The Novel’s Extra - บทที่ 660 เรื่องราวที่ไม่ควรมีอยู่จริง (1)
บทที่ 660 เรื่องราวที่ไม่ควรมีอยู่จริง (1)
[อพาร์ตเมนต์ของ คิมฮาจิน]
ผมวางเครื่องแบบดอกบัวดำและเดสเซิทอีเกิลอย่างระมัดระวังลงบนโซฟา หลังจากจ้องมองพวกมันเป็นระยะเวลานาน ผมถึงหันกลับไปมองในกล่องอีกครั้งเพื่อดูว่ามีอะไรเหลืออยู่อีกไหม
กล่องสีดำขนาดเล็กซ่อนตัวอยู่ด้านล่าง กล่องซ้อนกล่อง? ผมเอียงลงอย่างสงสัยเมื่อลองเปิดมันดู
“หืม?”
ข้างในกล่องดำมีสมาร์ตวอชและซองขนาดเล็กอยู่ภายใน
ก่อนอื่นเลย ผมหยิบสมาร์ทวอชออกมา ทั้งสายและตัวเรือนซึ่งถูกตกแต่งด้วยออบซิเดียนทำให้ดูหรูหรา มันเป็นนาฬิกาไฮเทคแบบเดียวกับที่ยูยอนฮาสร้างขึ้นมาเพื่อผมโดยเฉพาะ
ผมพยายามเปิดเครื่อง และมันทำงานได้อย่างถูกต้อง มันไม่มีปัญหาในการจดจำผมในฐานะเจ้าของ ผมสามารถมองเห็น ID ของ [คิมฮาจิน] ได้ทันทีพร้อมกับบัญชีธนาคาร บัญชีหุ้นและสินทรัพย์ส่วนตัวอื่น ๆของตัวเองที่เก็บไว้ใน [กระเป๋าเงินผู้ใช้]
ผมตรวจสอบว่ามีเงินเท่าไหร่อยู่ในนั้นก่อนเป็นอย่างแรก
“เอ๊ะ?”
ความร่ำรวยที่ถูกจัดเก็บไว้ในบัญชีมีมากกว่าที่ผมคิด จนถึงจุดที่ผมต้องอ้าปากค้าง แค่บัญชีธนาคารของเพียงอย่างเดียวก็มีเงินถึง 30 ล้านวอน ในแง่ของหุ้น ผมมี 10 หุ้นของบริษัทเภสัชกรรม, 10 หุ้นของหน่วยงานพลังงาน, 10 หุ้นของแกนช่องแคบใต้ดิน- ทั้งหมดมีค่ามากถึง 60 ล้านวอน
มันค่อนข้างน้อยกว่าที่ผมเคยมีมาก่อน แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณอย่างมากแล้ว
“….”
แต่เมื่อมองไปที่การถือครองหุ้นของผม ผมจำอะไรบางอย่างในอดีตได้ทันที
เมื่อใดก็ตามที่บอสบรรดาลโทสะหรือซึมๆ ผมจะขายหุ้นให้กับเธอ เนื่องจากหุ้นที่ไม่อยู่ในรายการของช่องแคบเป็นสินทรัพย์ที่น่าเชื่อถือซึ่งหาได้ยากแม้จะมีเงิน พวกมันจึงเป็นยาสำหรับการยกระดับอารมณ์ของบอสโดยเฉพาะ
แม้ว่าเธอจะบอกเสมอว่าเธอไม่ต้องการพวกมัน แต่มุมปากของเธอจะกระตุกพร้อมกับใบหน้าของเธอที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอไม่สามารถน่ารักไปกว่านี้ได้แล้วจริงๆ
“…เฮ้ออ”
แต่เมื่อความคิดของผมมาถึงจุดนี้ ผมไม่มีทางเลือกนอกจากจะวางสมาร์ตวอทช์ของตัวเองลง
ระลอกคลื่นที่เกิดจากความทรงจำเก่า ๆ แพร่กระจายเป็นคลื่นขนาดใหญ่
ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอาจหมดสติได้ ผมจึงเอนกายพิงโซฟาและดำดิ่งลึกลงไปในความทรงจำ
ผมเริ่มคิดถึงทุกคนมากเกินไป – อีเวนเดล และ เรเชล, แชนายอน และ คิมซูโฮ, ยูยอนฮา และบอส และแม้แต่เพื่อนและครอบครัวที่ควรจะอยู่ในโฮมเวิร์ลดของผม
ผมไม่มีเพื่อนสนิท แต่ผมอยากเห็นแม่และพ่อของตัวเอง ผมไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อพบว่าผมจากไปแล้ว
‘แต่ไม่ต้องกังวล ฉันตัดสินใจครั้งนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเวลาของโลกนี้ไหลแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าฉันจะตายในตอนที่แก่แล้ว คงจะเป็นเพียงแค่น้อยกว่า 100 วันที่ผ่านไปที่นั่น….’
