The Novel’s Extra - ตอนที่ 389
บทที่ 389 การเคลื่อนไหวของแต่ละบุคคล (3)
ผม:「ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นแฟนคลับหมายเลย 1 ของเฟนรีล」
คำตอบตามมา 5 นาทีหลังจากที่ผมส่งข้อความ
CaptainBritain: 「นายหมายถึงอะไร ?;ㅋㅋ;;??;;」
ผมบอกได้เลยว่าเธอรู้สึกประหม่าจากข้อความของเธอ ผมยิ้มและพิมพ์คำตอบของผมลงไป
ผม:「ฉันได้ยินมาจาก นักธนูผู้ศักดิ์สิทธิ์ ฉันแน่ใจว่าเธอพูดออกมาเพราะเขารู้จักกับเธอ」
ผมนึกภาพออกว่าทุกอย่างเป็นยังไง เรเชลคงไม่พูดอะไรกับจินเซยอนมากตอนที่เจอกันครั้งแรก แต่เมื่อมองมองเรเชลนานๆก็มีแต่คำชื่นชม จากนั้นก่อนที่พวกเขาจะแยกกันในที่สุดเธอก็กล้าหาญที่จะขอให้
จินเซยอน เรียกชื่อเล่นของเธอดังนั้นเธอจึงสามารถเพิ่มเธอเป็นเพื่อนกันได้ แม้จะไม่สามารถพูดได้ด้วยตัวเองแต่เรเชลก็ส่งข้อความยาวๆไปหลังจากนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
CaptainBritain: 「…นายได้เจอกับ คุณ จินเซยอน?」
ผม:「ใช่แล้ว เธอบอกด้วยตนเอง」
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากสำหรับเรเชลเพราะเธอไม่ได้ข้อความจากอีกฝ่ายมานานแล้ว ผมเรียกสปาร์ตันระหว่างรอ มีภารกิจที่ผมต้องให้มันทำตอนที่ผมกลับมาบนโลก
“สปาร์ตัน.”
– เจี๊ยบ เจี๊ยบ เจี๊ยบ
“นายเห็นคนที่หล่อกว่าฉันใช่มั้ย”
ผมคิดถึงคิมซูโฮในใจ ผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่ม ดวงตาแหลมคมและลึกซึ้งราวกับมหาสมุทรและใบหน้าคมเข้มราวกับถูกกำหนดเอาไว้เป็นอย่างดี รูปร่างหน้าตาของเขานั้นเรียบง่าย
“เขาชื่อคิมซูโฮ จับตาดูเขาเอาไว้ละ”
– เจี๊ยบ เจี๊ยบ เจี๊ยบ
สปาร์ตันดูเหมือนจะไม่เต็มใจ แต่ก็พยักหน้าออกมา สปาร์ตันดูเหมือนจะโตขึ้นเล็กน้อยแต่ก็เชื่อฟังมากกว่าเดิม
“เด็กดีๆ….อ้อ ใช่.”
ผมเข้าไปในบ้านประมูลทันที
[บ้านประมูล]
ทุกไอเท็มที่ผมขายไปทำให้ระดับการประมูลของผมถึงระดับสูงสุด (CaptainBritain เป็นลูกค้าอันดับ 1 ของผม….ช่างมันละกัน) แต่ผมไม่ค่อยซื้อสินค้าจากบ้านประมูล เพราะยังไงผมก็สามารถสร้างมันขึ้นมาเองได้
ที่ผมจะหาก็คือ…
[ค้นหา: เสน่ห์]
[พบทั้งหมด 2 รายการ]
‘เสน่ห์’ เป็นสิ่งที่ผมทำไม่ได้ การเพิ่มคุณสมบัติเวทย์มนตร์ให้ตัวเองนั้นยากมากและแม้ว่าผมจะทำสำเร็จมันก็ต้องใช้เวลานานมาก ผมเลยต้องซื้อไอเท็มที่ช่วยเพิ่มมนต์เสน่ห์
[Lv.6 เสื้อคุมโปร่งใส]
[การเสนอราคาปัจจุบัน – 11,000TP]
[ซื้อทันที – 35,000TP]
[เวลาจนกว่าการประมูลจะสิ้นสุด – 3:13:23]
ผมคลิกที่ ‘ซื้อทันที’ แม้ว่าจะราคาถึง 35,000TP แต่ผมมีเงินเยอะมากทั้งในและนอกหอคอย
[คุณซื้อ Lv.6 เสื้อคุมโปร่งใส]
หลังจากซื้อ เสื้อคุมโปร่งใส ผมตัดมันให้พอดีกับร่างของ สปาร์ตัน ด้วยความชำนาญของผมใช้เวลาเพียง 10 นาทีผมตัวเป็นเสื้อน่ารักๆให้กับ
สปาร์ตัน
“ถ้านายตกอยู่ในอันตรายให้หนีไปทันทีโอเคไหม”
– เจี๊ยบ เจี๊ยบ เจี๊ยบ
“เด็กดีๆ.”
