Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 848 : งานเลี้ยง
ตอนที่ 848 : งานเลี้ยง
เซียนหมูจิ้งยังคงจับจ้องฉินหยุน เพราะนางสงสัย ว่าชายหนุ่มศีรษะล้านตรงหน้าผู้นี้แท้จริงคือพี่หยุน” ผู้นั้น
“น้องชายเจ้าจริงอย่างนั้นหรือ? ตั้งแต่เมื่อใดกันที่เจ้ามีน้องชายผู้นี้? ข้าเคยสืบเรื่องเจ้าพบว่าเจ้าเป็นบุตรเพียงหนึ่งเดียว!” เซียนหมูจิ้งจับจ้องหลงอวดังพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“บิดาข้าให้กําเนิดน้องชายผู้นี้ที่ภายนอกตระกูล กล่าวได้ว่าเป็นน้องชายคนละแม่! ความสัมพันธ์ของพวกเราที่มีต่อกันค่อนข้างดีตั้งแต่ยังเยาว์ ตอนนี้ท่านพ่อจากไปแล้ว ข้าจึงต้องการผู้ช่วยที่คฤหาสน์ราชันมังกรแห่งนี้ดังนั้นจึงให้เขามาที่นี่!” หลงอวดังกล่าวจบจึงสัมผัสศีรษะล้านของฉินหยุน
ความรู้สึกสัมผัสที่ได้ค่อนข้างเรียบลื่น ราวกับศีรษะล้านของจริงอย่างไรอย่างนั้น เซียนหมูจิ้งจับจ้องศีรษะล้านที่แทบจะส่องประกายออกมา ไม่ว่ามองอย่างไร มันก็ไม่คล้ายจะเป็นศีรษะล้านที่เพิ่งผ่านการปลอมแปลงโกนผม
“เจ้าคนสกุลหยุนผู้นั้น ตอนนี้ไปที่ใดแล้ว?” เซียนหมูจิ้งเอ่ยถาม
“เขาไม่ได้บอกกล่าวไว้! ข้าไม่ทราบด้วยซ้ําว่าหยุนเป็นสกุลแท้จริงของเขาหรือไม่!” หลงอคงส่ายศีรษะเผยยิ้ม“ตอนนี้คงไปไกลห่างจากคฤหาสน์ราชันมังกรแล้ว ครั้งนี้เขาได้ผลเก็บเกี่ยวไปไม่ใช่น้อย!”
“เฮอะ ตัวบัดซบผู้นั้น มันถึงขั้นหนีหายไปโดยไม่บอกกล่าวต่อข้า!” เซียนหมูจิ้งกัดฟันแค่นเสียง
“แม่นางเซียน ไม่ใช่ว่าเกลียดชังเขาหรือไร?” หลงอวดังเผยยิ้มอ่อนเอ่ยคําถาม
“ข้าย่อมเกลียดชังมันผู้นั้น! เหตุนั้นจึงมาหามันถึงที่นี่เพื่อล้างแค้น!” เซียนหมูจิ้งครวญครางเสียงเบา “ทว่ามันกลับเร่งรีบเผ่นหนีหาย!”
หลงอคงส่ายศีรษะ “พี่หยุนกล่าวได้ว่ายอดเยี่ยม! เผชิญหน้าเรื่องราวหนักหนาในคฤหาสน์ราชันมังกรกระนั้นก็ยังอยู่รอดปลอดภัย!ไม่ทราบแล้วว่าข้าจะมีโอกาสได้พบเขาอีกเมื่อใดกัน!”
เซียนหลจิ้งพลันกล่าว “หลงอวดัง เจ้าจงบอกต่อข้าตามตรง… เจ้าผู้มีสกุลหยุน มันได้ไปยังหอคณิกาหรือไม่?”
“ข้าไม่อาจทราบ และข้าไม่เคยพาเขาไปที่นั่น… ทว่าบุรุษเช่นนั้นย่อมต้องมีสตรีเคียงข้างไม่น้อย! พูดถึงตรงจุดนี้หอคณิกาใดคงไม่จําเป็น นอกจากนี้แล้ว เขายังเฉยชาต่อสตรีที่หอคณิกาซึ่งมีแต่ความรัญจวนเย้ายวนเหล่านั้นด้วยซ้ํา!” หลงอว์คังเผยยิ้ม “รสนิยมเขาย่อมสูงส่งยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับหลงฉวนอู่!”
