The Novel’s Extra - ตอนที่ 361
บทที่ 361 กระบวนการของโชคชะตา (3)
“เฮ้ออออออออ….”
ตอนนี้ผมนอนราบอยู่บนพื้นหญ้าในแถบเอเชียกลาง ผมออกจาก Tower of Wish ในวันก่อนที่จะแย่งชิงไอเท็มหรือสิ่งประดิษฐ์ของ
เจงกิสข่าน จริงๆแล้วผมไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมในการแย่งชิง
ผมแค่คิดว่าจะเข้าไปช่วยเหลือหากมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น
แน่นอนว่าผมเป็นนักแม่นปืนและสถานที่ขุดค้าหาอยู่ใต้ดิน แต่มันก็ไม่สำคัญอะไรมากนักเพราะผมวางแผนที่จะเพิ่มคุณสมบัติ ‘เจาะทะลุสิ่งกีดขวาง’ ลงในกระสุนของผม ตอนแรกปืนไรเฟิลของผมเป็นปืนไรเฟิล
‘ต่อต้านวัสดุ’ มันไม่ได้สร้างมาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่เป็นมนุษย์ แต่เป็นวัตถุเช่นเฮลิคอปเตอร์และรถถัง ดังนั้นปืนไรเฟิลและกระสุนปืนมีคุณสมบัติ ‘เจาะทะลุ’ ในตัวมันเองอยู่แล้วที่ผมต้องทำก็แค่เสริมความแข็งแกร่งโดยใช้พลังเวทมนต์ของรอยสัก
ผมยังมีวิธีอื่นอีกไม่น้อย
ตอนนี้มันเป็นเวลา 5 โมงเย็น
ผมเลือก [คันศรแห่งบุบพา] หลังจากพระอาทิตย์ตกท้องฟ้าก็มืดมิดลงหากการต่อสู้เริ่มต้นผมจะสามารถเปิดใช้งาน [ดวงตาแห่งฮอรัส] ได้เป็นเวลา 5 วินาที [ดวงตาแห่งฮอรัส] พลังของมัน คือ ‘ขยับไม่ได้’
ความสามารถนี้ข้ามกฎฟิสิกส์ของโลก ตราบใดที่เป้าหมายของผมยังอยู่ในระยะโจมตีผมสามารถโจมตีพวกเขาได้ทันทีไม่ว่าสิ่งกีดขวางระหว่างผมกับพวกเขาจะเป็นอะไรก็ตาม
แต่ไม่ว่ายังไงผมก็กำลังสำรวจไซต์ขุดเจาะจากที่ไกลๆเนื่องจากเอเชียกลางค่อนข้างราบดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาที่หลบซ่อน หากใครมองมาที่ผมจากท้องฟ้า ผมก็ไม่สามารถซ่อนตัวได้เลย
“อืมมมมมมมมมมม….”
ดวงตาพันไมล์ เริ่มจับการเคลื่อนไหวของฮีโร่ต่างๆ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเริ่มปฏิบัติการของพวกเขาแล้ว
– ใจเย็นแล้วตามฉันมา
หยุนซึงอากำลังทำหน้าที่เป็นผู้นำภาคสนามครั้งแรกในรอบ 1 เดือน อย่างเคร่งขรึม กิลด์ผู้รังสรรค์ศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในชั้น 1 ของไซต์ขุดเจาะน่าเสียดายที่ชั้น 1 อยู่ใกล้กับพื้นดินมากที่สุด ดีที่สุดก็แต่ไอเท็มระดับกลางเท่านั้น แน่นอนว่าผู้รังสรรค์ศักดิ์สิทธิ์มีความสุขแม้ว่าจะได้แต่
สิ่งเหล่านี้ ผมรู้ด้วยว่าสวรรค์มองเห็นความพยายามของพวกเขาและมอบของขวัญพิเศษให้กับพวกเขาอีกด้วย
ภายใต้พวกเขาคือชั้น 2 ซึ่งขณะนี้กำลังถูกสำรวจโดยกิลด์อเมริกัน
‘General’ และ ‘Lost Child’ กิลด์ทั้ง 2 นี้ปะทะกันเพราะแย่งกันเป็น
กิลด์อันดับ 1 ของอเมริกาทำให้ไม่น่าสนใจเท่าไร
กิลด์ Frost Sanctuary รับผิดชอบในชั้น 3 พวกเขาเป็นคนที่จ้างกลุ่มทหารรับจ้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ‘Jeronimo’ ใช่แล้ว
Chameleon Troupe เองก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
ชั้นที่ 4 จัดขึ้นโดย Desolate Moon ชินจงฮัก มาถึงช้าและเขาก็มาแย่งตำแหน่งผู้นำไป แต่เขาก็แปลกใจเมื่อได้ฟังเรื่องที่ผู้นำที่ได้รับมอบหมายมาจากกิลด์
ถัดไปคือ Essence of the ซึ่งอยู่ชั้น 5 ของ …
“หืมม.”
