Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 512 ปะทะนองเลือด
ตอนที่ 512 ปะทะนองเลือด
ฉินหยุนประหลาดใจไม่น้อย ที่คนของตระกูลหลู่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่
นั่นก็เพราะ ตระกูลหยางสมควรเกลียดชังเขามากกว่า ทั้งยังจะมี
ความต้องการต่ออุปกรณ์เต๋าของเขา
หากตระกูลหยางเคลื่อนไหว เช่นนั้นตระกูลหลู่จะไม่เหลือช่องว่าง
ใดให้เข้ามาแทรกแซง
ตระกูลหลู่ย่อมไม่กล้ามีเรื่องกับตระกูลหยาง!
“ฉินหยุน เจ้าคิดเร่งรีบไปช่วยเหลือเทียนรั่วเหลิงงั้นหรือ?” ชายหนุ่ม
ที่ดูน่าจะแก่กว่าเล็กน้อยเอ่ยคํา พร้อมเผยรอยยิ้มน่ารังเกียจออกมา
เด่นชัด
“หากเจ้าทราบก็ถือเป็ นเรื่องดี ดังนั้นเร่งรีบไสหัวไปให้พ้นทางข้าได้
แล้ว! เป็นข้าไม่คิดเสียเวลากับคนอย่างพวกเจ้าที่นี่!” ฉินหยุนกล่าว
พร้อมปัดฝุ่ นออกจากร่างตนเอง
ครั้งที่ร่างปะทะกับพื้นโดยอาจารย์ยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ มัน
ก็แค่ทําร่างกายเขาเปรอะเปื้อนไปบ้าง หาได้บาดเจ็บใดไม่
นี่ก็เพราะเขามีอุปกรณ์เต๋าคุ้มกัน!
เมื่ออาจารย์ยุทธ์ได้เห็นฉินหยุนไม่ได้รับบาดเจ็บใด ดวงตาของเขา
แทบจะถลนออกมา!
ตระกูลหลู่ แน่นอนว่า ย่อมไม่มีอุปกรณ์เต๋าให้พบเห็นมากมายนัก
นอกจากนี้ มันยังเป็นการบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาครอบครองดีเลิศเพียงใด
ผู้ใดพบเห็นล้วนคิดอยากครอบครอง!
“เจ้าควรปลาบปลื้มที่พวกเรารอเจ้าตรงนี้ เพราะเทียนรั่วเหลิงสิ้นชีพ
ไปเรียบร้อยแล้ว!” ชายหนุ่มหัวเราะดัง “แม้เจ้าเร่งรีบกลับไป ก็คง
ไม่ได้เห็นแม้กระทั่งศพนาง!”
ฉินหยุนพอได้ยินคําบอกเล่า นํ้าเสียงจึงเอ่ยถามอย่างจริงจัง “ที่เจ้า
กล่าวนั้นเป็นความจริง?”
“แม้ข้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ที่นอกเมืองนั้นมีคนของตระกูล
หยาง ตระกูลเทียน และตระกูลหลง เจ้าคิดหรือว่านางจะยังมีชีวิต
รอดมาได้?”
ชายหนุ่มจากตระกูลหลู่นําดาบออกมา ใบหน้าขณะนี้เผยความ
ตื่นเต้น เพราะหากฉินหยุนเข้าไปขวางอีกฝ่ าย เท่ากับว่าเขาต้องตาย
อย่างไม่มีอันใดให้สงสัย!
และหากเป็นเช่นนั้น อุปกรณ์เต๋าของฉินหยุนจะตกอยู่ในมือของเขา
แทน!
“ต้องบอกกล่าวเลย ว่าหญิงเถื่อนดังเช่นเทียนรั่วเหลิงนั้นมีฝีมือไม่น้อย
ถึงขั้นสามารถสะกดหลงหยวนเหว่ยเอาไว้ได้! ด้วยเหตุนี้ คนของ
ตระกูลหยางจึงรอคอยให้หลงหยวนเหว่ยพ่ายแพ้เสียก่อน จากนั้น
ค่อยรับช่วงจัดการนางต่อ”
“ไม่อย่างนั้นแล้ว พวกเราคงไม่ได้มารอจัดการเจ้าที่ตรงนี้เป็นแน่!”
“ฉินหยุน จงเร่งรีบส่งมอบอุปกรณ์เต๋าของเจ้ามาได้แล้ว เช่นนั้นจะ
ได้ดีกับพวกเราทุกฝ่ าย!”
