Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 836 : หอรัญจวนกํายาน
ตอนที่ 836 : หอรัญจวนกํายาน
เซียนหมูจิ้งจ้องมองรอยยิ้มซุกซนของฉินหยุน นางปรารถนาคิดอยากตบที่แก้มนั้นสักที่หนึ่ง
“เจ้าตัวบัดซบ อย่าได้กล่าวหาให้เกิดความเบาะแว้งระหว่างเรา ระหว่างข้าและฉวนอู่มีสัมพันธ์ต่อกันอย่างลึกล้ํา ไม่ใช่อะไรที่เจ้าจะจินตนาการเข้าใจถึงได้!” เซียนหมูจิ้งคํารามเสียงเบา“แม้ว่า… แม้ว่าจะมีสตรีอื่น ทว่านั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรแล้วเขาก็แข็งแกร่งเป็นปกติที่จะดี งดูดสตรีอื่น!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับเผยยิ้มตอบ “วิเศษนัก คํากล่าวนี้ดียิ่ง! บุรุษที่มีสนมสักสามหรือสี่คนกล่าวได้ว่าธรรมดา กระนั้นการที่ใฝ่หาสตรีอื่นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นการมองว่านางเหล่านั้นทัดเทียมเจ้าหรือ?”
เซียนหมูจิ้งยิ่งได้รับฟัง โทสะของนางยิ่งสุมอัด น้ําเสียงของนางโพล่งกล่าวออก “ทัดเทียมข้าหรือ? น่าขัน แม้เขาไปละเล่นกับสตรีอื่นที่ภายนอก พวกนางก็เป็นได้แค่อุปกรณ์สําหรับการบําบัดความใคร่ มีแต่ข้าจึงอยู่ในใจเขา!”
“ไม่นึกว่าเจ้าเป็นคนจิตใจเปิดกว้างเช่นนี้ หลงฉวนอูนับว่าโชคดีนักที่มีภรรยาเช่นเจ้า!” ฉินหยุนยังคงยิ้ม
“อิจฉาอย่างนั้นหรือ? กับตัวบัดซบเช่นเจ้า ย่อมไม่มีทางหาภรรยาที่วิเศษดังเช่นข้าได้ และจะไม่มีผู้ใดคิดเป็นภรรยาเจ้าด้วย!”เซียนหลูลิ้งกล่าวออกอย่างภาคภูมิ
“ขออภัย ทว่าข้ามีภรรยาแล้ว!” ฉินหยุนหัวเราะเย้ยดัง “และภรรยาข้าก็วิเศษเสียยิ่งกว่าเจ้า!หากยืนเคียงข้างเทียบเปรียบ เจ้าแทบไม่ต่างอะไรกับสตรีรับใช้!”
“จงรับความตาย!” เซียนหมูจิ้งตวัดดาบเซียนของนางจ้วงแทงดุดันใส่ศีรษะฉินหยุน
เฉินหยุนพลันหลับตาพร้อมเริ่มพึมพํา สีหน้านี้หาได้หวาดกลัวต่อความตายใดไม่ “เจ้าลูบคลําข้า… เจ้าลูบคลําข้า… เจ้าลูบคลํา…”
เซียนหมูจิ้งยิ่งกราดเกรี้ยว นางเผยเสียงตะโกนดัง “ข้าลูบคลําแล้วอย่างไร? ที่คิดตอนนี้คือเพียงจับเจ้าตอน!”
เฉินหยุนจึงอ้าขาพร้อมกล่าว “เข้ามาเลย จงตอนข้าเสีย! ข้าอย่างไรก็โดนเจ้าขืนใจไปแล้วตาย เสียที่ตรงนี้ก็หาได้มีอันใดต้องเสียอีกไม่!”
“เหตุใดจึงยังเสแสร้ง คิดหรือว่าข้าไม่กล้าลงมือ?” เซียนหมูจิ้งคิดลงมือหลายครั้งครา ทว่านางไม่ทราบเพราะเหตุใด สุดท้ายแล้วนางจึงไม่อาจลงมือใดลงไปได้
“เจ้าย่อมต้องกล้า ดังนั้นเร่งรีบลงมือ! จากนั้นจงรีบไปหาฉวนอู่ของเจ้า บางที่มันเวลานี้คงกําลังเกลือกกลั้วในหอเริงรมณ์!” ฉินหยุนอุ้ยปากกล่าวคํา
เซียนหมูจิ้งกลับกลายเป็นมีโทสะอีกครั้งครา “ตัวบัดซบ ข้าขอบอกที่ตรงนี้อีกครั้งหนึ่ง ฉวนของข้าหาได้ใช่คนเช่นนั้นไม่! อย่าได้คิดว่าใส่ร้ายเขา! หากเจ้ายังกล่าวหาอีกครั้งหนึ่งข้าจะสับร่างเจ้าออกเป็นแปดท่อน!”
