The Novel’s Extra - บทที่ 610 งานเลี้ยงครั้งสุดท้าย (5)
บทที่ 610 งานเลี้ยงครั้งสุดท้าย (5)
[การสังเคราะห์ล้มเหลว]
อย่าน่า เราต้องใจเย็นๆ เดี๋ยวก่อนนะนี้มันไม่ถูกต้อง
ผมหายใจเข้าลึกๆกุญแจลึกลับและลูกศรแห่งอเธน่า อาจถูกทำลายไป แล้วแต่ต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้
– …เฮ้ย……นายโอเคไหม
เสียงดังขึ้นในหัวของผม ผมหันหัวของผมไปมองอย่างงุนงง ชิมูริน และ เจน จ้องมาที่ผม
– ฮาจินเกิดอะไรขึ้น~?
ผมไม่ได้ยินเสียงพวกเขาเกือบจะเหมือนที่ผมอยู่ใต้น้ำ ทันใดนั้นผมก็รู้สึกง่วงนอน บางทีทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติถ้าผมนอนหลับลงไปและตื่นขึ้นมา แต่เดี๋ยวก่อนนะจะวิ่งหนีจากความเป็นจริงไม่ได้
“…เกิดอะไรขึ้นกับเขา? ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นบ้าไปแล้ว”
เสียงของ ชิมูริน ทำให้ผมตื่น ผมจำบางสิ่งได้ทันใดนั้น ใช่แล้วผมยังมีบางสิ่งที่ผมสามารถทำได้แม้ว่ามันกลายเป็นฝุ่นไปแล้วก็ตาม
“ย้อนเวลา”
“ฮะ?”
แม้ว่ามันจะเจ็บมาก แต่ผมสามารถย้อนเวลากลับไปได้
“เฮ้อออ,เฮ้อออ”
ผมหายใจเข้าลึกๆ 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง….
“นายกำลังทำอะไร?”
ชิมูริน และ เจน มองมาที่ผมอย่างประหลาดใจ ผมหายใจเข้าครั้งสุดท้ายแล้วหันไปเผชิญหน้ากับพวกเขา การย้อนกลับเวลาเพียงเพื่อ
กู้คืนสิ่งของที่ถูกทำลาย…ความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของผม เจนในตอนนี้จะเป็นคนคนเดียวกันกับเจนในอดีตหรือเปล่านะ?
ผมส่ายหัวและโยนความคิดนั้นออกไป
“แล้วเจอกันนะ”
ผมหลับตาและเปิดใช้งาน การย้อนเวลา ลมพัดไปข้างหลังและความรู้สึกที่แปรปรวนอยู่รอบตัวฉัน เมื่อผมลืมตา กุญแจลึกลับและลูกศรแห่ง อเธน่าก็อยู่ในมือของผม
“…เห้อออออออออ”
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขาของผมทรุดลงไปบนพื้นอีกครั้ง เจน และ ชิมูริน มองผมแปลกๆแต่นั่นไม่สำคัญ
เมื่อมองดูกุญแจและลูกศรในมือของผม ผมก็คิด ผมควรลองหลอมรวมมันอีกครั้งหรือเปล่านะ หรือผมควรจะทำตามเนื้อเรื่องเดิมที่ผมแต่งไว้?
ตอนนั้นเองก็มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น
ลูกกลมสว่างของแสงปรากฏขึ้นในอากาศเหนือไอเท็ม ลูกโลกที่มีดวงอาทิตย์เริ่มบานเหมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบาน ผมจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ขณะที่ลูกกลมส่องแสงสีทองอร่ามหน้าต่างระบบก็โผล่ขึ้นมา
[การ ‘สะสมโชค’ เปิดใช้งาน 8 ครั้ง – การลองใหม่อย่างอัศจรรย์]
[สำหรับ 30 นาทีถัดไปค่าสถานะ ‘โชค’ ของคุณเพิ่มขึ้นเป็น 9.99]
*************************************************************************
[โคลีเซียม]
“…เกิดอะไรขึ้น”
ในอีกทางหนึ่งในห้องรอของโคลอสเซียมจินเซยอนก็ถาม ชอคจุนกยอง ที่กำลังนั่งเล่นอยู่บนโซฟา
“ฉันต้องนำมันไปมาจริงๆเหรอ?”
