Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน - ตอนที่ 856 : กวาดล้างหอคอย
ตอนที่ 856 : กวาดล้างหอคอย
ผู้คุมคุกนามเฮยหลงย่อมพบเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กระนั้นเขาก็ยังคิด ว่าฉันหยุนไม่มีทางเอาชนะตนเองได้
“ก็ได้! หากเจ้าไม่อาจเอาชนะข้า เช่นนั้นก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ท้าสู้เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม!” เฮยหลงกล่าวค่าเสียงดัง “เจ้าคงเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ําตา! คนเช่นเจ้าผู้ซึ่งฝึกฝนวิชามารทั้งหลายย่อมไม่มีทางได้ ทราบว่ากําลังแท้จริงคืออันใด!”
ฉินหยุนไม่ได้ฝึกฝนวิชามารอันใด ดังนั้นเขาจึงไม่หวั่นเกรงคําพูด หลายคนต่างคาดหวังพวกเขาคิดอยากได้เห็นเฮยหลงสั่งสอนบทเรียนแก่ฉินหยุน
เฮยหลงนําผ้าแถบยาวออกมาเส้นหนึ่ง ก่อนจะทําการปิดตาตนเอง ก่อนจะสวมใส่ชุดหนังสัตว์ที่โชกด้วยเลือ
“นั่นท่าอะไร?” ฉินหยุนพบเห็นเรื่องราวแปลกประหลาดจนไม่ได้ที่จะถาม
“ข้าไม่คิดให้เลือดโสมมของเจ้าต้องเปรอะเปื้อนข้า!” น้ําเสียงเฮยหลงอัดแน่นด้วยความรังเกียจ “เจ้าคงไม่ทราบว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ําเพียงใด คนเช่นเจ้าข้าพบเห็นมากมาย!ดังนั้นข้าจึงไม่คิดให้เลือดอันโสมมเช่นเจ้าต้องทําข้ามัวหมอง!”
ฉินหยุนอดไม่ได้จนหัวเราะออก เฮยหลงผู้นี้ต่างหากจึงเป็นผู้ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ํา
“เฮยหลงเติบโตโดยบรรพบุรุษมังกรเซียนเลี้ยงดู เขาจึงแข็งแกร่ง คนเช่นเจ้าไม่มีทางได้ทราบและเข้าใจ!”
“ผู้คุมคุกแต่ละชั้นของหอเก้ามังกรทัณฑ์อสูรแห่งนี้ ล้วนถูกเลี้ยงดูโดยบรรพบุรุษมังกรเซียน แม้ว่าเป็นราชันยุทธ์ กระนั้นพวกเขากลับยังเยาว์ยิ่ง! ทั้งยังผ่านศึกนับร้อยพัน กล่าวได้ว่าพวกเขาเชี่ยวชาญการศึกอย่างมหาศาล!”
“โอ… สงสัยนักว่าเมื่อใดข้าจึงจะผ่านพ้นชั้นแรกนี้ไปได้ หากไม่ เช่นนั้นตลอดชั่วชีวิตก็คงได้แต่อยู่ที่นี่!”
ผู้ถูกคุมขังที่นี่ส่วนใหญ่เกิดการฝึกฝนแตกซ่าน นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังร่วงหล่นสู่เต่าอสูรจนคลุ้มคลั่งด้วยพลังล้นทะลัก ก่อนจะต้องแบกรับภาระหนักอึ้งของพลังที่เพิ่มพรวด
ได้ยินคํากล่าว ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะเผยอาการตื่นตะลึง เขาไม่คาดคิด ว่ามังกรเซียนจะถึงขั้นเลี้ยงดูผู้มากพรสวรรค์เช่นนี้ทั้งยังกระทําอย่างเป็นความลับ
“สงสัยนักว่าหลงอคงทราบเรื่องนี้หรือไม่ แต่หากทราบ เช่นนั้นก็น่าจะบอกกันก่อน!” ฉินหยุนเกิดความหนักอึ้งในใจครั้งที่เข้ามาทั้งหลงอวดังและหลงคงเฉิงล้วนไม่เคยกล่าวถึงเรื่องราวเหล่านี้
เฮยหลงสวมใส่ชุดเรียบร้อย เขากล่าวคําขึ้น “เจ้าจงเข้ามาโจมตีก่อน ถือเป็นของขวัญที่ข้ามอบให้!”
