The Novel’s Extra - ตอนที่ 401
บทที่ 401 ดอกบัวดำ (1)
ภายในโคลอสเซียมที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความบ้าคลั่ง
จินเซยอน จ้องมองชายตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาถูกปกปิดอย่างสมบูรณ์ แต่ จินเซยอน คิดที่จะมองผ่านการปลอมตัวของเขาด้วยสายตาของเธอ
อย่างไรก็ตามแม้ดวงตาของเธอก็ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ หน้ากากของ ดอกบัวดำ เบี่ยงเบนสายตาของ นักธนูผู้ศักดิ์สิทธิ์ ได้อย่างง่ายดาย
– ผู้ชนะจะมีชีวิตรอดและผู้พ่ายแพ้จะต้องตาย! จงสนุกกับการต่อสู้ของมนุษย์กับความตาย!
เสียงปีศาจดังออกมาดัง ๆ
จินเซยอน หยิบ [ธนูของพระเจ้ามุนจงแห่งโครยอ] ไอเท็มที่เธอได้รับขณะปีนหอคอย เธอเล็งธนูไปที่ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
ดอกบัวดำ.
เขาเป็นสมาชิกของ Chameleon Troupe ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่เธอ
ความแค้นที่ถูกกักเก็บในตัวเธอนั้นไม่สามารถลืมเลือนได้เลย
– สู้!
อย่างไรก็ตามต่อหน้าชีวิตของสหายของเธอความแค้นของเธอกลายเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว
– จงต่อสู้ซะ!
จินเซยอน พยายามใจเย็น คู่ต่อสู้ของเธอเองก็ยกธนูขึ้นมา ไม่มีเวลาว่างที่จะพูดอะไรออกไป พลังเวทมนต์เปล่งประกายรอบธนูของเธอ
นักธนูผู้ศักดิ์สิทธิ์และดอกบัวดำ จับลูกธนูในมือ
นี้คือการเผชิญหน้ากันของนักแม่นปืนทั้ง 2 คนที่กำลังจะเกิดขึ้น
จินเซยอน กังวลว่าเธอและดอกบัวดำ จะไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของปีศาจได้
แม้ว่าผู้ชมจะเชียร์และเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในการต่อสู้ระหว่างทั้ง
2 แต่ การต่อสู้กันของนักแม่นปืนนั้นไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย
เป็นเพราะการต่อสู้นั้นจะถูกกำหนดโดยลูกศรเดียวเสมอ
นักแม่นปืนไม่สามารถโจมตีได้หากพวกเขาหลบและหลบไม่ได้ถ้าหากพวกเขาจะโจมตี ดังนั้นนักแม่นปืนจึงต้องกำหนดผลลัพธ์ของการต่อสู้ภายในลูกศรเดียวซึ่งเป็นการใช้พลังเวทมนต์ทั้งหมดลงไป ไม่มีการต่อสู้สุดแฟนตาซีเหมือนในการ์ตูนอย่างแน่นอน
ในเสี้ยววินาทีนั้น ลูกธนู 2 ดอกของใครจะพังทลายและลูกธนูที่รอดตายจะบดขยี้ศัตรูด้วยพลังทั้งหมด
– กิ้ๆๆๆๆ
จินเซยอน ดึงสายธนู พลังเวทมนต์ของเธอกัดกินลูกธนูและบีบอัดลงไปในรูปแบบพลังทำลายล้างที่มากขึ้น ลูกศรเวทมนต์ที่ปรากฎนั้น
ก่อให้เกิดแรงกดดันอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดระเบิดความตื่นเต้นและเสียงเชียร์ของผู้ชมในโคลอสเซียม
จากนั้นเมื่อเธอพร้อมที่จะยิงธนูของเธอที่เต็มไปด้วยพายุแห่งพลังเวทมนตร์ …
– อย่าคิดที่จะชนะ
เสียงดังก้องอยู่ในหัวของเธอ
“…?”
