The Novel’s Extra - บทที่ 645 Final Name (16)
Chapter 645 Final Name (16)
**
Koong-!
โมแร็กซ์กระแทกหมัดของเขาลงบนพื้น จินซาฮยอคหวนนึกถึงอดีตในขณะที่เธอหลบกำปั้นของโมแร็กซ์ เธอหวนคิดถึงน้องชายครึ่งหนึ่งของตัวเอง เจ้าชายปูฮาเรนซึ่งเป็นทายาทที่ถูกต้องของราชบัลลังก์แห่งอคาทริน่าผู้ซึ่งกลัวการขึ้นเป็นกษัตริย์
“…ปูฮาเรน.”
จินซาฮยอคเรียกชื่อของเขาออกมา
เจ้าชายไม่ต้องการเป็นกษัตริย์ แต่ประเพณีของราชอาณาจักรไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเพิกเฉยได้ คนรับใช้ของปูฮาเรนต้องการให้เขาขึ้นครองบัลลังก์
พวกเขาไม่เคยให้โอกาสเขาได้ตัดสินใจ พวกเขาต้องการกษัตริย์ที่สามารถควบคุมได้ง่าย แม้ว่าปีศาจจะออกอาละวาดไปตามท้องถนนหรืออาณาจักรของพวกเขาจมลงไปในดิน พวกเขาก็ยังคงใส่ใจเพียงพลังและความปลอดภัยของตัวพวกเขาเองเท่านั้น
“ ฉันจะช่วยเธอให้พ้นจากพวกเขา” เธอโกหกน้องชายของตัวเอง
จากนั้นเธอก็เหวี่ยงน้องชายผู้บริสุทธิ์ของเธอไปที่คุกใต้ดินที่ๆเขาอยู่จนกระทั่งเขาตายลงไป
“ฉันขอโทษ.”
จินซาฮยอคพึมพำคำขอโทษลอยไปในอากาศ
ปูฮาเรน – ไม่สิ โมแร็กซ์จ้องมองมาที่เธอ ช่างเป็นสิ่งที่น่าสังเวชนัก! น้องชายของเธอซึ่งเป็นเหยื่อจากความโลภและความทะเยอทะยานของเธอถูกปฏิเสธการพักผ่อนอย่างสงบสุขแม้ว่าหลังจากความตายก็ตาม
ทันใดนั้น โมแร็กซ์ได้ปรากฏตัวต่อหน้าจินซาฮยอค เธอรู้ว่าสายเกินไปแล้วเมื่อการโจมตีครั้งแรกของปีศาจมุ่งเข้ามาหาเธอ
Kwaaaaa-!
ชินจองฮักพุ่งหอกของเขาออกไปเพื่อปกป้องจินซาฮยอค แรงกดดันจากหอกผลักโมแร็กซ์ออกไปไกล
“… Haa.”
จินซาฮยอคหายใจอย่างหนัก หัวใจของเธอกำลังเต้นอย่างรุนแรง
เธอหันมามองชินจงฮัก เริ่มตำหนิตัวเองเพียงเพราะถูกความทรงจำในอดีตเข้ามารบกวน
“ โฟกัสข้างหน้าสิ เธออาจตายได้นะ ถ้าไม่มีฉันอยู่ตรงนี้” ชินจองฮักพูดด้วยรอยยิ้ม
“ เดาว่านายไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปซะหมด” จินซายุคตอบ
เธอสูดหายใจลึก ๆ และตั้งสติของตัวเอง ใครบางคนที่สามารถเสียสละคุณธรรมเพื่อความทะเยอทะยานของตัวเองและฆ่าน้องชายของตัวเองโดยไม่ลังเล – นั่นคือสิ่งที่เธอเป็น
“ …พักผ่อนให้สงบ” จินซาฮยอคจ้องโมแร็กซ์และพึมพำเบาๆ
อย่างไรก็ตา มในขณะนั้นแขกคู่หนึ่งที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา
“ อะไรกันเนี่ย…?”
จินซาฮยอคเห็นเงาทั้งสองด้านหลังช่องว่างระหว่างขาของโมแร็กซ์ หนึ่งในนั้นมีรูปร่างคล้ายแมลงและอีกหนึ่งนั้น….
“ออร์เดน?”
