Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 810 : บุกตระกูลหลง
ตอนที่ 810 : บุกตระกูลหลง
ร่างของราชันยุทธ์กลับกลายเป็นนิ่งงันในพริบตา กระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกของฉินหยุนทําการสับฟันจ้วงแทงใส่ร่างราชันยุทธ์อีกฝ่ายด้วยความเร็วสูงล้ํา
ในมุมมองผู้อื่น มันเปรียบดังสายฟ้าอสนีบาตสีดําวิ่งปราดโลดแล่นทั่วร่างกาย เพียงแค่พบเห็นแทบทุกผู้คนกลับกลายเป็นบังเกิดความตื่นตระหนก ราชันยุทธ์ผู้นั้นสวมใส่ชุดเกราะเต่ําสําหรับออกศึก กระนั้นก็ยังต้องถูกกระบี่ของฉินหยุนบดขยี้
ฉัวะ!
กระบี่ของฉินหยุนสะกดลงที่ร่างราชันยุทธ์ นั่นเปิดเอาชุดเกราะเต่สีทองม่วงอีกฝ่ายปริแตกร่างแยกออกเป็นสอง ราชันยุทธ์ระดับสูงสุด ผู้ซึ่งมีกําลังสามารถข่มขวัญผู้คนมากมายเวลานี้ต้องร่วงโรยด้วยสภาพชวนสังเวช
ผู้คนต่างสูดลมหายใจเย็นเยือกเข้าปอด พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว เพราะชายหนุ่มเช่นฉินหยุน ถึงขั้นมีกําลังเหนือล้ําเกินกว่าคาดคิด แน่นอนว่าพวกเขาไม่ทราบ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นได้เพราะหลันซูเหยาที่อยู่ข้างกาย เนตรศักดิ์สิทธิ์ของนางเป็นความเลิศล้ําขนาดฉินหยุนยังคิดอยากได้ไว้ในครอบครอง
“ปิดล้อมโจมตี!”
ราชันยุทธ์ตระกูลหลงที่เหลือสี่คน เวลานี้ค่อยตระหนักได้ว่าสถานการณ์ผิดคาด พวกเขาบุกโจมตีเข้าใส่ฉินหยุนจากทั้งสี่ทิศ ดวงตาของหลันซูเหยาเผยประกายแสงสีครามสาดส่องที่ร่างราชันยุทธ์เหล่านั้น เป็นผลให้ร่างกายพวกเขาต้องชะงักค้างการเคลื่อนไหวช้าลง
หากนางปลดปล่อยพลังแสงมากกว่านี้ นางจะสามารถแปรเปลี่ยนกลุ่มคนตรงหน้า เป็นรูปแกะสลักสีน้ําเงินและพลังอํานาจนี้ มันหาได้ส่งผลใดกับฉินหยุนไม่
ราชันยุทธ์ทั้งสี่ซึ่งถูกเนตรศักดิ์สิทธิ์ของหลันซูเหยาเล่นงาน พวกเขาค่อยทราบกันตอนนี้ ว่าดวงตาที่งดงามสีฟ้าครามนั้นครอบครองพลังชวนสะพรึงขนาดทําให้ร่างกายพวกเขาไม่อาจทําตามใจนึก
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ฉินหยุนพุ่งทะยานสู่ทิศทางทั้งสี่ เข้าสับฟันใส่กลุ่มคน โจมตีราชันยุทธ์ทั้งสี่ที่พุ่งเข้าหาพร้อมตัดร่างอีกฝ่ายออกเป็นสองอย่างหมดจด
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกสามารถทําลายอุปกรณ์เตชั้นสวะได้อย่างง่ายดาย ชุดเกราะศึกเต๋สีทองม่วงบนร่างกายราชันยุทธ์เหล่านั้นเผยความเหนือ ทว่าฉินหยุนมองพวกมันครั้งเดียวย่อมทราบ ว่ามีเพียงแต่อักขระเต่ระดับต้นแกะสลักเอาไว้ มันเจิดจ้าและสะกดข่มแต่ผู้อื่นทว่ากับเขาไม่ใช่
เมื่อครู หลายคนต่างชื่นชมว่าห้ามังกรราชันศึกเป็นตัวตนท้าทายสวรรค์ กระนั้นเวลานี้ ทั้งห้าคนถูกปลิดชีพสังหารในพริบตาประหนึ่งมดปลวก
“ฉินหยุนต้องใช้ยันต์สะกดกายที่ทรงอํานาจเป็นแน่!”
