดกลุ่มสามคนของเทียนรั่วเหลิงจึงสามารถ
ได้รับเขาหมาป่ าถึงสามสิบเขา!
นี่ก็เพราะพละกําลังของฉินหยุนอยู่ในระดับน่าสะพรึง!
“ฉินหยุน ข้ายอมรับความผิดพลาดก่อนหน้านี้! เป็นข้าผิดเองที่
ปรามาสต่อเจ้าซึ่งมีเพียงหนึ่งชีพจรวิญญาณ!”
หยางมู่เทียนสูดลมหายใจเข้าลึกขณะพยายามสงบใจตนเอง
นํ้าเสียงของเขาหยุดไปครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “เอาอย่างนี้เป็นไร เจ้า
และข้าสาบานเป็นพี่น้องต่อกัน ข้อพิพาทระหว่างพวกเราก่อนหน้านี้
ถือว่าหมดสิ้น เจ้าจะว่าอย่างไร?”
“กล่าววาจาไร้สาระพอหรือยัง จบแล้วก็จงรีบส่งเขาหมาป่ าทั้งสามสิบ
เขา พร้อมคุกเข่าขออภัยต่อข้าได้แล้ว!”
ฉินหยุนมองที่หยางมู่เทียนเย็นเยือก สายตาขณะนี้คมกริบเปรียบดังมีด
“หยางมู่เทียน หลู่ชิงถงเป็นสุนัขของเจ้า! เป็ นเจ้าเมื่อครู่นี้คิดสาบาน
เป็นพี่น้องกับสุนัขของตนเอง ครั้งนี้คิดสาบานเป็นพี่น้องกับผู้อื่น
เรื่องนี้ออกจะน่าขันเกินไปหรือไม่?” ตงฟางเฉ่าหัวเราะดัง
หยางมู่เทียนกําหมัดไว้แน่น ดวงตาขณะนี้กําลังสั่นเทิ้มด้วยโทสะสุม
แน่น
“ฉินหยุน เจ้าวายร้ายไร้ยางอาย ต้องเป็ นเจ้าใช้แผนการร้ายกาจจึง
จัดการหลู่ชิงถงได้!”
“การต่อสู้ครั้งนี้ไม่นับ!”
หยางมู่เทียนยอมกระทําเรื่องไร้ยางอายแทนที่จะคุกเข่าต่อฉินหยุน!
ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาส่งมอบเขาหมาป่ าทั้งสามสิบเขาออกไป กลุ่ม
ของเขาก็เท่ากับไม่เหลืออันใด พวกเขาจะไม่มีอะไรเพื่อใช้เข้าร่วม
สํานัก!
“เจ้าคิดอยากกลับคําพูดงั้นหรือ?”
เทียนรั่วเหลิงมีโทสะ เป็นนางยอมวางเดิมพันด้วยอุปกรณ์วิญญาณ
ระดับราชัน แต่แล้วหยางมู่เทียนกลับไม่คิดรักษาสัญญาที่ให้ไว้
หยางมู่เทียนแค่นเสียง “เป็นเพราะฉินหยุนก่อการคดโกง ใช้วิธีการ
ใดไม่ทราบเพื่อจัดการหลู่ชิงถง ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่นับ!”
“หากเจ้าไม่ยอมรับ เหตุใดไม่มาต่อสู้กับข้าเองเลยเสียเล่า?” ฉินหยุน
หรี่ตาลง นํ้าเสียงกล่าวออกด้วยความมั่นใจ
“เหอะ ข้าไม่ทราบเจ้าใช้ลูกไม้อันใดเมื่อครู่ ดังนั้นข้าย่อมไม่คิดต่อสู้
กับเจ้า! โดยสรุป การต่อสู้ครั้งนี้ไม่นับ!”
หยางมู่เทียนยืนกรานว่าฉินหยุนก่อการไม่เป็นธรรม
คําของหยางมู่เทียนเพิ่งกล่าวจบ สายลมกระโชกรุนแรงเย็นเยือก
พลันวูบผ่าน!
เทียนรั่วเหลิงเข้าโจมตีแล้ว!
เพียงก้าวเท้า นางก็ถึงตรงหน้าของหยางมู่เทียน!
นางปลดปล่อยพลังนํ้าแข็งเย็นเยือกอันแข็งแกร่ง ทําการแช่แข็งร่าง
หยางมู่เทียน!
ฉินหยุนและตงฟางเฉ่าเร่งรีบเข้าไปเสริมทัพ
พวกเขากําลังจะต้องเผชิญหน้ากลุ่มหกคนของอีกฝ่ าย!
“หยางมู่เทียน จงคุกเข่า!”
เทียนรั่วเหลิงใช้พลังความเย็นสะกดข่มอีกฝ่ ายเอาไว้!
