อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 624
เธอหยิบมันมาดูแวบหนึ่งพบว่าเป็นยี่ห้อเดียวกับหลอดก่อนหน้า หลอดนี้เองก็เป็นของใหม่ที่ยังไม่ถูกแกะซองห่อด้วยซ้ำ
ครึ่งชั่วโมงเมื่อครู่…เขาไปซื้อยาเหรอ?
ปกติตอนที่เขาอยู่กับน่าหลัน…ก็ทำแผลให้น่าหลันแบบนี้หรือ?
ทั้งที่เมื่อครู่เขามีปฏิกิริยาแล้วแต่กลับจากไปอย่างไม่ลังเล ไปหาน่าหลันใช่ไหม?
ทุกคำถามผุดขึ้นมาในหัวไม่หยุดหย่อนทำให้เธอปวดประสาทจนเธอเริ่มรู้สึกแย่ขึ้นติดๆ พรูลมหายใจก่อนปิดไฟ ซุกตัวเข้าไปในกองผ้าห่มใหม่อีกครั้งเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดอะไรเหลวไหล
ถ้าเขาไปหาน่าหลัน…ก็ไม่แปลกนี่นา! พวกเขาสองคนต่างหากที่เป็นคนรักกันจริงๆ…
……………………
ส่วนเย่เซียวเรียกได้ว่าเขาชิ่งหนีออกมาก่อน
เขากลัวว่าหากอยู่ใต้ผืนผ้าห่มเดียวกับเธอนานกว่านี้จะขืนใจเธอเข้าจริงๆ อีกครั้งเพื่อระบายความต้องการที่กำลังพุ่งสูงขณะนี้
เขาถอดชุดนอนออกเผยร่างกำยำให้เห็น ยืนใต้ฝักบัวให้น้ำเย็นชะล้างอยู่พักใหญ่
แต่…ให้ตายสิ!
น้ำเย็นล้างขนาดนี้แล้วแต่กลับไม่ช่วยหยุดเลือดที่พลุ่งพล่านของเขา มีแต่ผู้หญิงคนนั้น! มีแต่ท่าทางที่เธอกำลังหอบครางอยู่!
การที่ชายคนหนึ่งจดจำเรือนร่างงดงามของหญิงสาวคนหนึ่งได้มันเป็นเรื่องปกติ
เขาคิดว่าขอแค่มีอะไรกับเธอหลายครั้งหน่อย ต่อหน้าเธอเขาไม่มีทางกลายสภาพเป็นเหมือนเด็กหัวโปกอย่างในตอนนี้ที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเองได้แน่
……………………
วันรุ่งขึ้น
เย่เซียวย่างกรายเข้ามาในห้องอาหาร บนโต๊ะอาหารมีเพียงน่าหลันคนเดียว เห็นเขาเข้ามาเธอเชยตาส่งยิ้มให้เขา “อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์”
“วันนี้อยากทานอะไรคะ?” น่าหลันดึงเก้าอี้เขาออกให้อย่างเอาอกเอาใจ เย่เซียวไม่อาจปฏิเสธรอยยิ้มนี้ของเธอได้เลย จึงตอบกลับเสียงเรียบ “อะไรก็ได้”
“งั้นเดี๋ยวฉันจัดการให้ค่ะ” น่าหลันยิ้ม เดินอ้อมไปที่รถเข็นอาหาร เรื่องที่ทำเพื่อเขาต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อย เธอก็มีความสุขมาก
เย่เซียวเชยตาเหลือบมองประตูห้องอาหารอย่างไม่ใส่ใจ
ตอนนี้ใกล้แปดโมงครึ่งแล้ว
อีกครึ่งชั่วโมงเธอน่าจะต้องรายงานตัวที่กระทรวงความมั่นคงแล้ว หากเป็นปกติตอนนี้ต้องตื่นนอนแล้วนี่นา
“ชุดอาหารที่คุณชอบค่ะ” น่าหลันยกอาหารเช้ามาไว้ตรงหน้าเขา
เทียบกับท่าทางของน่าหลันเขายังคงเย็นชาเสมอไร้อารมณ์อื่นปะปน แต่น่าหลันไม่สนใจเพราะเธอรู้ดีว่านี่เป็นนิสัยแต่กำเนิดของผู้ชายคนนี้ เรียบนิ่งถึงขั้นเย็นชา
กับหยูอันเองก็มีท่าทางเดียวกัน
ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น
“เรียกน้าหลี่เข้ามา” ขณะทานไปเพียงครึ่งเดียว จู่ๆ เขาก็เอ่ยสั่ง
ท่วงท่าที่กำลังทานอาหารเช้าของน่าหลันชะงักกึก ใจรู้ดีแต่กลับไม่ถามไถ่ไม่พูด แค่ทานอาหารตัวเองต่อไปเงียบๆ
ไม่นานน้าหลี่เดินเข้ามาในห้องอาหาร
“นายท่าน”
เย่เซียวมองเธอแวบหนึ่ง “เธอเป็นอะไร นี่ให้เราทุกคนรอเธอคนเดียวอย่างนั้นเหรอ?”