ฉินหยุนหัวเราะตอบ “หากไม่เชื่อข้า อย่างนั้นพวกเราออกไปรับชมดูเป็นไร?”
“พวกเราจะออกไปได้อย่างไร? ตอนนี้ถูกคุมขังที่นี่ อย่าได้คิดว่าจะยั่วยุข้าเช่นนี้เพื่อหาทางออกไป ข้าไม่มีทางหลงกลเจ้า!” เซียนหมูจิ้งเดิมคิดอยากจับฉินหยุนทรมานที่นี่สักหลายวันกระนั้นนางไม่คิดว่าจะกลายเป็นตนเองที่ต้องถูกทรมานทางจิตใจ
ฉินหยุนทราบดี ว่าเชียนหมูจิ้งไม่อาจลงมือต่อเขา ด้วยเซียนหมูจิ้งรู้สึกผิดอยู่ภายในอย่างที่ไม่รู้ตนเองดังนั้นนางจึงไม่มีทางกล้าลงมือ เพราะนางเกิดความรู้สึกละอายอยู่ที่ภายใน
“หากตกลง เช่นนั้นข้าจะพาออกไปด้านนอก!” ฉินหยุนกล่าว
“ได้! ข้าตกลง แล้วเจ้าคิดนําข้าออกไปจากห้องขังนี้อย่างไร?” เซียนหมูจิ้งคําราม
“จับมือข้าไว้” ฉินหยุนกล่าวเฉยชา
“อย่าได้คิดจะแตะต้องตัวข้า!” เซียนหมูจิ้งพลันกราดเกรี้ยว
“เจ้าลูบคลําข้าไปถึงเพียงนั้น จับมือกับข้ายังมีอันใดให้ต้องคิดมากอีก?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวนี้ชวนขบขันจนเกินไปแล้ว
เซียนหมูจิ้งเผยเสียงเย็น “อย่าได้คิดหลอกลวงข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะทําให้ชีวิตเจ้าเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย! ตัวเจ้าอย่างไรก็ไม่มีทางเอาชนะข้า สมควรเป็นเจ้าทราบดีที่สุด!”
เซียนหมูจิ้งยื่นมือไปยังฉินหยุน และฉินหยุนก็รับมือของนางมากุมไว้ ก่อนจะทําให้ร่างทั้งสองโปร่งแสง และจึงใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง
แม้ว่าคุกแห่งนี้มีม่านพลังมากมาย กระนั้นกลับไม่มีการทํางานใดเพราะเซียนหลุจิ้งอยู่ที่ภายในนี้ดังนั้นฉินหยุนจึงสามารถนําเชียนหมูจิ้งออกจากห้องขังโดยง่ายดาย
เมื่อออกมาแล้ว เซียนหมูจิ้งถึงกับเผยความตื่นตะลึงไม่รู้จบ ตอนนี้นางค่อยเข้าใจ ว่าเหตุใดฉินหยุนจึงมีอาการสงบถึงเพียงนั้น ก็เพราะเขาสามารถออกมาได้ทุกเมื่อตามใจต้องการ!