… คือราชามอนส์เตอร์ออร์เดนที่เธอคุ้นเคยในอดีต
**
คิมซูโฮได้ติดตามชิมูรินไปตลอดทาง ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้บาอัลมากเท่าไหร่ จำนวนของปีศาจก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น การต่อสู้ที่ยากลำบากตามมา แต่ต้องขอบคุณไอลีน ยุนซึงอา อียงฮานและฮีโร่คนอื่น ๆ อีกมากมายที่เข้าร่วมต่อสู้ ทำให้ระหว่างทางที่ผ่านมา พวกเขาถึงสามารถเอาชนะพวกมันได้โดยไม่บาดเจ็บ
“ คุณเป็นนักเวทย์จากอีกโลกหนึ่งใช่หรือเปล่าคะ?”
ไอลีนถามชิมูริน
ชิมูรินพยักหน้าเป็นการตอบรับแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอกำลังจดจ่อกับบทบาทของเธอในฐานะผู้นำทาง
“ …ก็ดี แน่นอน ฉันไม่ค่อยชอบการมีบทสนทนาเหมือนกัน ดังนั้นไปต่อเถอะ”
ไอลีนบุ้ยและเดินตามชิมูรินไปเงียบๆ เหล่าฮีโร่เดินไปข้างหน้าท่ามกลางความตึงเครียด
นานแค่ไหนแล้วนะ?
ในตอนนั้นเองที่พลังงานปีศาจทะลุผ่านเข้าไปในร่างกายของทุกคน ความกดดันที่เกิดขึ้นดูราวกับว่าจะบดขยี้หัวใจของพวกเขาเลยทีเดียว ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงใจกลางของปราการ
“…อา.”
“นั่นมัน … .”
หลายคนร้องพร้อมกันด้วยความตกใจปนสยองขวัญ
ร่างกายบาอัลมีใหญ่กว่ามากเมื่อมองจากระยะใกล้ ฮีโร่ถูกครอบงำด้วยสายตาของมัน พลังงานปีศาจที่ไหลออกมาจากร่างของมันทำให้มนุษย์ไม่สามารถไปใกล้มันได้ และร่างของเหล่าฮีโร่ต่างได้ล้มลงกระจัดกระจายอยู่ใต้ฝ่าเท้าของมัน
“…”
คิมซูโฮจ้องมองเข้าไปที่ดวงตาของบาอัลซึ่งดูเหมือนหลุมดำขนาดใหญ่สองแห่ง ในดวงตาคู่นั้นนั้นมีโลกมากมายอยู่ภายใน ทุกสิ่งทุกอย่างที่บาอัลเคยทำลายปรากฏขึ้นในดวงตาของมัน โลกที่ล่วงหล่นกำลังกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานและเจ็บปวด คิมซูโฮรู้สึกโกรธ เขาคว้ามิสเทลทีน กิ่งไม้ที่สังหารพระเจ้าได้กลายเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการบรรลุและการปลุกพลังพร้อมที่จะโจมตีสิ่งชั่วร้ายเบื้องหน้านี้
“ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง ทุกคน”
เสียงนั้นทำให้คิมซูโฮรู้สึกตัว
ทุกคนหันไปตามทางที่เสียงจากมา ตรงนั้นคือฮีโร่ระดับมาสเตอร์ยูชีฮยอกและยูจินวอง ด้านหลังของทั้งสองปรากฏวีรบุรุษหลายสิบคนมารวมตัวกันที่คิมซูโฮและทุกคนอยู่
“พวกเขาหนีออกมาจากปราการได้ยังไงกัน”
ชิมูรินพึมพำด้วยความสับสน พวกเขาจะหาทางผ่านเขาวงกตที่ซับซ้อนเช่นนั้นได้อย่างไรโดยปราศจากความรู้ที่เธอมี
ความอยากรู้ของเธอได้รับการคลี่คลายย่างรวดเร็วเมื่อ ‘ธรรมชาติ’ ปรากฏขึ้นในสิ่งกีดขวาง ผืนดินปกคลุมช่องว่างที่มืดมิดที่ทุกคนยืนอยู่และท้องฟ้าที่ว่างเปล่าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ชายสองคนปรากฏขึ้นเหนือภูมิทัศน์ของธรรมชาติ ทุกคนหันมาสนใจพวกเขาทันที
“ …ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าเราจะมีสหายมากมายที่นี่นะ”