ดวงตาของจินเซยอนเบิกกว้าง
ทักษะการส่งความคิดของตัวเองไปยังจิตใจของคนอื่นนั่นคือ โทรจิต จากทักษะมากมายที่ฮีโร่ใช้กับพลังเวทมนต์การโทรจิตเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุด เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่พยายามฝึกฝนกันตั้งแต่แรกหรือ
ทำให้ความสามารถนี้ไม่ได้สามารถใช้กันได้ทุกคน
อย่างไรก็ตามการการส่งโทรจิตนั้นไร้ที่ติ ไม่มีแม้แต่เสียงรบกวนที่
ขัดขวางข้อความของเขาและมันก็ดังขึ้นในตัวเธอเองอย่างราบรื่นและเงียบสงบ แม้ในฐานะฮีโร่ระดับปรมจารย์นี่เป็นครั้งแรกที่จินเซยอนได้สัมผัสกับโทรจิตที่ใสสะอาดขนาดนี้
– หากเธออยากช่วยเพื่อนของเธอ เธอวางธนูนั้นลงเถอะ
ข้อความของ ดอกบัวดำ ยังคงดังต่อไป
เขารู้อยู่แล้วว่าเพื่อนของเธออยู่ที่นี่
มือของจินเซยอนสั่นไปครู่หนึ่ง อย่างไรก็ตามเธอพุ่งความสนใจไปธนูอีกครั้ง
จะเชื่อหรือไม่เชื่อ นี่ไม่ใช่คำถามที่จินเซยอนถามกับตัวเอง เธอไม่อยากให้ชีวิตของเพื่อนต้องตกเป็นเดิมพันต่อรองของดอกบัวดำ
– เธอไม่อยากช่วยพวกเขาเหรอ
จินเซยอน พยายามใช้พลังเวทมนต์ของเธอเพื่อตัดการโทรจิตของดอกบัวดำ อย่างไรก็ตามเธอทำไม่ได้
‘เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือไง จินเซยอนหัวเราะและรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างล้นหลามในพลังเวทมนต์อันยิ่งใหญ่
– ฉันจะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หากเธออยากช่วยเพื่อของเธอวางธนูนั้นซะ
คำพูดของดอกบัวดำดังขึ้นในจิตใจของเธอ ถึงกระนั้น จินเซยอน ก็ยังคงสร้างลูกธนูเวทมนต์ของเธอต่อไป แสงเปล่งประกายสุกใสจากคันธนูของเธอ
– นั่นคือลูกศรธาตุแสงงั้นเหรอ?
เสียงแห้งๆและไร้อารมณ์ดังขึ้น
– ตัวเลือกที่โง่เขลา
ด้วยการเยาะเย้ย ดอกบัวดำ ก็ปลดปล่อยพลังเวทมนต์ของเขาออกมาราวกับเขื่อนแตก
– คงจะดีกว่านี้ถ้าใช้การโจมตีที่ไร้พลังธาตุ
“หยุดพูดนะ-!”
ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกคุกคามโดยแก! จินเซยอน ตะโกนและปล่อยลูกธนูของเธอออกไป
เพี้ยว…
ประกายไฟสีขาวแตกกระจายขณะที่ลูกศรของเธอลอยไปข้างหน้า
แสงทำให้โลกร้อนขึ้นมาในทันทีและละลายอากาศโดนรอบ
เมื่อแสงสีขาวเปล่งประกายจากลูกศรทำให้หัวใจของผู้ชมหลงใหล…
“เอ๊ะ…?”
จินเซยอน เริ่มเข้าใจความหมายของ ดอกบัวดำ
ไฟไม่สามารถชนะความมืด และไฟก็ไม่ได้ชนะน้ำและไม่มีน้ำค้างที่สามารถกลายเป็นน้ำแข็งได้ แบบนี้มันแค่กินพลังเวทมนต์มากเกินไปเท่านั้น
จินเซยอน เห็นกระแสน้ำปะทะกับลูกธนูของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ นี่คือความรู้สึกเหมือนหิ่งห้อยต่อหน้าดวงอาทิตย์งั้นเหรอ?