หยางมู่เทียนร่างกายแข็งไปวูบ เข่าขณะนี้งอตัวทรุดลงกับพื้นไปแล้ว!
และที่พื้นโดยรอบ มันถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยนํ้าแข็ง!
ตึง!
หยางมู่เทียนถูกสะกดเอาไว้ด้วยขุมพลังเต๋ากล้าแกร่ง
หน้าผากของเขาต้องโขกกับพื้นอย่างหนักหนา จนถึงขั้นชั้นนํ้าแข็ง
ที่เพิ่งก่อเกิดบนพื้นแตกกระจายเป็นวง!
หลงอู่เฉิน เย่ว์อู่หลัน และศิษย์อื่นของตระกูลชนชั้นสูง ล้วนแตกตื่น
กับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าขณะนี้!
บรรดาบุตรหลานตระกูลชนชั้นสูง ขณะนี้บังเกิดความหนักอึ้งในใจ
อย่างสุดหยั่ง!
เมื่อขุมพลังเต๋ารอบกายหยางมู่เทียนถูกถอนออก เขาค่อยมีสีหน้าดี
ขึ้น!
ความรู้สึกที่ถูกหยามเหยียด รวมถึงโทสะของเขา ขณะนี้มันสุมแน่น
ขนาดกัดฟันจนแทบแตกออก
กระนั้นเขาก็ไม่อาจทําอะไรได้ยามต้องเผชิญหน้ากับขุมพลังแกร่ง
กล้า!
กระบี่ในมือเทียนรั่วเหลิงพาดที่ลําคอของหยางมู่เทียน เสียงเย็นของ
นางกล่าวดังขึ้น “เขาหมาป่ าทั้งสามสิบเขา และอุปกรณ์วิญญาณ
ระดับราชันของเจ้า!”
นัยน์ตาของหยางมู่เทียนเปี่ ยมล้นอัดแน่นด้วยความโกรธแค้น ภายใน
ใจขณะนี้ กําลังอดกลั้นต่อการหยามเหยียดและโทสะในใจตนเอง
เขายังคงสภาพคุกเข่า นําเอาเขาหมาป่ า และอุปกรณ์วิญญาณระดับ
ราชันออกมา
“เป็ นเจ้าทําให้ตนเองต้องตกอยู่สภาพนี้!” เทียนรั่วเหลิงกล่าววาจาดู
ถูกอีกฝ่ ายอย่างเด่นชัด
ผู้คนล้วนคิด ว่าเทียนรั่วเหลิงบ้าคลั่งไปแล้ว!
นางยั่วยุตระกูลหลง และขณะนี้ยังรวมถึงตระกูลหยาง!
แน่นอนว่า ฉินหยุนย่อมต้องถูกตระกูลหยางหมายหัวเช่นเดียวกัน!
หยางมู่เทียนลุกขึ้นยืนเชื่องช้า นํ้าเสียงกล่าวออกอย่างไร้ซึ่งจิตสังหาร
หรือความเกลียดชังแฝง “ฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง หากเจ้ามีความกล้า
เช่นนั้นจงสังหารข้า ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้พวกเจ้าต้องตายอย่างไร้
สถานที่กลบฝัง!”
เทียนรั่วเหลิงขมวดคิ้วแน่น จิตสังหารของนางทะลักออก ขณะนี้เอง
กระบี่ในมือนางตวัดออกไปแล้ว!
เคร้ง!
ขณะกระบี่นางสับฟันลง ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีดวงตาชวนขนลุกพลัน
ปรากฏตัว!
ชายหนุ่มผู้นี้ใช้ดาบยาวสกัดกระบี่ของเทียนรั่วเหลิงเอาไว้!
ชายหนุ่มในชุดดํา ร่างสูงราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร รูปร่างอีก
ฝ่ ายยากบ่งบอกว่าแข็งแกร่งหรือไม่ กระนั้นดาบยาวคมกริบในมือ ก็
สามารถสกัดการโจมตีของกระบี่เต๋าเอาไว้ได้!
ดวงตาอีกฝ่ ายว่างเปล่า ชัดเจนว่าอีกฝ่ ายเป็นชายดวงตามืดบอด!
“เจี้ยนหมาง เจ้าคิดทําอะไร?” เทียนรั่วเหลิงเร่งรีบถอย รักษาระยะห่าง
จากดาบของอีกฝ่ ายเอาไว้
อีกฝ่ ายแม้ดวงตามืดบอด กระนั้นกลับสร้างความขนลุกแก่ผู้คน นี่คือ
อัจฉริยะแห่งตระกูลเจี้ยน!
นอกจากนี้ อีกฝ่ ายยังเป็นหนึ่งในผู้ฝึกตนดาบที่หลงเหลือเพียงน้อยนิด!
ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าดาบในมืออีกฝ่ ายมีออร่าคล้ายคลึงกับเซี่ยอู๋เฟิ ง!
เจี้ยนหมางผู้นี้เก็บตัวสงบมาโดยตลอด เพียงรับชมเรื่องราวจากที่
ไกลออกไป หาได้มีผู้ใดรู้ตัวไม่
ขณะนี้อีกฝ่ ายกลับกลายเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน เป็ นเรื่องยากคาด
เดาว่าอีกฝ่ ายคิดอะไรอยู่กันแน่!
ตงฟางเฉ่าเร่งรีบดึงฉินหยุนถอยกลับ พยายามสร้างระยะห่างจาก
เจี้ยนหมางเอาไว้!
ทุกคนล้วนทราบ ว่าเจี้ยนหมางหากคิดสู้ประชิดถือว่าอันตรายเพียงใด!
“ครั้งหนึ่งข้าเคยติดหนี้ตระกูลหยางเอาไว้!”
“เทียนรั่วเหลิง เจ้าเป็นคนสร้างโอกาสให้ข้าได้ตอบแทนหนี้ครั้งนั้น
ดังนั้นข้าจะไม่สังหารเจ้า!”
เสียงของเขาเบาและแหบกร้าน กระนั้น มันก็อัดแน่นด้วยจิตสังหาร
เย็นเยือกพร้อมเขย่าหัวใจผู้คน
“เจี้ยนหมาง เป็นข้านับถือต่อเจ้า ดังนั้นเรื่องครั้งนี้ข้าจะยอมลืมเลือน
ก็แล้วกัน!” หลังคิดไตร่ตรอง เทียนรั่วเหลิงจึงกล่าวต่อ “ภายหน้าข้า
ยังมีโอกาสได้สังหารหยางมู่เทียนอีกมาก!”
เจี้ยนหมางกล่าวเชื่องช้า “เทียนรั่วเหลิง ชีวิตเจ้าอาจอยู่ได้สักปีหนึ่ง
แต่หากเจ้าสังหารหยางมู่เทียน คงอยู่รอดได้ไม่พ้นสามเดือน!”
“หากข้าเป็ นเจ้า ข้าจะก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณภายในเวลาหนึ่ง
ปี ที่มี! เพื่อให้ได้กลายเป็นศิษย์หลักของสํานัก เมื่อนั้น หอขุนเขา
ดาบกระบี่จะต่อชีวิตให้แก่เจ้าได้อีกสักหลายปี !”
“ขอบคุณเจ้าที่ชี้แนะ!” เทียนรั่วเหลิงรับคําอย่างเย็นชา
ขณะนี้ ผู้คนค่อยทราบพละกําลังโดยคร่าวของเทียนรั่วเหลิง
นางถึงขั้นแข็งแกร่งกว่าหยางมู่เทียน!
หลงอู่เฉินเงียบงันมาโดยตลอด ทว่าภายในใจขณะนี้ เขาเกิดความ
ริษยาต่อฉินหยุนอย่างล้นพ้น ดังนั้นในภายหน้า เขาย่อมต้องตั้งตัว
เป็นศัตรูกับฉินหยุน!
“นายน้อยฉิน กระทั่งว่าข้า เย่ว์อู่หลันเป็นหญิงสาวตัวเล็กจ้อย ข้าก็ยัง
เป็นผู้ที่รักษาสัญญา เจ้าคิดรับข้าเอาไว้หรือไม่?”
เย่ว์อู่หลันยิ้มหวาน นํ้าเสียงของนางเย้ายวนและเว้าวอน
หัวใจผู้คนเริ่มเต้นรัวกันอีกครั้ง พวกเขาต่างคิด ว่าภาพฉากเช่นนี้
หากเป็นตนเองจะรีบตะครุบเอาไว้เพียงใด!
“ข้าไม่อาจรับไว้ได้!” ฉินหยุนส่ายศีรษะ
เย่ว์อู่หลันนําเสนอร่างกายตัวเอง นางย่อมต้องมีแผนการอื่นซ่อนเร้น
แม้เขาไม่รู้จักนางเท่าใดนัก ก็ทราบว่าหญิงสาวเช่นนี้ไม่ใช่เล่นได้
ด้วยง่าย!
ฝูงชนร้องฮือฮาดัง อีกฝ่ ายถึงขั้นปฏิเสธเย่ว์อู่หลัน!
“เจ้าเป็นกังวลว่าข้าจะเอารัดเอาเปรียบหรือ?” เย่ว์อู่หลันเม้มริมฝีปาก
เย้ายวนนั้นเล็กน้อย ทั้งยังกล่าววาจาตัดพ้อได้อย่างน่าสงสารจับใจ
ผู้คน