The Novel’s Extra - ตอนที่ 439
บทที่ 439 ตอนใหม่ (1)
[ห้องนั่งเล่นของออร์เดน]
ลึกเข้าไปในใจกลางอาณาจักรของออร์เดน ออร์เดนนั่งบนบัลลังก์ต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาที่ภักดีของเขา
“ผู้บุกรุกเข้าไปใน บาเรียแห่งกาลเวลาแล้ว” ผู้รับใช้ที่คุกเข่าต่อหน้าราชารายงาน
“เท่ากับตอนนี้แมลงวันเข้าไปติดกับดักเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่ ผู้บุกรุกดูเหมือนจะรู้ว่า บาเรียเวลา ทำงานยังไง ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่แน่ว่าพวกมันจะหลบหนีออกมาได้ พวกเราจะต้องทำอะไรบางอย่าง”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ราชาก็มองผู้รับใช้คุกเข่าต่อหน้าเขา คุรุคุรุ,ลาคอส,
เวริทาส์,การิมโต้…ถ้าเขาต้องการเขาก็สามารถสั่งให้ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเขาไปฆ่าผู้บุกรุกที่เย่อหยิ่งพวกนั้นได้
“…ฉันจะจัดการกับพวกมันเอง”
แต่ก่อนที่ราชาจะพูดอะไรได้มนุษย์ก็พูดออกมาคนรับใช้ของราชาจ้องมองมนุษย์ด้วยความไม่พอใจ อย่างไรก็ตามมนุษย์ไม่ได้แสดงท่าทางหวาดกลัวใดๆในความเป็นจริงมนุษย์ตะคอกและพูดออกมาอีกครั้งอย่างมั่นใจ
“ฉันจะตบสั่งสอนพวกมันเอง” คำพูดของจินซาฮยอค ทำให้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของออร์เดน
“เธอจะไปเองเหรอ” ออร์เดนถาม
จินซาฮยอค พยักหน้าด้วยความมั่นใจ “แน่นอน”
หลังจากต่อสู้กับเบลล์ เธอได้เข้าร่วมออร์เดน แน่นอนว่านั่นไม่ได้หมายความว่าเธอวางแผนจะร่วมมือกับเขาจริงๆ เธอต้องยอมรับเรื่องนี้เพื่อหลีกเลี่ยงจากอุปสรรคของเบลล์
“ฉันจะทำให้พวกมันหายไปจากสายตาของนายเอง”
เธอไม่ได้โกหก เธอวางแผนที่จะพาคิมฮาจินกลับสู่อดีตของ อคทรีน่า ดังนั้นเขาจะหายไปจากสายตาของมอนสเตอร์ แม้ว่าโอกาสจะมาเร็วกว่าที่เธอคาดไว้ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เธอต้องการที่จะหนีจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ดีแล้ว เธอทำได้แน่ๆ”
ออร์เดนให้การอนุมัติและจินซาฮยอค ปล่อยพลังเวทมนต์ของเธอพร้อมรอยยิ้ม พรสวรรค์ใหม่ของเธอ [การจัดการความจริง] สร้างประตูขึ้นมา
“ฉันจะไปละนะ ไอ้พวกกระจอก”
เธอด่าพวกมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์และหายเข้าไปใน Portal ทันทีสร้างความโกรธให้กับเหล่าลูกน้องของราชาทันที
“…ราชาของข้า ทำไมท่านถึงยอมรับมนุษย์ที่หยิ่งยโสนั้นเข้ามาในกลุ่มของพวกเรา”
“ฆ่า…มัน….นัง…เลว….นั้น”
“คุรุรุ,คุรุรุรุ….”