ผมพบว่าตัวเองทำถูกแล้วที่ตัวเองเลือก
-แปะๆๆๆ
ผมตบแก้มตัวเองเบาๆ เนื่องจากผมคิดไว้แล้วว่าจะไม่เสียใจในการตัดสินใจของตัวเอง ผมจึงไม่สามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้อย่างน่าสมเพช
ผมบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วสวมชุดดอกบัวดำ เพราะตัวผมเตี้ยกว่าเล็กน้อย ปลายขากางเกงของชุดถึงแตะพื้น แต่ในตอนที่ผมคิดแบบนี้ -ชุดมัน! หดตัวโดยอัตโนมัติเพื่อให้พอดีกับร่างกายของผม
ดูเหมือนว่าฟังก์ชั่นที่ผมเพิ่มในชุดจะยังคงอยู่เหมือนเดิม
“หืมม”
ผมมองตัวเองในกระจกเต็มตัวก่อนเก็บเดสเซิทอีเกิลไว้ในซองหนัง เดสเซิทอีเกิลนั้นเบามาก
จากนั้นผมก็นั่งลงบนโซฟา ถึงเวลาแล้วที่ต้องคิดว่าจะทำอะไรต่อจากนี้
แต่เนื่องจากผมไม่สามารถคิดอะไรได้เลย ผมจึงเลือกที่จะหยิบสมาร์ตวอทช์ขึ้นมาเพื่อท่องอินเทอร์เน็ต
“…เธอบอกว่ามันมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใช่มั้ยนะ?”
ผมจำได้ว่ายูยอนฮาคุยโวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอดีต – นาฬิกาสมาร์ทวอทช์นี้เป็นเทคโนโลยีที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ไฮเทคส่วนใหญ่ในท้องตลาด
ผมวางสมาร์ทวอชลงบนโต๊ะและเปลี่ยนเป็นโหมดเดสก์ท็อป คีย์บอร์ดโฮโลแกรมและจอมอนิเตอร์ฉายภาพไปในอากาศ
ขณะที่ผมท่องเว็บพอร์ทัล เว็บไซต์บางแห่งได้ดึงดูดความสนใจของผม
มันเป็นเว็บไซต์ webnovel
เมื่อผมเห็นมัน รอยยิ้มสายหนึ่งก็ปรากฎบนใบหน้าของผม
“…ฉันควรเขียนนิยายมั้ยนะ?”
ถ้าผมเขียนประสบการณ์สิบปีที่ผ่านมาเป็นนวนิยาย…. ไม่สิ มันคงไม่สนุกแน่
ผมไม่มีแผนที่จะเขียนนิยายอีกแล้ว
ผมโยนความคิดออกไปและเริ่มค้นหาเว็บไซต์อื่น ๆ โดยเน้นที่กระดานงานเป็นหลัก
ผมอยากทำงาน อย่างน้อยที่สุดผมต้องการรับรู้ว่า ‘ผมยังมีชีวิตอยู่’
[ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ ทหารรับจ้าง ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี – เดสเสิร์ทโซล]
[เปิดรับสมัครทหารรับจ้าง]
[คำขอภารกิจ]
[ตรวจสอบ / ยกเลิกภารกิจ]
“ทหารรับจ้าง?”
นี่ค่อนข้างดึงดูดใจ ผมมีเดสเซิทอีเกิลสำหรับการโจมตีและ ชุดดอกบัวดำสำหรับการป้องกัน มันยากมากที่การโจมตีส่วนใหญ่จะเจาะเกราะป้องกันของเครื่องแบบเข้ามาได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือความสามารถในการแก้ไขปัญหาร่วมกันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับผม
ผมไม่ต้องการที่จะกระโดดกลับไปท่ามกลางการต่อสู้ เมื่อผมแทบจะไม่สามารถหนีรอดจากมันได้
“ใช่แล้ว มีอย่างอื่นอีกนี่?”
