The Novel’s Extra - ตอนที่ 479
บทที่ 479 เริ่มต้น (1)
ผมถอดที่ปิดตาของ จินซาฮยอค อย่างระมัดระวัง ผ้าปิดตาของเธอหายไปจินซาฮยอค ค่อยๆลืมตาขึ้นมา เธอขมวดคิ้วจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองมาที่ผม
“…นายไม่ใช่เบลล์”
เธอเอียงศีรษะของเธออย่างงุนงง เธอนั่งนิ่งอยู่กับที่และจากนั้น 3 นาที
ผมเป็นคนที่พูดก่อนพร้อมถอนหายใจ ผมถามว่า
“เธอมาทำอะไรที่นี่?”
“…”
จินซาฮยอค ไม่ตอบและได้แต่ก้มลงมองที่พื้น แก้มของเธอแดงเล็กน้อยจากความอับอาย
“ถ้าเธอไม่พูดฉันก็จะไปละนะ”
เมื่อผมลุกขึ้นมาจินซาฮยอค ก็สะดุ้ง เธอกระเด้งกระดอนเหมือนปลาที่กระโดดลงจากน้ำ
“รอเดี๋ยวก่อน! อย่าไปนะ!”
ผมหยุดและมอง จินซาฮยอค
“ทำไม?”
“…ปล่อยฉันไป.”
ผมตรวจสอบ จินซาฮยอค อย่างระมัดระวัง เธอถูกผูกไว้กับ
‘อุปกรณ์ระงับพลังเวทย์มนตร์’ ซึ่งเป็นของดีจาก Tower of Wish ที่ระงับพลังเวทมนต์ได้ทั้งหมด
“เธอถูกจับได้ยังไง”
“ผม….”
จินซาฮยอค อ้าปากพูดราวกับว่าเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ช้าก็ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ
“…ฉันบอกนายไม่ได้”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ปล่อยเธอไปไม่ได้”
“ทำไม?”
ความไม่พอใจของจินซาฮยอคส่งมาถึงผม การสนทนาที่ไร้สาระของพวกเราดำเนินต่อไปเรื่อยๆแต่จู่ๆก็….
“เธอบอกว่าอยากได้ตัวนาย”
ผมได้ยินเสียงจากด้านหลังของผม เป็น….บอส ผมหันไปรอบๆและสับสนเล็กน้อย
“ตัวผม?”
“ใช่.”
บอสตะโกนใส่หน้าจินซาฮยอค
“… .”
จินซาฮยอค หันกลับมามองเธอโดยไม่พูดอะไร
ไม่ยากเกินกว่าที่จะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 คนนี้
‘จินซาฮยอค คิดว่าเราคือ คิมชุนดง ดังนั้นเธออาจบอกบอสว่าเธอต้องการพาเราไปที่ Akatrina ซึ่งทำให้พวกเธอต้องต่อสู้กันเอง แต่ทำไมจินซาฮยอคถึงเลือกที่จะประกาศสงครามกับบอสตรงๆแบบนี้นะ….’
“ฮาจิน เธอเป็นตัวอันตราย เธอวางแผนที่จะลักพาตัวนาย” บอสกล่าวขณะที่เธอเหยียบเท้าของ จินซาฮยอค อย่างลับๆ
“อักกก” จินซาฮยอค กรีดร้อง แต่เธอไม่ลืมที่จะกัดรองเท้าของบอสในทันที
“อย่างที่นายเห็นเธอเป็นคนดุร้าย นายห้ามปล่อยเธอไปนะ”
บอสจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่ลึกลับ ครั้งนี้ผมเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังแววตาของเธอแม้ว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก
แว่นขยาย เธอเป็นห่วงผมจากใจจริง
“…”
ผมเกาหลังคอของผมอย่างเชื่องช้า แน่นอนว่าผมไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปที่ Akatrina กับ จินซาฮยอค อย่างไรก็ตามผมถูกกำหนดให้ต้องลาจากบอสในสักวันหนึ่ง ในทางเทคนิคแล้วผมไม่มีตัวตนในโลกนี้
รสชาติหวานปนขมเต็มปากของผม
“ถึงแม้ว่าผมจะถูกลักพาตัวไป คนที่ทำแบบนั้นก็ไม่ใช่เธอแน่ ไม่ต้องกังวล-”
“นายห้ามปล่อยเธอเป็นอิสระ ฉันต้องไปแล้วเพราะฉันมีธุระที่ต้องไปทำแต่ถ้ายัยนี้หายไปตอนที่ฉันกลับมา” บอสมองมาที่ผมอย่างโหดเหี้ยม
“จำไว้ ฉันจะไม่ให้อภัยแม้ว่านายจะ….หึ”
บอสเตือนอย่างเย็นชาและออกไปทันที
‘ตอนนี้ เราทำอะไรไม่ได้เลยสินะ’
ผมยักไหล่และมองไปที่ จินซาฮยอค จินซาฮยอค ยกหัวของเธอและมองมาที่ผม
เธอกระซิบ “ปล่อยฉันไปสิ”
“เธอบ้าหรือเปล่า?”
