The Novel’s Extra - บทที่ 584 10 วัน (3)
บทที่ 584 10 วัน (3)
ผมติดต่อ คิมซูโฮ และถามถึงเรื่องเพื่อนๆที่มาอย่างกะทันหัน เขาตอบว่าเขาส่งคนที่เขาเจอให้มาหาผม
ถึงตอนนี้หน่วยสืบราชการลับมีสมาชิก 7 คนคือ ฮาริน, ไอลีน, เรเชล,
อียอนจุนฮาน, คิมโฮรอก, ยุนซึงอา และผม
“…จริงๆเหรอ~”
ในห้องทำงานของปรมจารย์วทจาสิทธิ์ ไอลีน พึมพำและไค้วขาของเธอ
เธอเคยเป็นแม่บ้านของ คิมซูโฮ แต่ตอนนี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น
ผู้จัดการฝ่ายสายลับ นั่นเป็นสถาบันที่สร้างขึ้นใหม่ทำให้เธอสะดวกสบายมากๆ
“ใช่แล้วเพื่อที่จะสรุปมันอีกครั้ง เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะ
บาอัล”
เรเชลสรุปแผนอีกครั้ง
“และยังมีอย่างอื่นอีก”
ผมวางแผนที่จะเพิ่มเป้าหมายอีก 1 อย่างในภารกิจของเรา
“อย่างอื่น?”
ไอลีน,เรเชลและคนอื่นๆต่างหันมาสนใจผม ผมส่งรูปให้พวกเขา
“คนๆนี้.”
มันเป็นภาพเหมือนที่ผมทำโดยใช้หนังสือแห่งสัจธรรม ไอลีน และ
ยุนซึงอา ดูเหมือนจะรู้จักเขาขณะที่พวกเขาขมวดคิ้วของพวกเขาและอีก 5 คนก็เงยหัวขึ้นอย่างสงสัย
“นี่คือใคร?”
เรเชลถามผม แต่ไอลีนเป็นคนเดียวที่ตอบ
“เขาน่าจะเป็นหัวหน้าคนก่อนของ Chameleon Troupe ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่กลุ่มนี้ยังไม่เป็นที่รู้จัก เขาเป็นอาชญากรในบัญชีดำของสมาคมฮีโร่จากที่ฉันจำได้เขาเป็นคนแรกที่จดลงไปในบัญชีดำแต่ตอนนี้มันต่างกันมากมีคนอื่นๆเพิ่มมากอีกมากมาย”
ไอลีนเอนไปทางด้านหลังของเก้าอี้
“บัญชีดำ … ?”
อียอนจุนฮาน ถามอย่างประหม่า บัญชีดำของสมาคมถูกสงวนไว้สำหรับคนร้ายที่ชั่วร้ายที่สุดและปีศาจสุดโหด เชื่อกันว่าอย่างน้อยก็ต้องเป็นฮีโร่ระดับปรมจารย์ถึงจะสามารถต่อกรอีกฝ่ายได้ยังมีข่าวลือว่า
ข้อกำหนดสำหรับฮีโร่ระดับสูงที่จะขึ้นสู่ตำแหน่งปรมจารย์นั้นคือการฆ่าเป้าหมายที่ถูกขึ้นบัญชีดำ
“อ๋อ ย้อนกลับไปในสมัยของฉัน Chameleon Troupe เลวทรามยิ่งกว่าตอนนี้ พวกเขาเคยลักพาตัวและค้ามนุษย์ ลอบสังหารแทบทุกสัปดาห์…ชั่วร้ายมากๆ”
ไอลีน หาว เธอเหยียดแขนออกแล้วเดินเล่าต่อ
“แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น พวกเขายังถือว่าเป็นกลุ่มโจร แต่พวกเขาปฏิเสธการสังหารและการสังหารหมู่ที่ไม่จำเป็น พวกเขาตอนนี้ได้ออกจากรายชื่อของสมาคมหลังจากช่วยพวกเขาในเหตุการณ์ ออร์เดนและสาเหตุที่ Chameleon Troupe เปลี่ยนไปมากก็คือ…เขา”
ไอลีนหยุดชั่วคราวและยกภาพบุคคลคนนั้นขึ้นมา
“เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ใช่หัวหน้าของพวกเขา เขาเสียชีวิตไปนานแล้วและ Chameleon Troupe ได้เกิดใหม่ภายใต้ผู้นำคนใหม่”
ยุนซึงอาพยักหน้าเห็นด้วย ไอลีนยังคงเล่าต่อ
“ดังนั้นตั้งแต่เขาตายไปพวกเราไม่สามารถไปหาเขาได้แม้ว่าพวกเราจะต้องการ”
“เธอพูดถูก ฮาจิน”
ผมหัวเราะเบาๆทุกคนที่นี่รู้เรื่องแค่ 1-2 อย่างเกี่ยวกับกลุ่ม
Chameleon Troupe พวกเขาจะคิดแบบเดียวกับ ไอลีน และ ยุนซึงอา
“ไม่ชายคนนั้นยังมีชีวิตอยู่”
ผมพูดอย่างมั่นคง ผมยืนยันว่า อียอนจุนจุน ยังมีชีวิตอยู่ด้วยสายตาของผมเอง จากข้อมูลของ จินซาฮยอค เขาได้ ‘แช่แข็ง’ ตัวเองเอาไว้
“ชื่อของเขาคืออียอนจุนจุน”
ผมชี้ไปที่รูปแล้วพูดต่อ
“เขาแกล้งตายและตอนนี้เขาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เขาน่าจะอยู่ใน
ราชอาณาจักร อรันเฮลล์ แต่ตอนนี้เขาคงมาถึงสาธารณรัฐแล้ว”
“…อะไรนะ?”