“ตราบเท่าที่เจ้าส่งมอบอุปกรณ์เต๋า พวกเราก็ยินดีไม่ลงมือสังหาร
เพียงหักแขนขาบ้างสักเล็กน้อยเท่านั้น!”
ผู้คนของตระกูลหลู่พลันพร้อมใจกันหัวเราะ
ฉินหยุนนํากระบี่ใหญ่เต๋าออกมา มือขณะนี้กระชับด้ามกระบี่เอาไว้
แน่น
ตัวเขาขณะนี้ ทั้งสวมใส่ชุดเกราะเต๋า อีกทั้งยังถืออาวุธเต๋าในมือ!
ภาพฉากที่เห็น ทําเอาคนทั้งสี่ของตระกูลหลู่เผยความริษยากันออกมา
อย่างยิ่งยวด!
ภายใต้แสงตะวันร้อนแรง เส้นสายพลังงานสีทองไหลเวียนผ่าน
อุปกรณ์เต๋าในมือของฉินหยุน มองเพียงครั้งเดียว ผู้พบเห็นล้วนกล้า
บอกกล่าว ว่านั่นคืออุปกรณ์เต๋า
“สาขาของตระกูลหลู่พวกเจ้ามีจํานวนเท่าใด?” ฉินหยุนเอ่ยถามสี
หน้าสงบ ขณะนี้เขากําลังถอดเสื้อตัวนอก พร้อมเช็ดกระบี่ใหญ่ของ
ตนเอง
“เหตุใดจึงถาม?” ชายชราแค่นเสียง “ในทั้งห้าแคว้นแห่งแดนวิญญาณ
อ้างว้าง ตระกูลหลู่ของพวกเรามีสิบสามสาขา! และที่แคว้นมหาดวงดาว
ก็มีถึงสามสาขา! ตระกูลหลู่ที่พวกเราสังกัด คือสาขาที่แข็งแกร่งที่สุด
ของแคว้นมหาดวงดาวแห่งนี้!”
“พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อสังหารข้า และหยุดยั้งไม่ให้ข้าไปช่วยเหลือมิตร
สหาย! ข้อพิพาทระหว่างข้ากับตระกูลหลู่ของพวกเจ้า ถือว่าเกิดขึ้น
โดยสมบูรณ์แล้ว!”
ฉินหยุนเก็บเสื้อตนเองขณะมองที่กระบี่คมกริบในมือ
ชายชราเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมหัวเราะลั่น “เจ้าที่อ่อนแอเพียงนี้ หาได้
คู่ควรอันใดให้เป็นศัตรูของตระกูลหลู่เราไม่! เป็ นเจ้าไม่มีคุณสมบัติ
พอที่จะขึ้นป้ายประกาศค่าหัวของตระกูลหลู่ด้วยซํ้า!”
ขณะชายชราหัวเราะ อย่างกะทันหัน เขาพลันพบแสงเย็นเยือกวูบ
ผ่าน นี่เป็นแสงของกระบี่!
ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้ตัวฉินหยุนที่สุด ฉับพลันนี้ กลับกลายเป็นก้อน
เนื้อสามท่อนไปแล้ว!
ชายชราถึงกับชะงักงัน เสียงหัวเราะเลือนหายไปในพริบตา!
ทางด้านฉินหยุน เขาเพียงมองกระบี่ในมือซึ่งกําลังมีเลือดหยาดหยด
ชายหนุ่มสามคน ขณะนี้สิ้นชีพไปแล้วหนึ่ง!
นับตั้งแต่เริ่มจนถึงแก่ความตาย อาจารย์ยุทธ์สองชายหนุ่ม หาได้พบ
เห็นไม่ว่าฉินหยุนโจมตีออก!
นั่นก็เพราะมันรวดเร็วเกินไป!
เมื่อคืน ฉินหยุนฝึกฝนเคล็ดวิชากระบี่ กระบวนท่าที่เขาใช้เมื่อครู่
เป็นกระบวนท่าพื้นฐานซึ่งเรียบง่ายที่สุดแล้ว และมันยังไม่มีออร่า
แกร่งกล้าใดหลุดออกมาให้พบ!
นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของเคล็ดวิชากระบี่พื้นฐาน!
ก่อนหน้านี้ ฉินหยุนเพียงกระชับด้ามกระบี่ให้แน่น รับรู้เพียงแต่การ
เต้นของหัวใจตนเอง!
ด้วยจิตสํานึก เขาใช้งานกระบวนท่าออกผ่านตัวกระบี่และสังหาร
ชายหนุ่ม!