พลังเวทมนต์มีคุณสมบัติเบาบาง ลูกศรของ ดอกบัวดำ ฉมวกสีขาวที่เขายิงออกมาดับลูกศรของเธออย่างง่ายดาย
“…เฮ้อออออ.”
ลูกธนูส่องสว่างของเธอร่วงลงและลูกศรของ ดอกบัวดำ ยังคงลอยไปหา จินเซยอน เห็นความพ่ายแพ้ของเธออย่างชัดเจน
แต่ไม่ช้าก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่
แสงไฟของดอกบัวดำระเบิดต่อหน้าจินเซยอน เธอล้มลงไปที่พื้นดิน อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้สึกเจ็บปวด ราวกับว่าร่างกายของเธออยู่ภายใต้การดมยาสลบ นี่เป็นเพราะการโจมตีด้วยคุณสมบัติธาตุของเขางั้นเหรอ?
– ไม่ต้องห่วง เธอจะไม่ตาย …
เมื่อจิตสำนึกของเธอเริ่มจางหายเสียงของดอกบัวดำก็ขึ้นอีกครั้ง
– เธอจะหลับไปแค่ครู่เดียวเท่านั้น
ต๊อกแต๊ก เสียงฝีเท้าของเขาดังก้องอยู่ในหัวของเธอ
“มันห่างไกลจากความตายที่แท้จริง”
คราวนี้เขาพูดออกมาโดยไม่ใช้ โทรจิต
“หลับให้สบายเถอะ”
นั้นเป็นคำพูดสุดท้ายจากนั้นจิตสำนึกของจินเซยอนก็ถูกตัดออกไป
*************************************************************************
“….เฮ้อออออออออ”
หลังจากยืนยันว่าดวงตาของจินเซยอนปิดสนิทผมก็ถอนหายใจ เนื่องจากผมใช้ รอยสัก 4 ครั้งในคราวเดียวและใช้คุณสมบัติที่ซับซ้อนเช่น ‘การเคลื่อนไหวที่ถูกระงับ’ ร่างกายของผมจึงเจ็บปวดไปหมด
“เราชนะสินะ”
ผมพิสูจน์ทฤษฎีของผม แม้แต่ลูกธนูของ จินเซยอน ก็ไม่สามารถเอาชนะ ลูกศรแสงจันทร์ของอเธน่า ได้เนื่องจากเธอเลือกการต่อสู้ที่มีคุณสมบัติธาตุแสงผลลัพธ์จึงออกมาอย่างชัดเจน
“เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมากเจ้ามนุษย์”
ยามเดินมาหาผมและตบหลังของผมขณะที่เขาชม
“ขอแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งแรกของเจ้า มีอะไรที่เจ้าต้องการไหม”
ผมจ้องมองไปที่ดวงตาปีศาจ นัยน์ตาของเขาโค้งเป็นรอยยิ้ม ผมชี้ไปที่ร่างของจินเซยอน
“…ศพนี้”
“หืม?”
“เอาส่งศพนี้มาให้ฉัน”
“…ศพ?”
ผมพยักหน้า. คำใบ้ของความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้คุม
เขามองไปมาระหว่างผมกับจินเซยอนในขณะที่แผ่พลังงานปีศาจออกมา
ฉึก
– ดาบปีศาจสีดำแทงทะลุท้องของจินเซยอน
“… .”
อย่างไรก็ตามเธอไม่ตอบสนองใดๆดีที่ผมพาเธอเข้าสู่สถานะไร้การเคลื่อนไหวด้วยพลังเวทมนต์ของรอยสักไปก่อนแล้ว
เจ้าหน้าที่เรือนจำพูดออกมา “ข้าไม่สามารถให้ศพเจ้าได้ ศพทั้งหมดจะถูกนำไปที่ห้องเก็บศพ “
“ถ้างั้นให้ฉันอุ้มเธอที่นั่นเอง”
“หืม…ก็ได้”
เจ้าหน้าที่เรือนจำไม่ได้ว่าอะไร ผมอุ้ม จินเซยอน ขึ้นมาแล้ววางเธอไว้บนไหล่ของผม
แป๊ะๆ!