แชจูชึลยังคงสงบนิ่ง แม้เมื่อเขาเห็นบาอัลก็ตาม และตามปกติเฮย์เนคเป็นคนที่เปิดปากของตัวเองเป็นคนแรก
“ อยากจะพูดบางอย่างก่อนที่พวกคุณจะไป พวกคุณอยากจะฟังสิ่งที่ชายชราคนนี้พูดหรือไม่? ฉันได้ต่อสู้ในสงครามหลายต่อหลายครั้ง และฉันต้องการที่จะให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาของฉัน “
เฮย์เนคแนะนำ และเหล่าฮีโร่รวมถึงคิมซูโฮพยักหน้าตอบรับโดยไม่ลังเล พวกเขาชื่นชมเฮย์เนคซึ่งเป็นสมาชิกของไนท์สตาร์
แต่ไอรันซึ่งมาจากโลกที่ต่างออกไปดูเหมือนจะลังเล เธอมองไปที่เฮย์เนคด้วยสายตาที่สงสัยและกระซิบกับเบลล์ที่ยืนอยู่ข้างเธอ
“ เราสามารถไว้ใจเขาได้หรือไม่คะ? ท่านได้โปรดพิจารณาที่ลี้ภัยไปในที่ปลอดภัยด้วยเถอะค่ะ”
เธอหวังจะเกลี้ยกล่อมเจ้าชายให้ออกจากสนามรบ แต่เบลล์กลับปฏิเสธข้อเสนอของไอรันด้วยรอยยิ้มและหันมามองคิมซูโฮ
“ไม่ต้องห่วงเราจะต้องชนะการต่อสู้ในครั้งนี้แน่นอน”
น้ำเสียงของเบลล์เต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง ราวกับว่าเขาได้เห็นอนาคตแล้ว
ด้วยงุนงง ไอรันถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ ท่านหมายถึงอะไร?”
“ ดูนั่นสิ”
เบลล์ชี้ไปที่คิมซูโฮผู้ที่กำลังฟังคำพูดของเฮย์เนคพร้อมกับมิสเทลทีนในมือ
เบลล์มั่นใจในชัยชนะของคิมซูโฮ
คิมซูโฮได้รับการออกแบบให้เป็นผู้ชนะในการต่อสู้นี้ตั้งแต่เริ่มต้น
บาอัลเลือกที่จะเข้ามาภายในปราการเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนของโลก แต่นี่เป็นความผิดพลาด บาอัล ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของการแทรกแซงของโลก
“ เขาเป็นตัวละครหลักของโลกนี้”
คิมซูโฮ
เขายังอยู่ภายใต้อิทธิพลของโลกนี้เช่นเดียวกับบาอัล
การยับยั้งของโลกทำให้เขาอ่อนแอลง
“ตัวละครหลัก…?”
“ ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณเข้าใจ”
การยับยั้งของโลกจำกัดอำนาจของคิมซูโฮเอาไว้ใน ‘ระดับมนุษย์’ แต่ข้อจำกัดดังกล่าวไม่ได้มีอยู่ในปราการนี้เพราะที่นี่เป็นโลกของบาอัล
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีการรบกวนนั้นน้อยลงล่ะ?
พลังของคิมซูโฮก็จะไม่ถูกจำกัดให้อยู่ในขอบเขตที่โลกกำหนดอีกต่อไป
บาอัลเอากุญแจมือของคิมซูโฮออกโดยไม่เจตนาโดยการพาเขาเข้าสู่ปราการแห่งนี้
“ ผมแค่จะบอกว่า เขาจะชนะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”
ความพ่ายแพ้ของบาอัลถูกกำหนดโดยชะตากรรม
ใช่โชคชะตา
ทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของนวนิยายที่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่กำหนดไว้ล่วงหน้า….
“คุณเข้าใจไหม?”
ในระหว่างนี้คำอธิบายของเฮย์เนคจบลงแล้ว
เหล่าฮีโร่กู่ร้องและเข้าแถวสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
“ดี. ตอนนี้ให้เราอธิษฐานต่อพระเจ้าในขณะที่เราเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้”
เฮย์เนคประกาศอย่างเคร่งขรึมและยกดาบเหล็กของเขาขึ้นสูงเหนือหัว