จินเซยอน ขอให้ ชอคจุนกยอง นำเฟอร์นิเจอร์จากที่ซ่อนของ Chameleon Troupe โดยรู้ว่า วาสโก้ สนใจพวกเขามากแค่ไหน
“ใช่ฉันบอกคุณแล้วพวกเขาจะมีประโยชน์ในระหว่างการเจรจาของเรา”
“หลังจากเราเอาชนะเขาแล้วพวกเราจะปลอบโยนเขาด้วยการให้เฟอร์นิเจอร์และบอกให้เขากลับบ้าน”
“…ไม่ว่าแผนคืออะไรการมีตัวเลือกมากขึ้นก็ไม่เลว”
โคลอสเซียมของ วาสโก้ มีรูปแบบเรียบง่าย ผู้ท้าชิงจะสู้เพราะอยากให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นเหมือนกับการต่อสู้สมัยโบราณ มี 10 ระดับใน
โคลอสเซียมและผู้ท้าทายต้องพิชิตทุกระดับก่อนที่พวกเขาจะสามารถท้าทายวาสโก้ เหตุผลของเขาคือเขาจะยอมรับความท้าทายจาก
ผู้แข็งแกร่งเท่านั้น
“แต่เหมือนกับว่าพวกเราไม่สามารถออกไปจากสถานที่นี้ได้ใช่มั้ย”
จินเซยอน ขมวดคิ้วของเธอตามคำถามของ ชอคจุนกยอง
“คาลิฟาละ? บอกให้เขามาที่นี่”
ผู้ท้าชิงไม่สามารถออกจากโคลอสเซียมได้เมื่อพวกเขาเข้ามา แต่
จินเซียนกับ ชอคจุนกยอง ได้รับสิทธิ์ในการเชิญแขกหลังจากเข้ามาถึงระดับ 8 ชอคจุนกยอง ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วถาม
“เธอรู้จักคาลิฟา”
“…อะ? อืม Chameleon Troupe มีชื่อเสียงหลังจากเหตุการ์ณต่างๆ”
ชอคจุนกยอง ยังคงมองเธออย่างสงสัย จินเซยอน ปล่อยอาการไอแห้งๆแล้วอธิบาย
“ฉันทำการสอบสวนมาหมดแล้ว”
“ทำไม?”
“… .”
จินเซยอนยกคิ้วขึ้นอย่างไม่สุภาพและ ชอคจุนกยอง ก็ทำเช่นเดียวกัน
“เธอคิดว่าฉันสามารถเชื่อใจคนที่ตรวจสอบพวกเรามาแล้วงั้นเหรอ?”
“….อืมมมม”
จินเซยอน เกาหลังคอของเธอ เธอเดินไปที่เตียงแล้วก็พูดโกหกออกมา ชอคจุนกยอง ยิ้มเยาะและกลับไปบนโซฟา ความเงียบเข้ามาในห้อง
ห้องพักของผู้ท้าชิงระดับ 8 นั้นใหญ่และเงียบสงบ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเสียงเบาๆก็ถูกตัดผ่านอากาศ
“พวกคุณฆ่าพ่อของฉัน”
มันเป็นเสียงของ จินเซยอน ชอคจุนกยอง บ่นในขณะที่ยังนอนอยู่บนโซฟา
“…มันเป็นเรื่องธรรมดา”
“ฆ่าคนเนี้ยนะ?”
“ในโลกนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะฆ่าและถูกฆ่า เธอควรรู้เรื่องนี้นะลองคิดถึง ปีศาจทั้งหมดที่เธอฆ่า พวกเขาก็เป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอ?”
“… .”
จินเซยอนบิดตัวไปด้านข้าง ธนูของเธอเอนบนหัวเตียง มันเป็นคันธนูตัวเดียวที่เอาชีวิตของปีศาจมาหลายร้อยคน จินเซยอนพูดเบาๆ
“พ่อของฉัน เขาเป็นครอบครัวของฉัน”
“นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีคนอีกมากมายที่เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า”
“บางครั้งฉันก็หวังว่าฉันจะเกิดลูกกำพร้าด้วย”
“…หึ.”