“เงียบก่อน อย่าได้พูดกล่าวใด!” ฉินหยุนส่งเสียงสื่อสารไปยังเซียนหมูจิ้ง
“ตัวบัดซบ เจ้าจงใจเข้าห้องขังด้วยตนเอง มีเจตนาอื่นใดคิดต่อข้าหรือไม่จงพูด!” เซียนหมูจิ้งเอ่ยถามผ่านเสียงสื่อสาร นางขณะนี้ติดตามฉินหยุนเดินผ่านทางเดินขมุกขมัวเพื่อออกจากชั้นใต้ดิน
“ข้าหรือจะมีเจตนาอื่นใด? กลับเป็นเจ้าที่จงใจให้คนของตระกูลหลงเหล่านั้นไปจับตัวข้าหากกล่าวหาว่าผู้ใดมีเจตนา ผู้นั้นก็เป็นเจ้า!” ฉินหยุนกล่าว
“เหอะ.. เห็นกันอยู่ว่าข้าคิดสอนสั่งบทเรียนแก่ตัวบัดซบเช่นเจ้าอย่างโหดเหี้ยมสักคราหนึ่ง!”เซียนหมูจิ้งสบถ
ไม่นานจากนั้น ฉินหยุนและเซียนหมูจิ้งจึงออกพ้นจากชั้นใต้ดิน กลับขึ้นมายัง นด้านบนของพื้นที่หวงห้ามตอนนี้เป็นช่วงบ่าย ทั้งสองต่างอยู่ในสภาพโปร่งแสง หาได้มีผู้ใดพบเห็นคนทั้งสองไม่
ยันต์เต่ผนึกซ่อนเร้นของฉินหยุนสามารถเก็บงําออร่า ดังนั้นจึงสามารถผ่านการป้องกันของพื้นที่หวงห้ามไปตามทางที่เคยใช้เข้ามาได้
ทางด้านเซียนหมูจิ้งเวลานี้ตื่นตะลึงถึงที่สุด นางไม่คิด ว่าตัวตนที่ไม่น่ามีอันใดถึงกับมีความสามารถอีกฝ่ายสามารถเข้าออกพื้นที่รักษาความปลอดภัยเข้มงวดได้ดังใจนึก
ฉินหยุนนําเซียนหมูจิ้งไปยังบ้านพักของหลงอ ค้ง ทางด้านหลงอ คังเวลานี้กําลังเดินไปมาในบ้านอย่างว้าวุ่น ชัดเจนว่าเขากําลังเป็นห่วงความปลอดภัยของฉินหยุน
“น้องหลง ข้ากลับมาแล้ว!” ฉินหยุนพลันตะโกนดังขึ้น ก่อนจะเผยร่างขึ้นพร้อมกับเซียนหมูจิ้ง
หลงอ คงพบเห็นฉินหยุนมาพร้อมโฉมงามเช่นเซียนหมูจิ้งจากอากาศธาตุ ทั้งยังเกาะกุมมือเวลานี้รู้สึกแทบอยากคุกเข่ากราบกรานต่ออีกฝ่ายแสดงความนับถือ
เมื่อครู่ เขายังเป็นกังวลว่าฉินหยุนอาจใกล้ตายแทบเท้าเซียนหมูจิ้ง ผู้ใดกันคาดคิด ว่าผ่านไปเพียงไม่นานอีกฝ่ายจะกลับมาพร้อมกุมมือขาวนวลของเซียนหมูจิ้ง
เรื่องราวที่พบเห็นนี้ มันแทบจะพลิกโลกความรู้ความเข้าใจชั่วชีวิตของหลงอวดังได้อย่างหมดสิ้น
“หยุน… พี่หยุน… นะ… นางคือเซียนหมูจิ้ง?” หลงอ คังเอ่ยถามอย่างตื่นตะลึง
“เป็นท่านหญิงผู้นี้เอง เจ้ามีปัญหาใด?” เซียนหมูจิ้งเผยเสียงเย็น นางไม่ทราบว่าเหตุใดจึงออกมากับฉินหยุนเช่นนี้ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังคงสร้างความตื่นเต้นแก่นางไม่หาย
หลงอคงแทบคิดอยากกราบกรานฉินหยุนอย่างแท้จริงเสียตรงนี้แล้ว พร้อมยังจะกล่าววาจาเผยความนับถือต่ออีกฝ่าย
“น้องหลง เร่งรีบตระเตรียมรถลาก นําข้าไปยังหอคณิกาใกล้เคียงคฤหาสน์ราชันมังกรเดี่ยวนี้!” ฉินหยุนกล่าวขึ้น
“หะ… หอคณิกา! นี่ นี่ท่าน… คิดไปทําอะไรกันแน่? จะนํานางไปขายที่หอคณิกาอย่างนั้นหรือ?” หลงอ คังเบิกตากว้างแทบถลนออก
ฉินหยุนจึงตอบกลับด้วยสีหน้าไม่ยินดีเท่าใดนัก “ไม่ใช่อยู่แล้ว! เป็นข้าสงสัย ว่าหลงฉวนอู่ผู้นั้นกําลังเริงรมณ์สุขสมในหอคณิกา และนายหญิงน้อยเซียนผู้นี้ไม่เชื่อคําข้า ดังนั้นจึงคิดนํานางไปรับชมด้วยตาตนเอง!”