“ต้องใช่แน่แล้ว! เขาคืออาจารย์จารึกที่เก่งกาจ ทั้งยังเชี่ยวชาญยันต์สะกดกาย!”
“บัดซบยิ่งนัก! ยอดฝีมือยันต์เช่นนี้ถึงขั้นทําให้เกิดความห่างชั้นได้เพียงนี้!”
ผู้คนต่างถอนหายใจกันภายใน การเชี่ยวชาญอักขระที่ดี แกะสลักพวกมันได้ดี ก่อให้เกิดยันต์อันดีงามขึ้น พวกมันจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงในการศึก เป็นผลให้ผู้อื่นต่างสงสัยต่อโชคชะตาชีวิตตนเอง
ฉินหยุนรวบรวมร่างผู้ตาย นําแก่นเต๋และวิญญาณยุทธ์จากในร่างออก
จ้าวเมืองและห้ามังกรราชันศึกถูกสังหารหมดสิ้นแล้ว! เป็นผลให้หลายผู้คนในเมืองรัศมีมังกรต้องแตกตื่น
พวกเขาตอนนี้ได้ทราบ ว่าฉินหยุนตระเตรียมทําลายเมืองรัศมีมังกร
ทั้งเมืองกลับกลายเป็นโกลาหล หลายต่อหลายคนต่างเร่งรีบบินขึ้นฟ้ามุ่งหน้าสู่ประตูเมืองแม้เมืองรัศมีมังกรมีม่านพลังคุ้มกันแกร่งกล้า ทว่าป้องกันได้แต่การโจมตีจากภายนอก มันไร้ซึ่งศัก ยภาพรับการโจมตีจากภายใน เพียงอึดใจเดียว เมืองรัศมีมังกรจึงกลายเป็นรกร้าง
ฉินหยุนกําหมัดแน่นพร้อมตะโกนดัง ปลดปล่อยความสามารถเทวะแผ่นดินไหวอันเหนือล้ําถ่ายเทลงสู่พื้นดิน
ต้ม ตุ้ม ตุ้ม.
เมืองรัศมีมังกรเริ่มสั่นไหวรุนแรง สิ่งปลูกสร้างทั้งหลายเริ่มพังทลายลงแห่งแล้วแห่งเล่า
หลังจากที่หลายผู้คนเผ่นหนีจากในเมือง พวกเขาต่างลอยตัวกลางอากาศรับชมเมืองเบื้องล่าง
ที่พวกเขาได้เห็น เมืองซึ่งพวกเขาอยู่เมื่อครู่ เมืองขนาดใหญ่ยักษ์ตอนนี้กลับกลายเป็นเศษซากปรักหักพัง พวกเขาต่างอดไม่ได้ที่จะเกิดความหวาดกลัวขึ้นเกาะกุม
พลังความสามารถเทวะแผ่นดินไหวของฉินหยุนแข็งแกร่งขึ้น เนื่องเพราะการฝึกฝนของเขาก้าวหน้าขึ้น คลื่นสั่นไหวที่แผ่กระจายออกทั่วพื้น เป็นผลให้แผ่นดินเกิดการเคลื่อนตัวรุนแรงจนเกิดช่องว่าง และเมื่อช่องว่างเหล่านั้นปะทะกันจึงเป็นการเบิกแยกผืนแผ่นดินออกและสั่นไหวประหนึ่งคลื่นทะเล
เมืองรัศมีมังกรเวลานี้ถูกปกคลุมด้วยมวลฝุ่นหนาแน่น ประตูเมืองและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดต่างพังทลาย ม่านพลังที่ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลสร้างขึ้นก็พังทลายลงเช่นเดียวกัน
ฉินหยุนและหลันซูเหยาบินออกจากกลุ่มมวลฝุ่น ก่อนจะมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์รัศมีมังกร
เมืองรัศมีมังกรคือด้านหน้าของตระกูลหลง มันเป็นรากฐานของพวกเขา เหรียญม่ วงจํานวนนับไม่ถ้วนเป็นเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นตอนนี้กลับถูกทําลายลงโดยคนเพียงผู้เดียว
“ฉินหยุนทําลายเมืองรัศมีมังกรแล้ว ต่อไปต้องเป็นคฤหาสน์รัศมีมังกรแน่!”
“ตระกูลหลงยั่วยุฉินหยุนเอง ครานี้พวกเขาคงต้องรับสิ่งที่หว่านโปรยจนออกมาเป็นผลไม้สุดขื่นขมแล้ว!”