แป๊ะๆ แป๊ะๆน่าทึ่งมาก! มันเยี่ยมมากจริงๆ!
แม้ว่าการต่อสู้จะจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ปีศาจดูเหมือนจะสนุกกับมันเป็นอย่างมาก
ผมเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงตื่นเต้น พลังแห่งแสง 2 ดวงที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ปะทะกัน ในมาตรฐานของมนุษย์มันเหมือนการทะเลาะกันของทะเลเลือด
– ข้าจะจำชื่อของเจ้าเอาไว้! แล้วเจอกัน!
– อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! สนุกมาก สนุกจริงๆ!
ผมออกจากโคลอสเซียมตามเจ้าหน้าที่เรือนจำไปและก็มาถึงโรงเก็บศพใต้ดิน
“ฮุฮุฮู…”
เจ้าหน้าที่เรือนจำมองมาที่ผมและยิ้มอย่างมีความสุข
“ฉันจะให้เจ้ายืมซากศพนั้น 1 วันก็แล้วกัน”
“…อะไรนะ?”
ผมรู้สึกเหมือนผมเข้าใจว่าว่าผู้คุมเรือนจำคิดอะไรอยู่ การกระทำที่ยอมรับไม่ได้ต่อมนุษย์นั้นเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาของปีศาจ
“นายไปได้แล้ว”
“เอาล่ะข้าจะออกไปแล้ว ใช้เวลาของเจ้าให้คุ้มค่าเถอะ”
ผมขมวดคิ้วอย่างรังเกียจเมื่อผมปล่อยยามนั้นไป ดูเหมือนว่าเขาจะคิดว่าเขามีน้ำใจขณะที่เขาปิดประตูทางออก ผมต้องขอบคุณเขาสำหรับเรื่องนี้
“… .”
หลังจากชำเลืองมองผ่านประตูและตรวจสอบว่าเขาไปแล้วผมก็รีบเอายาออกมาให้ จินเซยอน ที่มีเลือดไหลออกมาจากท้องของเธอ ผมรินยาบนบาดแผลของเธอ
ซ่าาาาาาาา ไอน้ำสีขาวปิดบาดแผลของเธอทันที
และแล้ว
“…ร้อนๆๆๆๆๆ!”
ความร้อนที่เหลือทนทนได้กระจายจากข้อมือของผม ผมเหลือบมองอย่างรวดเร็วและเห็นว่า Smart Watch ของผมติดไฟ
“อะ-อะไรกัน!?”
ผมพยายามดับไฟ แต่หลังจากนั้นไม่นานความเจ็บปวดก็กระทบแขนของผม มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจเข้าใจเหมือนเหล็กในแทงร่างกายของคุณอย่างต่อเนื่อง
“บ้าจริง….”
ผมคุ้นเคยกับความเจ็บปวดนี้ ไม่นานชุดข้อความก็โผล่ขึ้นมาในดวงตาของผม
[มีการเพิ่มลายของ รอยสัก]
[มันจะง่ายต่อการใช้ รอยสัก อย่างหลากหลาย]
[ตอนนี้คุณสามารถใช้ ‘การแทรกแซงเนื้อเรื่อง’ และ ‘การอ่านเนื้อเรื่อง’ ได้โดยไม่ต้องใช้สื่อกลาง]
[คุณสามารถ … ]
พวกมันเป็นข่าวดี แต่ปัญหาก็คือกับเวลาและสถานที่
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!”
ความเจ็บปวดพุ่งไปที่แขนของผมวิ่งไปถึงสมอง เสียงร้องไห้ที่ไม่คาดคิดออกมาจากปากของผมและผมก็ทนความเจ็บปวดไม่ได้อีกต่อไป
ผมทรุดตัวลงและจับแขนของผมแน่น
*********************************2***************************************