ดวงตาของเขาถูกปิดบัง เผยให้เห็นว่ามีความสามารถรับรู้แกร่งกล้า ฉินหยุนรู้สึกได้ว่าเฮยหลงก็เพียงต้องการอวดโอตนเองอย่างไรแล้วเขาก็ต้องอยู่แต่ที่นี่ตลอดเวลา เรื่องราวย่อมชวนน่าเบื่อกระทําเช่นนี้ค่อยสร้างความสําราญให้ได้บ้าง
“คิดอยากอวดดี เช่นนั้นก็จงแสดงให้เต็มที่!” ฉินหยุนหัวเราะดังภายใน ก่อนจะใช้เงาปลิดชีพลมหายใจสมบูรณ์ก้าวเท้าออก
เพียงชั่วเลี้ยวลมหายใจ ฉินหยุนเลือนหาย ไม่มีผู้ใดตรวจพบออร่าของเขา ทว่าการรับรู้ของเฮียหลงแกร่งกล้าผู้อื่นไม่อาจรับรู้ถึงออร่าของฉินหยุน ทว่าเขารับรู้ได้ถึงออร่าอ่อนจางที่เข้ามาใกล้
“ฮ่า!” เฮยหลงคํารามร้อง ส่งฝ่ามือโจมตีออกไปยังทิศทางหนึ่ง
ฝ่ามือของเขายื่นออกพร้อมพลังงานโปร่งแสงเกิดเป็นแรงระเบิดอัดอากาศ หลายผู้คนที่นี้ต่างอุทานชื่นชมความเลิศลของเฮียหลงแม่ปิดบังดวงตาเอาไว้เขาก็ยังสามารถตรวจพบการโจมตีของผู้อื่น
กระนั้น ฉินหยุนผู้ซึ่งเพิ่งหายตัว กลับปรากฏด้านหลังเฮยหลง ขณะเฮยหลงคิดตอบสนอง ฝ่ามือของฉันหยุนจึงส่งออกพลังฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์รุนแรงปะทุพลังงานล้นทะลักจากฝ่ามือกระจายออกซึ่งหน้า เสียงร้องมังกร โศกศัลย์ดังขึ้น เฮียหลงตอนนี้ได้ทราบว่าพลังแข็งแกร่งมากล้ํากระนั้นเขาไม่มีเวลาพอให้ตั้งรับ
ตึง!
ฝ่ามือฉินหยุนประทับรุนแรงที่ว่างเฮยหลง เสียงคํารามร้องเจ็บปวดและโกรธแค้นดังออกร่างกายปะทะกับผนังกําแพงรุนแรง ก่อนร่างร่วงหล่นกับพื้นกลิ้งไปอีกหลายตลบ โลหิตเวลานี้สํารอกออกจากปากจนเปรอะเปื้อนชุดเดิมเขาสวมใส่ชุดนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลหลั่งโดนตัวกระนั้นมันกลับเป็นเลือดสดใหม่ของเขาเสียเองที่ย้อมเสื้อตัวนี้
“กําลังผู้คุมคุกมีแค่นี้?” ฉินหยุนก้าวเดินเข้ามาเชื่องช้า
หลายคนต่างนิ่งค้าง พวกเขาหวาดกลัวต่อกําลังของฉินหยุนเป็นล้นพ้นเฮยหลงพ่ายแพ้เพียงเพราะหนึ่งฝ่ามือทั้งยังบาดเจ็บจนกระอักเลือดออกกล่าวได้ว่าสภาพของเขาไม่อาจพร้อมต่อสู้ได้อีกเวลานี้ผ้าปิดตาถูกน่าออกสายตาอัดแน่นด้วยโทสะร้อนแรงจับจ้องที่ฉินหยุน
“ข้าขึ้นไปชั้นที่สองได้แล้วกระมัง?” ฉินหยุนเผยยิ้มกล่าวถาม
เฮยหลงที่เก่งกาจเลิศล้ํา ตอนนี้ถูกทุบตีประหนึ่งหน้าโง่ด้วยหนึ่งฝ่ามือเขาจึงทําได้เพียงแต่จับจ้องฉันหยุนอย่างโกรธแค้น
“เจ้า… ขึ้นไป!” เขานําเอายันต์แผ่นหนึ่งออกมาส่งให้ฉินหยุน
