The Novel’s Extra - บทที่ 638 Final Name (9)
Chapter 638 Final Name (9)
[ปราการของอียอนจุน]
ภายในปราการนั้นอียอนจุนบอกกับผมทุกอย่าง เสียงเย็นชาของเขาซึมซับเข้าไปในใจของผม
เขารู้ทุกอย่าง เขารู้ว่าโลกนี้เป็นนวนิยายและผมเป็นผู้แต่งมันขึ้นมา
“ …คุณเชื่อในสิ่งนั้นจริง ๆ หรอ”
ผมพยายามแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา แต่มันไม่มีประโยชน์อียอนจุนมองมาที่ผมอย่างเย็นชาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ผมรู้สึกได้ถึงความกระหายการฆาตกรรมของเขากรีดแทงเข้ามาตามเนื้อหนังของผมอย่างชัดเจน
อียอนจุน อธิบายว่า“ บาอัลช่างยอดเยี่ยม เขาสามารถแยกแยะความจริงจากความเท็จนี้ได้อย่างง่ายดาย ถึงอย่างนั้นเขาก็ล้มเหลวที่จะปฏิเสธการมีอยู่ของคุณ เพราะเขาค้นพบความจริงเกี่ยวกับตัวเอง ที่มาของการดำรงอยู่ของเขา ซึ่งเขาได้ศึกษามาตลอดชีวิตของเขานั้น ไม่มีอะไรเลยนอกจากตัวละครในนวนิยาย “
ผมไม่สามารถสัมผัสอารมณ์ใด ๆ ในน้ำเสียงของอียอนจุนได้เลย ผมจึงเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ
“ …ฉันอยากถามคุณ”อียอนจุนพูด ดวงตาของเขามืดมนประกายไปด้วยความโกรธ
ในความเงียบนิ่ง ผมรอคำพูดของเขาที่กำลังจะพูดต่อ
“ คุณเป็นเทพเจ้าแห่งโลกนี้หรือเปล่า? คุณกำลังเล่นสนุกกับเราเพื่อความบันเทิงใช่ไหม?”
มันช่างเป็นคำถามที่ไร้ประโยชน์อียอนจุนดูเหมือนจะหมดความปรารถนาในการมีชีวิตอยู่ไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะยอมแพ้ทุกอย่าง
ผมเข้าใจเขา เช่นเดียวกับอียอนจุน ผมเคยคิดว่าโลกนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่านิยาย
แต่ตอนนี้ผมมีความคิดที่แตกต่าง
“ไม่”
โลกนี้ไม่ใช่นิยาย มันอาจจะเริ่มต้นจากการเป็นเช่นนั้น แต่ความจริงที่ว่าผมอยู่ที่นี่ในตอนนี้ มันพิสูจน์ให้เห็นว่าโลกนี้ที่ไม่อาจหาวิธีอธิบายหรืออะไรก็ตามแต่ ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ตัวอักษรบนกระดาษ
“ ผมไม่ใช่พระเจ้า และโลกนี้ไม่ใช่นิยาย”
อียอนจุนยกคิ้วหนึ่งข้าง เขาจ้องมาที่ผมด้วยดวงตาที่หรี่แคบลง สายตาของเขารู้สึกเป็นปรปักษ์และรุกรานราวกับว่าเขากำลังพยายามที่จะฉีกผมเป็นชิ้น ๆ ด้วยดวงตาของเขา
“ คุณ…หลอกลวงฉัน จนสุดท้าย”
เสียงที่แหบแห้งของอียอนจุนเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อมีการขยับมือของเขาปราการที่ขวางกั้นรอบตัวเราก็เริ่มเปลี่ยนรูปร่างของมัน พื้นดินเริ่มบิดเบี้ยวและพุ่งเข้าหาผมทันที
KOOONG-!
เอเธอร์ตอบสนองเร็วกว่าผม มันล้อมรอบผมเอาไว้และต่อต้านพลังของอียอนจุน
ภายใต้การคุ้มครองของเอเธอร์ ผมจึงถอดเดสเซิทอีเกิลออก แต่ผมไม่สามารถยิงปืนได้อียอนจุนใช้พลังจิตโจมตีผมในระยะไกล และเดสเซิทอีเกิลหยุดทำงานเพราะความสามารถของเขา ไกปืนติดขัดและไม่ว่าผมจะลั่นไกปืนออกมาเท่าไหร่ ปืนก็ไม่ยิงออกไป
“ ฉันรู้จุดอ่อนของเล่นของคุณอยู่แล้ว”
และเขาเขาเข้าใจอย่างแน่นอน จุดอ่อนของปืนค่อนข้างหาง่ายเมื่อคุณลองสำรวจดูดีๆ ปืนไม่มีอะไรนอกจากเป็นชิ้นส่วนของโลหะ เว้นแต่คุณจะสามารถเหนี่ยวไกปืนได้
– คิมซูโฮ คุณได้ยินฉันไหม?