ออร์เดนปล่อยพลังเวทมนต์ของเขาออกมาเพื่อทำให้ผู้รับใช้ของเขาใจเย็นลง
*************************************************************************
[84 วันเท่ากับ 12 ชั่วโมงในโลกแห่งความจริง]
ปาร์ตี้ของไอลีนเดินไปข้างหน้าไปยังปราสาทที่ห่างไกล 1 ชั่วโมง
2 ชั่วโมง 4 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง…หลังจากเดินเป็นเวลานานพวกเขาตระหนักว่าสภาพแวดล้อมของพวกเขาไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
“มีอะไรผิดปกติ…”
“หืม…ทำไมพวกเราไม่แยกออกเป็น 2 ทีม เรามีวิธีการสื่อสารดังนั้นมันน่าจะดี”
ทีมได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามคำแนะนำของ จินเซยอน ไอลีน,
จินเซยอน และ ชินจงฮัก ก่อตั้งทีมแรกในขณะที่ อียองฮา และ ซอยองจี สร้างเป็นทีมที่ 2 พวกเขาตัดสินใจติดต่อกันทันทีที่พบเจออะไร
เวลาผ่านไป
1 วัน 2 วัน 3 วัน 4 วัน…… 10 วัน…และในที่สุด 84 วัน ปัญหาคืออาหารไม่เหลือแล้ว ของที่พวกเขาเตรียมไว้ไม่เพียงพอที่จะอยู่ได้นานถึง 3 เดือน การขาดน้ำเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
วันที่ 6 พวกเขาตัดสินใจยอมแพ้และกลับไปโดยใช้ม้วนคัมภีร์ย้อนกลับ
“ทะ-ทำไมมันไม่ทำงาน…?”
แน่นอนว่า ม้วนคัมภีร์ย้อนกลับ ไม่ทำงานภายใน บาเรียแห่งห้วงเวลา เมื่อความหวังสุดท้ายของพวกเขาสิ้นสุดลง ไอลีน,จินเซยอน และ
ชินจงฮัก ล้มลงกับพื้นด้วยความหงุดหงิด
ถ้าเปรียบเทียบแล้วแม้แต่ เฟรารี่ ก็ไม่สามารถใช้ได้ถ้าปราศจากน้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์ที่ดีนั้นก็ต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีด้วยเช่นกัน เมื่อไม่มีเวทมนต์แล้ว ยอดมนุษย์ก็ไม่แตกต่างอะไรจากคนธรรมดา
ถึงกระนั้นความตายจากการขาดน้ำและความอดอยากก็เป็นสิ่งที่
พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะพบจุดจบด้วยความหิวมากกว่าการต่อสู้…เมื่อเวลาผ่านไปและความสิ้นหวังที่ยิ่งใหญ่ก็ก่อตัวในจิตใจของพวกเขา
…และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะที่พวกเขากำลังจะยอมรับความตายพวกเขาก็รู้สึกว่ามีคนที่ไม่รู้จักเข้ามาใกล้พวกเขา พวกเขาหันหน้าไปมองทิศทางนั้น
จากนั้นพวกเขาก็ได้ความหวังกลับคืนมา
คนที่ดูเหมือนสายลมสวมเสื้อเกราะที่ส่องสว่างกว่าที่พวกเขาเคยเห็นมาก่อน
“ฮะ…?”
“นั่นอะไรน่ะ?”
เป็น คิมฮาจิน เมื่อมองหน้าเขาทั้ง 3 คนก็กระพริบตาเบาๆ พวกเขาแทบจะไม่พูดอะไร
คิมฮาจินเดินไปหาพวกเขาและพูดพร้อมกับส่งขวดน้ำให้พวกเขา
“ดื่มสิ.”
คำ 2 คำนี้อาจเป็นคำที่เจ๋งที่สุด ไอลีน จินเซยอนและชินจงฮัก เคยได้ยินในชีวิตของพวกเขา
*************************************************************************
ผมให้น้ำพวกเขาก่อน
อึก – อึก –
หลังจากดูพวกเขาดื่มน้ำผมก็เริ่มทำอาหาร เพราะพวกเขากำลังหิวโหยเป็นเวลานานผมจึงทำซุป แม้แต่ ยอดมนุษย์ ก็มีปัญหาในการย่อยอาหารถ้าอยู่ในสถานะเช่นนี้
ไม่กี่นาทีต่อมาคนอดอยาก 3 คนก็เดินมาหาผม
“………อะ”
“‘‘จ๊อกๆๆๆ.’’”