ฉินหยุนรับยันต์แผ่นนั้นไว้ ก่อนจะเรียกใช้งาน ร่างกายจึงถูกดูดหายขึ้นสู่ด้านบน พริบตาหนึ่งเขาจึงขึ้นถึงชั้นที่สองฉินหยุนรู้สึกเหนือความคาดหมาย เขาไม่คิดว่าเฮยหลงจะยอมให้ตนมายังชั้นที่สองง่ายดายเพียงนี้
เฮยหลงนอนทอดกายกับพื้น เวลานี้เสียงหัวเราะเผยดังออก “ตัวบัดซบนั่นขึ้นไปชั้นที่สองแล้ว มันต้องถูกทัณฑ์ทรมานจนถึงขนาดร้องขอความตายฮ่าฮ่าฮ่า!”
ฉินหยุนมาถึงชั้นที่สอง ที่นี้มีคนไม่มากเช่นชั้นหนึ่ง ทว่าก็มีหลายสิบคน พวกเขาเหล่านี้ต่างเป็นชายชราและวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนจํานวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บทั่วร่าง บ้างก็พิงกับผนังกําแพง บ้างก็นั่งกับพื้น และมีสองคนที่อาการบาดเจ็บชวนตื่นตะลึงร่างพวกเขาปรากฏบาดแผลที่มีของเหลวสีดําคล้ายพิษ
“เสียวหยุน พวกเขาบาดเจ็บก็เพราะพิษ บาดแผลเหล่านั้นจึงไม่อาจรักษา ทั้งยังคอยกัดกร่อนเนื่อ! หากพวกเขาคิดอยากกําจัดพิษเหล่านี้ ก็จําเป็นต้องใช้เวลาถึงหลายปี!” หลิงหยุนเอ่อกล่าว
ฉินหยุนขมวดคิ้วยามได้รับฟัง ผู้คุมคุกชั้นที่สองคือผู้ใช้พิษ บรรดาชายชราและวัยกลางคนพบเห็นชายหนุ่มปรากฏตัวพวกเขาต่างนึกถึง
“ยินดีที่ได้พบเหล่าผู้อาวุโส ผู้น้อยนามหลงอวเทียน ข้าสามารถท้าประลองผู้คุมคุกชั้นที่สองได้เลยหรือไม่?” ฉินหยุนกล่าวถามอย่างมีมารยาท
“ยืนที่ตรงกลางนั่น และจงกระทึบพื้นรุนแรง แล้วตู้หลงจะเผยตัวออกมา!” ชายชรากล่าว
ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่าตนสามารถได้รับสิทธิ์ต่อสู้ในชั้นที่สองได้เรียบง่ายเพียงนี้ กระนั้นเขาก็เข้าใจถึงสาเหตุชั้นที่สองมีคนไม่มากและพวกเขาไม่อาจท้าประลองต่อผู้คุมได้ทุกวี่วันซึ่งกรณีนี้ไม่เหมือนชั้นที่หนึ่งซึ่งผู้คนมี มากขนาดต้องแย่งสิทธิ์การท้าประลอง
ฉินหยุนรู้สึกผ่อนคลาย เพราะหากเป็นเช่นนี้ ชั้นที่สามและสี่ รวมถึงหลังจากนั้นสมควรราบลื่นตราบเท่าที่เอาชนะและชั้นที่สองนี้กว้างใหญ่เหมือนดังชั้นที่หนึ่งทว่าจํานวนผู้คนมีน้อยกว่ามาก
ฉินหยุนยืนที่ตรงกลางก่อนกระทืบเท้ารุนแรงหลายครั้ง เพียงไม่นานพื้นพลันบังเกิดแสงสว่างสีขาวทะลักออกก่อนจะปรากฏเป็นชายหนุ่มร่างเตี้ยอีกฝ่ายสภาพนี้ชวนขบขันและเดือดดาลชายผู้นี้คือตู้หลง
ตู้หลงจับจ้องฉินหยุนอย่างแค้นเคือง “เจ้าเพิ่งมาถึงชั้นที่สองงั้นหรือ? ช่างกล้ารบกวนเวลานอนข้า!”