“หมายถึงคุณไป๋หรือคะ?”
เขาไม่ตอบคำถามตรงไปตรงมาแบบนี้ พลางทานอาหารต่อไปอย่างไม่รีบเร่ง
น้าหลี่ตอบ “คุณไป๋ออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างแล้วค่ะ บอกว่าช่วงนี้งานยุ่งเลยบอกไว้ว่าคืนนี้น่าจะกลับดึกหน่อย”
“…” เย่เซียวไม่พูดอะไรอีก
น้าหลี่เองก็ไม่เข้าใจว่าการที่เขาเงียบหมายความว่าอย่างไร ยิ่งเดาความคิดเขาไม่ถูกจึงยืนรออย่างสงบหลายนาที รอให้มั่นใจว่าเขาไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วถึงถอยออกจากห้องอาหารเงียบๆ
น่าหลันหันข้างมองเย่เซียวน้อยๆ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรืออย่างไร รู้สึกว่า…สีหน้าของเขานิ่งขึ้นมาก
แต่ก็ยากที่จะคาดเดาความคิดในใจเขาได้อยู่ดี
……………………
หลังทานอาหารเช้าเย่เซียวก็เข้าบริษัท
กลับมาประเทศครั้งนี้ได้ขยายแผนกิจการมายังประเทศ S ย้ายฐานธุรกิจจากกองทัพมายังธุรกิจโฆษณาในรูปแบบข้อมูล อาณาจักรด้านธุรกิจของเขามีกำไรมหาศาลในทุกวัน ได้ดิบได้ดี
เขตการล่าของเขาครอบคลุมไปทั้งธุรกิจสุจริตและตลาดมืด ควบทั้งวงการธุรกิจและวงการการเมือง
ภายในห้องทำงาน
หลังจากเย่เซียวเซ็นเอกสารหนาเป็นปึกเสร็จก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมง เขาเงียบไปครู่หนึ่ง หยิบโทรศัพท์มาโทรหาเบอร์อันคุ้นเคย
“ฮัลโหล” อีกฝั่งของสายคือคุณหมอผู้ชาย นามว่าถังซ่ง
“ฉันเอง”
“อือฮึ ฟังออก”
เย่เซียวนั่งบนเก้าอี้เลื่อนขนาดใหญ่พลางหันกลับไปหาหน้าต่างยาว ทอดสายตาออกไปไกล“นายรู้เกี่ยวกับแผนกสูตินารีเวชไหม?”
“…พรวด” คล้ายว่าถังซ่งกำลังดื่มน้ำอยู่จึงสำลักกับประโยคของเย่เซียว “ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? คุณเย่เซียวของเรามาถามฉันว่า…สูตินารีเวช?!”
“ใช่ สรุปรู้หรือไม่รู้?” เย่เซียวกัดฟันเน้นเสียงทุกคำชัดเจน อีกทั้งจากท่าทีเย็นชาของเขาพอจะฟังออกว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นหรือตลกอะไรด้วย
“อะแฮ่มๆ” ถังซ่งไอสองทีก่อนจะปรับอารมณ์ตัวเองก่อน “นายลองบอกมาก่อนสิ ฉันจะได้ดูว่าอยู่ในขอบเขตที่ฉันรู้ไหม”
เย่เซียวเรียบเรียงคำพูดสักครู่ “แผลฉีกขาด กี่วันถึงจะหาย? ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลไหม?”