“เอาอย่างไรต่อดีเล่า? ตระกูลหลู่ของเจ้ายังคิดจับกุมตัวข้าหรือไม่?”
ฉินหยุนเอ่ยถาม สองมือกําด้ามกระบี่ใหญ่เอาไว้แน่น สับฟันออกซึ่ง
ความเร็วประดุจสายฟ้าอสนีบาต เกิดขึ้นเป็นสายลมกระโชกรุนแรง
ออร่ากระบี่ชวนขนลุก ขณะนี้มันโปร่งแสงและเกิดขึ้นเป็นรูปกระบี่
เคลื่อนคล้อยลงเข้าใส่ร่างของชายหนุ่มทั้งสอง!
ฉึบ!
ร่างของชายหนุ่มสองคน กลับกลายเป็นชิ้นเนื้อเพราะขุมพลังเต๋า
รุนแรงซึ่งถูกปลดปล่อยออก!
ฉินหยุนเพียงยืนที่เดิมหาได้เคลื่อนไหวใดไม่ ผ่านตัวกระบี่ในมือ
เขาเพียงรวบรวมขุมพลังเต๋าแกร่งกล้าและโจมตีออกเท่านั้น!
ชายชรารู้สึกเพียงว่า มือฉินหยุนเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน กระนั้น
ที่เห็นก็เป็นเพียงภาพติดตาไปแล้ว เขาถึงกับไม่สามารถบอกได้ด้วย
ซํ้าว่าเคล็ดวิชากระบี่ที่ใช้ออกนั้นคืออะไร
“เจ้า… ตายเสีย!”
ชายชราตื่นตระหนก กระนั้นก็ยังจดจําได้ว่าตนเองเป็นอาจารย์ยุทธ์
ดาบยาวในมือปรากฏ ร่างกายทะยานออกคิดฟาดฟัน
ฉินหยุนเมื่อเห็นอีกฝ่ ายใช้ดาบแทงเข้ามา เขาจึงสับฟันกระบี่ใหญ่ใน
มือ ผ่าเอาดาบของอีกฝ่ ายขาดเป็นสอง!
ดาบของชายชราเมื่อแยกออกเป็นสอง ร่างกายจึงถูกผ่าตามติด
บาดแผลนองเลือดปรากฏขึ้นที่เกราะตรงหน้าอก โลหิตระเบิดสาด
กระเซ็นกระจาย
“เจ้าก็แค่ผู้ที่เพิ่งก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ เป็นเพียงอาจารย์ยุทธ์
สวะคนหนึ่ง!” ขณะฉินหยุนกล่าว เขาสับฟันกระบี่ลงอีกครั้งหนึ่ง
ชายชราตื่นตระหนก เร่งรีบหลบเลี่ยงการสับฟันของฉินหยุนด้วย
ความเร็วมากลํ้า!
เพียงพริบตา ชายชราสร้างระยะห่างนับสองถึงสามลี้ไกลออกไป
พร้อมกันนี้ เขาโยนยันต์อสนีบาตระดับลึกลํ้าออกมาถึงสามแผ่น!
ครืน!
สายฟ้าอสนีบาตนับไม่ถ้วนเข้าปกคลุมฉินหยุน!
การกระทําของชายชราจากตระกูลหลู่ เรียกได้ว่าขลาดเขลา
อีกฝ่ ายหาได้โจมตีฉินหยุนต่อ กลับกัน เป็ นเขาเลือกหันกลับและ
หลบหนี!
เมื่อครู่ ครั้งปะทะกับฉินหยุน เขาสัมผัสได้ถึงพลังเต๋าอันรุนแรง
มหาศาลภายในกายของฉินหยุน!
แม้ว่าพลังเต๋านั้นไม่ใช่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ทวว่าฉินหยุนครอบ
ครองอุปกรณ์เต๋า
อาจารย์ยุทธ์ผู้ซึ่งเพิ่งก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ หากคิดเผชิญหน้า
ฉินหยุน ความตายคือสิ่งเดียวที่รอคอย!
“สารเลวผู้นี้ถึงขั้นโยนยันต์อสนีบาตลึกลํ้ามาสามแผ่น!”
ฉินหยุนสลัดหลุดพ้นจากกลางดงพายุสายฟ้า เร่งรีบไล่ตามชายชรา
จากตระกูลหลู่
ชายชราจากตระกูลหลู่เร่งร้อนหลบหนี โดยไปยังประตูเมืองของ
นครดาบกระบี่!