“ข้าคิดท้าประลองเพื่อขึ้นสู่ชั้นที่สาม!” ฉินหยุนกล่าวว่า
“จงเร่งรีบไสหัวไป! ข้าไม่คิดสู้กับเจ้า เจ้ามันไม่ต่างอะไรกับหินผุพังพร้อมแตกหัก! หากข้าเผลอสังหารเช่นนั้นข้าจะโดนลงโทษเอาได้!” ตู้หลงปัดมือไล่ฉินหยุนอย่างนึกรังเกียจ “มองพวกมันเหล่านั้นผู้ใดไม่แข็งแกร่งกว่าเจ้า? กระนั้นพวกมันสภาพก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขรอวันตาย!”
ฉินหยุนไม่กล่าวคําใด ทว่าเลือกหายวับ ปรากฏตรงด้านหลังตู้หลงในพริบตา ก่อนจะเตะกันอีกฝ่ายประหนึ่งลูกบอล!เขาส่งร่างตู้หลงกระเด็นด้วยลูกเตะ!
ตู้หลงร่างลอยลิ่วไม่อาจควบคุม จนศีรษะต้องปะทะกับผนังกําแพง เสียงปะทะดังสนั่นบังเกิดจมูกเขาต้องหลั่งเลือดไหลเป็นทางบรรดาผู้ติดพิษไม่ว่าทั้งชราและวัยกลางคนเวลานี้ต่างเผยสีหน้าแปรเปลี่ยนเพราะเป็นเวลายาวนานแล้วที่พวกเขาไม่เคยได้เห็นตู้หลงถูกหยามเหยียดถึงเพียงนี้มาก่อน
“สารเลวนัก ข้าจะให้ชีวิตเจ้าเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!” ตู้หลงปาดเช็ดเลือดกําเดา โทสะเวลานี้พุ่งสูงถึงขีดสุดร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นสายลมสีดําพุ่งทะยานหาฉินหยุน
ฉินหยุนกล่กล่าว ว่านี่คือสายลมพิษโดยอาศัยเพียงสายตาประเมิน นอกจากนี้แล้วมันยังคมกล้าฉินหยุนจึงเรียกใช้มวลมังกรคุ้มกายเพื่อต้านรับ
ตู้หลงที่ร่างแปรเปลี่ยนเป็นสายลมพิษพุ่งทะยาน พลันต้องปะทะกับมวลมังกรคุ้มกายจนส่งเสียงร้องออกเขาตะโกนถามอย่างนึกหวาดกลัว“มวลมังกรคุ้มกาย… เหตุใดจึงใช้มันได้? นี่เจ้าเป็นใคร?”
