Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 769 : การระเบิดครั้งรุนแรง
ระหว่างการสร้างกระดาษยันต์ มันไม่มีข้อจำกัดพิเศษเรื่องวัสดุที่ต้องใช้แต่อย่างใด ขณะอยู่ในกระบวนการสร้างยันต์นั้น จึงเป็นการเผยประสบการณ์อันมากล้ำของบรรดาอาจารย์จารึกเต๋าออกมา
เจี้ยนหลิงหลงใช้งานวัสดุชั้นดีเพื่อสร้างกระดาษยันต์ วัสดุเหล่านี้อัดแน่นด้วยพลังอันเหนือล้ำ มันคือวัสดุที่มีพลังงานจำนวนมากในตัว ทั้งยังมีราคาสูงลิบ
ฉินหยุนหันมองรับชมอาจารย์จารึกผู้อื่น พวกเขาต่างก็เลือกวัสดุที่มีพลังงานในตัวเพื่อสร้างกระดาษยันต์เช่นเดียวกัน
ยามที่กระดาษยันต์ชั้นดีถูกแกะสลักด้วยอักขระที่ดี เมื่อนั้น พลังงานภายในมันจะเพิ่มมากขึ้น ก่อนปะทุออกอย่างรุนแรงเผยซึ่งพลังอันเลิศล้ำออกมา
กระดาษยันต์เช่นนี้ เพียงใช้ก็ต่อเมื่อคิดสร้างยันต์เต๋า เพราะอักขระเต๋าจะทำให้พลังงานภายในสามารถปะทุออกมาได้รุนแรงที่สุด
แม้ฉินหยุนกล่าวว่าคิดอยากร่วมสร้างกระดาษยันต์ กระนั้น ตัวเขาก็ขาดฝีมือพอจะยื่นมือช่วยเหลือ ด้วยระดับตอนนี้ ตัวเขายังไม่อาจควบคุมกระบวนการขัดเกลาวัสดุที่มีพลังงานในตัวได้ และเขาก็ยังไม่เคยทดลองทำมาก่อน
ยามที่อาจารย์จารึกลึกล้ำผู้อื่นใช้วัสดุพลังงานเพื่อสร้างกระดาษยันต์ พวกเขาจะทำอย่างระมัดระวัง เพราะหากพวกเขาหย่อนความระวังแม้เพียงนิด พลังงานภายในนั้นจะระเบิดออก
เพราะเหตุนี้ การดำรงตำแหน่งอาจารย์จารึกจึงมีความเสี่ยง อาจารย์จารึกหลายคนต่างต้องสิ้นชีพกันไปเพราะแรงระเบิดจากการสร้างยันต์เต๋าเพียงลำพังก็มีไม่ใช่น้อย
ขณะเจี้ยนหลิงหลงสร้างกระดาษยันต์ นางได้ใช้พลังส่วนหนึ่งเพื่อคุ้มกันแก่ฉินหยุน กลุ่มอื่นที่อยู่บนเวทีแข่งขัน ต่างต้องแยกห่างจากกันระยะหนึ่ง นี่ก็เพื่อทำให้มั่นใจ ว่าพวกเขาจะไม่เผลอไปทำกระดาษยันต์ผู้อื่นจนเกิดการระเบิดขึ้น
ฉินหยุนเพียงแต่นั่งรับชม ส่งวัสดุให้แก่อีกฝ่าย ขั้นตอนกระบวนการทั้งหมดเพื่อขัดเกลากระดาษยันต์เป็นเจี้ยนหลิงหลงลงมือเพียงลำพัง ส่วนกลุ่มอื่นนั้น อาจารย์จารึกทั้งสองจะร่วมด้วยช่วยกันระหว่างกระบวนการ เพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นอาจารย์จารึกเต๋ากันทั้งคู่ ดังนั้นคิดร่วมมือกันหาได้ใช่เรื่องยากไม่