ชอคจุนกยอง หัวเราะเบาๆ จินเซยอน ขมวดคิ้วของเธอและจ้องมองที่ ชอคจุนกยอง
“ อะไรตลกเหรอ?”
“ไม่มีอะไรฉันแค่จำบางอย่าง มีบางคนที่เคย ล้อฉันเล่นโดยเรียกฉันว่า
‘ผู้ผลิตเด็กกำพร้า’”
“อะไรนะ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันคิดว่ามันตลก เธอคงไม่ขำด้วย ถ้าเธอไม่คิดอย่างนั้น”
ชอคจุนกยอง ลุกขึ้นจากที่นอนร่างใหญ่ของเขาสูงตระหง่านเหนือ
จินเซยอน เมื่อมองดูเธอแล้ว ชอคจุนกยอง ก็ยิ้ม
“หากเธอต้องการล้างแค้นให้กับพ่อของเธอ ฉันยินดีต้อนรับเธอทุกเวลา ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นคนที่ฆ่าเขาหรือเปล่า แต่ Chameleon Troupe ก็เป็นหนึ่งเดียว แต่เพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนที่คิดมากในเรื่องแบบนี้”
ชอคจุนกยอง พูดอย่างใจเย็น เขาไม่กลัวความตายและใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของเขาโดยที่เท้าข้างหนึ่งอยู่ในแม่น้ำปรภพ ใบหน้าของ
จินเซยอน เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“…ไม่เป็นไรขอบคุณ. คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Chameleon Troupe เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น”
“อ้อ งั้นเหรอ?”
“ใช่ นายยุ่งอยู่กับการวิ่งไปรอบๆ แมนจูเรีย เพื่อฆ่าผู้คน”
“เธอรู้เรื่องนี้ด้วย…อ๋อ อย่ามองฉันเหมือนฉันเป็นสัตว์ประหลาด
ฉันไม่ใช่คนแบบที่ฉันเคยเป็น “
“อ้อ เหรอได้ยินข่าวลือว่านายกินเนื้อมนุษย์ด้วยนะ”
จินเซยอนดึงผ้าปูที่นอนขึ้นมาบนหัวของเธอ ชอคจุนกยอง ตอบออกมา ทันทีเพราะเขาอยากข้อแก้ตัว
“เนื้อมนุษย์? ฉันไม่กินอะไรที่ไม่อร่อยแบบนั้น นอกจากนี้มันเป็นความจริงที่ฉันเปลี่ยนไป ผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนฉันก่อนที่ฉันจะสังเกตซะอีก”
“…คนนั้นเหรอ? นายหมายถึง ดอกบัวดำ เหรอ?”
“อือ.”
“นายหมายถึงอะไร?”
เมื่อเธอได้ยินชื่อของดอกบัวดำ จินเซยอน จ้องมองผ้าปูที่นอน
เธอถูกดึงดูดโดยดอกบัวดำด้วยเหตุผลที่เธอไม่เข้าใจ มันเป็นความชื่นชม ความหวาดกลัว ความเคารพหรืออยากแข่งขัน? เธอไม่รู้วิธีอธิบายความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา แต่สัญชาตญาณของเธอในขณะที่ เป็น นักธนู บอกเธอว่าดอกบัวดำมีบางอย่างที่คล้ายกับตัวเธอ
“ฉันอยากที่จะรู้เรื่องราวเพิ่มเติม”
จินเซยอนพูดเบาๆชอคจุนกยอง เงยหน้าขึ้น จินเซยอน จ้องมองเขาด้วยความคาดหวัง อย่างไรก็ตาม ชอคจุนกยอง เพียงทำยิ้มเย้ยหยันก่อนที่จะนอนลง
“ไม่ละ.”
“…แค่นิดหน่อยเอ.”
“ไม่ ฉันจะคุยกับคาลิฟา เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์นั้นไม่ใช่ว่าฉันคิดว่ามันจะช่วยได้หรอกนะ”
“… .”
จินเซยอน เกาแก้มเธอ เธอยังคงมีความสุขเกี่ยวกับข้อมูลที่เธอพยายามขอมาทั้งวันดังนั้นเธอจึงอยากพักผ่อนและหลับตาลง
“ราตรีสวัสดิ์.”
*************************************************************************