“ฉินหยุนครั้งนั้นยังอ่อนแอและเล็กจ้อย ตระกูลหลงคงไม่มีวันคิด ว่าเขาจะก้าวหน้ามีอํานาจได้รวดเร็วเช่นนี้!”
“พวกเราควรไปรับชมเรื่องราวที่คฤหาสน์รัศมีมังกรต่อดีหรือไม่?”
“ต้องไปแน่อยู่แล้ว! รับชมตระกูลหลงล่มสลาย นี่ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์!”
กลุ่มคนต่างตื่นเต้นยินดีขณะตัดสินใจต่อกันมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์รัศมีมังกร
ความจริงที่เมืองรัศมีมังกรถูกทําลาย ผู้คนในคฤหาสน์รัศมีมังกรล้วนได้ทราบเรื่องแล้ว
ขั้วอํานาจใหญ่ทั้งหลายในแคว้นมหาดวงดาว ต่างทราบว่าครึ่งเซียนและจักรพรรดิยุทธ์ตระกูลหลงได้ถูกสังหารครั้งเหตุการณ์หน้าประตูเมืองนครเซียนยุทธภัณฑ์ไปมากพวกเขาต่างคิด ว่าพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ตัดสินใจเปิดศึกต่อตระกูลหลง ดังนั้นจึงคิดมารับชมเรื่องราว
เปาเฉิงโจ่วและคณะเดิมคิดอยากร่วมทางกับฉินหยุน ทว่าพวกเขากังวล ว่าจะมีผู้อื่นแวะเวียนมาสร้างปัญหาในช่วงพวกเขาไม่อยู่ประจําการ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคลื่อนไหวเพียงทราบว่าหลันซู เหยาเป็นผู้ช่วยเหลือ ฉินหยุนย่อมสามารถมีชัยเหนือตระกูลหลงได้
ตระกูลเจี้ยนและตระกูลหลงต่างเป็นศัตรูคู่แค้นต่อกัน ตราบเท่าที่ตระกูลหลงต้องเผชิญหน้ากับโชคร้ายระดับมหันตภัย ตระกูลเจี้ยนย่อมชื่นชอบได้พบเห็นเป็นที่สุด
เจี้ยนสือเทียนและคณะคนตระกูลเจี้ยนต่างเร่งรีบมารับชมด้วยความเริงร่ากันเต็มที่
“ท่านปู ข้าได้ยินมาว่าหุบเขาเซียนโอสถ ตระกูลเทียน ตระกูลหยาง และขุนเขาเซียนอัคคีครามพวกนั้นต่างมาเป็นกําลังเสริมให้แก่ตระกูลหลงกันแล้ว” เจี้ยนหนันหูกล่าว “พวกเราควรช่วยเหลือนครเซียนยุทธภัณฑ์เมื่อถึงเวลานั้นหรือไม่?”
เจี้ยนหนันหูติดตามคณะเจี้ยนสือเทียนเดินทางมา พวกเขาบินผ่านอากาศด้วยความเร็วสูงเพียงไม่นานจึงมาถึงคฤหาสน์รัศมีมังกร
เจี้ยนสือเทียนกล่าวตอบ “พวกเราดูสถานการณ์ก่อน นครเซียนยุทธภัณฑ์กล้าบุกโจมตีตระกูลหลงเช่นนี้ ชัดเจนว่าต้องมีหลักประกันชัยชนะ! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังไม่เชื้อเชิญพวกเราแต่อย่างใด!”