ไม่นานนับตั้งแต่เริ่ม ใบหน้าเจี้ยนหลิงหลงจึงมีเหงื่อไหลหลั่ง ฉินหยุนจึงคอยช่วยเหลือนางเช็ดเหงื่อเหล่านั้น เพื่อไม่ให้พวกมันต้องร่วงหล่นลงที่ตัววัสดุ ไม่เพียงแต่เจี้ยนหลิงหลง อาจารย์จารึกผู้อื่นเองก็ต้องทำเช่นนี้ พวกเขาทั้งตั้งใจและมีสีหน้าหนักอึ้ง
เพื่อสร้างยันต์ลึกล้ำให้เกิดแรงระเบิดสูงสุด กระดาษยันต์จำเป็นต้องขัดเกลาขึ้นด้วยคุณภาพระดับกระดาษยันต์เต๋า หากขาดความระวังแม้เพียงนิด นั่นอาจหมายถึงการระเบิดจนทำให้บาดเจ็บร้ายแรง
ฉินหยุนรับชมมาโดยตลอด ทั้งยังคอยจดจำทุกกระบวนการที่ดำเนินไป หากเขาไม่เข้าใจ เช่นนั้นจะถามเจี้ยนหลิงหลง นี่ถือเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ในตัว เจี้ยนหลิงหลงอดทนบอกกล่าวต่อฉินหยุนทุกรายละเอียด
เมื่อใดนางมอบความรู้แก่ผู้อื่น เมื่อนั้นนางจะตั้งใจอย่างยิ่ง ที่นครเซียนยุทธภัณฑ์ บ่อยครั้งนางก็ชี้แนะสอนสั่งแก่เหลียวจิงเหมิงเช่นเดียวกันนี้
กลุ่มอื่นมีอาจารย์จารึกสองคนร่วมมือกันสร้างกระดาษยันต์ แต่สำหรับกลุ่มของเจี้ยนหลิงหลงและฉินหยุน มีแต่เจี้ยนหลิงหลงที่ทำแต่เพียงฝ่ายเดียว ฉินหยุนเพียงรับชม ดังนั้นกลุ่มอื่นจึงทำกระดาษยันต์เสร็จแล้ว ขณะที่เจี้ยนหลิงหลงยังไม่
“เหมือนเจ้าปีศาจน้อยนั่นไม่คล้ายมีความสามารถเท่าใดนัก กระทั่งไม่อาจช่วยอันใดได้ ที่ทำได้ ก็ได้แค่รับชมอยู่ด้านข้าง”
“ก็เหมือนมาเข้าร่วมหาความสำราญหรือไม่ใช่ จุดแข็งเจ้านั่น คงเป็นการเชี่ยวชาญอักขระมารประหลาดเป็นแน่!”
“เพื่อสร้างยันต์ลึกล้ำให้แข็งแกร่งที่สุด อักขระมารเหล่านั้นย่อมไร้ค่า”
“ไม่คิดเลย สตรีเช่นเจี้ยนหลิงหลงจะถึงขั้นคิดกัดกินเด็กน้อยเช่นนั้น นี่คงเป็นนางชื่นชอบเด็กกระมัง!”
“วัวแก่คิดอยากกินหญ้าอ่อนอย่างนั้นสิ เหอะ เหอะ เหอะ!”
เจี้ยนหลิงหลงไม่ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ หากนางได้ยิน ถึงตอนนั้นโทสะนางคงพร้อมระเบิดออก
เวลากำหนดในรอบการแข่งขันนี้คือสามชั่วยาม ฉินหยุนต้องใช้ไปสองชั่วยามจึงทำกระดาษยันต์แล้วเสร็จ มันต้องใช้เวลามากกว่ากลุ่มอื่นถึงหนึ่งชั่วยาม และเวลานี้ ผู้อื่นก็เริ่มร่วมมือกันแกะสลักอักขระแล้ว เวลาที่เหลือมีเพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น!