ผมเดินเข้าไไปใกล้กล่องดำอีกครั้งโดยนึกถึงซองเล็ก ๆ ที่มาพร้อมกับสมาร์ทวอช
ซองจดหมายที่หนาขึ้นเหมือนกับว่ามีจดหมายอยู่ภายในนั้น
“มาดูกัน….”
เหงา ผมพึมพำกับตัวเองเมื่อกำลังฉีกซองจดหมายออกจากกัน
“ฮะ?”
น้ำหยดเล็ก ๆ หล่นลงมาจากซองจดหมายและเกาะติดกับร่างกายของผม ตอนแรกผมรู้สึกประหลาดใจ แต่ผมก็เปลี่ยนมารู้สึกขอบคุณในทันที
ผมรู้จักหยดน้ำนี้
มันเป็นอาวุธที่ ‘ไร้รูปแบบ’ ที่ไม่ใช่ของไหลและของแข็ง และเป็นไอเท็มระดับยูนิคชิ้นแรกที่ผมเคยได้รับในโลกนี้
แม้ว่ามันจะเล็กลงกว่าในอดีตที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีข้อสงสัยเลยว่ามันคืออีเธอร์
“ดีใจที่ได้พบแกอีกครั้ง.”
ผมหยุดตัวเองจากการฉีกขาดตามความรู้สึกที่คุ้นเคยของอีเธอร์และยอมรับมัน มันติดกับร่างกายของผมเหมือนกาวเหนียวๆ
แต่แม้ว่าหลังจากอีเธอร์จะโผล่ออกมาซองจดหมายก็ยังคงหนาอยู่
ผมสงสัยว่ามีอะไรอย่างอื่นอยู่ข้างในอีก จึงมองเข้าไปอีกครั้ง
มีกระดาษบางอย่างอยู่ข้างใน
“นี่คือ….”
ผมเอื้อมมือเข้าไปในซองและดึงกระดาษออกมา บนพื้นผิวของกระดาษที่เหมือนตั๋วนี้มีคำที่เขียนด้วยลายมือแปลก ๆ
[ตั๋วการครอบครองพรสวรรค์ – ร่างกายจดจำฤทธิ์ยา]
“…อุ๊ป”
ในตอนที่ผมเห็นมัน เสียงหัวเราะก็หลุดออกมาจากปากของผม มันเป็นเสียงหัวเราะที่มีความสุขและน่ารื่นรมย์
ดูเหมือนว่านี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ผู้เขียนร่วมทิ้งไว้ให้ผม
แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเป็น [ร่างกายจดจำฤทธิ์ยา] ทำไมมันจึงไม่ใช่ปรมาจารย์นักแม่นปืน, ระงับเวทย์มนต์, ระบบการรวมแบบสุ่มหรือพาร์คัวกันนะ
ผมอดจะบ่นออกมาไม่ได้
เนื่องจากนี่เป็นเพียงพรสวรรคฺเดียวที่ผู้เขียนร่วมทิ้งไว้ให้ผม ผมจึงต้องกำหนดแผนการในอนาคตของผมโดยใช้มัน
ผมมองไปที่จอภาพโฮโลแกรมอีกครั้ง หลังจากป้อน [คาเฟ่ช่วยเหลือ] อีกครั้ง ผมจึงเริ่มค้นหาคำหลักที่ต้องการ
===
「ค้นหา」 – 「บริษัทเภสัชกรรม」
「 15,321 โพสต์รวมถึง“ ร้านขายยาที่จำเป็น” 」
– การแจ้งเตือนการรับสมัครแบบเปิดสำหรับบริษัทเภสัชกรรมที่สิ้นสุดแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการจ้างคนจำนวนมากในครั้งนี้ ใครที่นี่ต้องการสมัครบ้าง?
– การทดสอบที่สำคัญของบริษัทเภสัชกรรมยากเกินไปและคาดเดาไม่ได้…. ครั้งล่าสุดที่ฉันได้ยินคำถามคือทำอย่างไรจึงจะฆ่ามังกรหรืออะไรบางอย่างได้
– ฉันได้ยินว่าเงินเดือนสำหรับตำแหน่งนักวิจัยนั้นเหลือเชื่อมาก และเนื่องจากสงครามต่อต้านความชั่วร้ายครั้งใหม่….