สาเหตุว่าทําไมฉินหยุนจึงมั่นใจ เพราะหลงอวดังได้บอกต่อเขาก่อนหน้า ถึงหลงฉวนอู่ที่มักออกไปพร้อมกลุ่มคนตระกูลหลงเพื่อเริงรมณ์ในหอคณิกา
“ย่อมได้แล้ว ข้าจะรีบไปตระเตรียมรถลาก!” หลงอวดังกล่าวคําจบ เขาจึงเร่งรีบไปเตรียมรถลากเช่นนี้หลงอคังฉินหยุนและเซียนหมูจิ้งจึงโดยสารรถลากไป
“จริงด้วย อีกไม่ช้ารถลากพวกเราจะถูกตรวจสอบ ถึงตอนนั้น ขอทั้งสองช่วยบิดซ่อนตัวตนด้วย” หลงอ คังกล่าว
“ไม่มีปัญหา!” ฉินหยุนหัวเราะรับ ก่อนหันมองทางเซียนหมูจิ้ง “ถึงตอนนั้นอย่าได้ส่งเสียงใด!”
เซียนหมูจิ้งจับจ้องฉินหยุน “วางใจเถอะ ข้าย่อมไม่เผยเสียงใดออกไป! ข้าคิดอยากได้เห็นนักว่าเจ้ากําลังจะใช้เล่ห์กลอันใดมาหลอกลวงข้า!”
คํานางพอกล่าวจบ จึงคว้ามือฉินหยุนไว้พร้อมหยิกรุนแรง “อย่าเข้าใจผิดไป ข้าเพียงไม่ต้องการให้คนปลิ้นปล้อนเช่นเจ้าหนีหาย!”
ฉินหยุนหัวเราะรับและไม่กล่าวคําใดอีก
หลงอวดังกล่าว “พี่หยุน หลงฉวนอูได้ออกไปจากคฤหาสน์ราชันมังกรพร้อมกลุ่มคน พวกมันเหล่านั้นเป็นผู้มีหน้าที่ในหอคณิกา พวกมันคงต้องไปเริงรมณ์กันอย่างแน่นอน!”
เซียนหมูจิ้งสบถเสียงเบา “ตัวบัดซบ อย่าได้คิดว่าจะกล่าวหาฉวนอู่ของข้าได้เพียงคําพูดเหล่านั้น! เขาไม่ใช่คนเช่นนั้น!”
หลงอวี่ทั้งหัวเราะตอบ “นายหญิงน้อยเซียน ข้าพบเห็นหลงฉวนอู่ครั้งแรกก็กล้ากล่าวแล้วว่าเขาเป็นผู้มากประสบการณ์ทางด้านนี้ อย่าได้มองว่าภายนอกมันเผยท่าที่เย็นชา ฝีมือบนเตียงของมันย่อมเหนือล้ําดังเช่นฝีมือทางยุทธ์ของมัน!”
“เจ้าได้เพียงแต่กล่าววาจาไร้สาระไปเรื่อย พวกเราอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานยิ่ง เขายังไม่เคยแตะต้องตัวข้าแม้สักครั้ง! จิตใจของเขาจึงบริสุทธิ์ผุดผ่อง! มีแต่คนเช่นพวกเจ้าที่มี แต่จิตใจเปรอะเปื้อนทั้งวันเอาแต่คิดเรื่องโสมม! ในเมื่อพวกเจ้าไม่อาจแข็งแกร่งทัดเทียมเขาได้ก็ไม่แปลกใจที่จะคิดอยากกล่าววาจาใส่ร้ายต่อเขา!” เซียนหมูจิ้งแค่นเสียงอย่างไม่นึกรับฟัง
ฉินหยุนเลือกที่จะไม่ตอบคําใด
หลงอวดังเผยยิ้ม “นายหญิงน้อยเซียน บุรุษย่อมมักมากในกามได้ ทว่าตัวตนเช่นหลงฉวนอู่ที่ทั้งวันเอาแต่ขลุกตัวในหอคณิกานั้นจึงกล่าวได้ว่าอุกอาจ!”
เซียนหมูจิ้งเผยเสียงเย็น “หากเจ้าไม่อาจแสดงหลักฐานแก่ข้า พวกเจ้าทั้งสองมีแต่ชะตาต้องตาย!”
