อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 627
ไป๋ซู่เย่เองก็คิดเช่นเดียวกับพวกเขาว่าเย่เซียวมาเพราะตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาอยากมาไม้ไหนให้เธออับอายอีก
แต่เขาเพียงกวาดสายตาผ่านตัวเธอไปอย่างเฉยชาและเรียบนิ่งโดยไม่หยุดชะงักแม้แต่ชั่วพริบตา จากนั้นก็หันไปจรดสายตาที่เหมยอู่หลาง
เหมยอู่หลางก้าวไปข้างหน้ากอดกับเขา
“เพื่อนเก่า ไม่ได้เจอกันนานเลย”
เย่เซียวตบหลังเขาที “ไม่ได้เจอกันนาน”
“คุณเย่เซียวต้องไม่ได้เจอคุณเหมยนานแล้วแน่ๆ ถ้าไม่รังเกียจนั่งด้วยกันไหมครับ?” มีคนเสนอความคิด
ไป๋ซู่เย่คิดว่าเย่เซียวต้องปฏิเสธแน่นอน ในเมื่อไปคนละทางก็ไม่มีอะไรให้ต้องคุยกัน อีกทั้งบรรยากาศตอนนี้ออกจะอึดอัดไปนิด แต่ไม่คิดว่าเย่เซียวกลับพยักหน้าเบาๆ “ก็ดี”
ดังนั้น…
ทุกคนต่างลุกออกสละที่ตัวเองให้ ไป๋ซู่เย่ไม่อยากให้ตัวเองโดดเด่นจึงลุกตามทุกคนแม้ตอนนี้สติจะพร่ามัวมากก็ตาม ทีนี้ทุกคนได้ให้เขาเลือกจริงๆ แล้ว ซึ่งเกียรติแบบนี้คิดว่านอกจากประธานาธิบดีไป๋เย่ฉิงก็ไม่มีใครอื่นได้รับอีก
ภายใต้สายตาที่มองมาของทุกคน เย่เซียวนั่งลงข้างไป๋ซู่เย่ คนของกระทรวงความมั่นคงสีหน้าย่ำแย่ไม่เว้นแต่ละคน ไป๋ซู่เย่เองยังตกใจ
เย่เซียวกลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรพลางกวาดสายตามองรอบข้าง “ทำไมทุกท่านไม่นั่งล่ะ?”
“อา นั่งๆๆ ทุกท่านนั่งเถอะ”
บนโซฟาตัวเดียวเดิมทีนั่งกันอยู่หกคนก็อึดอัดมากพอแล้ว ตอนนี้พอเย่เซียวมานั่งเพิ่มอีกคน รูปร่าสูงใหญ่และท่าทางน่าเกรงขามของเขานั่นยิ่งเรียกให้ไป๋ซู่เย่เริ่มหายใจลำบาก
ยิ่งเดาทางไม่ถูกถึงจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ ในเมื่อมาเพราะเหมยอู่หลางไม่ว่าอย่างไรก็ควรไปนั่งข้างเขาสิถึงจะถูก
เย่เซียวถูกกลุ่มคนพวกนั้นรุมล้อมอย่างอบอุ่น ทุกคนต่างขอชนแก้วอย่างกระตือรือร้นทำให้สถานการณ์คึกคักขึ้นมาทันตา เธออดพรูลมหายใจตามไม่ได้
เวลานี้เหมยอู่หลางเองก็ไปพูดคุยกับพวกเขาแล้ว แต่ยังเหล่สายตามาทางเธอเป็นระยะๆ ตอนนี้เธอกลับไม่คิดสนใจเพียงแค่เขยิบเข้าไปหาเย่เซียวอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายเป็นไปตามอัตโนมัติเหมือนเมื่อสิบปีก่อนที่รู้สึกว่าขอแค่มีเขาอยู่ก็เหมือนมีภูเขาลูกใหญ่หนุนหลังอยู่ ตอนนี้ไม่ต้องการให้ไป๋หลางมาช่วยรับมือแทนเธอด้วยซ้ำ