ต่อมาผมเหลือบไปมองช่องข้อความ เมื่อเห็นว่าเรเชลยังไม่ได้ตอบผมผมเลยค้นหารายการอื่นๆในบ้านประมูล
[ค้นหา: หนังสือทักษะพิเศษ – เคลิบเคลิ้ม]
[พบทั้งหมด 0 รายการ]
“ชิ เมื่อไรเจ้านี้จะปรากฏออกมาซะที”
ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันหายากจริงๆ หรือมีคนซื้อมันไปแล้ว
(อาจเป็นทั้ง 2 อย่าง) แต่ [หนังสือทักษะพิเศษ – เคลิบเคลิ้ม] ยังไม่พบในบ้านประมูล มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมรู้ในตอนนี้
“…เราควรลองทอยลูกเต๋ามากกว่านี้ดีไหมนะ”
ผมมีความคิดฉับพลัน [สุ่มลูกเต๋า] ทักษะโบนัสที่ผมได้รับจากตั๋วสีดำตอนนี้อยู่ที่ระดับ 6 ทุกวันนี้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากลูกเต๋าที่ผมสุ่มทุกวัน ตอนนี้ผมอยู่ในครึ่งหลังของ หอคอย ไม่มีของอะไรที่ผมไม่มี
“ก็ไม่เสียหายอะไร…ลองเอาเป็น เคลิบเคลิ้ม”
ผมไม่มีอะไรจะเสียด้วยสิ ผมหยิบลูกเต๋า 4 ชิ้นออกมาจากคลังของผมแล้วทอยออกไปในขณะที่คิดถึงแต่ ทักษะ เคลิบเคลิ้ม เท่านั้น อาจเป็นเพราะระดับสูงของลูกเต๋าสุ่มทำให้ลูกเต๋าทั้ง 4 กลายเป็นหนังสือทักษะ แน่นอนว่าโอกาสที่ เคลิบเคลิ้ม จะออกนั้นต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ
“…ฮะ?”
ผมเอียงศีรษะของผมเมื่อผมมองดูหนังสือทักษะ 1 ใน 4 เล่มที่ออกมา
[Lv.3 หนังสือทักษะพิเศษ – ธาตุทั้ง 4]
“มันใช้ได้เหรอ?”
มันเป็น พลังธาตุ ‘ 4 ธาตุ’ ซึ่งฟังดูดีกว่า เวทมนต์ ทั่วไป
“…ฉันแค่ต้องทอยลูกเต๋าจริงๆเหรอ? ทำไมฉันถึงเป็นใบ้เหรอ?”