ระหว่างเดินทางไป ฉินหยุนจึงแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์กลับกลายเป็นชายวัยกลางคน เซียนหมูจิ้งและหลงอดังต่างตื่นตะลึง พวกเขาคิด ว่าด้วยสภาพนี้หากพบเห็นอีกฝ่ายที่ภายนอกเช่นนั้นจะไม่มีทางที่พวกเขาสามารถจดจําอีกฝ่ายได้
“พี่หยุน นี่ท่านมีกี่ตัวตนกันแน่?” หลงอคงเริ่มสงสัย ว่าใบหน้าที่ตนเองเคยเห็นก็เป็นของปลอมเช่นกัน
“เหอะ เหอะ… ก็ไม่มาก!” ฉิ
“ผู้ซึ่งไม่หาญกล้าเผยใบหน้าแท้จริง ย่อมต้องอัปลักษณ์อย่างแน่นอนแล้ว!” เซียนหมูจิ้งเผยใบหน้านึกรังเกียจ
“นายหญิงน้อยเซียน หากพวกเราทัดเทียมด้านรูปลักษณ์ หลงฉวนอู่ของเจ้าจึงไม่อาจหล่อเหลาได้แม้เล็บเท้าของข้า เรื่องนี้เจ้าเชื่อหรือไม่?” ฉินหยุนเผยยิ้ม
“เจ้ามันก็แค่คนที่มีแต่กลลวงพร้อมหยิบยกออกมาใช้! แท้จริงเจ้าต้องอัปลักษณ์อย่างแน่นอน!” เซียนหมูจิ้งไม่มีทางเชื่อคํากล่าวเหล่านั้น
ตอนนี้เอง ฉินหยุนจึงนําเอายันต์สะกดรอยวิญญาณออกมา ครั้งแข่งขันงัดข้อกับหลงฉวนอูวิญญาณเทวะเก้าตะวันได้ดูดกลืนพลังของหลงฉวนอู่เอาไว้มาก ตอนนี้เขาเพียงคัดแยกออร่าของหลงฉวนอู่ออกมาจากพลังดังกล่าว ก่อนจะถ่ายเทสู่แผ่นยันต์
เช่นนี้ เขาจะสามารถค้นหาตัวหลงฉวนอูได้ เพียงไม่นาน ยันต์สะกดรอยวิญญาณ งบ่งชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
“พื้นที่สวนเหนือของคฤหาสน์ราชันมังกร หลงเถาได้จัดตั้งหอคณิกาขึ้น นามว่าหอรัญจวนกํายาน!” หลงอวดังกล่าว
เซียนหมูจิ้งใจเต้นแรง นางเวลานี้ยิ่งมาร้อนใจ นางจะไม่อาจรับได้หากหลงฉวนอู่เอาแต่ใช้เวลาหมดทั้งวันภายในหอคณิกา ความรู้สึกเวลานี้อดไม่อยู่ที่จะตึงเครียดขึ้นมานางกังวลว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็นความจริง มือของฉินหยุนเวลานี้ถูกเขียนหมูจิ้งเกาะกุมไว้แน่นเขารับรู้ถึงความเจ็บจากแรงบีบ
ฟ้าใกล้มืด รถลากในที่สุดจึงมาถึงลานจอดเบื้องล่างหอรัญจวนกํายาน สิ่งปลูกสร้างที่สูงกว่าสิบชั้นกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่อันต้องตา
“หลังจากนี้ ทั้งสองคนเข้าไปก็แล้วกัน ข้าจะรออยู่ที่ด้านนอก!” หลงอ คงไม่กล้าเข้าไปเขาเกรงว่ามันอาจจะเกิดเรื่องราวชวนซับซ้อนขึ้นได้ ถึงตอนนั้นเขาอาจถูกหลงฉวนอู่ลงมือสังหาร
ฉินหยุนดึงร่างเซียนหมูจิ้งร่วมทาง เวลานี้ยังคงสภาพโปร่งแสงขณะลงจากรถม้า สาเหตุว่าทําไมเขาต้องการทําถึงเพียงนี้ ก็เพราะเขาต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในกลุ่มของสํานักมังกรฟ้า
ผู้คนล้วนทราบ ว่าหลงฉวนอู่มีความสําคัญแก่สํานักมังกรฟ้าเพียงใด หากเกิดเรื่องราวเบาะแว้งขึ้นระหว่างหลงฉวนอูและเซียนหมูจิ้ง คฤหาสน์ราชันมังกรจะยิ่งเกิดความขัดแย้งภายในเท่าทวีและนั่นจะเป็นโอกาสให้ฉินหยุนได้ลงมือ
ภายในหอรัญจวนกํายาน มีสตรีมากมายสวมใส่ชุดดึงดูดรอต้อนรับ สตรีเหล่านี้จะสวมใส่ชุดที่เย้าชวนแต่งหน้าหนาทําให้บรรยากาศในที่นี้มีแต่กามอารมณ์เข้าครอบงํา