เย่เซียวฟังคนทั้งกลุ่มคุยกันอย่างออกรสด้วยความตั้งใจแต่กลับรู้สึกได้ว่าหญิงสาวข้างกายขยับเข้าหาตัวเองเงียบๆ พื้นที่สำหรับเจ็ดคนเดิมทีก็ไม่พออยู่แล้ว พอเธอใกล้เข้ามาอีกจนร่างอ่อนนุ่มนั้นแนบชิดเขา กลิ่นหอมสดชื่นปนกลิ่นแอลกอฮอล์ก็ลอยคลอเคล้ามาทำให้แววตาเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย หันกลับมาก็สบกับสายตาไม่ประสงค์ดีของเหมยอู่หลางพอดี
สีหน้าเย็นชาขึ้นทันที
เหมยอู่หลางเห็นแววตาคู่นั้นของเขาแล้วชะงักไปครู่ก่อนจะรีบถอนสายตาหลบหนี
“ไม่สบายเหรอ?” เย่เซียวก้มถามหญิงสาวข้างๆ เบาๆ ระยะห่างที่ใกล้เกินไปจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาที่ปะทะลงใบหูหญิงสาว ภาพนี้ดูแล้วชวนให้คิดไปไกลหน่อยๆ
“…มึนหัวนิดหน่อย แล้วก็ร้อนด้วย” เธอเมาแล้ว เสียงอ่อนลงเล็กน้อย ไม่เหลือท่าทางแข็งกร้าวเหมือนตอนเผชิญหน้ากับเขาอย่างปกติ
ได้ยินน้ำเสียงอ่อนลงของเธอเหมือนบางจุดของหัวใจเย่เซียวถูกจี้อย่างแรง ใจอ่อนลงทันที
เขาอดจะก้มมองเธออีกทีสองทีไม่ได้
ผมยาวสลวยของเธอสยายออก บางส่วนปรกลงมาตรงหน้า ดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังเส้นผมล่องลอย แค่กลอกตามองเพียงนิดก็เหมือนการยั่วเย้าที่ไร้เสียง
ผู้หญิงคนนี้!
เมาทุกครั้งเลย
และอยู่กับผู้ชายกลุ่มหนึ่งตลอด?
คราวก่อนถูกหยูอันวางยาจนหมดสภาพขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ายังไม่จดจำบทเรียน!
ครั้งนี้โดนแมลงวันจอมตื๊ออย่างเหมยอู่หลางซะได้!
มีไฟนิรนามกำลังแผดเผาในอกเขา
“…เย่เซียว” จู่ๆ เธอขานเรียกชื่อเขาเบาๆ
เสียงเบามาก มีเพียงพวกเขาสองคนได้ยิน ยิ่งเหมือน…ชื่อเรียกจากปากคนรักมากกว่าเดิม
ไฟในอกของเย่เซียวอ่อนลงอย่างควบคุมไม่ได้ ได้แต่รับคำสั้นๆ ว่า “อืม”
“ฉันรู้สึกง่วงนิดหน่อย ขอยืมไหล่คุณพิงหน่อยได้ไหม” เสียงยานคางของเธอคล้ายๆ ลูกแมวน้อย
เขาขมวดคิ้ว “ปกติคุณเมาก็ขอพิงไหล่ผู้ชายทุกคนเหรอ?”
ไป๋ซู่เย่เอาหัวพิงไหล่เขาเบาๆ จู่ๆ นึกบางอย่างได้แววตาล่องลอยไร้จุดหมายนั่นฉายแววเศร้าสร้อยเล็กน้อย ไม่ตอบแต่พึมพำตอบ “คุณเองก็เหมือนกัน…”
“เหมือนอะไร?”
