อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 609
ไม่ได้พบกันนาน คุณยังอยู่ในใจ (1)
เย่เซียว VS ซู่เย่…
ย้อนเวลาไปเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน…
ฤดูใบไม้ร่วง
ครืนน
ลมพายุพัดโหมกระหน่ำ ฝนเม็ดใหญ่ร่วงซัดใส่บานหน้าต่าง
เวลาล่วงเลยถึงกลางดึก
ภายในบ้านพักอาศัยของเย่เซียว ไป๋ซู่เย่ก้มมองหนังสือสัญญาที่เย่เซียววางไว้ตรงหน้าเธอนิ่ง กำปากกาไว้ไม่ได้ลงชื่อตัวเองในทันที
เมื่อสักครู่เธอตกลงรับข้อเสนอที่เย่เซียวยื่นให้ เพียงแค่เธอยอมอยู่กับเขาหนึ่งเดือน เขาจะไม่ช่วยเหลือซ่งกั๋วเหยาในเรื่องการทหารใดๆ อีก ความจริงต่อให้วันนี้ไม่รับปากตกลงเธอยังสามารถคิดหาวิธีอื่นได้ แต่ขณะที่เขายื่นข้อเสนอนี้เธอกลับพยักหน้าตกลงไปง่ายๆ…
ฝั่งตรงข้าม ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มนั่งจมอยู่กับโซฟาสองขาไขว้กันทิ้งสายตาเรียบนิ่งไว้บนตัวเธอ เธอไม่เซ็นเขาก็ไม่ได้เร่งเร้าสักประโยคตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับหญิงสาวตรงหน้า รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงที่ได้รับความยกย่องจากหญิงสาวมากมาย จะต้องกลายเป็นของเล่นของเขาอยู่วันยังค่ำ เขาคิดจะเล่นอย่างไรแค่ทำตามใจอยาก ไม่จำเป็นต้องเสียแรงคิดอะไรมาก
ไป๋ซู่เย่ใช่ว่าจะดูไม่ออกถึงความโอหังและเย้ยหยันจากเขา เธอพยายามมองข้ามมันอย่างสุดความสามารถโดยจดจ่อสายตากับหนังสือสัญญาที่เธอหยิบขึ้นมา
บนหนังสือสัญญา กระดาษขาวมีตัวอักษรสีดำ เขียนไว้ว่า
1. ฝ่ายยินยอมอยู่กับฝ่ายเสนอเป็นเวลาหนึ่งเดือน เรียกเมื่อไรมาเมื่อนั้น
หลังจากหนึ่งเดือน ฝ่ายยินยอมจะอ้างเหตุผลใดๆ ในการตามตอแยฝ่ายเสนอไม่ได้
3. ภายในหนึ่งเดือนนี้ฝ่ายเสนอสามารถยกเลิกสัญญาได้เสมอ แต่ฝ่ายยินยอมจะทำลายสัญญาหรือเปลี่ยนแปลงสัญญาตามอำเภอใจไม่ได้เด็ดขาด
เขาเซ็นชื่อลงตรงฝ่ายเสนอว่า ‘เย่เซียว’ เสร็จสรรพ ส่วนช่องตรงผู้ยินยอมยังเว้นว่างไว้รอให้เธอมาเซ็น
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เขาเคยเสนอเงื่อนไขให้เธออยู่กับเขาหนึ่งเดือนก็ไม่ได้รับข่าวสารใดๆ อีกพักใหญ่ จนไป๋ซู่เย่หลงคิดว่าเขาเปลี่ยนใจไปแล้ว
กระทั่งคืนนี้…
เธอถูกพามาที่นี่โดยคนของเขา
นี่เป็นสัญญาที่ไม่เท่าเทียม เธอไม่เคยโดนเหยียดหยามต่อหน้าผู้ชายเช่นนี้มาก่อน แต่ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามนี้ไม่ใช่คนทั่วไป แต่เป็นเย่เซียว
เธอสูดหายใจลึกๆ กำปากกา สุดท้ายก็ตัดสินใจเซ็นชื่อ ‘ไป๋ซู่เย่’ ลงไปหนักๆ
เช่นนี้แล้ว…
หนึ่งเดือนต่อจากนี้ทั้งสองคนก็จะได้จบลงอย่างสิ้นเชิงเสียที
นับดูแล้วกลับมีเพียงสามสิบวัน…
สามสิบวันแสนสั้น…
อีกอย่างผู้ชายคนนี้ต้องหวาดกลัวไป๋ซู่เย่ที่ชั่วร้ายและทำให้เขารังเกียจคนนี้ตามตอแยเขามากขนาดไหนกันนะ ถึงได้เจาะจงตั้งกฎข้อสองได้?