เซียนหลจึงจับจ้องหลงอวดัง “บุรุษเช่นพวกเจ้าล้วนไม่มีอันใดดี!”
ฉินหยุนไม่พูดกล่าว เขาเพียงรับชมเรื่องราว เซียนหมูจิ้งเวลานี้คลายข้อสงสัยในใจแล้วพลังผูกชีวิตระหว่างนางและฉินหยุนก็เลือนหายไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่มีทางสัมผัสอะไรถึงตัวเขาได้อีก
“หลงอวดัง หากเจ้าพบเจอชายคนนั้นอีกครั้ง ช่วยข้าส่งจดหมายปิดผนึกฉบับนี้ให้แก่เขาอย่าได้คิดสอดรู้ไม่เช่นนั้นชีวิตเจ้าจะหาไม่!” เซียนหมูจิ้งนําเอาจดหมายปิดผนึกออกมาส่งมอบให้แก่หลงอวดัง
“ข้ารับปาก!” หลงอวดังรับจดหมายเอาไว้
ส่งมอบเรียบร้อย เซียนหมูจิ้งจึงเร่งรีบจากไป
เมื่อมั่นใจว่านางออกไปไกลแล้ว หลงอวดังจึงยื่นจดหมายให้แก่ฉินหยุนพร้อมเผยยิ้ม “พี่หยุนคล้ายนางมีความรู้สึกให้แก่ท่านไม่น้อย!”
“อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระไปแล้ว!” ฉินหยุนเปิดจดหมายและอ่านเนื้อหา กล่าวต่อเขาว่าให้ใช้จดหมายฉบับนี้เพื่อไปพบเซียนหมูจิ้งในแดนเซียนอ้างว้าง ทั้งยังมีการบอกถึงสถานที่ซึ่งสามารถพบเจอ
หลงอวดังเลือกที่จะไม่ถามเนื้อหา เขากล่าว “งานประลองยุทธ์จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันถัดจากนี้ท่านมั่นใจหรือว่าต้องการเข้าร่วม?”
ฉินหยุนเผยยิ้ม “หากท่านสามารถเอาชนะหลงฉวนอู่ เช่นนั้นข้าก็ไม่ไปเข้าร่วม! แต่ในเมื่อท่านไม่อาจเอาชนะมันได้ข้าจึงต้องเข้าร่วม!”
หลงอวดังปุ๋ยปากกล่าวคํา “ข้ายอมรับ ตัวข้าไม่อาจเอาชนะมันได้ แต่ท่านนั้นได้หรือ?”
“ย่อมต้องได้!” ฉินหยุนขณะนี้ก้าวขึ้นเป็นราชันยุทธ์ เขารู้สึกว่าคิดเอาชนะหลงฉวนอู่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อันใด
วันถัดจากนั้น หลงอวดังจึงนําฉินหยุนตระเวนไปทั่วทุกสถานที่ กล่าวแนะนําฉินหยุนว่าเป็นน้องชายตนเองน่าฉินหยุนไปยังสถานที่สําคัญภายในคฤหาสน์ราชันมังกรเพื่อให้เขาได้ทราบ
ระหว่างช่วงเวลานี้ เขามักจะสัมผัสศีรษะฉินหยุนอยู่เสมอ เป็นผลให้ฉินหยุนต้องเกิดความโกรธเคืองขึ้นภายในกระนั้นหลงอวดังได้กล่าวว่าวิธีการเช่นนี้สามารถบ่งบอกให้ผู้อื่นเชื่อได้ว่าสัมพันธ์ของพวกเขาพี่น้องค่อนข้างดีต่อกันเช่นนี้จะได้ไม่มีผู้ใดเกิดความสงสัย ดังนั้นฉันหยุนจึงได้แต่ต้องกล้ํากลืนความโกรธเคืองจึงต้องไปลงที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยซึ่งเลือกให้เขาหัวล้านเช่นนี้!