เจี้ยนหลิงหลงเอ่ยถามฉินหยุนทางเสียงสื่อสาร “เจ้าคิดได้หรือยังว่าจะแกะสลักอักขระใดลงไป?”
ฉินหยุนย่อมคิดเรียบร้อยแล้ว เขากล่าวตอบ “โทเทมอัคคีและอักขระอัคคี!”
“เอาละ เรื่องแกะสลักอักขระยกให้เจ้าแล้ว!” เจี้ยนหลิงหลงส่งกระดาษยันต์แผ่นหนาออกไป
กระดาษยันต์นี้เป็นสีดำ หลังสัมผัสเนื้อกระดาษยันต์ ฉินหยุนรับรู้ได้ถึงพลังงานภายในที่ทรงอำนาจรุนแรง
“พลังงานภายในเสถียรแล้ว เจ้าเพียงแกะสลักไปอย่างที่ทำเหมือนกระดาษยันต์ปกติ!” เจี้ยนหลิงหลงหัวเราะเบา
ฉินหยุนนำปากกาลึกล้ำสะท้อนจิตออกมา มันถูกปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผู้อื่นจะไม่มีทางทราบได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังปลดปล่อยหมอกสุกสว่างปกคลุมเอาไว้
ฉินหยุนเริ่มแกะสลักโทเทมอัคคี โทเทมอัคคีของเขานี้ได้โมโมช่วยวิวัฒนาการให้แล้ว ตอนนี้จึงเป็นโทเทมลึกล้ำ อำนาจของมันย่อมเหนือล้ำ ทั้งเขายังครอบครองจารึกวิญญาณอัคคีคลั่ง ดังนั้นคิดแกะสลักโทเทมอัคคีลงกระดาษยันต์สีดำ เรื่องราวจึงง่ายดายยิ่ง
เพียงไม่นานถัดจากนั้น เขาจึงเริ่มทำการแกะสลักอักขระดวงดาวระเบิดอัคคี มันคืออักขระดวงดาวธาตุไฟ เช่นนี้ มันจะได้รับผลจากทั้งจารึกวิญญาณอัคคีคลั่ง และจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวที่ทำงานร่วม ระดับความวิจิตรของมันจึงยิ่งสูงล้ำ
ตำนานกล่าวขาน มันยังมีอักขระอีกประเภทหนึ่ง นามว่าอักขระจันทราดวงดาว มันคือการผสานกันระหว่างอักขระดวงดาวและอักขระจันทรา มันเป็นรองก็เพียงแต่อักขระตะวันยามเทียบเปรียบด้านพลังอำนาจ
หากฉินหยุนได้รับพวกมัน เขาย่อมสามารถแกะสลักพวกมันได้รวดเร็ว ตอนนี้ เขาได้แกะสลักอักขระดวงดาวระเบิดอัคคีอย่างรวดเร็ว สำเร็จมันด้วยเวลาอันน้อยนิด ปากกาลึกล้ำสะท้อนจิตของเขา มันเผยแสงสุกสว่างปกคลุม ดังนั้นจึงไม่อาจมีผู้ใดได้ทราบว่าเขาแกะสลักอักขระใดลงไป อาจารย์จารึกเต๋าผู้อื่นก็เป็นเช่นเดียวกัน พวกเขาทำทุกอย่างโดยเก็บเป็นความลับ
ยอดฝีมือทั้งหลายพบว่าเป็นเรื่องแปลก ที่เจี้ยนหลิงหลงยอมให้ฉินหยุนได้ลงมือแกะสลักอักขระ เจี้ยนหลิงหยงย่อมไม่ใช่มีความรู้เพียงแต่อักขระเต๋า กระนั้นหากเทียบด้านคุณภาพและความเร็ว นางยังไม่อาจทัดเทียมฉินหยุน
หลังจากที่แกะสลักอักขระดวงดาวระเบิดอัคคี ฉินหยุนยังแกะสลักอักขระลึกล้ำธาตุไฟเพิ่มไปอีกจำนวนหนึ่ง และสุดท้าย เขายังได้แกะสลักอักขระจันทราสมุทรมอดไหม้ มันคืออักขระจันทราธาตุอัคคีที่แข็งแกร่ง
“หมดเวลาแล้ว!” เจี้ยนสือเทียนตะโกนดังทันทีเมื่อได้เห็นนาฬิกาทรายว่างเปล่า