จินซาฮยอค ขมวดคิ้ว
“…อย่างน้อยๆก็ให้ฉันกินข้าว”
“กิน?”
“ใช่. ฉันหิวมากแล้วนะ”
เนื่องจากพลังเวทย์ของเธอถูกผนึกจึงยากที่เธอจะทนต่อความหิวโหยและความกระหายได้
“ได้สิ รอสักครู่นะ.”
ผมขึ้นไปที่ห้องครัว การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายต้องขอบคุณความชำนาญของคนแคระ แค่ 20 นาทีผมปรุงโจ๊กเนื้อเสร็จแล้วเตรียม
ชาจังกิมและกิมจิเป็นเครื่องเคียง
สูดดดดดดดดดดด
จินซาฮยอค เพลิดเพลินไปกับกลิ่นของจานก่อนที่ผมจะลงบันได
“เอานี่.”
ผมวางถาดไว้ที่ด้านหน้าของเธอ แต่จินซาฮยอค ได้แต่จ้องมองโดยที่ไม่ขยับ
“เป็นอะไรเหรอ?”
“แก้มัดให้ฉันสิ ฉันจะได้กินได้”
“เธอก็รู้ว่าฉันทำไม่ได้”
“ …อะไรนะ นายจะให้ฉันเลียเหมือนสุนัขหรือไง?”
จินซาฮยอค มองมาที่ผม ในฐานะอดีตกษัตริย์เธอไม่อาจทนต่อความอับอายเช่นนี้ได้ ผมไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ต้องตักโจ๊กด้วยช้อนแล้วป้อนให้เธอ
“อ้าปากกว้างๆสิ”
“…บ้าจริง.”
ดูเหมือนว่าจินซาฮยอคจะรู้ว่านี่เป็นทางที่ดีที่สุดของเธอ เธอกลืนโจ๊คโดยไม่มีการต่อต้าน อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่โจ๊กเลื่อนลงลำคอของ
จินซาฮยอคนั้น….
“… !”
ดวงตาของจินซาฮยอค เบิกกว้าง
“ฮ่าฮ่า.”
ผมปล่อยเสียงหัวเราะดังๆอย่างที่ผมคิด เธอต้องทำปฏิกิริยาแบบนี้
แม้แต่ส่วนผสมที่แพงที่สุดก็ไม่สามารถสร้างรสชาติที่น่าทึ่งแบบนี้ได้
อาหารจานนี้คือความสมบูรณ์แบบที่มีเพียงผมที่ทำได้
“มันอร่อยดีใช่มั้ย”
“ฉัน…เอามันให้ฉันมากกว่านี้. ฉันต้องลองชิมอย่างละเอียดถึงจะประเมินไอ้อย่างแม่นยำ”
ผมยิ้มและป้อนโจ๊กให้จินซาฮยอค ไม่นาน จินซาฮยอค ก็หมดความละอาย
“เอากิมจินั่นให้กับฉัน”
“เอานั้นด้วย”
“หามาให้อีกฉันอีก 1 ชาม”
“เอาอีก”
“เฮ้ นายไม่มีอย่างอื่นแล้วเหรอ”
จินซาฮยอค กินเหมือนเธอหิวโหยมาหลายร้อยปี
*************************************************************************
ในเวลาเดียวกันเรเชลก็หนีไปที่ห้องของเธอกับ อีเวนเดล
แม้ว่าหัวใจของเธอจะเต้นแรงจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แต่เธอก็โล่งใจเมื่อเห็นว่า อีเวนเดล นอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเธอแล้ว
“เฮ้ออออออออ….”
เรเชลถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอแน่ใจว่า อีเวนเดล นอนหลับลงเมื่อเธอออกมา ‘เธอตื่นขึ้นมาเพราะเราไม่ได้อยู่ข้างๆเธอเหรอ?’