งานประลองยุทธ์ที่คฤหาสน์ราชันมังกรได้ถูกประกาศออกไปเนิ่นนานแล้ว ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ําและราชันยุทธ์สามารถเข้าร่วม ผู้ชนะเลิศมีเพียงหนึ่งเดียว และจะได้เป็นผู้ครอบครองวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะของหลงเฉียวเฟิง
ผู้คนล้วนทราบ ว่าวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะนี้มีความเป็นมาเช่นไร ดังนั้นผู้ที่คิดเข้าร่วมจึงไม่ได้มีเพียงแต่ศิษย์รุ่นเยาว์ ทว่ายังมีราชันยุทธ์เฒ่าชรา พวกเขาเหล่านี้ต่างพร้อมใจกันเข้าร่วม
ที่เป็นผลให้ฉินหยุนเกิดความรู้สึกกวนใจ คือเซียนหมูจิ้งเลือกที่จะเข้าร่วมนางเป็นราชันยุทธ์ระดับสูงด้วยกําลังของนางคิดเอาชนะราชันยุทธ์ส่วนใหญ่ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
ผู้คนของทั้งตระกูลหลงและสํานักมังกรฟ้าต่างไม่อาจพูดกล่าวใดได้ เซียนหลจึงคิดเข้าร่วมการแข่งขันพวกเขาจึงได้แต่ต้องยอมรับให้นางได้แข่งขัน
ผู้คนตระกูลหลงเวลานี้ต่างกดดันมหาศาล เพราะไม่ใช่เพียงแต่เซียนหมูจิ้งมาจากนอกตระกูลแต่นางยังเป็นสตรีหากนางสามารถชนะได้รับวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะเช่นนั้นตระกูลหลงก็สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่แล้ว!
“นางเสือน้ําแข็งที่บัดซบนั่น ถึงขั้นกล้าก่อการเพียงนี้!” หลงอคงสบถออกเสียงเบาขณะนั่งในโถงรับรอง
“ผ่อนคลาย ข้าสามารถเอาชนะนางได้ เพียงแต่ต้องยากลําบากกันบ้าง!” ฉินหยุนยังคงสงบใจ
อีกสามวันจึงเริ่มการแข่งขัน ผู้คนภายในคฤหาสน์ราชันมังกรล้วนเฝ้ารอ ไม่มีใดในพวกเขาคิดอยากต่อสู้กับเซียนหมูจิ้ง หลงอวดังเลือกไม่เข้าร่วม เขาทราบกําลังตนเองกระจ่างชัดดีแม้เข้าร่วมก็ไม่มีทางได้รับอันดับหนึ่งกระทั่งอาจถูกสังหาร
ฟ้ามืด ฉินหยุนเข้าฝึกฝนภายในห้อง เขาคิดอยากทําความคุ้นชินกับพลังราชันยุทธ์
“ราชันยุทธ์แบ่งออกเป็นสีระดับ แต่ละระดับจะเป็นการเพิ่มพลังเต่าลึกล้ําในแก่นเต่ลึกล้ํา ที่ระดับสุดท้ายแก่นเต่ลึกล้ําจะวิวัฒน์โดยสมบูรณ์ และพลังงานราชันจะก้าวถึงขั้นสมบูรณ์!” ฉินหยุนกล่าวกับตนเองภายใน
เชียวเย่ว์เหม่ยอยู่ภายในวิญญาณเทวะเก้าตะวัน ทุกวี่วันนางหาได้เบื่อ เพราะภายในมีเรื่องราวให้นางได้กระทําโดยเฉพาะกับศิลามารดาจักรพรรดิราชัน นางค่อนข้างให้ความสนใจเป็นพิเศษ
ฉินหยุนเองก็คาดหวัง ว่าตนจะสามารถได้เรียนรู้เคล็ดเต่อันลึกลับ ทว่าเหยาเฟิงเวลานี้ยังไม่คืบหน้าใดนางกล่าวว่าอยู่ระหว่างการศึกษาค้นคว้าและทดลองตัวอย่างหาวิธีการบอกต่อโดยง่าย
ตึง ตึง!