===
[พลังธาตุ 4 ธาตุ Lv.3]
○ เสริมพลังธาตุ – สามารถร่ายเวทมนตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
○ คุณสมบัติ 4 ธาตุ – ธาตุที่ผู้ใช้ทักษะครอบครองนั้นสูงสุด 4 ธาตุสามารถผสมกันได้ได้อย่างอิสระ
===
มันก็คุ้มค่าที่จะเรียนรู้อย่างไม่ต้องสงสัย ผมใช้หนังสือทักษะทันที
ในขณะนั้นเองรถไฟก็เริ่มช้าลง
– ตอนนี้พวกเรามาถึงที่ชั้น 26 แล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม
เสียงของกัปตันดังขึ้นและผมก็ได้รับข้อความด้วยเช่นกัน
CaptainBritain: 「เจอกันสัปดาห์หน้า…」
ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอดูหมดเรี่ยวแรง
*************************************************************************
[ชั้น 26 อาณาจักรปีศาจที่แท้จริง]
คิมซูโฮ ลงจากรถไฟก็เจอหมอกหนาและแผ่นดินสีม่วงต้อนรับเขา
“…มอนสเตอร์ที่คิดไว้ไม่มีอยู่ที่นี่ ”
มีป้ายบอกทางที่สถานีรถไฟซึ่งคิมซูโฮอ่านออกมาดัง ๆ
“เฮ้ นายจะปีนหอคอยต่อเลยไหม”
ยียอนฮาน ซึ่งอยู่ถัดจากเขาถามด้วยร่างกายที่สั่นไหว
“พวกแฟร์มุนได้จากไปแล้วแม้กระทั่งแชนายอนก็กลับบ้านไปแล้วทำไมนายถึงตั้งใจจะปีนหอคอยต่อล่ะ”
แฟร์มุนบอกว่าพวกเขามีปัญหากับครอบครัวและจากไปที่ชั้น 24 โดยบอกว่าพวกเขาจะกลับมาเร็วๆนี้ ตอนนี้พวกเขากำลังต่อสู้กับ
มอนสเตอณ์ ในอิตาลี
“ฉันต้องไปต่อ”
“ทำไม? มันไม่เหมือนหอคอยปกตินะตอนนี้ ถ้านายรออีกหน่อย รอให้พวกเรา ไม่สิรอให้นายแข็งแกร่งกว่านี้”
ยียอนฮาน ดูเหมือนจะกลัวถ้าไปไกลกว่านี้
“อืม…มันก็แค่นั้น…”
อย่างไรก็ตามคิมซูโฮไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย คิมซูโฮมองไปที่หอคอยปีศาจจากระยะไกล
“ฉันคิดว่าฉันต้องปีนขึ้นไป”
เมื่อมองไปที่หอคอยราชาปีศาจมีแรงกระตุ้นเพิ่มขึ้นในหัวของเขา
มันรู้สึกเหมือนเขามีเหตุผลที่เขามาสู่ที่แห่งนี้
“แต่ทำไม”
“ฉันไม่รู้”
“นายจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ”
“เฮ้ๆ~”
ในขณะนั้นเองเสียงที่คุ้นเคยก็เรียกให้ยียอนฮาน และ คิมซูโฮ หันมาเป็นไอลีน ‘มนุษย์มังกร’
“นายอยู่คนเดียวใช่มั้ย อยากมากับพวกเราไหม”
“…อืม สวัสดี คุณไม่เห็นผมอยู่ที่นี่ใช่ไหม”
ดวงตาของไอลีนจับจ้องอยู่ที่คิมซูโฮเท่านั้น ยียอนฮานไม่พอใจเล็กน้อยและชี้ไปที่ตัวเอง
ไอลีน พูดออกมา “ฉันเห็นนาย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่คิดว่านายจะปีนขึ้นไปสูงกว่านี้”
“ …ไม่ ฉันจะไป”
ยียอนฮาน จับแขนของ คิมซูโฮ เอาไว้เขาไม่กลัวอะไรเลยถ้าเขาอยู่ในปาร์ตี้ของไอลีน คิมซูโฮหัวเราะเบาๆ
“ฉันจะไปกับซูโฮ พวกเราเป็นคู่หูกัน”
“…แน่นอน งั้นนายจะมากับพวกเราไหม?”
คิมซูโฮ กำลังจะพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็หยุดลงเมื่อเขาเห็น ชินจงฮัก ยืนอยู่ข้าง ไอลีน และจ้องมองมาที่เขา
“อ้า นายจะว่าอะไรไหม”
ไอลีนชี้ไปที่ชินจงฮักและยักไหล่ เหมือนที่เธอพูด ชินจงฮัก ไม่ได้ขัดอะไรกับความคิดนี้ ยียอนฮาน สับสน ชินจงฮักยินดีที่จะตั้งปาร์ตี้กับคิมซูโฮ? เขากินหาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า?