===
“…ใช่แล้ว.”
หลังจากอ่านโพสต์เป็นเวลาประมาณสามนาทีผมก็พยักหน้าออกมา
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ผมสามารถใช้ประโยชน์จากร่างกายจดจำฤทธิ์ยา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฉันได้ฆ่าผู้คนมากมายในโลกนี้
ตอนแรกผมให้เหตุผลตัวเองโดยบอกว่าพวกเขาเป็นเพียงตัวละครในนวนิยาย หลังจากที่ผมยอมรับโลกนี้ว่าเป็นโลกแห่งความจริงผมก็เปลี่ยนเรื่องไปเป็นความจำเป็นแทน
บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนร่วมทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้ผม
เขาทำให้ผมมีความสามารถที่จะสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้มากกว่าที่จะฆ่า….
ทันใดนั้นสิ่งที่คิมซูโฮบอกกับผมในอดีตก็ก้องผ่านหูของผม
‘ทุกคนในโลกนี้ล้วนเป็นตัวละครหลัก’
เขาพูดถูก
แม้ว่าทุกคนลืมผมไปแล้ว แต่ผมก็ยังสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้ บางทีผมอาจจะสามารถมีชีวิตที่ซื่อสัตย์มากกว่าเดิม อย่างน้อยที่สุดในปัจจุบัน ผมจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ เหมือนการรักษาโลกใบนี้ให้เป็นนิยายอีกต่อไปแล้ว
ผมคว้า [ตั๋วร่างกายจดจำฤทธิ์ยา]ขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
จากนั้น แคว้กกก— ผมก็ฉีกมันครึ่งหนึ่ง
กระแสสีน้ำเงินไหลออกมาจากหน้าตัดของตั๋ว
ตอนนั้น กระแสที่ไหลผ่าน ‘ร่างกาย’ ค่อยๆซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของผม
“…ฟิ้ว.”
แม้ว่าผลกระทบจากยาที่ผมจำได้ก่อนหน้านี้ควรได้รับการตั้งค่าใหม่ แต่ก็ไม่สำคัญ ผมเพิ่งเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
“มาดูกัน….”
แปะ แปะ—! ผมปรบมืออย่างกระฉับกระเฉงและเข้าถึงเว็บไซต์
…และ 5 นาทีต่อมา
ผมตระหนักได้ว่าการสรรหาบุคลากรที่จำเป็นของ หน่วยงานทางเภสัชกรรม …จำเป็นต้องมี ‘ภูมิหลังทางการศึกษา’
มันเมคเซ้นส์ ผมหมายถึงบริษัทยสที่ไหนจะยอมรับคนที่ไม่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน? เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วจึงไม่ได้ระบุไว้ในเว็บไซต์การจ้างงาน
“อืม…ฉันไม่ต้องการยอมแพ้…. เดาว่าฉันควรจะสมัครฝ่ายขายหรือแผนกอื่นดี….”
**
[อังกฤษ – พระราชวังบักกิ้งแฮม]
ภายในสำนักงานส่วนตัวในพระราชวังบักกิ้งแฮม เรเชลอยู่กับอีเวนเดลที่กำลังยุ่งอยู่กับการพูดคุยกับเพื่อนของเธอผ่านแฮงค์เอาท์วิดีโอ
“ ~ พบกันใหม่นะ! ตอนนี้ฉันมีเวลามาก!”
—อีเวนเดลตอนนี้เธอโด่งดังแล้ว! เธอแน่ใจไหม?!
“อื้ม! ไม่ต้องกังวลฉันมีเวลา! ฮิฮิ.”
-เย้! ถ้าอย่างนั้นเราจะรอเธอนะ ~!
เรเชลเห็นรอยยิ้มอย่างสดใสขณะที่เธอพูดกับเพื่อน ๆ เรเชลก็มีความคิดที่ค่อนข้างสับสน เด็กเล็กๆมักใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) เมื่อพวกเขาพูดคุยกับเพื่อน ๆ ใช่หรือไม่?
ไม่สิ นั่นไม่ใช่