“เล็กกล่าววาจาไร้สาระและส่งข้าไปชั้นที่สาม!” ฉินหยุนเคลือบมวลมังกรคุ้มกายรอบหมัดฝีเท้าก้าวออกรวดเร็วหมัดปลดปล่อยออกชุดหนึ่งในพริบตากว่าสิบหมัดได้ปะทะกับใบหน้าตู้หลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตู้หลงไม่คาดคิด ว่าชายศีรษะล้านเลี่ยนตรงหน้าจะชวนสะพรึงได้เพียงนี้ ไม่ว่าทั้งกําลังและความเร็วทั้งหมดล้วนเหนือกว่าตนเอง
หลังถูกฉินหยุนระดมหมัดไปชุดหนึ่ง ตู้หลงจึงเริ่มกรีดร้อง ก่อนจะเร่งรีบส่งมอบยันต์แก่ฉินหยุน
ยันต์ทํางาน ฉินหยุนไปยังชั้นที่สาม ที่นี้มีเพียงแปดคน ผู้คุมคุกชั้นที่สามเป็นสตรีวัยกลางคนดุร้ายผู้หนึ่ง
“ชายหนุ่มที่ดี… เหอะเหอะ… วิเศษนัก ข้าไม่ได้พบชายหนุ่มเช่นนี้มานานแล้ว ให้ขาดูดเจ้าจนแห้งเหือด!”สตรีวัยกลางคนเผยสายตาจับจ้องฉินหยุนอย่างหิวกระหาย
ฉินหยุนมองทางแปดคนในชั้นนี้ พวกเขาร่างผอมบางราวถูกสูบของเหลวในกายจนแห้งเหือดเพียงเห็นจึงทําให้เขาได้ทราบกระจ่างชัด ว่าผู้คุมคุกชั้นที่สามนี้คือนางมารดูดเลือดผู้หนึ่ง อีกฝ่ายเป็นราชันยุทธ์ระดับต้น ดังนั้นฉินหยุนจึงไม่คิดกลัวเกรงแม้แต่น้อย
สตรีวัยกลางคนเผยยิ้มขณะจับจ้องฉินหยุนอย่างมีกามอารมณ์ นางเผยเสียง “เจ้าหนู ร่างเจ้าเป็นของข้า! ให้ข้าได้ดูดกลืนทั้งกายเจ้า!”
ฉินหยุนนึกรังเกียจยามรับฟัง กรงเล็บพฤกษาถูกใช้งานในทันที มันคว้าจับร่างสตรีวัยกลางคนที่คิดพุ่งทะยานเข้ามา
“เจ้า… เลือกที่จะเป็นฝ่ายเล่นกับข้าแทนงั้นหรือ?” สตรีวัยกลางคนเผยน้ําเสียงกระเส่าตื่นเต้นยินดี
“เล่นบ้านเจ้า! ข้าคิดขึ้นไปยังชั้นที่สี่!”
ฉินหยุนพุ่งตัวพร้อมปลดปล่อยหมัดชุดหนึ่ง สตรีวัยกลางคนพลันต้องกรีดร้องเสียงดังเพราะถูกทุบตี จนสุดท้ายต้องส่งมอบแผ่นยันต์ให้
ฉินหยุนใช้ยันต์ขึ้นสู่ชั้นที่สี่ ชั้นนี้มีคนเพียงน้อยนิด ผู้คุมคุกคือราชันยุทธ์ระดับกลาง ฉินหยุนจัดการอีกฝ่ายได้รวดเร็วก่อนจะไปถึงชั้นที่ห้า จากนั้นจึงเป็นชั้นที่หกและเจ็ด
ผ่านจนถึงตรงจุดนี้ ฉันหยุนเลือกพักผ่อนกลางทาง ตั้งแต่เข้ามาในหอคอยแห่งนี้ก็ผ่านมาหนึ่งวันกว่าแล้ว
ที่ชั้นแปด เขาไม่อาจตรวจพบผู้ใด ทว่ามีบันไดที่นําไปสู่ชั้นสูงขึ้นไป
“ผู้คมชั้นแปดหายไปไหน? แล้วบันไดนี้ขึ้นไปยังชั้นที่เก๊หรือ? ง่ายดายเกินไปแล้ว!” ฉินหยุนก้าวเดินไปตามบันไดอย่างสุขสันต์ที่เรื่องราวง่ายผ่านพ้น