“เสร็จแล้ว”เธอเงยหน้าเลื่อนหนังสือสัญญาไปตรงหน้าเขา “คุณดูก่อน”
เย่เซียวมองด้วยสายตาเรียบนิ่งแวบหนึ่งไม่พูดอะไรก่อนหยิบหนังสือสัญญาจากบนโต๊ะเล็ก
“เดี๋ยวก่อน!”ไป๋ซู่เย่มือไวรีบกดทับหลังมือเขา
ถึงเธอจะคุ้นเคยกับการถือปืนมาก่อนแต่ยังมีนิ้วที่เรียวสวยอ่อนนุ่มเสมอ ปลายนิ้วอุ่นร้อนสัมผัสโดนปลายนิ้วเขา ความอุ่นร้อนนั่นเรียกให้ร่างสูงใหญ่ของเขาชะงักกึก ปากบางเม้มแน่น ปรายตามองเธอวูบหนึ่งอย่างเย็นชา
“ฉันอยากเพิ่มอีกข้อ ได้ไหม?”
เย่เซียวประชด “คุณเคยเห็นกติกาของเกมไหนให้ฝ่ายจำเลยเป็นคนกำหนดบ้างไหม?”
มือของเธอที่วางซ้อนหลังมือเขาเกร็งแข็ง สีหน้าขาวซีดเล็กน้อย
เย่เซียวดึงมือกลับจากการกอบกุมของเธออย่างไร้เยื่อใย ไม่ยอมมองเธอไปมากกว่านี้ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินขึ้นชั้นบนขณะที่ไป๋ซู่เย่ยังนั่งอยู่ที่เดิม นิ่งไร้ปฏิกิริยาไปพักใหญ่ รอจนแผ่นหลังของเย่เซียวเดินไปถึงครึ่งทางเธอก็สูดหายใจลึกๆ พยายามเอ่ยปากอย่างใจเย็น “เย่เซียว เพิ่มอีกข้อ…หนึ่งเดือนหลังจากนี้ ฝ่ายเสนอจะอ้างเหตุผลใดๆ ในการตามตอแยฝ่ายยินยอมไม่ได้”
“…”เย่เซียวชะงักฝีเท้า ดวงตาฉายแววขรึมอย่างน่ากลัว
ปากของเขาขยับแต่ยังไม่ทันเอ่ย ไป๋ซู่เย่กลับชิงพูดก่อน “ในเมื่อคุณเงียบ ฉันถือว่าคุณอนุญาตก็แล้วกัน”
นิ้วยาวของเขาจิกราวบันไดไม้สักจนปลายเล็บแทบบี้ราวบันไดนั่นให้เละ ทั้งห้านิ้วคลายออกแล้วกระชับอีกครั้ง สุดท้ายเขาแค่เปล่งเสียงพูดไม่กี่คำอย่างเย็นชา “เสียเวลา!”
เสียเวลาหมายความว่าอย่างไร?
ไป๋ซู่เย่รู้ว่าความหมายของเย่เซียวคือการที่เธอจะเพิ่มกฎข้อนี้มันเสียเวลา ต่อให้ไม่มีกฎนี้เย่เซียวก็ไม่มีทางตามตอแยเธอไม่เลิก
ความจริง…
ที่เธออยากเพิ่มข้อนี้ก็แค่กอบกู้ศักดิ์ศรีของเธอต่อหน้าเขาสักเพียงนิด…
……………………
หลังเซ็นสัญญาไป๋ซู่เย่คิดจะลากลับเพราะน่าหลันอยู่ในห้องพอดี เธอรู้ดี แต่พอเดินถึงประตูกลับถูกคนของเย่เซียวขวางไว้
“คุณไป๋ ห้องเตรียมไว้ให้คุณแล้ว นายท่านอยากให้คุณค้างคืนที่นี่”
เธอมุ่นคิ้ว ในสัญญาไม่ได้บอกว่าพวกเธอจะต้องอาศัยด้วยกัน อีกอย่างยังอยู่ร่วมกับคุณน่าหลันอีกด้วย แต่เพราะข้อที่ว่า ‘เรียกเมื่อไร มาเมื่อนั้น’ เธอมองท้องฟ้าข้างนอกอีกที ชั่งใจเพียงครู่ถึงพยักหน้า “พาฉันไปที่ห้องเถอะ”
นี่เพิ่งคืนแรกของการเซ็นสัญญา เธอไม่อยากทะเลาะกับเขา
……………………
ชั้นบน
คนรับใช้เคาะประตูเบาๆ “นายท่าน”
เย่เซียวดับไฟบุหรี่ บอกให้คนรับใช้เข้ามา
ภายในห้องคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นชวนให้สำลัก คนรับใช้เข้าไปก้มหน้ากล่าว “คุณไป๋อยู่ต่อ ตอนนี้เข้านอนไปแล้วค่ะ”
“อืม”
“ถ้าไม่มีคำสั่งอื่น ขอตัวก่อนนะคะ” คนรับใช้ว่าแล้วหมายจะถอยออกจากห้องไป เย่เซียวนึกบางอย่างได้จึงพลันถามคำถามหนึ่ง “หน้าต่างในห้องปิดหมดหรือยัง?”
“คะ?”คนรับใช้ทำท่าไม่เข้าใจ “นายท่านหมายถึงห้องไหนคะ?”
“ปิดหน้าต่างห้องเธอให้หมดรวมถึงผ้าม่านด้วย แล้วก็เฝ้าอยู่นอกประตู ถ้าได้ยินเสียงอะไรจากห้องรีบมารายงานฉัน” เย่เซียวสั่งยาวเหยียด
…………………………………………