อันที่จริง กลุ่มอื่นก็เสร็จงานกันเรียบร้อยแล้ว มีแต่กลุ่มของฉินหยุนที่ช้าสุด
ทันทีเมื่อถูกเรียกรวมตัว ฉินหยุนจึงหยุดมือโดยทันที จากนั้น เขาจึงใช้พลังจิตเข้าตรวจสอบอักขระภายในแผ่นยันต์ ทุกอักขระสมบูรณ์ดีและหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างไม่มีข้อขัดแย้งใด ฉินหยุนส่งยันต์นั้นให้แก่เจี้ยนหลิงหลง
หลังได้พิจารณามัน ร่างงดงามของเจี้ยนหลิงหลงจึงเผยความตื่นตะลึง! กระทั่งว่านางไม่อาจพบเห็นอักขระภายในแผ่นยันต์ได้เด่นชัด ทว่านางก็ทราบกระจ่าง ถึงพลังงานอัดแน่นรุนแรงภายในแผ่นยันต์ หลังทำการแกะสลักอักขระ พลังงานภายในกระดาษยันต์จึงถูกเสริมกำลังขึ้นเป็นหลายเท่า
“เริ่มการทดสอบได้!” เจี้ยนสือเทียนนำหอคอยของตนออกมา มันขยายขนาดใหญ่ขึ้น จนสุดท้ายจึงเปิดประตูออก
ทั้งสามสิบกลุ่มตั้งแถว พวกเขาส่งมอบยันต์ลึกล้ำในมือแก่เจี้ยนสือเทียน ก่อนยันต์เหล่านั้นจะถูกนำใส่ต่อไปยังหอคอยเพื่อทดสอบระดับการสั่นไหว หอคอยนี้คืออุปกรณ์เต๋าทรงพลัง คิดทำลายด้วยพลังของยันต์ลึกล้ำกล่าวได้ว่ายากยิ่ง
เจี้ยนสือเทียนรับแผ่นยันต์ พร้อมทดสอบดูว่ามีอักขระเต๋าใดปรากฏอยู่หรือไม่ จากนั้นเขาจึงใส่พวกมันลงในหอคอย
ตู้ม!
ผลลัพธ์แรกได้ปรากฏแล้ว!
ด้วยพลังอำนาจรุนแรง ระดับการสั่นไหวที่เผยออกจากหอคอยถึงขนาดทำให้ทั้งเวทีประลองสั่นเทิ้ม บรรดารุ่นเยาว์หลายต่อหลายคนต่างสะท้าน พวกเขารับรู้ได้ถึงพื้นแผ่นดินของเกาะที่สั่นไหว
“แรงสั่นสะเทือนหกสิบแปด!” เจี้ยนสือเทียนมองแผ่นกลมในมือ มันปรากฏตัวเลขระดับการสั่นสะเทือนเอาไว้
ระดับสูงสุดคือหนึ่งร้อย หากหกสิบแปดยังรุนแรงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ยากจินตนาการได้ถึงแล้วว่าหนึ่งร้อยจะเป็นเช่นไร! ยิ่งไปกว่านั้น พลังนั้นยังถูกผนึกเอาไว้เพียงแต่ในหอคอย หากมันปรากฏโดยตรงสู่ภายนอก เช่นนั้นคงเป็นพลังระดับชวนพรั่นพรึง
เจี้ยนสือเทียนดำเนินการทดสอบต่อเนื่อง
ถัดมา ทั้งเวทีประลองและที่นั่งผู้รับชม ทั้งสองต่างตกอยู่ภายใต้แรงสั่นไหวต่อเนื่องแทบไม่หยุดพัก
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
หลังจากที่เจี้ยนสือเทียนโยนแผ่นยันต์ลึกล้ำเข้าหอคอย มันเริ่มสั่นไหวรุนแรง โชคยังดีที่หอคอยนี้ลอยตัวกลางอากาศ หากมันประทับอยู่ที่พื้น เช่นนั้นแรงสั่นไหวที่หลุดรอดออกมาย่อมต้องฉีกกระชากเวทีการแข่งขันออกเป็นเสี่ยง
“ระดับแปดสิบเก้า!” เจี้ยนสือเทียนปรากาศอย่างนึกทึ่ง สายตาเวลานี้มองที่อาจารย์จารึกเต๋าทั้งสองจากตระกูลเจี้ยน
“แปดสิบเก้า นี่ทัดเทียมกับยันต์เต๋า!”