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร”
คิมซูโฮ พยักหน้าและระบบเตือนก็โผล่ขึ้นมาทันที
[‘ไอลีนและเด็กๆ’ เชิญคุณเข้าร่วมปาร์ตี้]
[คุณต้องการที่จะยอมรับหรือไม่]
คิมซูโฮคลิก ใช่ เช่นเดียวกัน คิมซูโฮ,จินเซยอน, ชินจงฮัก, ไอลีน,
อียองฮา และ ยียอนฮาน กลายเป็นสมาชิกกลุ่มเดียวกัน
“เลือกได้ดี อย่างที่ฉันคิดไว้นายรู้ว่าควรจะคว้าอะไร ฉันได้ยินมาว่านายมีพรสวรรค์เหลือล้นเลยงั้นเหรอ”
“ใช่ ถูกต้อง.”
พลังเวทมนตร์ของ คิมซูโฮ นั้นเป็นคุณสมบัติแสง 100% เมื่อได้ยินอย่างนี้ไอลีนก็หัวเราะอย่างมีความสุข
“ฮิฮิฮิ ฉันชอบมันมาก คิดจะเข้าร่วมกับ วิหารแห่งความยุติธรรม ไหม?”
“ไม่ นั่นมัน….”
และแล้ว
ปัง ปัง ปัง
ชายที่มีรูปร่างยักษ์เดินออกจากรถไฟ หัวของไอลีนหันไปหาเขาตามธรรมชาติ จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้ว
“…เป็นเขา.”
คำ 2 คำนี้มีความหมายมากมาย ผู้ติดอันดับส่วนใหญ่กลัวว่าจะแตะต้องชายคนนี้ อย่างไรก็ตามไอลีนเดินไปหาชายร่างยักษ์ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ไม่นาน ชอคจุนกยอง ก็สังเกตเห็นความกล้าหาญของเธอ
“เฮ้ย.”
ไอลีนยืนอยู่ตรงหน้าชายที่สูงกว่าเธออย่างน้อย 60 ซม.
“…เธอต้องการอะไร?”
เสียงของ ชอคจุนกยอง ดังกระหึ่ม ไอลีนพบว่ามันยากจะมองเขาตรงๆดังนั้นเธอจึงลอยตัวเองขึ้นมาด้วยพลังเวทมนต์ เธอยืนบนฟ้าและมองชอคจุนกยอง ในระดับสายตาที่เท่ากันชอคจุนกยอง จ้องมองที่ ไอลีน และตะใจ
“อะไร เธออยากโดนเขกหัว? กะโหลกและสมองของเธอจะระเบิดในทันทีเลยละ”
“หุบปาก บอกฉันว่าดอกบัวดำอยู่ที่ไหน”
ชอคจุนกยอง ขมวดคิ้ว
“ดอกบัวดำ?”
“ถูกตัอง. นายคิดว่าฉันสนใจนายงั้นเหรอ?”
“…ทำไมเธอถามฉันเกี่ยวกับเขา”
“ฮะ? นายคิดว่าฉันโง่? พวกนาย 2 คนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน! ดังนั้นรีบมาบอกฉันมาก่อนที่ฉันจะใช้ วาจาสิทธิ”
‘ผู้หญิงไม่มีเหตุผล…สมองของเธอหยุดโตเพื่อแลกกับวาจาสิทธิหรือไง?’ ชอคจุนกยอง ถอนหายใจและคิดในใจ
“เธอจะเจอเขาได้หากเธอปีนหอคอยต่อไป”
“อะไรนะ?”
ไอลีน,จินเซยอน,คิมซูโฮและสมาชิกคนอื่นๆต่างก็ให้ความสนใจกับสิ่งที่ ชอคจุนกยอง เพิ่งพูดออกมา
“แน่นอนเพราะเขามักจะมองพวกเธออยู่เสมอ”
“พวกเรา?”
“นั่นเป็นคำเตือนเหรอคะ?”
จินเซยอน ขัดจังหวะ ดอกบัวดำกำลังเฝ้ามองดูพวกเขาอยู่เหรอ?
ถ้าจริงหมายความว่าด้วยความสามารถของดอกบัวดำลูกธนูของเขาสามารถโจมตีเพื่อฆ่าทุกคนได้ตลอดเวลา
“ไม่ คนนั้นๆ…ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาต้องการให้พวกเธอพิชิตหอคอย”
“…อะไรนะ?”
“นั่นหมายความว่ายังไง? อธิบายมา.”
“หืมมม หุบปากกันได้แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอ ยัยเตี้ย”
ชอคจุนกยอง จ้องมองที่ ไอลีน แล้วพูดออกมา
“…ยัย..เตี้ย?”
ความสูงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่สุดของ ไอลีน พลังเวทมนตร์ปรากฏออกมาอย่างบ้าคลั่งแต่ ชอคจุนกยอง ยิ้มและกำมือหมัดราวกับว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการ
“คุณ ไอลีน ได้โปรดใจเย็นลงเถอะ”
“ไม่มีเหตุผลที่ผู้เล่นจะต้องมาต่อสู้กันในจุดนี้”
จินเซยอนและคิมซูโฮก้าวออกมาต่อหน้าเธอ ไอลีนยังคงจ้องมองไปที่ ชอคจุนกยอง เป็นเวลานานก่อนที่จะปล่อยเสียงอันน่ารักๆออกมา
“…หืมๆ ฉันรู้นะ ผู้ชายอย่างนายคงไม่สามารถสู้กับปีศาจได้เพราะนาย มันพวกบ้าพลัง หากนายไม่อยากถูกปีศาจฆ่าตาย ฉันแนะนำให้นาย
กลับไปที่โลก”
“ฮ่าๆ”
คำวิจารณ์ของไอลีนดูเหมือนจะเป็นความจริงในระดับหนึ่ง แต่
ชอคจุนกยอง ได้พิสูจน์ทันทีว่ามันเป็นเรื่องโกหก เขาบีบอัดลูกบอลพลังเวทย์ลงบนฝ่ามือของเขา
เปรี้ยงงงงงงงง
– ลูกบอลพลังงานสีน้ำเงินสะท้อนไปมากับอากาศแม้ว่าคุณสมบัติอื่นๆ จะถูกผสมเข้าด้วยกัน แต่คุณสมบัติหลักของมันคือแสงอย่างชัดเจน
“เจ้านี้มีคุณสมบัติเป็นยังไง”
“…บ้าน่า นั่นมันไม่จริง”
“อย่าเข้าใจผิดคิดว่า ฉันจะโง่เหมือนเธอนะ”
ชอคจุนกยอง ทำลายลูกบอลพลังงานของเขาจากนั้นเขาก็เดินผ่านตัวของไอลีนและออกจากสถานีรถไฟไปโดยไม่ลังเล
ต๊อก…ต๊อก
ในขณะที่ได้รับความสนใจจากผู้ติดอันดับหลายคนเขาเดินเข้าไปในป่าของชั้น 26 ด้วยตัวเอง แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยความกล้าหาญและความมั่นใจ
“โอ้ ใช่แล้ว!”
จากนั้น ชอคจุนกยอง ก็ตะโกนขึ้นมาทันที เสียงของเขาดังเหมือนฟ้าร้อง เขาหันหน้ามาครึ่งหนึ่งแล้วมองไปที่กลุ่มของไอลีน เป็นเพราะเหมือนเขาจะรู้สึกว่าตัวเองพูดเกี่ยวกับดอกบัวดำมากเกินไป
“ถ้าพวกเธออยากตามหา ดอกบัวดำ ให้ทำมันหลังจากที่เธอเอาชนะฉันให้ได้ก่อน”
“…อะไรนะ?”
ปาร์ตี้ของไอลีนตีความคำพูดของเขาต่างกัน สำหรับพวกเขาแล้วคำพูดของเขามีความหมายที่ชัดเจน ดอกบัวดำนั่นคือใครกันแม้กระทั่งคนบ้าก็ยอมเชื่อฟังเขา ในตอนแรกพวกเขารู้ว่า ‘สีดำ’ เป็นสีที่แข็งแกร่งที่สุดใน Chameleon Troupe ในขณะที่กลุ่มของไอลีนกังวลเกี่ยวกับดอกบัวดำที่คาดว่ากำลังเฝ้า ‘ดู’ พวกเขาอยู่ ชอคจุนกยอง ก็หายเข้าไปในป่าของ
[ดินแดนปีศาจที่แท้จริง]
“…….พวกเราเองก็ควรไปด้วย ไม่มีอะไรต้องกังวล”
“…ใช่.”
พวกของไอลีนก็ก้าวเข้าไปในชั้น 26 พวกเขาเลือกทิศทางที่แตกต่างจาก ชอคจุนกยอง
*************************************************************************