ผมไม่มีทางเลือกนอกจากส่งโทรจิตไปหาคิมซูโฮ ในระหว่างนี้การต่อสู้ของผมกับอียอนจุนยังคงดำเนินต่อไป พลังจิตที่ทรงพลังของอียอนจุนพุ่งเป้าไปที่คอและเอวของผม และสิ่งที่ผมทำได้ก็แค่การวิ่งหนีเท่านั้น
– มาช่วยฉันที
ผมส่งโทรจิตครั้งที่สอง ในเวลาเดียวกันผมก็สั่งให้สปาร์ตันผู้เดินทางผ่านเวลาและสถานที่ไปเพื่อรับคิมซูโฮมาที่นี่
“… อัก!”
อียอนจุนจับนิ้วของผม เขาบีบนิ้วชี้ของผมแน่น แต่โชคดีที่ผู้คุ้มกันที่ผมขอมาถึงทันเวลา
Kieeeek-!
สปาร์ตันกรีดร้อง
อียอนจุนหยุดดูที่เพดานของปราการและเห็นคิของดาบขนาดใหญ่พุ่งลงมาที่เขา เขาเบิกตากว้าง
BOOOOM-!
หมอกควันลอยขึ้นมาจากจุดที่การโจมตีของดาบระเบิดขึ้น
“วุ้ย. ฉันเกือบจะตายแล้ว”
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วหันมามองด้านข้าง ผมเห็นคิมซูโฮผู้ซึ่งสปาร์ตันพามา …
“ …อะไร”
ผมขมวดคิ้ว ภาพเงาด้านหลังหมอกควันนั้นไม่ใช่ของคิมซูโฮ
มันเล็กเกินไปที่จะเป็นคิมซูโฮแน่นอน ทรงผมและขนาดของดาบก็ดูแตกต่างกัน
“อืม … .”
แม้ว่าจะไม่ใช่ของคิมซูโฮ แต่เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากควันสีขาว ดวงตาของผมเบิกกว้างทันทีและหัวใจของผมก็เต้นหนักขึ้นราวกับว่ากำลังวิ่งอยู่ในสนาม
การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงกระจายไปทั่วร่างกายของผม
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ.”
ควันจางหายไปในไม่ช้าเผยให้เห็นทัศนที่ชัดเจนเบื้องหน้า
และคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมคือ….
“ คิมฮาจิน”
เธอคือแชนายอน
**
ในขณะเดียวกันคิมซูโฮซึ่งเป็นผู้รับสัญญาณโดยตรงของสัญญาณSOSจากคิมฮาจิน กำลังวิ่งไปหา บาอัล
“… เฮ้ย นายมั่นใจแชนายอนแน่เหรอ?” จินซาฮยอค ถาม ความคลางแคลงใจปรากฏบนใบหน้าของเธอ แต่คิมซูโฮพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
เมื่อคิมซูโฮบอกทุกคนเกี่ยวกับการส่งโทรจิตของคิมฮาจิน แชนายอนยืนยันว่าเธอจะเป็นคนไปเอง คิมซูโฮยอมให้เพราะเขาเชื่อใจเธอ
“ พวกเขาจะไม่เป็นอะไร ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กันเองล่ะนะ”
ถึงอย่างนั้น คิมซูโฮนึกถึงแชนายอนและคิมฮาจิน ตอนนี้แชนายอนก็มาถึงจุดที่คิมฮาจินอยู่และกำลังช่วยเหลือเขา พวกเขาจะโต้แย้งอะไรกัน พวกเขาจะมีการสนทนาแบบไหน ’เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจที่จะจินตนาการถึงเรื่องนั้น แต่คิมซูโฮหวังอย่างจริงใจว่าพวกเขาจะตกลงกันได้
“ไอ้โง่เอ๊ย … หืมม? อ๊ะ หยุด”
๋จินซาฮยอคพึมพำอย่างห้วนๆ ก่อนที่จะสั่งให้กลุ่มหยุดชั่วคราว
คิมซูโฮก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ปัญหาคือเรื่องของมุมมอง และบาอัลเป็นหลักฐานของเรื่องนั้น พวกเขาไม่ได้เข้าใกล้ปีศาจมากขึ้น ในความเป็นจริงในขณะที่พวกเขาวิ่งเข้าไป บาอัลกลับดูเหมือนกำลังเคลื่อนห่างจากพวกเขาออกไปเรื่อยๆ
“ บางอย่างผิดปกติ”