The Novel’s Extra - บทที่ 662. เรื่องราวที่ไม่ควรมีอยู่จริง (3)
บทที่ 662. เรื่องราวที่ไม่ควรมีอยู่จริง (3)
สามคนนั่งเผชิญหน้ากันในป่ามืด เนื่องจากมีหินที่มีขนาดเท่ากับเก้าอี้สามก้อนวางเอาไว้ พวกเขาจึงสามารถนั่งบนนั้นคนละก้อนได้อย่างสบาย
จินเซยอนอธิบายแผนการของเธอให้แชนายอนที่กำลังสับสนฟัง
แชนายอนถามคำถามหลายข้อก่อนที่จะเข้าใจในที่สุด
แผนของจินเซยอนคือ ‘ถอนรากถอนโคนนักการเมืองที่ทุจริตในสมาคม’ และการคืนอารมณ์ให้กับแชจูชึลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการนั้น
“ ผู้บริหารของสมาคมได้ร่วมมือกับปีศาจเพื่อความปลอดภัยและความร่ำรวยของตัวเอง แม้จะรู้ถึงอันตรายของ ‘ผลข้างเคียง’ ของกิฟต์ พวกเขาก็ยังคงใช้เด็กเป็นหนทางในการชะลอความแก่ชราหรือเป็นอาวุธทำลายล้าง พวกเขาข่มขู่ประเทศที่ไร้อำนาจโดยการใช้พวกเราที่เป็นฮีโร่และก่อให้เกิดสงครามเพื่อผูกขาดดันเจี้ยนและสิ่งประดิษฐ์เอาไว้ทั้งหมด”
“… .”
“ นายอน พวกเขาไม่ได้เป็นคนของสมาคม ‘ฮีโร่’ อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่จะแก้ไขทุกอย่าง แม้ว่าโลกกำลังเผชิญกับปัญหาบาอัลและความชั่วร้ายครั้งใหม่ แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวเดียวที่จะทำให้เวลานี้สมบูรณ์แบบเท่านั้น ถ้าเราปล่อยให้สมาคมเป็นแบบนั้นต่อไป พวกเขาอาจเริ่มสมรู้ร่วมคิดกับความชั่วร้ายใหม่ ท้ายที่สุด เราจำเป็นต้องรู้ถึงศัตรูที่ชัดเจนเพื่อให้สมาคมยังคงรักษาความแข็งแกร่งของพวกเขาไว้ได้”
แชนายอนก้มหัวลง เงาของเธอไม่ปรากฏในป่าอันมืดมิด
ในขณะที่เธอยังคงนิ่งเงียบ ชอคจุนกยองก็ขมวดคิ้วและกล่าวขึ้น
“ เดี๋ยวนะ เธอจะไม่สู้กับแชจูชึลอย่างนั้นหรอ?”
“ใช่ เราจำเป็นต้องร่วมมือกับเขาแทน”
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านความยุติธรรมในสมาคมด้วยพลังของคณะคมีเลียน แม้ว่าสมาชิกของคณะคมีเลียนจะมีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่พวกเขาไม่มอำนาจทางการเมือง แน่นอนว่ากิฟต์จากเจนจะกลายเป็นความช่วยเหลืออย่างมากในเรื่องนั้น แต่นั่นเพียงอย่างเดียวยังคงไม่มากพอ
“ …ร่วมมือกับคุณปู่เหรอ?”