“ท่านปู แดนวิญญาณอ้างว้างไม่อาจมีเซียน อย่างนั้นแล้วเซียนในนครเซียนยุทธภัณฑ์นั้นเป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปได้ว่าเซียนผู้นั้นจะออกหน้าโจมตีเองหรือไม่?” เจี้ยนหนันหูกล่าวถาม
“นครเซียนยุทธภัณฑ์มีม่านพลังพิเศษ ที่สามารถทําให้เซียนสามารถพํานักได้ภายใน ทว่าเซียนผู้นั้นไม่อาจออกจากพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ได้เ เรื่องราวนี้ผู้คนล้วนทราบอย่างมากที่สุด เซียนก็ได้แต่อาศัยอยู่ภายในและคอยคุ้มกันนครเซียนยุทธภัณฑ์!”เจี้ยนสือเทียนกล่าว
“ฉินหยุนต้องออกมาสู้ศึกด้วยเป็นแน่… สงสัยนักว่าตอนนี้เขาก้าวหน้าถึงขั้นใดแล้ว!” เจี้ยนหนันหูกล่าวอย่างคาดหวัง
คฤหาสน์รัศมีมังกร ประตูใหญ่มีมังกรทองคําแกะสลักเอาไว้ ยามเมื่อแสงเก้าตะวันสาดส่องพวกมันจะเปล่งประกายเฉิดฉายงดงาม ฉินหยุนและหลันซูเหยาต่างมาถึงหน้าประตูใหญ่ได้พบเห็นกลุ่มคนตระกูลหลงยืนเรียงรายด้านหน้าประตู
“เสี่ยวหยุน พวกนี้เป็นคนของเขตแดนลึกล้ํา!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
เขตแดนลึกล้ํามีหลายฝักฝ่าย และเหล่านั้นต่างมีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหลง กระทั่งว่าสูญเสียคนจํานวนหนึ่งที่เมืองภูตผีต้องห้าม พวกเขาก็ยังมีอีกจํานวนหนึ่งคงอยู่ที่ตระกูลหลง
ทั้งยังมีครึ่งเซียนจากแคว้นมังกรทะยานฟ้า กว่าสองหรือสามคนได้พํานักอยู่ที่ตระกูลหลงแห่งนี้นอกจากพวกเขา ตระกูลอื่นและสํานักเซียนแห่งอื่นต่างส่งผู้ช่วยเหลือมาเช่นกัน
แน่นอนว่า ประตูคฤหาสน์รัศมีมังกรย่อมต้องมีลานกว้างขนาดใหญ่ รูปสลักมังกรขนาดยักษ์ถูกแกะสลักไว้ที่ตรงกลาง ตอนนี้ ผู้คนตระกูลหลงจํานวนมากต่างยืนอยู่เบื้องล่างรูปสลักมังกรใหญ่ยักษ์
ที่พวกเขาไม่คาดคิด คือมีคนเพียงสองที่บุกโจมตีคฤหาสน์รัศมีมังกร เป็นฉินหยุนและสตรีชุดสีครามอีกผู้หนึ่ง!
ผู้คนนับแสนจากเมืองรัศมีมังกรต่างมารับชมเรื่องสนุก พวกเขาต่างเกาะกลุ่มกันหนาแน่นลอยกลางอากาศในระยะที่ไกลห่าง รับชมลานกว้างและประตูยักษ์อันวิจิตรของตระกูลหลง
“ฉินหยุนกับสตรีอีกนางหนึ่งอย่างนั้นหรือ?” คนผู้หนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ระหว่างทาง นึกว่านครเซียนยุทธภัณฑ์จะส่งคนมาเปิดศึกอย่างยิ่งใหญ่เสียอีก!”
“เห็นด้วย! ฉินหยุนและสตรีผู้นั้น ลําพังแค่สองจะมีชัยเหนือผู้คนตระกูลหลงมากมายได้อย่างไร?”
“หรือมาร้องขอความเมตตา?”
“ล้อกันเล่นหรือไร? ฉินหยุนทําลายทั้งเมืองรัศมีมังกรเมื่อครู่ คิดหรือว่าเขาจะมาร้องขอความเมตตาเอาปานนี้?”
“เร่งรีบดูทางนั้น เจี้ยนสือเทียนและคณะมาถึงแล้ว!”
ผู้คนต่างหันควับมองไปยังทิศทางที่มีออร่าดาบสะกดข่มพุ่งเข้ามาเยือน เป็นเจี้ยนสือ เทียนและคณะคนตระกูลเจี้ยน
เจี้ยนสือเทียนมาถึง เขาได้ทราบว่าฉินหยุนมายังเมืองรัศมีมังกรด้วยตนเอง และลงมือสังหารราชันยุทธ์ที่เก่งกล้าไปจํานวนหนึ่งและยังทําลายทั้งเมืองจนสิ้นซาก
“จ้าวสํานัก ฉินหยุนมากับสตรีนางหนึ่ง พวกเราไม่ทราบว่านางแข็งแกร่งเพียงใด แต่เป็นนางเพียงติดตามหาได้ลงมือใดไม่!” สายลับตระกูลเจี้ยนปรากฏตัวรายงาน
“สตรีผู้นั้น” เจี้ยนสือเทียนมองทางหลันซูเหยาที่อยู่ไกลออกไป ดวงตาอดไม่ได้ที่จะ ต้องหรี่เล็กอย่างกะทันหัน เขาค่อยตระหนักได้ ว่าเหตุใดจึงมีแต่ฉินหยุนและสตรีอีกหนึ่งที่บุกโจมตี
เพราะสตรีผู้นั้นคือหลันซูเหยา! เจี้ยนสือเทียนทราบพลังอํานาจหลันซูเหยากระจ่างชัดดีกว่าผู้ใดกระทั่งว่าเป็นครึ่งเซียน หากต้องเผชิญหน้ากับนาง ชีวิตย่อมสามารถถูกพรากจากได้ทุกเมื่อ! เนตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองข้างของหลันซูเหยา มันคือตัวตนท้าทายสวรรค์
“ท่านปู ฉินหยุนฝึกฝนอยู่ระดับใดกันแล้ว? เพียงเขาและสตรีผู้นั้น จะพอให้ทําลายตระกูลหลงหรือ?” เจี้ยนหนันหูมองร่างฉินหยุนจากทางด้านหลังพร้อมเอ่ยถาม
“ตระกูลหลงมีผู้คนแกร่งกล้าจํานวนมาก และยังมีคนของแคว้นมังกรทะยานฟ้าและเขตแดนลึกล้ํา!” หนึ่งในชายชราตระกูลเจี้ยนคิ้วขมวดกล่าวคํา “หากพวกเราคิดยื่นมือ เช่นนั้นย่อมต้องตระเตรียมสูญเสีย!”