เสียงพึมพำจากจิตใต้สำนึกออกมาจากปากของผม ตอนนี้ทีมของ
แชนายอน ได้พบกับ ปีศาจ ‘กันยูเดน’ ชายร่างใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อคนนี้เป็นสมาชิกของผู้รับใช้แห่งซาตาน และเขายังเป็นคนหนึ่งในคนที่ฆ่าแม่ของแชนายอน อีกด้วย กันยูเดน จ้องมองที่ แชนายอน แล้วตะโกนออกมา
– ฉันเป็นคนฆ่าแม่ของเธอยังไงละ!!!
*************************************************************************
– ฉันเป็นคนฆ่าแม่ของเธอยังไงละ!!!
คำเหล่านี้ฝังลึกลงไปในจิตใจของ แชนายอน แม้แชนายอนจะยังยืนนิ่งแต่ไม่ใช่เพราะเธอใจเย็นแต่เพียงเพราะว่าเธอต้องการเวลาที่จะเข้าใจสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยิน อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายเลย แดฮยอน ใช้ทุกวิธีเพื่อตามหาฆาตกร แต่พวกเขาก็ได้แต่ตอบกลับมาสั้นๆ ว่าไม่เจอตัว
แชนายอน ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับความจริงที่ว่าเธอจะไม่มีวันล้างแค้นให้กับแม่ของเธอและฝังความคิดนี้ลงไปในจิตใจของเธอ
อย่างไรก็ตามความโศกเศร้าและความแค้นของเธอถูกดึงขึ้นมาโดยชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ….
“ใจเย็นๆ, แชนายอน”
คิมยองจิน พยายามทำให้ แชนายอน ใจเย็นลง
“นักฆ่าที่แทรกซึมเข้าไปใน แดฮยอน อย่างลับๆและเชี่ยวชาญมากจนไม่มีใครสามารถค้นหาได้แม้แต่เบาะแสเดียว ไม่มีที่อยู่ของฆาตกรเหมือนกับตัวตน ไม่มีทางที่คนโง่ๆคนนี้จะเป็นฆาตกรไปได้”
แม้จะมีคำพูดที่ชวนให้หลงไหลของคิมยองจินแต่ใบหน้าของแชนายอนก็บิดเบี้ยวไปเรื่อยๆดวงตาแดงก่ำของเธอจ้องมองไปที่ชายผู้ยอมรับว่าเป็นคนฆ่าแม่ของเธอ
“ฮะ? ไม่มีใครเจอแม้แต่เงื่อนงำเดียว? ฉันบอกทุกคนไปแล้วเกี่ยวกับการกระทำที่กล้าหาญของฉัน! เพียงแต่ไม่มีใครเชื่อเลย….อย่าบอกฉันนะว่า พวกแกคิดว่าอำนาจของพวกมนุษยจะยิ่งใหญ่มาถึงแดนปีศาจได้น่ะ”
ชายคนนั้นพูดออกมา ขณะที่เขาหยิบดาบเล่มใหญ่ออกมา มันเป็นดาบที่เหมือนก้อนหินที่ถูกฝนจนแหลมคม ‘ป่าเถื่อน’ เป็นคำเดียวที่สามารถอธิบายได้
เฮ้ออออออออออออออออ…
เสียงถอนหายใจด้วยความโกรธและความขุ่นเคืองดังออกมา
แชนายอน ชี้นิ้วของเธอไปที่ ปีศาจ และถามออกมา
“…แกทำจริงๆเหรอ?”