เธอรู้สึกภาคภูมิใจมาก เธอตระหนักว่าเธอได้ก็กลายเป็นคนสำคัญต่อ อีเวนเดล แต่มันกลับถูกแทนที่ด้วยความกังวลอย่างรวดเร็วเพราะเธอจำได้ว่าสิ่งที่ คิมฮาจิน และ อาแฮอิน พูดกับเธอได้ พวกเขาทั้ง 2 คนยืนยันที่จะซ่อน อีเวนเดล จากผู้อื่นให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าราชการทุกคนต้องทำการสาบานด้วยชีวิต
‘สาบานอะไรกัน’
แน่นอนว่าเรเชลมักจะแย้งว่า อีเวนเดล เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอหรืออะไรซักอย่าง….แต่ครั้งนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากและเธอก็ไม่อยากโกหก ยูยอนฮา
ยูยอนฮา อันตรายเพราะเธอสามารถทำทุกอย่างเพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของกิลด์เธอ เรเชลไม่ต้องการเปิดเผย อีเวนเดล ต่อคนแบบนี้
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างดูเหมือนว่า ยูยอนฮา รู้จัก อีเวนเดล แล้ว เรเชล ก็หยุดคิดไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่ ยูยอนฮา พูดว่าเห็น อีเวนเดล ในโซล
“อืม … .”
เรเชลวาง อีเวนเดล ไว้บนเตียงอย่างระมัดระวัง
ฟี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนนี้ อีเวนเดล นอนหลับสนิท เธอดูน่ารักเหมือนเคย เรเชลวาง
อีเวนเดล แล้วลูบหัวเธอด้วยความกังวล
“ …กิลด์พันธมิตร”
ทันใดนั้นคำพูดของ ยูยอนฮา ก็ผุดขึ้นในใจเธอ แต่เรเชลพยายามปิดกั้น
เธอไม่ต้องการใช้ อีเวนเดล เป็นเครื่องมือในการเจรจา อีเวนเดล เป็นที่รักของเธอ
เรเชลลูบหัวของ อีเวนเดล จนกระทั่งลมหายใจเริ่มอ่อนลงและเรเชลก็เริ่มรู้สึกง่วงเช่นกัน
“…หาวววววววว.”
เรเชลหลับตาและมือของเธอก็หยุด …ทั้งคู่หลับสนิท
ในทางกลับกันผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ (?) ยูยอนฮา ไม่สามารถนอนหลับได้
“เมื่อกี้คืออะไร?…”
ยูยอนฮา พึมพำขณะที่เธอหมุนปากการะหว่างนิ้วมือของเธอ
เธอกลับมาที่ห้องของเธอหลังจากที่หาเรเชลไม่เจอ เด็กผู้หญิงที่มาหาเรเชลก่อนหน้านี้เป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่กับคิมฮาจินอย่างแน่นอนที่สุด
ดังนั้นคำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ณ จุดนี้คือ….
“แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มียีนของ คิมฮาจิน เธอดูเหมือน เรเชลอย่างเดียว”
“แล้วนั้นคืออะไร….”
ยูยอนฮา จับหัวแน่น เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับ
คิมฮาจิน เมื่อคิดย้อนกลับไป คิมฮาจิน อยากช่วยเหลือเรเชลไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ ยกตัวอย่างเช่น การต่อรองระหว่าง Essential Dynamics กับรัฐบาลอังกฤษก่อนหน้านี้เป็นผลพวงจากความพยายามของคิมฮาจิน
จากนั้นคิมฮาจินและเรเชลก็เป็น..…ไม่สิ รอเดี๋ยวก่อนสิ ถ้าอย่างนั้นเขากับ….ฉัน……ไม่สิ…แชนายอนล่ะ
“ฉันไม่เข้าใจ”
คิมฮาจินเป็นคนเจ้าชู้ที่ไล่ตามจีบผู้หญิงทุกครั้งที่เขามีโอกาสงั้นเหรอ?
‘ไม่’ เธอคิดว่า ‘เขาอาจเป็นพวกซื่อบื้อแล้วเอาใจทุกคนมากกว่า เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้อย่างแน่นอน’
งั้นเป็นความผิดพลาดชั่วขณะงั้นเหรอ? ถ้าแบบนั้นก็…เป็นไปได้สูงมากอะไรจะเกิดขึ้นระหว่างชายและหญิงตอนที่ถูกกระตุ้นในช่วงเวลาที่….
“…โอ้……พระเจ้า.”
ยูยอนฮา จับแก้มที่ร้อนระอุด้วยมือของเธอ
“ไม่นะ.”
‘นั่นหมายความว่า….’
เด็กผู้หญิงนั้นอย่างน้อยอายุก็ 5 ขวบ ซึ่งหมายความว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้นตอนที่พวกเขายังอยู่ใน Cube …
“ไม่นะ โอ้….พระเจ้า…..ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะ….”
ยูยอนฮา เริ่มรู้สึกถึงจินตนาการของเธอที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
**********************************2**************************************