เจี้ยนสือเทียนถอนหายใจยาว “ตระกูลหลงจบสิ้นแล้ว!
“ท่านปู สตรีผู้นั้นคือเซียนหรือ?” เจี้ยนหนันหูกล่าวถามด้วยสีหน้าตระหนก
“นางไม่ใช่ ทว่ามีแต่เซียนจึงสามารถต่อสู้นางได้!” เจี้ยนสือเทียนหมดสิ้นความกังวลต่อฉินหยุนอีก กระนั้นเขาก็ยังสงสัย ฉินหยุนและหลันซูเหยาเกิดความเบาะแว้งต่อกันครั้งใหญ่แต่แล้วตอนนี้กลับมาร่วมมือกันต่อสู้ได้เช่นไร
“ไอ้เจ้าฉินหยุนนั่น มันดีแต่วิ่งเล่นกับสตรีที่เก่งกาจไปทั่วอย่างนั้นหรือไร?” เจี้ยนหนันซ่อดไม่ได้ที่จะสบถคําเบา
“อาหู นั่นคือความแตกต่างระหว่างเจ้าและเขา!” เจี้ยนสือเทียนสายศีรษะถอนหายใจ
“หึ! ข้าย่อมเป็นผู้ใช้ดาบที่ภาคภูมิ หาได้ต้องการสตรีไม่!” เจี้ยนหนันหูกล่าวอย่างนึกรังเกียจ “ไม่นานข้าจะต้องเอาชนะฉินหยุนให้จงได้!”
ฉินหยุนและหลันซูเหยาต่างมีอาการสงบยามมองกลุ่มคนเบื้องหน้า
“ฉินหยุน เจ้ามาเพียงผู้เดียวอย่างนั้นหรือ? เปาเฉิงโจ่วและผู้อื่นเล่า? พวกมันซ่อนตัวอยู่หรือไร?” บุคคลที่เอ่ยถามเป็นชายชรา เขาสวมใส่ชุดเกราะสีทองอ่อนจาง ในมือถือไม้เท้าหัวมังกรช่วยค้ําเดิน
“แค่ข้าก็พอแล้ว!” ฉินหยุนกล่าว
“ลําพังพวกเจ้าสองคน? อย่าได้กล่าวถึงว่าจะเอาชัยเหนือพวกเรา กระทั่งหลบหนีก็ไม่อาจ!”ชายชราแค่นเสียงกล่าวอย่างเดียดฉันท์
ผู้คนตระกูลหลงต่างมองรอบ เพื่อตรวจหาดูว่านครเซียนยุทธภัณฑ์รอคอยลงมือเป็นการลับอยู่หรือไม่
“จงส่งวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะของเฉียวเฟิงมา!” ฉินหยุนมองที่ชายชราพร้อมกล่าวเสียงเย็นเยียบ
“หลงเฉียวเฟิงคือคนตระกูลหลงของเรา หากพวกเราต้องการให้นางตาย เช่นนั้นนางก็ตาย!แต่นางกลับร่วมมือกับคนนอก เป็นผลให้พวกเราต้องสูญเสียมังกรผู้พิทักษ์ ดังนั้นแล้วพวกเรานําวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะของนางออกมาแล้วอย่างไร? เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเรียกร้องวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะนั่น?”
ชายชรากล่าวออกอย่างโกรธแค้น เพราะมังกรของพวกเขาจนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่พบตัวหรือศพ!