ใบหน้าของไอลีนและยุนซึงอาเปลี่ยนไปทันที
“พวกเราต้องฆ่ายียองจุนก่อนการสืบเชื้อสายของบาอัล”
“ไม่เดี๋ยวก่อนฉันไม่เข้าใจ เขา…เป็นไปได้ยังไง”
“ค่อยๆเข้าใจมันก็ได้ แต่ตอนนี้พวกเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”
เมื่อไม่สนใจไอลีนที่ยังตกใจอยู่ผมก็หันไปหาฮาริน เธอดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งที่พวกเราพูดขณะที่เธอจดบันทึก
“ยูริน?”
“…หืม-หือ? อ่า ว่าไง”
ฮาริน หยุดอย่างรวดเร็วและเงยหน้าขึ้นมามองผม ผมยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้และคำร้องเธอ
“ได้โปรดสอนพวกเราถึงวิธีการตามล่ามาร”
*************************************************************************
[อรันเฮลล์ – ห้องพักแขก]
ท้องฟ้ามีทั้งมืดและสว่างราวกับว่าดาวกำลังจะตกลงมาจากท้องฟ้า
ในคืนฤดูหนาวที่หนาวเหน็บนี้จินซาฮยอคก็มาพบอียอนจุนจุนจินซาฮยอค ขอพูดคุยกับเขาและ อียอนจุนจุน แกล้งมีความสุขทั้ง 2 นั่งกันที่โต๊ะในระเบียงห้องพัก สายตาของพวกเขาแลกเปลี่ยนกันอย่างเย็นชาและทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่แสดงความอ่อนแอออกมาเลยแม้แต่น้อย
“…ให้ฉันถามคุณสักอย่างสิ”
ในบรรยากาศที่ตึงเครียดนี้จินซาฮยอค จุดประกายการสนทนา
“ถ้าเธอต้องการก็ได้เลย”
อียอนจุนจุนตอบด้วยรอยยิ้ม จินซาฮยอค ถามโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยในใบหน้าของเธอ
“ทำไมคุณถึงอยากอยู่กับบาอัล?”
“หืม? นั่นไม่ใช่คำถามเล็กน้อยเลยนะ”
“สิ่งที่ บาอัล ทำได้คือทำลายล้างโลก หากว่าโลกถูกทำลายคุณจะไม่เหลืออะไรอีกเลย เนื่องจากคุณไม่ได้เป็นร่างอวตารที่แท้จริงคุณจะไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันเช่น เบลล์ และ บาอัล คุณจะเป็นได้เพียงทาสของ บาอัล”
เบลล์มีชีวิตอยู่นับร้อยปีในฐานะร่างอวตารของ บาอัล เมื่อเบลล์ไม่สามารถตายได้เขาก็มีความสามารถในการต่อต้านบาอัล เมื่อบาอัลประสบความสำเร็จในการสืบเชื้อสายบางทีเบลล์อาจกลับมาเป็น
‘มนุษย์’ ได้อีกครั้ง
แต่นั่นไม่ใช่กรณีของ อียอนจุนจุน หากเขายอมรับบาอัล…เขาจะกลายเป็นทาสของบาอัลและอาละวาดจนตาย
“…มันไม่สำคัญหรอก”
แต่ อียอนจุนจุน ตอบว่ามันไม่สำคัญ
“ทำไม?”
จินซาฮยอค ถามทันที
“อืมมมมม…ใครจะรู้”
อียอนจุนจุน คิดถึงสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาและเหตุการณ์ที่หล่อหลอมบุคลิกภาพของเขา
เด็กทารกที่เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า เด็กที่ถูกหลอกใช้โดยผู้ใหญ่
เด็กที่ต้องกลายเป็นหินผาเพื่อที่จะให้ดูแข็งแก่รง
แม้แต่โลกใบนี้ก็ยังไม่เป็นเพียงเป้าหมายของความโกรธและความขุ่นเคืองใจของเขา
“มันจะถูกทำลายแม้จะไม่มีฉันดังนั้นฉันอยากจะทำลายมันเอง”
“…ชิ ตอบได้ง่ายๆเลยนะ”
“ใช่มั้ย ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยละ.”
อียอนจุนจุน ตอบออกมาจากใจจริง แต่ในขณะเดียวกันความทรงจำในอดีตก็พุ่งเข้ามาในหัวของเขา
ความรุนแรงและการทารุณกรรมที่เขาประสบในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
การทรยศเพื่อนและคนรักของเขา เวลาที่เขาฆ่าคน 2 คนที่ทอดทิ้งเขาด้วยมือของเขาเอง…และยุคของเด็กหนุ่มที่ซึ่งเขาตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า “เพราะโลกที่น่ารังเกลียดนี้ทำให้ฉันเป็นแบบนี้”
“คุณรู้มั้ยว่ามันโง่มาก”
อียอนจุนจุน หัวเราะเบา ๆ ตามคำถามของ จินซาฮยอค
———————————–2————————————