“…” อีกฝ่ายพยายามไม่ให้พ่นน้ำในปากออกมา ถามอย่างระมัดระวัง “ฉีกขาด…นายหมายถึงตรงนั้นของผู้หญิง หรือว่าของผู้ชาย?”
“ถ้านายเบื่อที่จะมีชีวิตต่อ ตอนนี้ฉันให้คนไปหาได้นะ” ช่องทางรักของผู้ชายไปพบแพทย์สูตินารีเวชได้หรือ?
“อ๋อ ฉันรู้แล้ว ผู้หญิง ผู้หญิง!” ถังซ่งรีบแก้คำพูด “แต่ว่านายต้องทำถึงขนาดนั้นไหม? น่าหลันเป็นแค่สาวน้อยวัยสิบแปดปีเองนายก็ทำนิสัยป่าเถื่อนอีกแล้ว ต้องดุเดือดขนาดไหนกันถึงฉีกขาดได้ ชิ แค่คิดก็โหดร้ายมากแล้ว”
“นายแค่ตอบคำถามฉันมา” เย่เซียวเอ่ยเตือนโดยไม่ได้ให้คำอธิบายไป
เขาไม่ใช่คนที่ชอบอธิบายหรือแก้ตัว ความเข้าใจผิดของคนอื่นไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลยสักนิด
“แผลแบบนี้ต้องดูสภาพร่างกายแต่ละคนด้วย นายซื้อยาแก้อักเสบให้เธอหน่อยจะได้ป้องกันการติดเชื้อ ส่วนเรื่องเวลา อย่างน้อยต้องทนสักหนึ่งอาทิตย์ล่ะ หลังจากหนึ่งอาทิตย์ไปค่อยดูว่าอาการเธอเป็นยังไงบ้าง ถ้ายังไม่หายดีก็ต้องเลื่อนไปอีก”
หนึ่งอาทิตย์?
อารมณ์เย่เซียวขรึมลงทันที
ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก ตอนที่เขากำหนดเวลาน่าจะกำหนดสักสามเดือน ไม่ใช่สามสิบวัน
“แล้วก็…” ก่อนเย่เซียวกดตัดสายได้ถามเพิ่มอีกประโยค “หลังจากนี้ต้องทำยังไงถึงไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก?”
“…” ถังซ่งเริ่มสติหลุด “คุณเย่เซียว นี่มันปัญหาของเทคนิค ถือว่านายถามถูกคนแล้ว”
“เทคนิค?”
“อืม ผู้ชายที่เทคนิคแย่ เรียกอารมณ์ของผู้หญิงไม่ได้ ก็จะเกิดเรื่องแบบนี้แหละ”
“…เพราะงั้น นายหมายความว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีอารมณ์กับฉัน?!” เย่เซียวขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
“ก็อธิบายได้แบบนี้แหละ”
เย่เซียวฉุกคิดถึงคำบ่นที่ไป๋ซู่เย่บอกกับเขาไว้ว่า ‘เทคนิคแย่’ น้ำเสียงก็เย็นลงอีกนิด “แล้วต้องทำยังไงเธอถึงจะมีอารมณ์?”
“ก็ฝึกเทคนิคให้ดีๆ สิ ถ้าจับเทคนิคดีแล้ว รับรองว่าผู้หญิงทุกคนต้องมีอารมณ์กับนายแน่ๆ” ถังซ่งกล่าวคำแนะนำอย่างเอาใจ “เย่เซียว หรือว่าจะให้ฉันหาคนให้นายฝึกเทคนิคดีล่ะ? รับรองว่าคราวหน้าเธอจะต้องไม่เป็นตัวของตัวเองตอนอยู่ใต้ร่างนายแน่นอน”
“ไร้สาระ!”
………………………………..