เทียนรั่วเหลิงสวมใส่ชุดคลุมสีดํา ร่างกายโชกเลือด ทว่าหาได้มีท่าที
อ่อนแอใดไม่
มันเป็นการเจือปนระหว่างเลือดของนาง และเลือดของศัตรู!
ใบหน้าสีนํ้าตาลข้าวงดงามของนาง ยังคงแผ่ออร่าเย็นเยือก สีหน้า
เด็ดเดี่ยวฉายชัด นางเปรียบดังหญิงแกร่งกลางสมรภูมิผู้หนึ่ง
กระนั้น ก็พบเห็นได้ชัดเจนเช่นกัน ว่าสีหน้าของนางค่อนข้างซีดไม่
น้อยแล้ว
ที่ไหล่ของนาง ปรากฏแผลลึกเด่นชัด มันเกิดขึ้นเพราะวัตถุมีคม!
“เทียนรั่วเหลิง เจ้าแข็งแกร่งไม่เลวเลยทีเดียว ถึงขั้นสามารถเอาชนะ
ศิษย์ทั้งห้าคนได้!” ชายผมสั้นจากตระกูลหยาง กําลังเผยรอยยิ้มผ่าน
ใบหน้า
หลงหยวนเหว่ย เป็นเทียนรั่วเหลิงมีชัยเหนือ กระนั้นอาการบาดเจ็บ
ที่หลงหยวนเหว่ยสร้างเอาไว้แก่นาง ก็เรียกว่าสาหัสไม่น้อย!
หลงหยวนเหว่ยหวาดเกรงต่อความตาย ดังนั้นเขาจึงยอมแพ้ก่อน
จวนตัว!
“หากไอ้สารเลวนั่นไม่ใช้อาวุธลับของมัน ข้าคงไม่บาดเจ็บรุนแรง
เพียงนี้!”
ทั้งร่างของเทียนรั่วเหลิงมีแต่บาดแผลรุนแรงกระจายทั่ว กระนั้นคิ้ว
ของนางแม้ขมวดยังไม่มี นี่เปรียบได้กับนักรบผู้หาญกล้า ยืนหยัดรับ
ศึกจากศิษย์อัจฉริยะของตระกูลหยาง
หลงหยวนเหว่ยที่อยู่ไกลออกไปตะโกนดัง “นางแพศยา อย่าได้กล่าว
วาจาไร้สาระ! ข้าไม่ได้ใช้อาวุธลับแต่อย่างใด และก็เพราะข้าเห็นว่า
เจ้าบาดเจ็บหนักแล้ว จึงไม่คิดสู้กับเจ้าที่อ่อนแรงต่อก็เท่านั้น!”
“ข้ายอมให้เจ้าชนะ กระนั้นดันคิดกัดข้ากลับคืนหรือ? ช่างไม่รู้คุณ!”
เย่ว์อู่หลันยืนอยู่ด้านในประตูเมือง นํ้าเสียงแค่นออกดังทันทีเมื่อได้
ยิน “หลงหยวนเหว่ย เป็ นเจ้าไม่เชื่อใจตนเองหรือไม่ใช่? ตราบเท่าที่
เจ้าเอาชนะเทียนรั่วเหลิง เจ้าจะได้รับอุปกรณ์เต๋า! สารเลวเช่นเจ้า
ถึงกับยอมปล่อยมือจากอุปกรณ์เต๋าอันลํ้าค่าได้ง่ายดายเพียงนี้?”
หลายผู้คนกําลังรับชมพวกเขาอยู่ แต่ละคนล้วนไม่เชื่อคํากล่าวอ้าง
ของหลงหยวนเหว่ย!
“เทียนรั่วเหลิง ตระกูลหยางจะไม่เอาความเรื่องเจ้าบีบบังคับให้หยาง
มู่เทียนคุกเข่า หากเจ้ายอมส่งอุปกรณ์เต๋ามาแต่โดยดี เรื่องราวจะ
คลี่คลาย!”
เมื่อชายชุดแดงจากตระกูลหยางเอ่ยถึงอุปกรณ์เต๋า ร่างกายอีกฝ่ ายเผย
อาการสั่นด้วยความละโมบออกมา
ผู้คนของตระกูลเทียนต่างอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ทว่าพวกเขาไม่หาญกล้า
พอที่จะส่งเสียงในขณะนี้
สถานะของเทียนรั่วเหลิงในตระกูลเทียน หาได้สูงอันใดนัก ด้วย
เรื่องที่นางยั่วยุตระกูลหลงและตระกูลหยาง เป็นปกติที่จะไม่มีผู้ใด
ออกหน้าปกป้อง
ตระกูลเทียนก็ต้องการอุปกรณ์เต๋า แต่ตระกูลหลงและตระกูลหยางมี
สิทธิ์ที่จะฉกชิงมาก่อน ดังนั้นตระกูลเทียนจึงไม่กล้าหาเรื่องสอง
ตระกูล!