หลงอ คังเคาะประตูพร้อมตะโกนดัง “น้องชาย พอจะมีเวลาบ้างหรือไม่?”
ฉินหยุนเปิดประตูพร้อมเอ่ยถาม “กลางดึกเช่นนี้มีเรื่องราวใด?”
“มีงานฉลองในคฤหาสน์ราชันมังกร เป็นงานของพวกเราผู้เยาว์ คิดอยากเข้าร่วมหรือไม่?” หลงอวดังกล่าวพลางหัวเราะ “เซียนหมูจิ้งเองก็อยู่ที่นั่น”
“หากนางอยู่ หลงฉวนอู่ย่อมต้องอยู่ ดังนั้นข้าจึงไม่ไป!” ฉินหยุนกล่าว
“น้องชาย รอประเดี๋ยว… งานฉลองนี้จัดขึ้นโดยหลงฉวนคู่ หน้าโง่ผู้นี้ไม่ทราบว่าเซียนหมูจิ้งได้พบเห็นธาตุแท้ของมันที่หอคณิกาดังนั้นมันจึงคิดพยายามเอาชนะใจนางกลับคืน!”หลงอวดังกล่าว
“แล้วมีอันใดข้องเกี่ยวกับข้า?” ฉินหยุนเบะปากกล่าวถาม
“ย่อมต้องข้องเกี่ยว! ท่านจึงเป็นผู้เดียวที่ทําลายความสัมพันธ์สองคนนี้ พวกนั้นจัดงานฉลองขึ้นดังนั้นย่อมต้องไปสร้างความวินาศให้มากยิ่งขึ้น! ข้ารู้ท่านเชี่ยวชาญ!” หลงอวดังหัวเราะดัง
“ผลประโยชน์ใดล้วนไม่มี! ข้าย่อมไม่ไป!” ฉินหยุนหัวเราะตอบ “แม้ว่าดวงจันทราร่วงหล่นจากฟากฟ้าสอง คนนั้นก็ไม่มีทางคืนดีกันได้!”
ระหว่างช่วงที่ฉินหยุนได้พูดคุยกับเซียนหมูจิ้ง ทําให้เขาได้ทราบว่านางเป็นสตรีที่สูงส่งไม่ยินยอมต่อผู้ใดโดยเฉพาะหลังได้ทราบถึงความโฉดชั่วที่หลงฉวนอู่มีต่อนาง ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้นางปรารถนาได้สังหารหลงฉวนอู่ด้วยมือตนเอง
“น้องชาย ไม่ใช่ว่าสนใจในตัวนางหรือ? ข่าวลือว่าในห้องขังเซียนหมูจิ้งขึ้นคร่อมท่านด้วยซ้ําไป!” หลงอวดังหัวเราะ “เป็นท่านที่เผยให้นางเห็นธาตุแท้หลงฉวนอู่ที่หอคณิกาจากนั้นเมื่อนางใจสลายท่านจึงใช้โอกาสนั้นเพื่อ… ฝีมือท่านด้านนี้กล่าวได้ว่ายอดเยี่ยมนัก!”
หลงอว์ดังกล่าวเย้าแหย่ต่อฉินหยุน
“พี่ชาย อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระแล้ว!” ฉินหยุนปัดมืออีกฝ่ายออกพลางสบถ
“กลับมาเรื่องผลประโยชน์ อันใดจึงไม่มี? เรื่องราวง่ายดาย หลงฉวนอ่อวดดีเพียงนั้น เมื่อใดถึงเวลาข้าจะหาทางยั่วยุมันให้วางเดิมพัน ถึงตอนนั้นมันก็ติดกับแล้ว!”หลงอวดังเผยยิ้มโฉดชั่ว “ด้วยพวกเราสองพี่น้องร่วมมือย่อมทําการฉกชิงเอาของดีมากมายมาได้!”