ก่อนอื่นผมมอบชามให้กับชินจงฮัค ความหล่อเหลาตามปกติของเขาหายไปแทนที่ด้วยรูปลักษณ์ของกุ๊ยข้างถนน
“… .”
แต่ชินจงฮัคมองมาที่ผมโดยไม่รับซุปในชาม เขากัดริมฝีปากแน่น ดูเหมือนเขาอายเกินกว่าที่จะรับมันเอาไว้
“นายกำลังรออะไรอยู่? หากนายไม่ต้องการก็ถอยออกไป”
เมื่อไอลีนพยายามผลักเขาออกไปในที่สุดเขาก็หยิบชาม จากนั้นผมก็มอบชามให้ ไอลีน และ จินเซยอน 3 นาทีต่อมาพวกเขาก็คืนชามเปล่ามาให้ผม
“อ๊ะ…อะแฮ่ม นายรู้ได้ยังไงว่าต้องมาช่วยพวกเรา”
ไอลีนที่เลียทุกอย่างออกจากชามมองมาที่ผมด้วยความเสียใจ ผมบอกเธอถึงข้อแก้ตัวที่ผมเตรียมไว้ล่วงหน้า
“ฉันอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว”
“โอ้ …”
“อย่างที่คิดสมเป็น เฟนริล ผู้มีชื่อเสียง ฉันขอชื่นชมคุณผู้อาวุโส”
ไอลีน และ จินเซยอน ตอบและพวกเธอส่งสัญญาณให้ผมเติมชามของพวกเธอ
“…ผู้อาวุโส?”
“นายไม่ได้บอกว่านายมาช่วยพวกเราเหรอ? นั่นทำให้นายเป็นผู้อาวุโสของพวกเรา ขอบคุณนะ ผู้อาวุโส ขอบคุณจริงๆ”
ดวงตาของจินเซยอนนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ เธอดูเหมือนพร้อมที่จะรับฟังทุกอย่างและจูบเท้าของผม ดูเหมือนว่าพวกเธอจะอาการหนักกว่าที่ผมคิด ผมมองดู ชินจงฮัก เพื่อดูว่าเขาอยากเอาอีกชามด้วยหรือไม่
“แพลบ, แพลบ… ”
เขาเลียชามของเขา เขาหันหลังให้กับผม แต่ผมสามารถบอกได้ด้วยเสียงที่เขาทำและไหล่ของเขาที่ขึ้นและลง
ผมคว้าชามออกจากมือของเขา
“อะ-อาาาา! นะ-นายต้องการอะไร! ส่งมันคืนมานะ!”
“นายกินหมดแล้วไงล่ะ นายเติมได้อีกนะ”
ผมเติมให้ทั้ง 3 ชามแล้วส่งคืน
“…ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย”
แต่ชินจงฮัคดื้อรั้น ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ชามซุป แต่ปากเขาปฏิเสธ
หวือหวา
ผมพยายามสั่นชามต่อหน้าเขา ดวงตาของชินจงฮัคมองตามชามราวกับว่าเขาหลงใหลอะไรบางอย่าง
“…อึก,อึก”
“นายแน่ใจหรือว่าไม่ต้องการมัน? ฉันเห็นนายน้ำลายไหลด้วยนะ”
เมื่อผมถามอีกครั้งและชินจงฮัคก็บ่นอย่างเงียบๆ
– …วันนี้เพียงแค่วันนี้เท่านั้น ฉันอยากให้นายมาเป็นพ่อครัวของฉัน
ผมยิ้มและส่งชามให้เขา หลังจากนั้นผมปรุงเนื้อสัตว์และเตรียมยาให้พวกเขาเพื่อเพิ่มพลัง
“อ้า…นายช่วยพวกเราไว้ ว่าแต่..นายมีของหวานมั้ย ~? ฉัน…แค่รู้สึกเวียนหัว…อ่าฉันจะเป็นลม…ฉัน….ฉันคิดว่า…ฉันต้องใช้ช็อคโกแลตเพื่อรักษาอาการนี้…ฉัน….”