“หยางไห่เผิง เจ้าเข้าร่วมกับเกาะขุนเขาดวงดาวมาสามปี แล้ว กระนั้น
ขณะนี้ยังไม่คล้ายก้าวพ้นไปจากขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า!”
เทียนรั่วเหลิงเลียโลหิตรอบริมฝีปาก นางเผยเสียงหัวเราะเย็น รูปลักษณ์
ของนาง เวลานี้ประดุจสัตว์คลั่งที่ร่างโชกด้วยเลือด
เย่ว์อู่หลันรู้สึกปวดใจต่อเรื่องราว แต่หากนางลงมือ อาจารย์ยุทธ์ของ
ตระกูลหยางย่อมเข้ามาหยุดยั้งนางไว้
ตระกูลหลง ตระกูลหยาง และตระกูลเทียน ล้วนส่งอาจารย์ยุทธ์
ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณมาที่นี่
พวกเขาเพียงปล่อยให้ผู้เยาว์ได้ลงมือร่วมกัน พวกเขาออกปากเอง ว่า
จะไม่แทรกแซงระหว่างการประลองต่อสู้แต่อย่างใด!
หยางไห่เผิงถูกเทียนรั่วเหลิงหยามเหยียด ขณะนี้โกรธจนหน้าแดงกํ่า
“เทียนรั่วเหลิง ครั้งนี้ถึงเวลาตายเจ้าแล้ว! เป็ นเจ้ายั่วยุบุตรหลานตระกูล
หยางของพวกเรา เป็ นเจ้าบีบบังคับให้หยางมู่เทียนต้องคุกเข่า นี่ไม่
ต่างอะไรกับการบังคับให้ศิษย์ทั้งหมดของตระกูลหยางต้องคุกเข่า!”
“วันนี้ ข้าจะเอาชีวิตตํ่าต้อยของเจ้ามา เพื่อทวงเกียรติกลับคืนแก่ตระกูล
หยาง!”
“น่าขันนัก ชัดเจนว่าไอ้ตัวสารเลวนั่นเป็นสวะตัวหนึ่ง เป็นมันพ่าย
แพ้การเดิมพัน แต่แล้วกล้าหน้าด้านหน้าทนไม่ทําตามสิ่งที่รับปาก
เอาไว้!” เทียนรั่วเหลิงหัวเราะเย็นเสียงดัง “พวกเจ้าศิษย์ตระกูลหยาง
คงเกิดขึ้นจากนางแพศยาตนเดียวกัน ดังนั้นคําพูดคําจาจึงเหมือนกัน
ได้เพียงนี้!”
“จับกุมนาง บีบบังคับให้นางส่งมอบอุปกรณ์เต๋าออกมาเป็นการชดเชย
ให้ได้!” ชายชราตระกูลหยางตะโกนดัง
หยางไห่เผิงที่กราดเกรี้ยวอยู่ก่อนแล้ว ขณะนี้ร่างกายทะยานออกพร้อม
หมัด พลังเต๋ากําลังอัดแน่นก่อนจะปลดปล่อยออกอย่างรุนแรง
แม้ว่าเทียนรั่วเหลิงมีแต่บาดแผลเต็มร่าง แต่การตอบสนองของนาง
หาได้ช้าใดไม่ เป็นนางกระโดดรวดเร็ว หลบเลี่ยงคลื่นพลังเต๋าที่เข้า
โจมตีได้!
“ตายที่ตรงนี้เสีย!” หยางไห่เผิงตะโกนเกรี้ยวกราด ฉับพลันนี้ นกร็อค
ทองม่วงพลันปรากฏร่างออกมา!
วิญญาณยุทธ์ของอีกฝ่ าย เป็นนกร็อคทองม่วง!
นกร็อคทองม่วงเกิดขึ้นจากพลังงาน มันแข็งแกร่งเทียบเท่าสัตว์
วิญญาณระดับที่เก้า ร่างขณะทะยานจะเกิดเสียงร้องหวีดหวิว ปี กสี
ทองม่วงคู่นั้นยาวกว่าสิบเมตร มันกําลังกระพือพัดลงมาจากฟากฟ้า!