“ผู้หญิงแบบไหนก็เอาหมด…”
เย่เซียวหันหน้ามาก้มหน้าจ้องมองเธอที่เหมือนกำลังบ่นอย่างไม่เข้าใจ เธอแหงนหน้าขึ้นแพขนตากะพริบปริบๆ ลืมตาขึ้นให้สายตาเคลิบเคลิ้มประสานกับของเขา “เรียกห้าคนในทีเดียวแล้วมาที่นี่ไวขนาดนี้ คุณเย่เซียว เหมือนว่าคุณไม่ค่อยแข็งแรงนะ…”
เย่เซียวเลื่อนสายตาไล่จากดวงตาของเธอจรดที่ปากแดงที่อยู่ใกล้ตัวเองเพียงคืบนั่น ลมหายใจของเขารุนแรงขึ้น สายตาล้ำลึก “ยี่สิบกว่าวันที่เหลือคุณค่อยๆ ทดสอบเองได้…”
เสียงของเขาแหบพร่า
ในบรรยากาศนี้ทำให้คนฟังต้องใจเต้นรัวขึ้น สองคนสบตามองกันและกัน เธอเองก็ค่อยๆ เลื่อนสายตาไปที่ปากเขา…
ปากของเขา เซ็กซี่มาก…
หลังจากพวกเขาเจอกันดูเหมือนจะไม่เคยได้จูบดีๆ สักครั้ง
ต่อให้เขาทำอะไรเธออีกกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยคิดจะแตะต้องปากเธอเลย
เธอเหมือนจะยังจดจำความรู้สึกตอนจูบกับเขาในอดีตได้…
เขาชอบจูบเธอมาก ต่อให้จูบมากี่ครั้งแต่ทุกครั้งก็เกิดความรู้สึกใหม่ๆ ราวกับครั้งแรก
เพียงแค่ไม่รู้ว่าสิบปีให้หลัง รสชาติปากเขาจะเปลี่ยนไปหรือยัง…
เปลี่ยนไปแล้วสินะ
ในเมื่อปากนี้น่าจะผ่านการจูบผู้หญิงมานับไม่ถ้วนแล้ว
และเคยจูบน่าหลันด้วย…
คิดถึงสิ่งเหล่านี้หัวใจก็เจ็บแปลบ
แพขนตาเธอกะพริบหลายทีก่อนหลุบตาลงแล้วหลับตา
เห็นเธอแบบนี้แล้วเย่เซียวรู้สึกไม่สบอารมณ์หน่อยๆ สายตาเมื่อครู่ของผู้หญิงคนนี้ทำเหมือนจะจูบเขาชัดๆ ทำให้เขาคาดหวังแปลกๆ
แต่ผลสุดท้าย…
หลังยั่วเขาแล้วเธอกลับล้มเลิกกลางคัน!
ตั้งแต่เธอนอนซบไหล่เขามา จิตใจเย่เซียวไม่จดจ่อกับบทสนทนาของเหล่าผู้ชายแล้ว หลายครั้งที่เหมยอู่หลางลอบมองมาแต่สุดท้ายได้แค่จับข้อแขนตัวเองแล้วถอนหายใจ เย่เซียวถูกใจไป๋ซู่เย่ชัดๆ ผู้หญิงที่เขาถูกใจใครจะกล้าลงมือ? นอกจากไม่คิดจะมีชีวิตแล้ว
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไรไป๋หลางก็มาแล้ว
เห็นเธอซบไหล่เย่เซียวอย่างเมามายไม่ได้สติก็ตะลึงงัน เขาบอกจะพาไป๋ซู่เย่กลับไป อธิบดีของพวกเขาพยักหน้าอนุญาตก่อนจะรีบให้พากลับไปเพราะกลัวว่าเธออยู่ที่นี่ต่อแล้วจะถูกเย่เซียวเอาคืน
ดีที่เย่เซียวไม่ได้ตามรั้ง แค่ส่งคนให้ไป๋หลางรับกลับไป
หลังจากไป๋หลางอุ้มไป๋ซู่เย่มาบนรถ เห็นสภาพมึนเมาของเธอแล้ว น่าหนักใจจริงๆ
“หนึ่งสัปดาห์เจ็ดวันมีห้าวันที่คุณเมาไม่ได้สติ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปสักวันจะต้องป่วยเป็นโรคแน่ๆ อีกอย่างคุณจะใจกล้าเกินไปแล้ว นั่งข้างเย่เซียวแล้วยังเมาจนหลับได้อีกเหรอ?”
…………………………………………..