แชนายอนถามด้วยน้ำเสียงหดหู่
“ใช่ แชจูชึลนั้นไร้ซึ่งอารมณ์ ดังนั้นแล้ว เขาต้องมีเหตุผลที่ช่วยเหลือคิมซุกโฮและอียุกโฮในเวลานั้นอย่างแน่นอน เธอสามารถดูได้จากบันทึกที่ว่า ‘แดฮยอน’ สามารถที่จะเพิ่มขึ้นสูงในเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ตลอดไป และนั่นเป็นเพราะอารมณ์ของแชจูชึลเลือนลางไปแล้ว ”
การใช้ความไร้อารมณ์เพื่อทำลายสนธิสัญญาที่เกิดขึ้นด้วยความไร้อารมณ์
นั่นคือแผนของจินเซยอน
จนถึงตอนนี้แชจูชึลยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับผู้บริหารของสมาคม หากพวกเขาไร้ประโยชน์และมีหลักฐานชัดเจนเพื่อสนับสนุนสิ่งนี้ แชจูชึลก็จะผลักพวกเขาออกไปอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แชนายอนก็ยังลังเล
“ …แม้ว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นก็ตาม คุณปู่ก็จะไม่เสียใจกับการกระทำในอดีตของเขา”
นั่นคือเหตุผล
แชจูชึลมีบทบาทอย่างมากในโศกนาฏกรรมที่รู้จักกันในชื่ออุบัติการณ์ควังโอ แต่เขาไม่เคยและจะไม่รู้สึกเศร้าหรือรู้สึกผิดเพราะแอนตี้โดสที่รู้จักกันในชื่อว่า “อารมณ์” ไม่ได้มีอยู่สำหรับเขา
เมื่อได้ยินคำพูดของแชนายอน จินเซยอนก็ส่ายหัว
“ เธอพูดผิดนะ นายอน บริษัทเภสัชกรรมกำลังพัฒนายาเพื่อตอบโต้ผลข้างเคียงขอกิฟต์นั่น”
“อ-อะไรนะ? ยารักษาอาการข้างเคียงนั่นหรอ?”
“ใช่.”
เจนได้รับข้อมูลนี้หลังจากแทรกซึมเข้าไปในบริษัทเภสัชกรรม จินเซยอนพูดเสียงต่ำและจริงจัง
เฮย์เนคและโอแจจิน“ ไนท์สตาร์” เฮย์เนคมียาต้นแบบสองสามตัวที่สามารถรักษาผลข้างเคียงของยาให้หายได้ เฮย์เนคบริจาคมันให้กับร้านขายยาที่จำเป็นและร้านขายยาที่สำคัญทำวิจัยอย่างถูกต้องในเรื่องนี้”
ดวงตาของแชนายอนเบิกกว้าง
“ แ- แล้ว ถ้ายาเสร็จสมบูรณ์….”
“ ใช่แล้ว แชจูชึล จะกลับมาสู่ห้วงอารมณ์ของเขาอีกครั้ง”
“… อ่า.”
แชนายอนตกใจจนอ้าปากค้าง แต่ก็ปิดลงในวินาทีถัดไป
ทันใดนั้นเธอก็เริ่มกังวล
ในความจริงแล้วเธอไม่ทราบว่าแชจูชึลเป็นอย่างไรในอดีต
ถ้าปู่ของเธอเป็นวายร้ายอย่างไร้ความปราณีตั้งแต่แรกเธอควรทำยังไงดี? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสภาวะไร้อารมณ์ทำให้เขาเป็นภัยคุกคามต่อสังคมน้อยลง? หากเขาฆ่ามนุษย์ตามที่ตวามพอใจและปฏิบัติต่อความรักและความเห็นอกเห็นใจเหมือนขยะ?`
ความเป็นไปได้นี้เกิดขึ้นในใจของเธอ อย่างไรก็ตาม แชนายอนทำใจแข็งและกำหมัดหมัดแน่น
เธอตัดสินใจที่จะเชื่อในด้านที่ใจดีจูชึลแสดงให้เธอเห็นว่าเป็นปู่ของเธอ
เธอต้อง
เพื่อชำระหนี้เธอต้องเป็นคนที่ทำมัน
“ ตกลง ฉันจะร่วมมือด้วย”
“…ขอบคุณ.”
จินเซยอนโค้งคำนับและขอบคุณเธอจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ ขอโทษที่ทำให้ความต้องการดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล แม้ว่าคุณจะไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เลย….”
“ฮะ? ไม่ ฉันเป็น…?”
แชนายอนไม่สามารถพูดประโยคของเธอจบ
อุบัติการณ์ควังโอ
โศกนาฏกรรมที่ชั่วร้ายที่กระทำโดยปู่ของเธอ โศกนาฏกรรมที่ต้องทำให้มันถูกต้องเสียที
แต่จะไม่มีอะไรมากกว่านั้นเหรอ?
ไม่สิ ต้องมีแน่ ….
“… อัก!”
ความเจ็บปวดรุนแรงพุ่งเข้ามาในหัวของแชนายอนอย่างฉับพลัน เธอเงยหัวขึ้นและคุกเข่าลง
“นายอน ?!”