เทียนรั่วเหลิงกระอักโลหิตคําโต ฝ่ ามือของนางเริ่มเผยความเย็นเยือก
จากนั้น นางจึงปลดปล่อยพลังเต๋าเยือกแข็ง ทําการแช่แข็งปี กใหญ่โต
ของนกร็อค
“พายุนํ้าแข็งพวยพุ่ง!”
วูบ! วูบ! วูบ!
อย่างกะทันหัน คลื่นพลังเต๋าแรกเริ่มควบแน่นเกิดขึ้นเป็นเกล็ดนํ้าค้าง
แข็งยาวหลายเมตร พวกมันเสียดแทงลงมาดุจสายฟ้าฟาดฟัน เข้าปก
คลุมร่างของนกร็อคขนาดยักษ์เอาไว้
นกร็อคส่งเสียงร้องและดิ้นรน ร่างกายของมันถูกแทงทะลุด้วย
บาดแผลหลายรู ร่างของมันขณะนี้กําลังเลือนหาย!
วิญญาณไร้ตัวตนที่ปลดปล่อยออกมากําลังเลือนหาย หยางไห่เผิง
ได้รับบาดเจ็บหนักไม่น้อย ศีรษะเขาปวดร้าวจนดวงตาถึงขั้นพร่ามัว
เทียนรั่วเหลิงเองก็ฝืนจนถึงขีดจํากัดแล้ว ฉับพลันนี้ ร่างของนางกําลัง
ร่วงหล่นจากฟากฟ้า!
ร่างกายของนางเมื่อปะทะกับพื้นดินดังสนั่น นางพยายามลุกกลับ
ขึ้นมาอย่างยากลําบาก!
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าย่อมชนะแน่นอนแล้ว!” หยางไห่เผิงก้าวเดินเข้ามา เตะ
เข้าใส่รุนแรง ส่งร่างเทียนรั่วเหลิงกระเด็น
“รั่วเหลิง!” เย่ว์อู่หลันร้องออกและคิดทะยานร่างเข้าไป
“อู่หลัน อย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว!”
ฉับพลันนี้เอง หญิงชราคนหนึ่งปรากฏพร้อมหยุดเย่ว์อู่หลัน ผู้นี้เป็น
อาจารย์ยุทธ์จากตระกูลเย่ว์
“ป้าเหลียว ปล่อยข้า!” เย่ว์อู่หลันมองทางเทียนรั่วเหลิงกําลังโดน
กระหนํ่าเตะรุนแรง ดวงตางดงามของนาง อดไม่ได้ที่จะหลั่งนํ้าใส
ไหลรินออก
เทียนรั่วเหลิงถูกเตะอย่างต่อเนื่อง หยางไห่เผิงก็หัวเราะโฉดชั่วอย่าง
ไม่ปิ ดบัง ทั้งยังสุขสมที่ได้เตะร่างอีกฝ่ าย เขายังคงเตะต่อไปจนแทบ
ครบทุกตารางนิ้วบนกายของนาง!
อย่างกะทันหัน ที่ไกลออกไป ฉินหยุนกลับปรากฏตัวขึ้น!
ฉินหยุนกําลังไล่ล่าอาจารย์ยุทธ์ของตระกูลหลู่มาทางนี้!
พวกเขาทั้งสอง ขณะนี้อยู่ห่างจากประตูเมืองเพียงกว่าสี่ลี้เท่านั้น
“ฉินหยุนคิดสังหารข้า เร่งรีบช่วยเหลือข้าแล้ว!” อาจารย์ยุทธ์ตระกูล
หลู่เร่งร้อนตะโกนดัง
คําพอกล่าว หัวของอีกฝ่ ายก็ถูกฉินหยุนบั่นออกมาแล้ว!
ฉินหยุนได้เห็นสภาพเทียนรั่วเหลิงถูกทําร้ายจนสภาพยํ่าแย่ โดย
ทันที สายเลือดราชสีห์สวรรค์ในกายเขาพลันเดือดพล่าน!
ด้วยโทสะ เขาเตะหัวผู้ฝึกตนชราของตระกูลหลู่ไปทางหยางไห่เผิง!
หยางไห่เผิงไม่คาดคิด ใบหน้าขณะนี้โดนกระแทกรุนแรงด้วยหัว
ชายชรา ร่างกระเด็นไปไกล ทั้งร่างกลับกลายเป็นชุ่มโชกด้วยเลือด
จากหัวไร้ตัวซึ่งสาดกระเซ็น