“น่ากลัวนัก! ด้วยไม่มีอักขระเต๋า กระนั้นยังสามารถสร้างยันต์ลึกล้ำให้แข็งแกร่งทัดเทียมยันต์เต๋า!”
“หากสร้างยันต์เต๋า ถึงตอนนั้นคงยากจินตนาการออกแล้ว!”
“นี่คงสูงที่สุดแล้ว ช่างน่านับถือยิ่งนัก!”
บรรดาอาจารย์จารึกบนเวทีแข่งขันต่างประทับใจพร้อมกล่าวชมไม่ขาด
สุดท้ายแล้วจึงเป็นคราวของเจี้ยนหลิงหลงซึ่งอยู่ท้ายแถว เพราะกลุ่มของคนทั้งสองเสร็จช้าสุด ดังนั้นจึงต้องทดสอบเป็นกลุ่มสุดท้าย การทดสอบก่อนหน้านี้ ระดับการสั่นไหวสูงสุดที่ปรากฏคือแปดสิบเก้า! นางทราบ ว่าอักขระที่ฉินหยุนแกะสลักไว้แข็งแกร่ง กระนั้นนางก็คาดเดาว่าคงอยู่ที่ราวแปดสิบ ซึ่งนั่นเพียงพอให้ทั้งสองเข้าสู่สิบอันดับแรกได้! เพราะมีเพียงหกกลุ่มที่สามารถสร้างระดับแรงสั่นสะเทือนที่ราวแปดสิบ!
เจี้ยนสือเทียนรับยันต์ลึกล้ำสีดำจากเจี้ยนหลิงหลง เขาพิจารณาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เพราะเจี้ยนหลิงหลงครอบครองจารึกวิญญาณจ้าวเต๋า นางสามารถแกะสลักอักขระเต๋าได้ง่ายดายในระยะเวลาอันสั้น ไม่ช้า ผู้อาวุโสหลายคนต่างมาร่วมพิจารณายันต์นี้ร่วมกัน
ฉินหยุนใช้เคล็ดวิชาลับยามแกะสลักอักขระ สิ่งที่ผู้อื่นจะได้เห็น ก็เพียงแต่ความยุ่งเหยิง คิดทราบว่าอักขระใดคงอยู่ที่ภายใน ถือเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง
เจี้ยนหลิงหลงกล่าวออกด้วยโทสะเล็กน้อย “พวกเจ้าหน้าโง่ หวั่นเกรงว่าข้าคิดโกงหรือ? ดวงตาพวกเจ้าล้วนมืดบอดกันแล้วหรือไร? ผู้ที่แกะสลักอักขระคือเจ้าปีศาจน้อยนั่น หาได้ใช่ข้า!”