ด้วยความตกใจ จินเซยอนคว้าร่างของแชนายอนเอาไว้
ความเจ็บปวดเหมือนสมองถูกแยกออกจากกันนี้ไม่ได้หายไปง่ายๆ และในความเจ็บปวดนี้แชแนนก็ยังคิดต่อไป
เธอลืมเรื่องสำคัญไป
เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่หัวใจของเธอเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ‘เพื่อเขา’
“เธอโอเคมั้ย? นายอน? นายอน!”
“… .”
ความเจ็บปวดราวกับโดนค้อนทุบหายไป แชนายอนเงยหน้าขึ้นมองจินเซยอนอย่างสับสน จินเซยอนจ้องมองเธอกลับมาด้วยความกังวล
“เธอไหม?”
“ใช่? อ่า ใช่ ฉันสบายดี….”
แชนายอนเล่นกับสร้อยคอของเธอขณะที่เธอจ้องมองสายตาของจินเซยอน
ทันใดนั้น มีคำถามเกิดขึ้นในหัวของเธอ
สร้อยคอเส้นนี้…ไม่ใช่ว่ามีใครมอบให้กับฉันหรอ?
มันไม่ใช่ของขวัญ ดังนั้นฉันต้องส่งคืน….
แต่เขาคือใครกันล่ะ?
ฉันควรคืนมันให้กับใคร
แชนายอนค่อยๆหลับตา
ครั้งนี้เธอไม่หน้าซีด
เธอนั่งสมาธิเพื่อพยายามนึกถึงบางสิ่งที่ถูกลืมเลือนไป
**
ในทางตรงกันข้าม คิมซูโฮยืนอยู่หน้าสำนักงานหวัหน้ากิลด์เพื่อประชุม
[ผู้สร้างอันศักดิ์สิทธิ์ – ยุนซึงอา]
แผ่นป้ายของเธอส่องแสงสีเขียวสว่าง
ก๊อก ก๊อก
เมื่อคิมซูโฮเคาะประตู ยุนซึงอาก็เปิดออกและทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
“เข้ามาสิ”
คิมซูโฮคำนับอย่างเป็นทางการและเดินเข้าไปในสำนักงาน เขาคิดสิ่งนี้ทุกครั้งที่เขาเข้ามาที่นี่ แต่ที่ทำงานของหัวหน้ากิลด์นั้นดูเหมือนโดมสนามกีฬา ไม่เพียงแต่กำแพงเป็นวงกลมเท่านั้น แต่เพดานก็กลมและยื่นออกมข้างหน้าด้วย
“ คุณมีประชุมไหมครับ?`”
คิมซูโฮถามเมื่อเขามองไปรอบ ๆ ห้องทำงานที่ดูค่อนข้างยุ่งเหยิง ประสิทธิภาพและการจัดอันดับของผู้สร้างอันศักดิ์สิทธิ์ ถูกบันทึกไว้บนกระดาน
“อ๋อ ดูนั่นสิ อันดับกิลด์ของเรา พวกเราทำได้ดีใช่มั้ย”
ยุนซึงอานั่งที่หัวโต๊ะขณะที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน คิมซูโฮนั่งข้างเธอและมองดูอันดับด้วยกัน
[อันดับ 1 – แกนช่องแคบใต้ดิน]
[อันดับ 2 – เดสซลิทมูน]
[อันดับ 3 – ผู้สร้างอันศักดิ์สิทธิ์]
[อันดับ 4 – วิหารน้ำแข็ง]
“ …แกนช่องแคบใต้ดินแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแซงหน้า แต่เราได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 3 จากการโจมตีเมื่อไม่นานมานี้ที่ถ้ำบนเกาะเวโด”
เธอฟังดูภูมิใจและขมขื่นในเวลาเดียวกัน
เช่นเดียวกับที่เธอพูด แม้ว่าผู้สร้างอันศักดิ์สิทธิ์จะสามารถทวงคืนความรุ่งโรจน์ในอดีตกลับมาได้ แต่ช่องว่างระหว่างพวกเขากับแกนช่องแคบใต้ดินไม่สามารถข้ามไปถึงได้อีกต่อไป
“ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำงานเป็นเวลา 10 ปี เราก็จะไม่สามารถตามพวกเขาทันได้ ไม่ยุติธรรมเลย คุณไม่คิดอย่างนั้นหรอ?”