“ตกลง!” ฉินหยุนพอได้ฟังเช่นนี้ เขาจึงคิดร่วมทางไป
ภายในคฤหาสน์ราชันมังกร มันมีสวนอันวิจิตรงดงาม หินส่องแสงจํานวนมากต่างลอยค้างกลางฟากฟ้าทําการส่องสว่างสวนอันงดงาม บุรุษหล่อเหลาและสตริงดงามทั้งหลายต่างสวมใส่ชุดหรูหราเดินในสวน
ท่ามกลางคนเหล่านั้น หลงฉวนอูและเซียนหมูจิ้งกล่าวได้ว่าต้องตาเป็นที่สุด โดยเฉพาะกับเซียนหมูจิ้นนางสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีน้ําเงินอันวิจิตรและสูงศักดิ์ทั้งยังมีเครื่องประดับสีน้ําเงินงดงามปักที่ทรงผมบรรยากาศที่นางเผยออกจึงราวกับนางเป็นเซียนที่มีแสงเฉิดฉาย
ด้วยโฉมงามประหนึ่งเซียนเดินท่ามกลางปุถุชน หลงฉวนอู่ที่สวมใส่ชุดหรูหราสีทองคําอ่อนจางจึงต้อยกว่าเล็กน้อยทว่าอย่างไรแล้วเขาก็คือผู้ซึ่งมาจากแดนเซียนอ้างว้าง ด้วยสถานะอันสูงส่งเขาย่อมต้องเฉิดฉายยิ่งกว่าผู้อื่น
ท่ามกลางบรรดาศิษย์รุ่นเยาว์ในคฤหาสน์ราชันมังกร มีแต่หลงอวดังจึงกล่าวได้ว่าเหนือทว่าเขาไม่อาจทัดเทียมกับหลงฉวนอู่ได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ แม้เซียนหมูจิ้งเข้าร่วมงานฉลองนางก็ยังเผยแต่ท่าที่เย็นชา สาย ตาของนางมีแต่โทสะอันเย็นเยียบ
หลงฉวนไม่อาจทราบว่าเกิดอันใดผิดพลาดขึ้นกับนาง ท่าให้สตรีผู้เคยงดงามอ่อนช้อยต่อเขากลับกลายเป็นได้ถึงเพียงนี้
งานฉลอง ย่อมต้องมีคนหนุ่มสาวที่เก่งกาจผู้อื่นเข้าร่วม ทว่างานฉลองนี้ ตัวหลักของงานอย่างไรก็ยังเป็นหลงฉวนอูและเซียนหมูจิ้งดังนั้นผู้อื่นจึงมีสถานะด้อยกว่าพวกเขาจึงเลือกเพียงแต่กินและดื่มพลางพูดคุยเสียง เบา จากนั้นค่อยแสร้งทําเป็นพูดกล่าวหาคําชี้แนะทางวิชายุทธ์ต่อกัน
หลงอวดังมาเยือนก็ดึกแล้ว เขานฉินหยุนร่วมทางมาด้วย แม้ฉันหยุนสวมใส่ชุดสีดําเพิ่มรัศมีความน่านับถือกระนั้นรูปลักษณ์ที่เผยออกกลับดูไม่น่าเชื่อถือ
“หลงอวดัง ใบหน้าเจ้าช่างหนายิ่งกว่าพื้นถนนนัก! เจ้าถึงขั้นเข้าร่วมงานฉลองนี้! ลืมแล้วหรือ หลงฉวนอู่คือผู้สังหารบิดาเจ้า!” ชายหนุ่มตระกูลหลงกล่าวเสียงดังพร้อมหัวเราะยามได้เห็นหลงอวดังมาเยือน
“วางใจเถอะ ข้าย่อมต้องล้างแค้นให้แก่บิดา!” หลงอวี่ทั้งคํารามเสียงเย็น “ข้าและหลงฉวนอู่มีข้อพิพาทต่อกันทว่านั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถกีดกันข้าจากงานฉลองนี้ได้!”
แม้หลงฉวนอู่เป็นเจ้าภาพงานครั้งนี้ เซียนหมูจิ้งกลับไม่ให้ความสนใจใดต่อเขา เป็นผลให้หลงฉวนอู่เกิดโทสะสมอัดในใจ ขณะนี้พบว่าหลงอวดังและน้องชายมาเยือน เขาจึงเร่งรีบเดินมารับชมกล่าวได้ว่าชั่วขณะนี้เขาพบทางระบายโทสะในใจของตนออกแล้ว