“ไม่เลย นี่ก็เพียงการระวังไว้ก่อน ยันต์แผ่นนี้หาได้มีปัญหาใดไม่!” เจี้ยนสือเทียนเร่งรีบกล่าวพลางหัวเราะกลบเกลื่อน “ทดสอบกันได้!”
เพราะอักขระแกะสลักโดยเด็กหนุ่ม บรรดาอาจารย์จารึกเต๋าผู้อื่นต่างลอบเหยียดหยามอยู่ภายใน
เจี้ยนหลิงหลงเดินออกห่าง กลับไปยืนข้างฉินหยุน และเวลานี้ ฉินหยุนก็ลอบกังวลอย่างยิ่ง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาผสมผสานระหว่างอักขระโทเทม อักขระลึกล้ำ อักขระดวงดาว และอักขระจันทรา เขาไม่ทราบว่ามันสามารถสำเร็จได้ด้วยดีหรือไม่
เจี้ยนสือเทียนโยนแผ่นยันต์เข้าในหอคอย ถัดจากนั้น มันไม่คล้ายมีสิ่งใดปรากฏ
“มีปัญหาหรือไร?” เจี้ยนสือเทียนขมวดคิ้ว
ฉินหยุนหัวใจเต้นแรง เขานึกว่าทำพลาด
ขณะที่อาจารย์จารึกผู้อื่นคิดอยากกล่าววาจาเย้ยหยัน ทันใดนี้ แรงระเบิดรุนแรงชวนตื่นตะลึงพลันบังเกิด หอคอยแตกออกเป็นเสี่ยง อัคคีเพลิงจำนวนมากทะลักล้นออกมารุนแรง มันเข้าปกคลุมทั่วทั้งเวทีการแข่งขัน!
หอคอยระเบิดออกเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนประหนึ่งดวงดาวที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้า พวกมันกระจัดกระจายทั่วทิศปะทะกับม่านพลังของเวทีแข่งขัน!
ทั่วทั้งเวทีแข่งขันคล้ายปรากฏสัตว์ร้ายอัคคีวิ่งพล่าน พวกมันเป็นอัคคีเพลิงสีแดงเข้มที่รุนแรง! เสียงระเบิดร้องคำรามของอัคคีพิโรธ มันเปรียบดังสัตว์ดุร้ายที่เขย่าพื้นโลกอย่างรุนแรงและดุดัน! อัคคีเพลิงสีแดงส่องสว่างเจิดจ้าต่อที่นั่งผู้ชม ผู้คนต่างต้องรีบลุกขึ้นยืนรับชมด้วยกายอันแข็งทื่อ!
อำนาจเช่นนี้ มันคือพลังของยันต์เต๋า!
นับว่าโชคยังดี เจี้ยนสือเทียนคือครึ่งเซียน และอาจารย์จารึกเต๋าหลายคนต่างอยู่ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ พวกเขาตอบสนองรวดเร็วและเข้าทำการดับเปลวเพลิง! หลังเพลิงสงบ ผู้คนบนเวทีแข่งขันจึงมีแต่เขม่าดำเผาไหม้เปรอะเปื้อน ใบหน้าพวกเขาล้วนเผยอาการตื่นตะลึง!
พื้นที่มีสภาพยุ่งเหยิง ก้อนอิฐหินขนาดใหญ่ที่ใช้สร้างพื้น เวลานี้มันแตกระแหงเพราะแรงสั่นไหวรุนแรง
หอคอยที่ซึ่งเป็นถึงอุปกรณ์เต๋า เวลานี้มันแตกออกเป็นเสี่ยงนับชิ้นไม่ถ้วนกระจัดกระจายทั่วทั้งเวที
ฉินหยุนถอยตัวไปซ่อนด้านหลังเจี้ยนหลิงหลง ทั้งยังจับเอวบางของนางเอาไว้แน่น กระทั่งตัวเขาเองยังหวาดกลัวต่อพลังอำนาจทำลายล้างระดับนี้!