“ขอบคุณมากนะค่ะ ฉันเป็นหนี้ชีวิตคุณ….”
“…นายรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วนายจะออกไปยังไง”
ไอลีน, จินเซยอน และ ชินจงฮัก กล่าวตามลำดับ พวกเขามีบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร ผมมอบช็อคโกแลตให้กับไอลีนก่อนเป็นอย่างแรก
“ขอบคุณ…งับๆๆ”
เมื่อเห็นช็อคโกแลตไอลีนก็เขินอายแต่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
ผมตอบทุกคนว่า “พวกนายตกหลุมพรางในขณะตอนที่พวกนายมาถึงไงละ”
ใบหน้าของไอลีนบิดเบี้ยว “ฉันไม่รู้ ฉันสงสัยแบบนั้นเหมือนกัน ฉันแค่เคลื่อนย้ายไปยังพิกัดที่ฉันได้รับจากคนที่ระดับสูงกว่า”
พิกัดจากคนระดับที่สูงกว่า ผมรู้สึกได้ว่าปัญหาอยู่ที่ตรงนั้น
“…ใครที่เป็นคนให้แผนที่ล่ะ”
“หืม? อ้อ หัวหน้าของพวกเรา เป็นคนพูดคุยเรื่องต่างๆกับสมาคมเพื่อการวางแผน”
“หัวหน้า?”
“ใช่เขาชื่อปาร์คฮันโฮ นายก็เคยได้ยินชื่อเขาใช่ไหม เขาเป็นประธานของวิหารแห่งความยุติธรรมนายคงเห็นชื่อของเขาในหนังสือแบบเรียน”
ผมรู้แล้วว่าใครเป็นคนทรยศ
ปาร์คฮันโฮ ชื่อของเขาถูกกล่าวถึงในเนื้อเรื่องเดิมและแม้ว่าเขาจะไม่เคยมีบทบาทสำคัญ แต่เขาไม่ใช่ประธานของวิหารแห่งความยุติธรรม
ใน [เส้นเนื้อเรื่อง] ผมสร้างเขาขึ้นเพื่อสร้างระดับพลังของตัวละคร ปาร์คฮันโฮ อยู่ที่ …
[ปาร์คฮันโฮ 9.45 / 9.45]
คะแนนที่เป็นไปได้สูงสุด
ตัวเลขนี้สูงกว่าระดับ [9.4 / 9.55] ที่ผมให้แก่ ไอลีน เล็กน้อย
“… .”
ใบหน้าของผมแข็งทื่อ เมื่อเห็นอย่างนี้อีก 3 คนก็สามารถคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“นายหมายถึง….ปาร์คฮันโฮทรยศพวกเรา?” ไอลีนถาม
ผมพยักหน้าอย่างใจเย็น “ถ้าคนที่ทำตามแผนไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดก็ต้องเป็นคนวางแผนที่ทำ”
“แต่ปาร์คฮันโฮไม่มีแรงจูงใจ ฉันรู้จักเขาดีและเขา-”
“ไม่”
ไอลีน ขัดจังหวะ จินเซยอน ใบหน้าของเธอจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม
“ตอนนี้พอฉันมาคิดเรื่องนี้แล้ว…ตาแก่นั้น ลูกสาวของเขาเสียชีวิตลงเมื่อเร็ว ๆ นี้”
“อะไรนะ?”
“ฉันเองก็พอรู้มาบ้างเช่นกัน”
ไอลีนบอกว่าปาร์คฮันโฮไปคุยกับกลุ่มระดับสูงของสมาคม เขาตะโกนใส่อีกฝ่ายโดยบอกว่าลูกสาวของเขาต้องการพลังแห่งการรักษา แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่อยากให้ทำแบบนั้น ปาร์คฮันโฮมีใบหน้าที่น่ากลัวเมื่อเขาวางหูและลูกสาวของเขาก็เสียชีวิตลงใน 1 เดือนหลังจากนั้นเนื่องจากอาการเจ็บป่วย
———————–2——————–