ชายคนนั้นยิ้มถึงรูหู
“แน่นอน ทำไมจะไม่ใช้”
“ฉันเข้าใจแล้ว…แต่มันก็ยังไม่น่าเชื่อเกินไป…”
มุมปากของ แชนายอน ขดตัว น้ำตาไหลออกมาจากแก้มของเธอขณะที่เธอเยาะเย้ยอย่างเต็มที่
“แกไม่มีหลักฐาน ฉันเจอผู้ชายมากมายแบบแก แกเป็นปีศาจที่จะทำทุกอย่างและคิดว่าความปรารถนาในความตายเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ”
แชนายอน จ้องมองเขาด้วยความรังเกียจ จากนั้นชายคนนั้นก็ถูคางและคิด
“อย่าพยายามยั่วยุฉันและอย่าคิดว่าฉันจะ-”
“หลักฐานเหรอ? อืม…มีหลักฐานสิ…อ้าๆ ศพนั้นไม่ใช้ว่านิ้วหัวแม่มือขาดหายไปหรอกเหรอ?”
“… !”
ทันใดนั้นดวงตาของแชนายอนก็สั่นไหว เธอส่งเสียงครวญครางภายใต้ปากที่ปิดสนิทของเธอ พลังเวทมนต์อันดุร้ายเริ่มหมุนวนรอบตัวเธอ
คิมยองจินและสมาชิกคนอื่นๆของ Essence of the Strait เองก็เริ่มเร่งพลังคลุมอาวุธของพวกเขาเช่นกัน แชนายอน เป็นเพื่อนของพวกเขา แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้พวกเขาโกรธไปด้วย
“ลูกค้าของฉันบอกให้ ฉันตัดนิ้วของเธอเพื่อพิสูจน์ว่าฉันฆ่าเธอจริงๆและนั่นคือสิ่งที่ฉันทำ”
“กะ-แก ไอ้สารเลว!”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายของแชนายอน เธอพุ่งไปข้างหน้าราวกับกระสุนพลังเวทมนต์นั้นฝังอยู่ดาบและร่างกายของเธอเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาล
“แกฉันจะฆ่าแก ฉันจะหั่นแกเป็นชิ้นๆ-!”
ดาบหินขนาดใหญ่ชนกับดาบของแชนายอน
เปรี้ยงงงงงง-!
เสียงระเบิดดังสนั่นออกมาและแสงแห่งพลังเวทมนต์ก็ระเบิดจนทำให้โลกกลายเป็นขาว
*************************************************************************
วิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หยุนซึงอา หยุดพักชั่วคราวและรู้สึกได้ยินเสียงแววๆจากใต้พื้นดินข้างล่างตัวเธอ จากนั้นเธอก็ตรวจสอบสถานะที่อยู่ใกล้เคียงหยุนซึงอาหันไปหาสมาชิกระดับสูงของกิลด์ทั้ง 7 และพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“จำนวนศัตรูลดลงแล้ว พวกเราเร่งฝีเท้าหน่อย”
พวกเขาย้ายไปอย่างลับๆ แต่ก็เข้าสู่ [พื้นที่ A] ของชั้น 1 ภายในไม่นาน
แหล่งขุดค้นวัตถุมักถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่และเนื่องจากชั้น 1 มีเพียงโบราณวัตถุปานกลางจึงมีหลายพื้นที่เช่น อุโมงค์มด ผลจากการตรวจสอบพบว่ามีทั้งหมด 6 ทิศ
“มีโอกาสสูงมากที่ Chameleon Troupe อยู่ที่นี่ดังนั้นระวังตัวเอาไว้ตลอดเวลา”
หยุนซึงอา เตือนก่อนเข้าสู่พื้นที่ A แม้ว่าจะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ Chameleon Troupe ในการช่วงชิงครั้งนี้ หยุนซึงอามั่นใจ แน่ใจว่าเจนอยู่ที่นี่
คิมซูโฮถาม “Chameleon Troupe เธอหมายถึง…”
“ใช่แล้ว พวกเขาเป็นองค์กรที่ดอกบัวดำอยู่ นายก็รู้นี่?”
“นั้นสิ” คิมซูโฮ พยักหน้า เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้จาก จินซาฮยอค เมื่อพวกเขาพบกันโดยบังเอิญในดันเจี้ยนของ Crevon จินซาฮยอค บอกเขาว่าเธอถูกไล่ล่าโดยองค์กรหนึ่งจากนั้นเธอก็หนีไป คิมซูโฮจำได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กันเองหลังจากเจอหน้ากัน
“ไม่น่าแปลกใจเลย ชื่อเสียงของพวกเขากระจายไปอย่างช้าๆ ทุกวันนี้”
“… .”
ทำไม จินซาฮยอค จึงไล่ดอกบัวดำ? ในขณะที่คิมซูโฮคิดหาคำตอบอย่างจริงจัง แต่ ยียอนฮาก็หันถามอย่างรีบเร่ง “ดอกบัวดำอยู่ที่นี่งั้นเขาก็เป็นปีศาจงั้นเหรอ?”
“ไม่ Chameleon Troupe ไม่ใช่องค์กรปีศาจ สมาชิกของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นมนุษย์ทุกคน”
‘แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตัวปัญหามากกว่านั้นก็ตาม’ หยุนซึงอา แจ้งราย ละเอียดของ Chameleon Troupe และกล่าวต่อ “ไม่ว่ายังไง
ดอกบัวดำก็เป็นนักธนู เขาจะไม่พยายามเข้าไปในพื้นที่ที่มีจำกัด เพราะ งั้นเขาเลยไม่ได้เป็นคนที่พวกเราต้องกังวลในตอนนี้”
หยุนซึงอา หยุดพูดและจับลูกบิดประตูของพื้นที่ A มันเป็นประตูธรรมดาๆ แต่ก่อนที่เธอจะเปิดมัน หยุนซึงอา มองที่ คิมซูโฮ
“อย่าประมาณพวกปีศาจละ” เธอพูดอย่างนั้นกับคิมซูโฮพร้อมใบหน้าที่จริงจัง
“…เข้าใจแล้ว” คิมซูโฮ ลังเลแต่ก็พยักหน้า เขายังคงมีความทรงจำเกี่ยวกับโลกบ้านเกิดของเขาซึ่งเป็นอาณาจักรปีศาจ ปีศาจที่ขายวิญญาณเพื่อความปลอดภัยไม่แตกต่างจากปีศาจ การดำรงอยู่ที่ไม่มีวิญญาณไม่ใช่มนุษย์….
“ฉันเข้าใจแล้ว.”
“ถา้งั้นพวกเราก็เข้าไปกันเถอะ”
หยุนซึงอา เปิดประตู สมาชิกทั้ง 8 ของ ผู้รังสรรค์ศักดิ์สิทธิ์ บุกเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครมีความเมตตาต่อ ปีศาจ พวกมันพยายามปกป้อง Area A ด้วยชีวิจและไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งเสียงกรีดร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ
ในขณะเดียวกัน…
วูบบบบบบบบบบบบบบบ—
พื้นดินยังคงดังก้อง ในฐานะสมาชิกระดับสูงของกิลด์อันดับ 1 แห่งเกาหลีอดีตฮีโร่ทั้ง 8 คนสามารถรู้สึกและได้ยินเสียงสั่นสะเทือนของโลก
*************************************************************************
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนชั้น 5 พวกเขาเริ่มต้นก็เสียเปรียบทันที มันเป็นการ 10 vs 30 ที่เริ่มด้วยความแตกต่างและคราวและแล้วมันไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงปีศาจที่สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงปีศาจธรรมดา ๆ อย่างไรก็ตาม Essence of the Strait ใช้
‘ทักษะ’ ที่พวกเขาได้รับจาก Tower จนสุดความสามารถและเริ่มได้เปรียบเมื่อเวลาผ่านไป
ต้องขอบคุณ แชนายอน ที่ลุยนำหน้าพวกเขาทั้งหมดด้วยตัวเองอย่างดุดัน
“…เธอแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก”
กันยูเดน เหวี่ยงดาบหินลงไปในขณะที่เขาบ่นด้วยความประหลาดใจ
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงง-!
แชนายอน ปกป้องการโจมตีและเยาะเย้ยอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย
“นายแน่ใจหรอไม่ใช่ว่านายอ่อนแองั้นเหรอ?”
“อืม.”
กันยูเดน ดึงดาบของเขาขึ้นมาทันทีและทำลายการเสริมพลังลมปราณของ แชนายอน แชนายอน รีบกระโดดถอยกลับมาและเสริมพลังลมปราณของเธออีกครั้ง
กันยูเดน ยิ้มเยาะ
“ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ”
“ฮึ่ม.”
การเสริมพลังของ แชนายอน ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและเธอก็ยิ้มเยาะ
‘หากแกมีลูกไม้อะไรก็เอาออกมา แกควรใช้มันเพื่อตัดคอของฉันก่อนที่จะไม่มีโอกาศ’
แชนายอน ยืดดาบออก ระยะห่างระหว่างพวกเขาประมาณ 10 เมตรระยะทางที่ดาบไม่มีทางถึงตรงนั้นได้เลน แต่ว่า…
ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา… ..
พลังเวทมนต์เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง แชนายอน สร้างคมดาบขนาดใหญ่
“นั่นมันอะไร?”
!“……………..”
แชนายอน ไม่ตอบและโจมตีออกไป ดาบแห่งพลังเวทมนต์ดูดกลืนแม้กระทั่งพลังเวทมนต์ที่เล็กที่สุดในบริเวณโดยรอบขณะที่มันเหวี่ยงลงมา
แต่ กันยูเดน กันเอาไว้ได้ไม่ยาก
เพล๊ง-!
“นี่มันอะไรกัน…?”
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่ดาบหินของเขาสัมผัสกับพลังเวทมนต์ของ
แชนายอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดาบหินแตกสลาย น้ำหนักของ
พลังเวทมนต์อันบริสุทธิ์นั้นไม่ได้เบาๆ ตอนนี้ใบหน้าของ กันยูเดน
สั่นไหวอย่างไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม แชนายอน เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
เฉือนแนวนอน, แนวตั้ง, แนวทะแยง,หมุนตัว…คมดาบยาว 10 เมตรของ แชนายอน ครอบงำพื้นที่ทั้งหมด กันยูเดน มุ่งเน้นความสนใจไปที่การป้องกันการโจมตีของ แชนายอน อย่างเมามัน แต่เนื่องจากดาบหินพังลงจากการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าในแต่ละครั้งการต่อสู้ครั้งนี้จึงใกล้จะสิ้นสุด
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง กันยูเดน ยังดูไร้กังวล เขายิ้มกว้างเมื่อเขารับการโจมตีของ แชนายอน เขาจำสิ่งที่ แชนายอน พูดไว้ก่อนหน้านี้ได้
‘หากแกมีลูกไม้อะไรก็เอาออกมา แกควรใช้มันเพื่อตัดคอของฉันก่อนที่จะไม่มีโอกาศ’
จริงๆแล้วนั่นคือสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้แล้ว
———————————–2————————————-